ผู้เฒ่าจงเองก็นึกไม่ถึง เขาก็แค่ท่องโลกโซเชียลไปเรื่อยก่อนนอนตามปกติ แล้วก็เห็นคำค้นหาที่ทำให้เขาโมโหจนเกือบเป็นโรคหัวใจ
หาว่าหลานสาวของเขาอ่อยเจียงมั่วหย่วนงั้นเหรอ
ถุย!
ชายแก่อายุเกือบสามสิบ มีแค่สาวแก่เท่านั้นแหละถึงจะถูกใจ
ผู้เฒ่าจงรีบขอพาสเวิร์ดจากคนดูแลเวยปั๋วทันที จากนั้นก็โพสต์ด่า
ชายชรามีนิสัยโมโหร้ายตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ แก่แล้วยิ่งร้ายมากกว่าเดิม โดยเฉพาะเวลาปกป้องคนในครอบครัว
มีเหรอจะทนไหว
ตระกูลอิ๋งกับตระกูลจงเกี่ยวดองเป็นญาติกัน คนส่วนใหญ่ต่างรู้
พอตระกูลจงออกหน้าแบบนี้ บรรดาแฟนคลับของอิ๋งลู่เวยต่างก็เริ่มงุนงง
[จงซื่อกรุ๊ปบ้าไปแล้วเหรอ ทำไมยังจะช่วยแก้ต่างให้ยัยคุณหนูตัวปลอมอีก]
[คงไม่ได้มีอะไร…จึ๊ๆ ตกลงกันเป็นพิเศษหรือเปล่า]
[หรือว่าอ่อยพี่เขยของพวกเราไม่พอ ยังจะวิ่งไปอ่อยซีอีโอคนไหนของจงซื่อกรุ๊ปด้วยหรือเปล่า]
[ยังจะมาหาว่าพวกเราสร้างข่าวลือ รูปก็โชว์อยู่ทนโท่ สร้างข่าวลือยังไงอีก ถ้าสร้างข่าวจริงก็ให้ยัยนั่นมาฟ้องพวกเราเลย]
ผู้เฒ่าจงยิ่งอ่านยิ่งโมโห หัวใจจะระเบิดออกมา
ขณะที่เขากำลังจะโพสต์ต่อก็มีสายโทรเข้า
ผู้เฒ่าจงลืมโมโหชั่วคราว รีบกดรับ “จื่อจิน หลานไม่ได้ดูเวยปั๋วใช่ไหม ห้ามดูเด็ดขาด คนพวกนั้นจงใจหาเรื่อง วางใจได้ เดี๋ยวตาจัดการให้”
“ขอบคุณคุณตานะคะ แต่หนูมีวิธีจัดการด้วยตัวเองค่ะ” ตอนที่อิ๋งจื่อจินเห็นโพสต์ของจงซื่อกรุ๊ปก็นึกไว้แล้วว่าผู้เฒ่าจงเป็นคนโพสต์ “คุณตารีบนอนนะคะ อย่าโมโหจนเสียสุขภาพ หนูไม่เป็นไรค่ะ”
ผู้เฒ่าจงเงียบไปสักพักถึงพูดด้วยความเสียใจ “จื่อจิน…ตาขอโทษที่ตาช่วยพิสูจน์ตัวตนของหลานไม่ได้ ทำให้ ทำให้หลานต้อง…”
พูดได้เพียงว่าเรื่องผ่านมานานเกินไป เขาก็รู้ว่าสายเกินไปแล้ว
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่า ตระกูลอิ๋งได้ลบร่องรอยทั้งหมดทิ้งไปแล้วเพื่อไม่ให้เรื่องฉาวโฉ่ถูกเปิดโปงออกมา
ถึงแม้ผู้เฒ่าจงจะบอกกับคนภายนอกว่าอิ๋งจื่อจินต่างหากที่เป็นหลานสาวแท้ๆ ของเขา แต่ตราบใดที่ตระกูลอิ๋งไม่ยอมรับก็ยังคงไม่มีทางเลือก
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าผู้เฒ่าจงอายุมากแล้ว ถึงแม้จะถือหุ้นอยู่ไม่น้อย แต่ไม่ได้ถือสิทธิ์ในการออกเสียงอย่างเด็ดขาดแล้ว หลายคนในตระกูลจงต่างจ้องตาเป็นมัน รอว่าวันไหนเขาจะพลาดพลั้ง
อิ๋งจื่อจินรู้ถึงจุดนี้ถึงได้โทรมาห้ามผู้เฒ่าจง
เมื่อเทียบกับความปลอดภัยของผู้เฒ่าจง ชื่อเสียงของคุณหนูที่แท้จริงคนหนึ่งยังเล็กน้อยมาก
“มีที่ไหนกันคะ” อิ๋งจื่อจินหลุบตา ยิ้มออกมา “หนูยังมีคุณตาอยู่ทั้งคน ดีจริงๆ นอนเถอะค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เย็นหนูไปหา”
ผู้เฒ่าจงปวดใจ มองโทรศัพท์ อดขยี้ดวงตาที่เริ่มแดงไม่ได้ ถึงห้ามน้ำตาเอาไว้ได้
นั่งเงียบๆ อยู่สักพักเขาก็ค่อยๆ เปิดลิ้นชักหยิบเอกสารฉบับหนึ่ง
ด้านบนเขียนไว้ว่า
หนังสือสัญญาโอนหุ้น
…
กระแสวิพากษ์วิจารณ์บ่มเพาะมาได้หนึ่งคืนกับอีกครึ่งวัน ค่อยๆ ทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุด
อิ๋งจื่อจินอ่านข้อความที่ส่งมาส่วนตัวในเวยปั๋วอย่างเนือยๆ เธอหาวออกมา
อาจเพราะเธอยังไม่ค่อยเข้าใจยุคสมัยแห่งข้อมูลของศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด คิดไม่ถึงว่าแฟนคลับของอิ๋งลู่เวยจะหาเวยปั๋วอันใหม่ของเธอเจอได้แค่เพราะดูจากจานที่เธอกินข้าว
ตอนนี้กล่องข้อความส่วนตัวของเธอเต็มไปด้วยคำด่าที่แฟนคลับของอิ๋งลู่เวยส่งมา คนที่ส่งภาพผี ภาพศพ ก็มีอยู่ไม่น้อย
หากเธอเป็นเพียงสาวน้อยอายุสิบเจ็ดจริง ภายใต้สถานการณ์ที่ชาวเน็ตถล่มด่าอย่างบ้าคลั่งขนาดนี้ เกรงว่าคงสติแตกไปนานแล้ว
“โอ้โห พ่ออิ๋งจะนิสัยดีเกินไปแล้วหรือเปล่า เธอทนอ่านเข้าไปได้ยังไง” ซิวอวี่โมโห “พวกเขาเห็นเรื่องจริงแล้วเหรอ ฉันแทบอยากจะตามสายเน็ตไปตบพวกเขาให้ปากฉีก!”
เจียงหรานหน้านิ่ว สีหน้าแย่มาก “ฉันจะให้แม่ไปหาเจียงมั่วหย่วนตอนนี้ ให้เขาออกมายืนยันความบริสุทธิ์ใจ”
พวกเขาระงับข่าวลือในเว็บบอร์ดโรงเรียนได้ แต่เวยปั๋วคนเยอะ ควบคุมไม่ได้
“เขาไม่ทำหรอก” อิ๋งจื่อจินยังคงกินมันฝรั่งทอด “นายไม่ต้องไป”
“งั้นจะให้นั่งดูเธอโดนด่าแบบนี้เหรอ” เจียงหรานทุบโต๊ะ พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไม่รู้ว่าใครเป็นคนถ่าย อย่าให้ฉันหาเจอนะ จะเอาให้พิการเลย!”
อิงเฟยเฟยที่เตรียมมาหัวเราะเยาะอิ๋งจื่อจินเพิ่งเดินถึงหน้าประตูก็ได้ยินคำพูดนี้พอดี
เธอตัวสั่นขึ้นมาทันที ชักเท้าที่ก้าวออกไปกลับมา ไปจากห้องสิบเก้าเหมือนกำลังหนีอะไร
อิ๋งจื่อจินเงยหน้า
ทันใดนั้นซิวอวี่ก็สะกิดเอวของเธอ “พ่ออิ๋ง ดูเวยปั๋วอาเล็กใสซื่อของเธอสิ”
ซิวอวี่ชี้หน้าจอโทรศัพท์ บนนั้นมีโพสต์เวยปั๋วของอิ๋งลู่เวยที่เพิ่งขึ้นสดๆ ร้อนๆ
แอทอิ๋งลู่เวย : [ขอโทษด้วยนะคะ ไม่เคยคิดว่าเรื่องราวจะกลายเป็นแบบนี้ ขอฉันอยู่เงียบๆ ก่อนนะคะ ตอนนี้ฉันยังทำใจไม่ได้ ขอบคุณทุกคนค่ะ (อีโมติคอนร้องไห้)]
เหล่าแฟนคลับสงสารจับใจ
[อย่าร้องนะพี่สาว เห็นธาตุแท้ของคนตอนนี้ก็ยังไม่สายนะคะ]
[ฮือๆๆ น่าสงสารจัง คนที่น่าสงสารที่สุดคงเป็นลู่เวยสินะ เธอคงนึกไม่ถึงว่าหลานสาวตัวเองจะหักหลังเธอได้]
หนึ่งนาทีต่อมาอิ๋งซื่อกรุ๊ปที่เงียบมาตลอดก็แชร์โพสต์นี้
แอทอิ๋งซื่อกรุ๊ป : [จะต้องให้คำตอบกับคุณลู่เวยแน่นอนค่ะ]
อิ๋งจื่อจินอ่านสองโพสต์นี้ ดวงตาหงส์หรี่ลง เคาะโต๊ะ “เอาล่ะ ตอนนี้โพสต์ได้แล้ว”
ซิวอวี่ทำอย่างรวดเร็วมาก กดโพสต์เวยปั๋วที่พิมพ์เสร็จเรียบร้อยนานแล้วทันที
แอทเกษียณแล้วอย่ากวน : [เตือนครั้งสุดท้าย อย่ามายุ่งกับฉัน ขอบคุณ (คลิปวิดีโอ)]
แฟนคลับที่เตรียมจะด่ารอบใหม่พอเข้ามาก็เห็นโพสต์นี้
คลิปวิดีโอความคมชัด หนึ่งพันแปดสิบพิกเซล จัดการตัดเสียงรบกวนแล้ว
รับรองว่าภาพคมชัด เสียงใสแจ๋ว
ครั้นแล้วบรรดาแฟนคลับที่กดเข้ามาก็เห็นว่าเด็กสาวเอาโค้กราดใส่ตัวเจียงมั่วหย่วนยังไง เอาบัตรธนาคารปาใส่หน้าเขายังไง ได้ยินเสียงเธอพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาอย่างไม่รีบร้อน
“ฉันขอให้อาเจียงกับอาเล็กครองรักกันจนแก่เฒ่า มีลูกในเร็ววัน”
“ก็ไม่รู้ว่าฉันทำให้อาเจียงเกิดความเข้าใจผิดได้ยังไง ถึงคิดว่าฉันมีใจให้อาเจียง ตอนนี้ขอเคลียร์ชัดๆ ต่อไปกรุณาอย่าคิดไปเองอีก”
“ฉันไม่ได้ชอบอาเจียง ยิ่งไปกว่านั้นไม่อยากเห็นหน้าอาเจียง และก็ช่วยบอกคู่หมั้นของอาเจียงว่าอย่ามารบกวนฉัน อยู่ห่างๆ ฉันเข้าไว้”
สมองของบรรดาแฟนคลับถึงกับว่างเปล่า งงกันไปหมด “…”
แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะได้สติกลับมา โพสต์ที่สองก็ตามมา
แอทเกษียณแล้วอย่ากวน : [คนปั่นข่าว คนด่าหยาบคาย คนส่งรูปผีรูปศพ แอคเคาท์แฟนคลับทั้งหมดถูกส่งให้ทางตำรวจแล้ว]
ในเวลาเดียวกัน สำนักงานทนายความอันดับหนึ่งของตี้ตูก็ได้โพสต์เวยปั๋ว
แอทสำนักงานทนายความซีเฟิง : [ได้รับไหว้วานจากคุณอิ๋งจื่อจิน สำนักงานทนายความซีเฟิงจะเป็นผู้ดูแลเรื่องนี้ทั้งหมด และให้บริการทางด้านกฎหมายแก่คุณอิ๋งจื่อจิน
โลกไซเบอร์ไม่ใช่ดินแดนที่อยู่นอกกฎหมาย ทุกคนล้วนต้องรับผิดชอบต่อการกระทำและคำพูดของตัวเอง ผู้ละเมิดกฎหมายต้องได้รับโทษทางกฎหมาย
คุณอิ๋งบอกแล้วว่า ต่อให้อายุยังน้อยก็ต้องฟ้อง ไม่มีจุดประสงค์อื่น ก็แค่อยากให้ต่อไปพวกคุณหมดวาสนากับการรับราชการ เกียรติยศต่างๆ ทุนการศึกษา มีคดีติดตัวไปทั้งชีวิต เพื่อชดใช้ให้กับพฤติกรรมเลวร้ายที่พวกคุณกระทำ]
ด้านล่างเป็นรายชื่อแอคเคาท์แฟนคลับยาวเป็นพรวน
ลำดับที่หนึ่งคือทีมสนับสนุนอิ๋งลู่เวย