คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 39 ป้อนเด็กน้อยกินลูกอม

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

“…”

เป็นครั้งแรกที่เจียงหรานสงสัยว่าการฟังของตัวเองมีปัญหา

พวกลูกน้องยิ่งพากันส่งเสียง “หา”

สาวน้อยคนนี้จะสู้กับพี่หรานเหรอ

ไม่รู้เหรอว่าพี่หรานของพวกเขาเมื่อปีที่แล้วได้ที่หนึ่งในการแข่งเทควันโดของเมือง

“ไม่ใช่มั้ง นักเรียนย้ายห้อง…” เจียงหรานเลียปาก “จริงจัง?”

อิ๋งจื่อจินหาวออกมา “อืม สู้เสร็จฉันจะนอน”

พวกลูกน้องเงียบไปเป็นครั้งที่สอง

“นี่มันเหมือนท้าทายพี่หรานหรือเปล่า”

“มั่นใจหน่อย ตัดคำว่าเหมือนทิ้งไป”

“เอาสิ” เจียงหรานยิ้ม ถอดเสื้อคลุมชุดนักเรียนโยนให้ลูกน้องที่อยู่ด้านข้าง “ฉันจะสู้กับเธอ แล้วอย่ามาร้องไห้ล่ะ”

สามนาทีต่อมา

เจียงหรานนอนอยู่บนพื้น มองเพดานด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก เจอกับการโจมตีครั้งใหญ่ครั้งแรกในชีวิต

ที่ด้านข้าง อิ๋งจื่อจินเก็บกระเป๋าหนังสือขึ้นมาจากพื้น เดินข้ามตัวเขาเข้าไปด้านใน

ไม่มีใครกล้าขวาง

พวกลูกน้องมองอิ๋งจื่อจินเดินไปยังโต๊ะว่างอย่างไม่รีบร้อน หยิบหมอนออกมาจากกระเป๋าหนังสือ วางลงบนโต๊ะแล้วฟุบหลับ บนตัวยังมีผ้าห่มคลุม

“…”

อุปกรณ์ครบครันดีจริง

“นี่ถือว่าพี่หรานแพ้แล้วหรือเปล่า”

“เห็นฝีมือเธอเมื่อกี้ไหม ฉันว่าเธอยังไม่เอาจริงนะนั่น”

“เห็นด้วย เท่ห์อยู่นะ”

ถ้าไม่ได้เห็นกับตา ใครจะเชื่อว่าเจียงหรานแพ้ผู้หญิง

“ไม่เป็นไรนะพี่หราน” พวกลูกน้องปลอบใจ “พี่ไม่ไหวยังมีเจ๊อวี่นะ ผมจะโทรหาเจ๊อวี่ บอกให้เจ๊อวี่กลับมา จะต้องไล่เธอออกไปได้แน่”

“พี่หรานวางใจได้ เรื่องที่พี่ทำไม่สำเร็จ เจ๊อวี่ต้องทำสำเร็จแน่นอน”

เจียงหรานกัดฟัน “ไสหัวไป!”

พวกลูกน้องรีบสลายตัวอย่างเร็ว

หนึ่งในนั้นมีคนที่จับโทรศัพท์ พูดด้วยความร้อนใจ “เจ๊อวี่ รีบกลับมาเร็ว เกิดเรื่องใหญ่แล้ว…”

อิ๋งจื่อจินหลับจนถึงเที่ยง

ภายในห้องเรียนว่างเปล่า คนหายไปหมด วันนี้ผู้อำนวยการยกเลิกการเรียนการสอนหนึ่งคาบให้ห้องสิบเก้าเป็นกรณีพิเศษ กลัวว่าแม้แต่อาจารย์จะเจอหายนะไปด้วย

เธอนวดศีรษะ เปิดโทรศัพท์ บนหน้าจอที่ถูกล็อคปรากฏข้อความที่ส่งมาเมื่อห้านาทีก่อน

[เด็กน้อย ออกมากินข้าว พี่ชายรออยู่หน้าโรงเรียน]

เธอเงียบไปหนึ่งวินาที จากนั้นก็หยิบเสื้อคลุมแล้วเดินออกไป

ผู้คนเดินขวักไขว่อยู่หน้าโรงเรียน

รอบชิงจื้อมีร้านค้าแผงลอยจำนวนมาก เวลานี้พวกนักเรียนกำลังซื้ออาหารกลางวัน

มีเพียงลูกหลานของตระกูลเศรษฐีน้อยใหญ่ในฮู่เฉิงที่จะมีคนมาส่งอาหารให้โดยเฉพาะ

ชายหนุ่มยืนอยู่หน้าป้ายโรงเรียน ร่างกายพิงต้นไม้ต้นหนึ่ง

เขาก้มหน้าเล็กน้อยดูโทรศัพท์มือถือ

ท่าทางเรื่อยเปื่อยไม่น่าพึ่งพา แต่กลับดึงดูดคนที่เดินผ่านจำนวนไม่น้อยให้หยุดดู

ผู้หญิงหน้าตาดีคนหนึ่งเดินเข้าไปหา “สวัสดีค่ะ”

ฟู่อวิ๋นเซินเงยหน้า ดวงตาเดิมทีมีรอยยิ้มบางๆ ได้หม่นลง

ผู้หญิงคนนั้นเอาผมทัดหลังหู พูดอย่างนุ่มนวล “ขอแอดวีแชทได้ไหมคะ”

“อืม บ้านผมยังมีเด็กอีกคนต้องเลี้ยง ถ้าคุณไม่รังเกียจ อยากเป็นแม่เลี้ยงละก็…” ฟู่อวิ๋นเซินพูดด้วยความนึกสนุก “งั้นก็ได้ครับ”

ฝ่ายหญิงหน้าบึ้ง หันตัวเดินหนีทันทีพร้อมด่า “คนโรคจิต”

ฟู่อวิ๋นเซินเก็บโทรศัพท์ หันหน้าไปก็เห็นเด็กสาวซื้อถังหูลู กำลังเดินกินมาทางเขา

น่ารักและอ่อนโยน

ทันใดนั้นเขาก็ยิ้มออกมา กวักมือเรียก “เยาเยา ทางนี้”

อิ๋งจื่อจินเห็นเขาแล้ว เธอเดินเข้าไปใกล้ ยื่นถังหูลูอีกไม้ในมือให้เขา

ฟู่อวิ๋นเซินชะงักเล็กน้อย “เธอกินเถอะ พี่ชายไม่ชอบของหวาน”

มือข้างนั้นชักกลับไปทันที ราวกับว่าก็แค่ยื่นให้ตามมารยาท

“…” ฟู่อวิ๋นเซินเลิกคิ้ว “กินเยอะขนาดนี้ไม่กลัวอ้วนเหรอ”

“อ่อ” อิ๋งจื่อจินค่อยๆ กัดผลซานจา “ฉันวิ่งวันละสิบกิโล”

ถึงแม้จะอยากใช้ชีวิตเกษียณ แต่สุขภาพก็จะถดถอยไม่ได้

ฟู่อวิ๋นเซินเงยหน้าอย่างเนือยๆ “ห้องใหม่เป็นไงบ้าง”

“สนุกดี”

พวกเด็กโง่ครึกครื้นดี ผ่อนคลายกว่าคลาสเด็กอัจฉริยะ

ทั้งสองคนไม่ใช่คนติดหรู จึงกินแถวโรงเรียน

ระหว่างทางกลับโรงเรียน ขณะที่อิ๋งจื่อจินกำลังคิดว่าทำไงถึงจะหาเงินง่ายๆ ทันใดนั้นก็มีเสียงลอยมาเหนือศีรษะ กระทบใบหู

“เด็กน้อยอ้าปาก”

อิ๋งจื่อจินเงยหน้า

ตรงหน้าเป็นนิ้วขาวเรียวยาวของชายหนุ่มพร้อมลูกอมหนึ่งเม็ด

“ควรพูดอะไร”

อิ๋งจื่อจินเหลือบมองเขา “คุณไม่อยากได้ยินแล้วไม่ใช่เหรอ”

“หืม? ฉันไม่อยากฟังเธอพูดขอบคุณ แต่อยากฟังเยาเยาของเราพูดว่า…” ดวงตาดอกท้อโค้งมน “ขอบคุณค่ะพี่ชาย”

“งั้นไม่กินละ”

“…”

“เอาล่ะ” ฟู่อวิ๋นเซินฉีกกระดาษห่อลูกอมออก “พี่ชายล้อเล่น เก็บเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ กินสิ”

ลูกอมเม็ดนี้ดูเหมือนลูกอมธรรมดา บนกระดาษห่อไม่มีแม้แต่ยี่ห้อ

หลังจากลูกอมเข้าปาก อิ๋งจื่อจินถึงรู้สึกได้ว่า ความเจ็บปวดภายในร่างกายมีแนวโน้มที่ดีขึ้น

เกรงว่าจะไม่ใช่แค่ลูกอมธรรมดา

ขนตาของเธอขยับเล็กน้อย

มิน่าเธอถึงสืบข้อมูลเชิงลึกของเขาไม่ได้เลย

“ส่งแค่ตรงนี้นะ” ฟู่อวิ๋นเซินหยุด “กลับไปเถอะ”

