สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! – ตอนที่ 178.2 เหยาเหยาถูกโจมตี (2)

สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?!

เมื่อซิงสะบัดมีดในมือ เนื้อหมูป่าที่เพิ่งถูกเฉือนออกมาพวกนั้น พลันถูกเขาโยนขึ้นสูง

ขณะเดียวกัน เหล่าองครักษ์จะใช้จานในมือออกไปรับ

ไม่เสียแรงที่องครักษ์เหล่านั้นวรยุทธ์ไม่ด้อย มิฉะนั้นด้วยฝีมือที่รวดเร็วเช่นซิง คนธรรมดาคงรับไม่ได้แน่นอน

เล่อเหยาเหยาพลางทานเนื้อหมูป่าย่างในมืออย่างเอร็ดอร่อย พลางมองภาพดุจเล่นกายกรรมตรงหน้า อดรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาไม่ได้

และเมื่อเห็นองครักษ์ตรงหน้าที่ไม่ว่าทานอาหาร หรือทำอะไร ต่างฝึกฝนอย่างมีหลักการ ในใจเล่อเหยาเหยาอดรู้สึกภูมใจไม่ได้

เพราะสามารถฝึกฝนชายหนุ่มให้ออกมาเป็นองครักษ์เช่นนี้ได้ ต้องไม่ใช่คนธรรมดา และคนที่ไม่ธรรมดาผู้นี้ จะกลายเป็นสามีของเธอ

ฮ่า ๆ ดีจริง!

“องค์หญิง ท่านคิดถึงท่านอ๋องหรือ”

ขณะเล่อเหยาเหยาคิดในใจ หูก็ได้ยินคำพูดหยอกล้อของเซี่ยลี่ดังขึ้น

“เอ่อ”

เมื่อได้ยินคำพูดของเซี่ยลี่ ใบหน้าจิ้มลิ้มของเล่อเหยาเหยาเก้อเขิน ในใจคล้ายจนใจ

หรือเธอแสดงออกชัดเจนมากขนาดนั้น กระทั่งเธอคิดสิ่งใดทุกคนต่างล่วงรู้

เล่อเหยาเหยาพลางลูบใบหน้าตนเอง พลางคิด

ทว่าเมื่อเห็นท่าทางหยอกล้อของเซี่ยลี่ เล่อเหยาเหยารู้สึกว่าตนขายหน้ายิ่งนัก

“เจ้าอย่ามาล้อข้า เขาก็เช่นกันมิใช่หรือ เจ้าอย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้าชอบซิง”

“เอ่อ ท่าน ท่านรู้ได้เช่นไร”

เมื่อได้ยินคำพูดของเล่อเหยาเหยา เซี่ยลี่ดวงตาเบิกกว้าง ขายหน้าและเขินอายที่ถูกคนล่วงรู้ความในใจ

เพราะเป็นเพียงสาวน้อยที่เพิ่งเริ่มมีความรัก จึงพลันหน้าแดงก่ำ

ยากที่จะได้เห็นเซี่ยลี่ที่นิสัยตรงไปตรงมาหน้าแดง เล่อเหยาเหยาอดเลิกคิ้ว มองเซี่ยลี่ที่หน้าแดงราวก้นลิงอย่างขบขันพลางยิ้ม

“นี่ง่ายดายยิ่ง ข้าเดาถูก ฮ่าๆ คิดไม่ถึงว่าข้าจะเดาได้ถูกต้อง”

“หา! เพียงคาดเดาหรือ”

สำหรับคำพูดของเล่อเหยาเหยา ทำให้เซี่ยลี่ตาเบิกกว้าง จากนั้นจึงรู้ตัวว่าถูกเล่อเหยาเหยาตั้งใจหยอกล้อตน เพื่อให้เผยความในใจออกมา ทันใดนั้นจึงหงุดหงิดและเขินอาย

สุดท้าย เซี่ยลี่เพียงกระทืบเท้าแล้วจากไป

เพราะความจริงเธอหน้าบางอย่างยิ่ง

เมื่อเห็นเซี่ยลี่สาวน้อยของตนเขินอายไม่หยุด เล่อเหยาเหยารู้สึกขบขัน

คิดไม่ถึงหญิงสาวในยุคนี้จะโตเร็วเช่นนี้

ปีนี้เซี่ยลี่เพิ่งอายุสิบสามปี กลับเริ่มชื่นชอบชายหนุ่ม ทว่านี่ก็ไม่แปลก ชายหนุ่มในยุคนี้ต่างแต่งงานเร็ว

เล่อเหยาเหยาพลางคิด พลางจัดการเนื้อหมูป่าชิ้นสุดท้ายในจาน

เนื้อหมูป่าที่ซิงแบ่งสรรให้เธอเมื่อครู่ถือว่าไม่มากไม่น้อยกำลังพอดี

คิดไปแล้ว หากซิงไม่ใช่องครักษ์ ไปขายเนื้อหมูต้องมีอนาคตแน่นอน เล่อเหยาเหยาคิดอย่างเลวร้าย

ขณะเดียวกันนั้น เซี่ยผิงเห็นเล่อเหยาเหยาทานเนื้อหมูหมด พลันนำชาที่เพิ่งชงเสร็จส่งให้แก่เล่อเหยาเหยา

“องค์หญิง ดื่มชาให้ชุ่มคอก่อนเถิด”

“อืม ขอบคุณ เจ้าก็ดื่มเถิด”

เมื่อเห็นเซี่ยผิงละเอียดรอบคอบเช่นนี้ เล่อเหยาเหยาอดยิ้มตอบแทนเธอไม่ได้

เพราะเซี่ยลี่และเซี่ยผิงสองพี่น้องนี้ เซี่ยลี่สดใสมีชีวิตชีวา เซี่ยผิงกลับละเอียดรอบคอบที่สุด

พอดีเพราะเธอรู้สึกเลี่ยน เซี่ยผิงพลันรีบชงชาให้เธอ

เล่อเหยาเหยารู้สึกซาบซึ้ง ขณะกำลังคิดยกชาขึ้นดื่มให้ชุ่มคอ

ผู้ใดจะรู้ ทันใดนั้นมีเสียง ตกใจแฝงเตือนภัยดังขึ้นมา พลันมีเสียงดาบกระบี่ดังขึ้นมา

เสียง ‘เคร้ง’ ทำให้คนฟังอกสั่นขวัญแขวน

เพราะเสียงพลันดังขึ้นมานี้ เล่อเหยาเหยาตกใจจนมือยกชาขึ้นดื่มแข็งทื่อ ดวงตาคู่งามมองไปอย่างไม่เข้าใจ เมื่อเห็นภาพตรงหน้า ร่างกายพลันดุจฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ ตกตะลึงอยู่ตรงนั้น

กระทั่งถ้วยในมือตกลงพื้นตั้งแต่เมื่อใด เธอก็ไม่รู้ตัว

เห็นเพียงไม่ไกลจากด้านหน้าของเธอ มีคนชุดดำที่ไม่ทราบที่มากลุ่มใหญ่พลันปรากฎตัวขึ้น และทุกคนต่างถือกระบี่ยาว เต็มไปด้วยไอสังหาร

เห็นเช่นนั้น เหล่าองครักษ์ต่างชักกระบี่ออกมา ก่อนเข้าต่อสู้กับกลุ่มคนชุดดำที่ไม่ทราบที่มานั้น

ทันใดนั้น รอบด้านมีแสงกระบี่ คมดาบ เสียงอาวุธกระทบกระทั่งกันดังขึ้นมาไม่หยุด ตามมาด้วยเสียงอาวุธเฉือนเข้าไปในร่างกาย และเลือดสาดกระเซ็นไปรอบทิศ เงาร่างของคนที่ล้มลง

เห็นเช่นนั้น เล่อเหยาเหยาตกใจอย่างหนัก

แม้ภาพนองเลือดเช่นนี้ จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้พบเห็น แต่ตอนนี้เกิดเรื่องขึ้นข้างกายเธออีกครั้ง เล่อเหยาเหยาจึงอกสั่นขวัญแขวน

เพราะเธอคือปุถุชนที่หวาดกลัวความตาย ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ภายในท้องเธอยังมีเด็กน้อยอยู่!

ขณะกำลังคิด หูพลันได้ยินเสียงเซี่ยผิงและเซี่ยลี่ดังขึ้นมา

“องค์หญิง ที่นี่อันตราย พวกเรารีบไปที่รถม้ากันเถิด”

เซี่ยผิงเอ่ยกับเล่อเหยาเหยาด้วยสีหน้าจริงจัง จากนั้นพาเล่อเหยาเหยาเข้าไปในรถม้าพร้อมกับเซี่ยลี่

ทันใดนั้น คนชุดดำคนหนึ่งที่เห็นการเคลื่อนไหวทางด้านนี้ พุ่งทะยานเข้ามาทางเล่อเหยาเหยา

เมื่อเห็นเงาร่างคนชุดดำดุจลูกศร รวดเร็วปานลมกรด ทำให้คนรับมือไม่ทัน เล่อเหยาเหยาเพียงเห็น หัวใจเต้นระรัว

เมื่อเห็นชายชุดดำนั้นใกล้เข้ามา เล่อเหยาเหยาตกใจร้อง ‘อา’ เสียงดังขึ้น คิดว่าตนต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เห็นเพียงเซี่ยผิงที่ประคองเธอ ร่างกายพลันราวกับบรรจุด้วยสปริง พุ่งเข้าไปต่อสู้กับคนชุดดำนั้น

เวลานี้ เล่อเหยาเหยาจึงพบว่าที่แท้เซี่ยผิงมีวรยุทธ์!

และวรยุทธ์นั้นยังไม่เลวอีกด้วย

แม้เซี่ยผิงจะอายุน้อย ร่างกายบอบบาง แต่ฝีมือกลับไม่เลว

และอาวุธที่เธอใช้ คือกระบี่ยาวเรียวด้ามหนึ่ง ที่อยู่ภายในสายรัดเอวบนเอวของเธอ

ก่อนหน้านี้ไม่สังเกต ตอนนี้เห็นเธอชักกระบี่ยาวด้ามนั้นออกมาจากเอวราวเวทมนตร์ เล่อเหยาเหยาตกตะลึงอีกครั้ง

ทว่าเธอไม่ควรคิดมากเวลานี้ เซี่ยลี่ด้านข้างดึงเธอเข้าไปในรถม้า

“องค์หญิง ไม่ว่าอีกสักครู่จะเกิดเรื่องใดขึ้น ห้ามไปลงจากรถม้าเด็ดขาด”

“อืม ได้”

เล่อเหยาเหยาเวลานี้ ตกใจจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

ในใจตื่นตระหนกไม่หยุด

เมื่อเห็นรอบด้านบาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วน แม้องครักษ์พวกนั้นจะเป็นคนที่เหลิ่งจวิ้นอวี๋คัดเลือกอย่างพิถีพิถันออกมา หากเป็นก่อนหน้านี้ ต้องสามารถสู้หนึ่งต่อสิบได้ แต่วรยุทธ์คนชุดดำเหล่านี้ไม่อ่อนด้อย และจำนวนคนมากกว่าพวกองครักษ์อย่างมาก ทำให้เล่อเหยาเหยาเห็นแล้วตื่นตกใจ

เวลานี้ เธออยากให้อวี๋อยู่ข้างกายเธออย่างยิ่ง

เพราะไม่ว่าเกิดเรื่องใดขึ้น แม้ฟ้าจะถล่มลงมา เพียงมีเขาอยู่ เธอไม่หวาดกลัวสิ่งใด

แต่ตอนนี้…

พอคิดถึงตรงนี้ เล่อเหยาเหยาทั้งร้อนใจและกังวล

โดยเฉพาะเมื่อเซี่ยลี่ที่เดิมทีปกป้องอยู่ข้างกายเธอ หลังจากชายชุดดำคนหนึ่งเข้ามา ก็เข้าไปร่วมต่อสู้ ใจของเล่อเหยาเหยารู้สึกไม่สบายอย่างมาก

และเป็นครั้งแรกที่เล่อเหยาเหยาพบว่า ตนกลับไร้ประโยชน์!

ในช่วงคับขันต่างเป็นคนอื่นที่กำลังปกป้องเธอ

หากครั้งนี้เธอรอดตายไปได้ ต้องเรียนวรยุทธ์ให้ได้

แน่นอนว่าต้องคลอดเด็กในครรภ์ออกมาก่อน

เพราะอวี๋ไม่ได้อยู่ข้างกายเธอได้ทุกวัน ดังเช่นตอนนี้ ขณะเธอตกอยู่ในอันตราย เธอกลับไม่มีความสามารถที่จะปกป้องตนเองได้เลย

ยิ่งคิด เล่อเหยาเหยายิ่งน้อยเนื้อต่ำใจ และเมื่อเห็นทุกคนต่างต้องสละชีพปกป้องเธอ

เมื่อเห็นเหล่าองครักษ์ที่กินเนื้อหมูย่างร่วมกันเมื่อครู่ต่างล้มลง ร่างกายเล่อเหยาเหยาดุจเข้าไปอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง หนาวสั่นขึ้นมา

แต่ขณะเล่อเหยาเหยาเสียใจเพราะเหล่าองครักษ์ที่พลีชีพเหล่านั้น พลันรู้สึกมีเงาดำแวบผ่านมาตรงหน้า ก่อนด้านนอกรถม้าจะปรากฎคนชุดดำรูปร่างกำยำขึ้นมา

เห็นเช่นนั้น เล่อเหยาเหยาตกใจจนวิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง

หรือวันนี้เธอหนีไม่พ้นแล้วจริงๆ!

พอคิดถึงตรงนี้ เล่อเหยาเหยากังวลในใจ ก่อนขดตัวอย่างตกใจอยู่ที่มุมสุดของรถม้า

สองมือปกป้องท้องตนไว้แน่นหนา ดวงตาคู่งามเต็มไปด้วยความหวาดกลัวนั้น มองชายชุดดำนั้นอย่างตาไม่กระพริบ

เมื่อเห็นชายชุดดำนั้นเดินใกล้เข้ามาที่ตน เล่อเหยาเหยาร่างกายสั่นเทิ้มทั่วร่าง

ทว่าเธอไม่อาจนั่งรอความตายเช่นนี้ เพราะเธอตอนนี้ไม่ใช่ตัวคนเดียวอีกต่อไป เธอยังมีเด็กอีกคนในท้อง!

……………………………………………………………………………………

Next

สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?!

สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?!

Status: Ongoing
เมื่อเด็กสาวจากศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดข้ามเวลามายุคโบราณ อยู่ในร่างขันทีที่เป็นสตรีปลอมตัวมา ทว่าต้องปรนนิบัติพญายมผู้เกลียดชังผู้หญิงยิ่งกว่าสิ่งใด… งานนี้จะมี ‘รัก’ หรือมี ‘รอด’ กันนะ!นิยายแปลจีนโบราณ โรแมนติก-คอเมดี้ สุดฟิน จิกหมอนไปขำไป!จู่ๆ ‘เล่อเหยาเหยา’ เด็กสาวที่ข้ามเวลามาจากศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดฟื้นขึ้นมาในร่างของผู้หญิงที่ปลอมตัวเป็นขันที ใช้ชีวิตอยู่ในยุคเทียนหยวนที่ไม่มีบันทึกในประวัติศาสตร์แถมยังได้รับหน้าที่ปรนนิบัติ ‘เหลิ่งจวิ้นอวี๋’ ท่านอ๋องแห่งวังรุ๋ยอ๋องผู้ที่อารมณ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แย้มยิ้มสนทนาขณะสังหารคนโดยไม่กะพริบตา จนทุกคนต่างขนานว่า ‘พญายม’ทั้งยังมีเสียงเล่าลือกันอีกว่า รุ่ยอ๋องคนนี้เกลียดชังผู้หญิง ชนิดที่ห้ามผู้หญิงเข้าใกล้เกินห้าก้าว!ทว่า วันหนึ่งพญายมเกิดสนใจในตัวเธอขึ้นมาเธอจะทำเช่นไร เพื่อรักษาชีวิต และความลับที่ว่าแท้จริงแล้วเธอคือ ‘ผู้หญิง’…รวมไปถึง เรื่องที่จู่ๆ ผู้หญิงในร่างขันทีน้อยคนนี้เกิดตั้งครรภ์โดยไม่คาดคิดได้เสียนี่!สวรรค์! ได้โปรดให้ฟ้าผ่าแล้วพาเธอกลับไปโลกเดิมที!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท