บทที่ 171 คุณปู่อินเทรนด์จัง
บทที่ 171 คุณปู่อินเทรนด์จัง
ซูโย่วอี๋มองซูหยินอย่างแปลกใจ “แต่เธอบอกว่าอยากได้เขาเป็นแฟนไม่ใช่เหรอ?”
ซูหยินปอกส้มและดึงเส้นไยเล็ก ๆ บนส้มออกก่อนจะใส่เข้าปาก “ก็แค่พูดไปงั้น ๆ เองที่รัก แต่อย่างไรเสียฉันก็ได้ค้นพบว่ากู่อวี๋เฉิงคนนี้ก็ไม่เลวเลย”
เขาให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์อย่างจริงจังและระมัดระวังเรื่องชีวิตส่วนตัวเป็นอย่างมาก ที่สำคัญเขาเป็นโสดมา 28 ปีแล้ว
แถมยังมีความอดทน ต่อให้ซูหยินดื่มเหล้าจนเมาและก่อเรื่องวุ่นวาย เขาก็ยังคงบุคลิกสงบนิ่งไม่อารมณ์เสียใส่
อีกทั้งยังน่ารักมาก ตอนที่ซูหยินคิดอยากไปสวนสนุก กู่อวี๋เฉิงไม่อยากไปแต่ก็ตกลงอย่างไม่มีทางเลือก
ท่าทางแบบนั้นมันดูน่ารักมาก ๆ ในสายตาเธอ
เธอชอบเห็นท่าทีลำบากใจของกู่อวี๋เฉิงมากจริง ๆ
ซูหยินยิ้มอย่างมีความสุข ทำให้ซูโย่วอี๋ที่มองอยู่ยิ้มตามไปด้วย “งั้นไม่ถามแล้ว ถ้าเธอชอบก็ดี”
ถนนเซินหยวน
ซวี่เฟิงและอวิ๋นเหมี่ยวนั่งอยู่ที่นั่งด้านหลังบนรถ บรรยากาศเงียบกริบ
ผ่านไปสักพักซวี่เฟิงวางโทรศัพท์ลงและกอดอวิ๋นเหมี่ยวเข้าไว้ในอ้อมแขน
“อะไรกัน แค่เห็นนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมอย่างคุณฮันก็ใจเต้นแล้วเหรอ?”
อวิ๋นเหมี่ยวมีท่าทีนิ่งเฉย “เปล่านี่”
มือของซวี่เฟิงดึงซิปชุดกระโปรงสีขาวของอวิ๋นเหมี่ยวลงอย่างชำนาญ เขาถอดเสื้อผ้าจนตัวเธอเปลือยเปล่า
หากแต่การแสดงออกของอวิ๋นเหมี่ยวนั้นนิ่งเฉยอย่างคาดไม่ถึง
ซวี่เฟิงเป่าลมใส่หลังหูของเธอ ขนบนร่างกายของอวิ๋นเหมี่ยวลุกขึ้นพรึ่บ
“คนเรามักจะชอบไล่ตามสิ่งที่ดูดี ฮันเจ๋อหยางคนนั้นก็ไม่เลว แต่เย็นชามากไปหน่อย ถ้าลากไปเล่นบนเตียงได้ก็คงจะดีไม่น้อย”
อวิ๋นเหมี่ยวรู้สึกรังเกียจผู้ชายคนนี้สุดขั้วหัวใจ ซวี่เฟิงมีอะไรโดยไม่สนชายหญิง แต่ฮันเจ๋อหยางคนนี้ไม่ใช่คนที่ซวี่เฟิงจะเข้าไปยุ่งด้วยได้
ความคิดชั่วร้ายผุดขึ้นในหัวของอวิ๋นเหมี่ยว ถ้าวันไหนที่ซวี่เฟิงไปทำให้ใครไม่พอใจจนถูกฆ่าตายก็คงจะดีไม่น้อย
ถ้าเป็นแบบนั้นตัวเธอเองก็คงได้เป็นอิสระ
มือของซวี่เฟิงลูบไล้ไปยังเนื้อนุ่มตรงเอวของอวิ๋นเหมี่ยวไม่หยุด เขาค่อย ๆ หายใจหนักขึ้นและปลดกระดุมกางเกงตัวเองอย่างรวดเร็ว “เหมี่ยวเหมี่ยว ช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้ทำกับผู้หญิงสวย ๆ มานานมากแล้ว”
อวิ๋นเหมี่ยวไม่ได้รู้สึกมีอารมณ์เลยสักนิด เธอมองออกไปนอกหน้าต่างรถอย่างเย็นชา ในหัวกลับคิดถึงผู้ชายที่สูงส่งเกินเอื้อมคนนั้น
ถ้าตอนแรกเธอไม่เดินทางผิด เธอกับลู่เฉินจะยังคบกันอยู่ไหม?
ทั้งสองคนจะมีความสุขใช่ไหม?
ซวี่เฟิงไม่สนใจอาการเหม่อลอยของผู้หญิงใต้ร่างของเขาเลย หลังจากระบายจนเสร็จ เขาก็จุดบุหรี่ขึ้นมา
กลิ่นนิโคตินอบอวลไปทั่วทั้งรถ อวิ๋นเหมี่ยวหันหัวของเธอออกไปอย่างรังเกียจ
แต่ซวี่เฟิงก็ยังบังคับให้เธอหันหน้ากลับมาและพ่นควันบุหรี่ใส่หน้าเธอ “เวลาทำกับคุณทีไรก็ยิ่งน่าเบื่อขึ้นทุกที คุณอย่าลืมนะว่าถ้าไม่มีผมคุณไม่มีทางได้บทนางเอกเรื่องรักในฝันมาหรอก”
“รีบช่วยผมหาผู้หญิงคนใหม่เร็ว ๆ ดีกว่า”
จากนั้น อวิ๋นเหมี่ยวลงจากรถในเขตเล็ก ๆ ส่วนซวี่เฟิงก็บอกคนขับรถไปยังไนต์คลับ
…
เพลงมิตรภาพสูงสุดปล่อยออกมาพร้อมกับภาพปกละครพอดี ทั้งสองอย่างเผยแพร่ในวันเดียวกัน ชื่อของซูโย่วอี๋จึงอยู่ในการค้นหาอันร้อนแรงอีกครั้งไม่ทันตั้งตัว
ความไม่พอใจที่ชาวเน็ตมีต่อซูโย่วอี๋นั้นไม่ได้มากมายเท่าเมื่อก่อน แต่ก็ยังพอมีประโยคแดกดันอยู่บ้าง
[ฉันยอมเรียกคนในการค้นหาร้อนแรงว่าคนดัง นี่เป็นการค้นหาที่ร้อนแรงแทบทุกวันเลย]
[มีคนชื่นชมก็ดีแล้ว สาว ๆ ทั้งหลายในชาติหน้าจงหาแฟนหนุ่มให้ดี คุณเองก็ทำได้]
[ตอนนี้ฉันฟังเพลงมิตรภาพสูงสุดจบแล้ว แล้วก็ดูรายการวาไรตี้ 22 วันปั้นดาวจบแล้วด้วย รอคอยฮั่วเสวียนในเรื่องรักในฝันอยู่นะ]
[ภาพถ่ายของซูโย่วอี๋หล่อมากเลย ฉันเปลี่ยนจากติ่งผู้ชายมาติ่งผู้หญิงดีกว่า]
[กลุ่มเกรียนคีย์บอร์ดกำลังบ้าคลั่ง ซูโย่วอี๋มีทักษะการแสดงด้วยเหรอ]
[ใช่ พูดแบบนี้แสดงว่าพี่ฮันของฉันไม่หล่อเหรอ? แล้วอวิ๋นเหมี่ยว เสิ้งเซี่ยไม่สวยหรือไง? เห็นได้ชัดว่าทีมละครตั้งใจให้แสงเธอ]
[เห็นด้วย จะมาพูดมั่ว ๆ ไม่ได้นะ]
ซูโย่วอี๋อยากจะตอบกลับข้อความว่าทำไมจะไม่มีทักษะการแสดงล่ะ พวกคุณเคยดูฉันแสดงมาก่อนหรือไง?
โชคดีที่มีกลุ่มแฟนคลับที่พยายามอย่างเต็มที่ที่จะปกป้องเธอ โดยเฉพาะชื่อ ID ‘คุณปู่ของโย่วโย่ว’ ที่ดูกระตือรือร้นมากที่สุด
เขาโต้เถียงได้เจ็บแสบมาก
ใครก็สู้ไม่ได้
และได้พูดสิ่งที่อยู่ในใจของซูโย่วอี๋ออกไปจนหมดแล้ว
ซูโย่วอี๋กดเข้าไปในเวยป๋อของ ‘คุณปู่ของโย่วโย่ว’ และพึ่งนึกขึ้นมาได้ว่านั้นคือหัวหน้าแฟนคลับทีมสนับสนุนเธอคนใหม่
ไม่รู้ว่าไม่ได้ดูหรือเปล่า แต่เห็นแล้วสะดุ้งเลย
ภาพถ่ายหลายภาพในเวยป๋อ “คุณปู่ของโย่วโย่ว” มาจากบ้านส่วนตัวของซูโย่วอี๋
ทั้งทำกับข้าวในห้องครัว…
ทั้งตอนที่เธอดูโทรทัศน์บนโซฟา…
ทั้งรดน้ำต้นไม้…
และอาบแดด…
รูปภาพพวกนั้นชัดเจนมาก เห็นได้ชัดว่าถ่ายมาจากระยะใกล้แน่นอน!
สายตาของซูโย่วอี๋หันไปมองซูหยินที่อยู่ไม่ไกล หรือว่าในห้องนี้จะมีใครอยู่อีก?
!
“หยินหยิน เธอแอคหลุมในเวยป๋อเหรอ?”
พอได้ยินแบบนั้น ซูหยินก็ทำหน้าไม่เข้าใจ “ไม่นี่ ฉันจะไปมีเวลาแบบนั้นได้ไง เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?”
ซูหยินยื่นโทรศัพท์ให้เธอดู “เธอดูเวยป๋อของคนนี้สิ”
ซูหยินมองดูด้วยสายตาจริงจัง “หรือมีแฟนคลับโรคจิตแอบตามเธออยู่?”
แต่ความปลอดภัยในเป่ยสืออี้ผิงนี้หนาแน่นมาก คนนอกเข้ามายากพอ ๆ กับการลอบเข้าคุกเลยนะ
ซูหยินรีบลบแฟนคลับโรคจิตนั้นทิ้งอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นในหัว “ที่รัก นี่อาจจะเป็นรูปที่ลู่เฉินถ่ายหรือเปล่า?”
ดูจากมุมมองและความใกล้ไกลแล้ว เหมือนจะเป็นอย่างนั้นมาก
ซูโย่วอี๋อึ้งไปครู่หนึ่ง สายตาจ้องไปยังชื่อ ID ‘คุณปู่ของโย่วโย่ว’ ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นลู่เฉิน
เธอส่งข้อความหาลู่เฉิน [ยุ่งอยู่หรือเปล่าคะ?]
ลู่เฉินโทรศัพท์กลับมาอย่างรวดเร็ว [มีเรื่องอะไรเหรอ?]
ซูโย่วอี๋รวบรวมคำพูดและเล่าเรื่องเมื่อครู่ให้ฟัง
[ผมเป็นคนถ่ายรูปภาพพวกนั้นเอง]
ฝีมือลู่เฉินจริง ๆ ด้วย!
ซูโย่วอี๋รู้แล้วว่าไม่ได้ถูกคนจับตามองก็โล่งใจขึ้น [ทำไมคุณไม่บอกฉันก่อนเลย]
ลู่เฉินอธิบาย [ผมนึกว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร คนที่ลงรูปในเวยป๋อคือคุณปู่ เขาเป็นหัวหน้าแฟนคลับ คุณปู่บอกว่าอยากได้รูปคุณกับผมตอนคบกันในเวลาปกติทั่วไป เพื่อเพิ่มความเหนียวแน่นกับแฟนคลับ]
คุณปู่ลู่!
ซูโย่วอี๋นิ่งอึ้ง
คนที่กระตือรือร้นในอินเตอร์เน็ตคนนั้น คนที่ใช้คำพูดอินเทรนด์บ่อย ๆ คือคุณปู่ของลู่เฉิน!
ซูโย่วอี๋รู้ความจริงก็พูดขึ้นอย่างเขินอาย [คุณปู่อินเทรนด์จัง]
ลู่เฉินยิ้มขึ้น [เขาตั้งใจไปเรียนเพื่อคุณโดยเฉพาะเลยนะ คุณปู่ยังไม่ใส่ใจผมเท่านี้เลย]
ซูโย่วอี๋รู้สึกอบอุ่นหัวใจ
[รอให้คุณมีเวลา ผมจะไปหาคุณปู่ที่บ้านพร้อมกับคุณนะ]
หลังวางสายไปเธอก็กดยกเลิกการแจ้งเตือน
ซูโย่วอี๋กดเพิ่มชื่ออย่างรวดเร็ว ‘เวยป๋อคุณปู่ของโย่วโย่ว’ คุณปู่แอบสนับสนุนเธอเงียบ ๆ ซูโย่วอี๋คิดคำขอบคุณไม่ออกเลย จึงได้เลือกรูปสวย ๆ สองรูปส่งไปให้
[คุณปู่ ขอบคุณในการสนับสนุนนะคะ]
…
หลังจากเข้าร่วมทีมละคร บริษัทไม่ได้เตรียมงานอื่นให้กับซูโย่วอี๋เลย ซูโย่วอี๋เคยแค่เข้าร่วมพิธีเปิดละครรักในฝันเพียงครั้งเดียวเท่านั้นและก็ไม่ได้ออกไปไหน
ทุก ๆ วันเธอได้แต่สวมบทบาทอยู่ในเกม ตอนแรกก็เพื่อเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ ต่อจากนั้นก็กลายเป็นการเล่นเกมไปเสียแล้ว
การสวมบทบาทไม่ได้จำกัดอยู่แค่บทของฮั่วเสวียน แต่ไปถึงบทพระเอก นางเอก พระรอง นางกำนัล คนรับใช้ และแม้แต่บทอาจารย์สอนขี่ม้า…
ในวันนั้น เธอรู้สึกสนใจบทท่านอาจารย์ไป่หลี่ เลยอยากลองสลับบทบาทและลองเล่นเป็นไป่หลี่ดู
พอมองดูฮั่วเสวียนตอนเด็ก ๆ ในเกม ซูโย่วอี๋รู้สึกราวกับกำลังมองดูตัวเองอยู่