จังหวะที่เขาหันตัวออกก็ได้ยินคำพูดสั้นๆ ลอยมาข้างหู

ฟู่อวิ๋นเซินอึ้งไปชั่วขณะ พอหันกลับไป เด็กสาวก็เดินเข้าไปในโรงเรียนแล้ว

ผ่านไปสักพักเขาก็หัวเราะออกมาเบาๆ แววตาเหม่อลอย

เด็กน้อยปากไม่ตรงกับใจ

เวลาบ่ายสามครึ่ง ในที่สุดคนในห้องสิบเก้าก็คืนชีพ เพราะตัวแม่ของชิงจื้อกลับมาแล้ว

ตัวแม่สวมเสื้อหนังสีดำ ในมือยังมีหมวกกันน็อก

ริมฝีปากแดงสด บุคลิกเอาเรื่อง

ดูก็รู้ว่าเป็นเจ๊ใหญ่ในวงการ

“เจ๊อวี่ คนนั้นไง” ลูกน้องชี้ไปที่โต๊ะหนึ่ง “อวดดีสุดๆ”

เจ๊ใหญ่มองไป ดวงตาเปล่งประกาย “โอ้โห สวยขนาดนี้เลยเหรอ”

ลูกน้องมุมปากกระตุก เตือนขึ้น “เจ๊อวี่”

“อะแฮ่ม…” เจ๊ใหญ่กลับมาจริงจังวางมาดต่อ “คอยดูนะ”

อิ๋งจื่อจินกำลังพักสายตา ทันใดนั้นโต๊ะก็ถูกถีบ

เธอลืมตาขึ้น มองไปอย่างเหม่อลอย

“ฉันจะบอกเธอให้นะ ห้องสิบเก้าของเราไม่มีใครต้อนรับเธอ” เจ๊ใหญ่ตบโต๊ะ “ถ้ามีหัวคิดก็รีบไปซะ ไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ”

“ใช่ รีบไปซะ” พวกลูกน้องที่อยู่ข้างหลังทำท่าโหดใส่ “เคยได้ยินชื่อเจ๊อวี่ของพวกเราหรือเปล่า ซิวอวี่ อย่ามามีเรื่องเชียวนะ!”

คราวนี้น่าจะกลัวแล้วใช่ไหม

ยังไม่รีบวิ่งหนีไปอีกเหรอ

กลับเห็นเด็กสาวเอามือยันหัวมองไป หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีก็พูดพลางครุ่นคิด “เธอปัดอายแชโดว์เก่งจัง สอนฉันบ้างสิ”

ซิวอวี่ที่กำลังจะพูดโหดใส่ “?”

“…”

สิบนาทีต่อมาก็เห็นซิวอวี่นั่งคุยเรื่องแต่งหน้ากับอิ๋งจื่อจินอย่างสนุกสนาน คนในห้องรู้สึกสิ้นหวัง

“นี่ไม่ใช่แค่พี่หรานแพ้นะ เจ๊อวี่ก็แพ้ด้วย”

“ยัยนี่วางยาหรือเปล่า ถึงจัดการพี่หรานกับเจ๊อวี่เสียอยู่หมัด”

“ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้เจ๊อวี่เป็นคนรักสวยรักงามล่ะ”

ทุกคนต่างเลิกคิดที่จะดิ้นรนแล้ว ทำได้เพียงยอมรับความจริง

แต่ก็พบว่า…ดูเหมือนพอยอมรับขึ้นมาก็มีความสุขดีนะ

“ในเมื่อพี่หรานกับเจ๊อวี่ต่างแพ้ให้เธอแล้ว งั้นเธอก็เป็นลูกพี่ใหญ่ของห้องเราสิ พวกเราควรเรียกเธอว่าอะไร”

“อะไรที่อาวุโสกว่าพี่”

“ก็ต้องเป็นพ่อสิ เรียกพ่ออิ๋ง”

ทุกคนเห็นด้วย ตื่นเต้นดีใจกันใหญ่

“พ่ออิ๋งมาอยู่ห้องเราจะไม่ให้เกียรติไม่ได้ พวกเราต้องจัดงานเลี้ยงต้อนรับ ต้องไลฟ์สดในเว็บบอร์ดด้วย!”

“เร็วเข้าๆ เปิดโพสต์”

พวกลูกน้องรีบเขียนโพสต์ เข้าหน้าแรกเว็บบอร์ดทันที

ตอนที่จงจือหว่านเห็นโพสต์นี้ก็อยากปาโทรศัพท์ทิ้ง

เธอรอมาทั้งวัน กลับได้ผลลัพธ์แบบนี้เหรอ

เธอว่าห้องสิบเก้าเป็นบ้ากันไปหมดแล้ว เจียงหรานกับซิวอวี่ไม่ได้เรื่องเลยสักนิด

จงจือหว่านหลุบตาลง ลุกขึ้นออกไปโทรศัพท์

“อาคะ ถึงแม้จะมีบางเรื่องที่หนูไม่อยากพูด แต่เรื่องนี้ส่งผลกระทบที่ไม่ดีเอามากๆ”

“ลูกสาวอา…ทำร้ายเจียงหรานค่ะ” จงจือหว่านหยุดเล็กน้อย พูดถึงแค่ตรงนี้ “เจียงหรานเป็น…ตัวยุ่งยากมากเลยนะคะ”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท