คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 54 คอยดูว่าพี่ชายสั่งสอนคนที่รังแกเธอยังไงนะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ผู้อำนวยการใส่แว่นตา รับบันทึกการสนทนาฉบับนี้มา

ยิ่งอ่านสีหน้าก็ยิ่งแย่ลง จนกระทั่งสุดท้ายกลายเป็นสีหน้าบึ้งตึง

ผู้อำนวยการพยายามข่มความโกรธ หยั่งเชิงถาม “นักเรียนอิ๋งหมายความว่า?”

“จะจัดการตามกฎหมายค่ะ” อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเล็กน้อย “ก็แค่แวะมาบอก”

ผู้อำนวยการ “…”

เห็นเขาเป็นแค่เครื่องมือที่มีไว้แจ้งให้ทราบสินะ

“เข้าใจแล้ว” ผู้อำนวยการดันแว่นตา สีหน้าเคร่งเครียด “นักเรียนอิ๋งวางใจได้ ชิงจื้อไม่มีทางเพิกเฉยต่อพฤติกรรมแบบนี้”

อิ๋งจื่อจินไม่พูดอะไรอีก หันตัวเปิดประตูแล้วออกไป

จงมั่นหวาก็ไม่มีเวลาสนใจแล้วว่าตัวเองจะขายหน้าแค่ไหน รีบตามออกไป “จื่อจิน!”

เฮ่อสวินมองสองคนนั้นที่ออกไปด้วยสีหน้าเย็นชา

ถึงแม้จงมั่นหวาจะมีส่วนที่ทำผิดจริง แต่ในฐานะที่เป็นลูกสาวก็ควรจะรู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่ มีที่ไหนกันทำกับแม่ตัวเองแบบนี้

เขาเองก็ไม่อยากยุ่ง ขมวดคิ้ว “ผู้อำนวยการครับ เธอเอาอะไรให้ดูเหรอครับ”

“อ๋อ” ดูเหมือนผู้อำนวยการเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าเฮ่อสวินก็อยู่ด้วย “ถ้าคุณอยากรู้ก็เอาไปอ่านดู”

ขณะพูดก็ยื่นบันทึกการสนทนาให้

เฮ่อสวินรับมาอ่าน อดอึ้งไปไม่ได้

ในนั้นเป็นบทสนทนาระหว่างอิงเฟยเฟยกับทีมสนับสนุนอิ๋งลู่เวย

อิงเฟยเฟย : [ฉันเห็นมากับตาตัวเองเลยนะ อิ๋งจื่อจินอ่อยเจียงมั่วหย่วน อันที่จริงไม่ใช่แค่ครั้งนี้ พวกเธอไม่รู้หรอกว่ายัยคนนี้ปกติชอบอ้างว่าไปเยี่ยมอิ๋งลู่เวย จริงๆ แล้วอยากไปใกล้ชิดเจียงมั่วหย่วนต่างหาก]

อิงเฟยเฟย : [แต่เจียงมั่วหย่วนเล่นด้วยที่ไหนกัน ไม่แม้แต่จะชายตามองเลยด้วยซ้ำ แต่ยัยนั่นก็ยังคิดไม่ได้ ตามตื๊อไม่เลิก เธอว่าเจียงมั่วหย่วนที่เป็นสุภาพบุรุษขนาดนั้นจะทำไงกับยัยนั่นได้ล่ะ]

ทีมสนับสนุนอิ๋งลู่เวย : [วางใจได้ กล้ามาอ่อยพี่เขยของพวกเรา พวกเราจะเอายัยนั่นให้ถึงตาย หึหึ]

นี่เป็นการสร้างข่าวลือ อิงเฟยเฟยทำให้เกิดกระแสอย่างรุนแรงทางอ้อมในโลกโซเชียล

เฮ่อสวินเงยหน้า “ดังนั้นบทลงโทษของเฟยเฟยคือ?”

“ยังจะยังไงได้อีก” ผู้อำนวยการค้นทะเบียนประวัตินักเรียน “เลวร้ายขนาดนี้ก็ต้องไล่ออกอยู่แล้ว”

นักเรียนที่ถูกชิงจื้อไล่ออกไม่มีโรงเรียนมัธยมแห่งไหนในประเทศจีนกล้ารับไว้อีกแล้ว

ลำคอของเฮ่อสวินขยับ และแล้วก็กลืนคำพูด ‘ผมว่ามันรุนแรงเกินไป’ กลับลงคอ

ชั้นล่างของอาคาร

“จื่อจิน!” จงมั่นหวาเดินฝ่าสายตาแปลกๆ ของนักเรียนในโรงเรียน ใกล้ควบคุมความโมโหไม่อยู่เต็มที “เธอจะหยุดฟังฉันพูดก่อนได้ไหม!”

ทำไมทุกครั้งถึงเอาแต่ใจไม่ไว้หน้าเธอตลอด

จงมั่นหวาเร่งฝีเท้า จะเข้าไปดึงอิ๋งจื่อจิน

แต่ยังไม่ทันได้แตะแม้แต่ชายเสื้อของลูกสาวก็ถูกนักเรียนชายที่ไว้ผมทรงพังค์สองคนถือกระบองหนามขวางทางไว้

จงมั่นหวาสีหน้าเปลี่ยน “พวกเธอคิดจะทำอะไร”

นักเรียนชายทั้งสองคนอยู่ห้องสิบเก้า

พวกเขาทำหน้าโหดเหี้ยม ท่าทางเอาเรื่อง “นี่ป้า ขอเตือนไว้เลยนะ รังแกพ่ออิ๋งของพวกเราให้มันน้อยๆ หน่อย พวกเราไม่ได้กินผักกินหญ้าหรอกนะ”

“พะ พวกเธอ…” จงมั่นหวาโมโหจนตัวสั่น แต่เธอเป็นคุณนายตระกูลเศรษฐี ไม่มีทางที่จะลดตัวไปคุยกับคนแบบนี้ ทำได้เพียงผละไปพร้อมสีหน้าบึ้งตึง

ใต้ต้นไม้ด้านหน้า อิ๋งจื่อจินไม่แม้แต่จะมองจงมั่นหวา

เธอกำลังรับโทรศัพท์ “ขอบคุณมากค่ะผู้เฒ่ามู่ ถ้าไม่ได้ท่านหนูคงหาทางติดต่อสำนักงานทนายความซีเฟิงไม่ได้ง่ายๆ แบบนี้”

“เกรงใจทำไม แค่นี้เอง” พอพูดถึงเรื่องนี้มู่เฮ่อชิงก็ไม่ค่อยพอใจ “เธอจะทำให้มันยุ่งยากขนาดนั้นทำไม ฉันช่วยเธอได้นะ”

อิ๋งจื่อจินขมวดคิ้ว “สรุปว่าท่านคิดจะลงโฆษณาประกาศหาคู่ให้หนูในนามของตระกูลมู่เหรอคะ”

มู่เฮ่อชิงแกล้งไอด้วยความอาย พูดเสียงขรึม “มันจะเป็นการลงโฆษณาประกาศหาคู่ได้ยังไง เสี่ยวอิ๋ง เอาจริงๆ นะถ้าเธอยินดี หลานๆ ผู้ชายในตระกูลมู่เธอเลือกได้ตามใจเลย”

“อ่อ ไม่ยินดีค่ะ”

“…”

มู่เฮ่อชิงรู้สึกเสียดแทงใจ

“ผู้เฒ่ามู่คะ ยังมีอีกเรื่องที่อยากรบกวนค่ะ” อิ๋งจื่อจินครุ่นคิดแล้วพูด “รู้ไหมคะว่าพวกสมุนไพรหายากไปซื้อที่ไหนได้บ้าง”

มู่เฮ่อชิงอึ้งไปเล็กน้อย “สมุนไพรหายากเหรอ”

เขาขมวดคิ้ว ชะงักไปเล็กน้อย “ถ้าเธอหมายถึงสมุนไพรหายากอย่างบัวหิมะร้อยปี แบบนั้นในตลาดไม่มีทางมีหรอก”

ตระกูลมู่เป็นตระกูลขุนศึกมาตั้งแต่แรกเริ่ม ประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของตระกูลสามารถไล่ย้อนไปได้ถึงสมัยราชวงศ์ถัง ซึ่งก็ไม่ได้อยู่ในแวดวงการรักษาแผนโบราณ

มู่เฮ่อชิงก็แค่มีการติดต่อกับคนในแวดวงแพทย์แผนโบราณเพราะต้องรักษาตัวเอง

วงการแพทย์แผนโบราณกีดกันคนนอกอย่างมาก ไม่มีทางขายสมุนไพรหายากให้คนนอก

อิ๋งจื่อจินก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจ “น่าจะมีค่ายิ่งกว่าบัวหิมะร้อยปีอีกค่ะ”

พิษในร่างกายของผู้เฒ่าฟู่ เธอไม่ได้เพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก

เธอถอนพิษได้ แต่เรื่องสมุนไพรเป็นโจทย์ยาก

โดยเฉพาะสมัยนี้ที่ธรรมชาติถูกทำลายในระดับที่สูงมาก ประสิทธิภาพของสมุนไพรห่างไกลจากสมัยก่อนลิบลับ

“งั้นก็คงมีแค่ในวงการแพทย์แผนโบราณแล้ว” มู่เฮ่อชิงเงียบไปชั่วขณะ “เสี่ยวอิ๋ง ต่อให้เป็นในแวดวงแพทย์แผนโบราณ ฝีมือการรักษาของเธอก็ไม่มีคนรุ่นเดียวกันคนไหนที่เทียบได้ ฉันแนะนำเธอให้ได้นะ”

อิ๋งจื่อจินนวดขมับ “ขอโทษค่ะ ตอนนี้หนูยังไม่อยากเข้าวงการแพทย์แผนโบราณ”

“เข้าใจแล้ว” มู่เฮ่อชิงก็ไม่ได้ถามเหตุผล “งั้นเอาแบบนี้ ในมือฉันยังมีแอคเคาท์ของสตาร์ที่ว่างๆ อยู่ เธอลองเข้าไปดู ไม่แน่อาจขอซื้อได้”

หลังวางสายมู่เฮ่อชิงก็ส่งแอคเคาท์กับรหัสผ่านให้ทางวีแชท

กระแสในเน็ตยังคงไม่หยุด

[ตอนนี้อิ๋งลู่เวยไม่มีหน้าออกมาแล้วหรือเปล่า]

[พวกแฟนคลับก็เลิกส่งเสียงแล้ว ก่อนหน้านี้เต้นแร้งเต้นกากันสนุกสนาน จึ๊ๆ ฉันล่ะหน้าชาแทนพวกเธอ]

[มีแค่ฉันที่สนใจเหรอว่าอิ๋งจื่อจินจะฟ้องจริงหรือเปล่า อย่าแค่พูดลอยๆ นะ]

และนี่คือสิ่งที่พวกแฟนคลับกับแอคเคาท์เชิงพาณิชย์ส่วนใหญ่คิดในใจ

พวกเขาตั้งเยอะ จะไล่ฟ้องทีละคนจริงเหรอ

มีกำลังคน กำลังทรัพย์ มีเรี่ยวแรงขนาดนั้นเลย

เป็นไปไม่ได้

บรรดาแอคเคาท์เชิงพาณิชย์ก็ไม่ได้ลบโพสต์ที่เป็นปัญหาทิ้ง อย่างไรเสียเอาไว้แบบนั้นยังจะช่วยเรียกคนได้อีกเยอะ

มีแอคเคาท์เชิงพาณิชย์แอคเคาท์หนึ่งถึงขั้นโพสต์อย่างอวดดี

แอทเจ้าพ่อในวงการ : [เธอไม่มีทางฟ้องหรอก เมื่อก่อนดาราพวกนั้นก็เห็นประกาศจะฟ้อง มีใครฟ้องไหมล่ะ ก็แค่ทำให้ดูเป็นทางการ แล้วนี่คนธรรมดาอย่างเธอ มีอำนาจใหญ่โตขนาดนั้นเลยเหรอ น่าขำสิ้นดี]

ภายในร้านอาหาร ฟู่อวิ๋นเซินอ่านโพสต์นี้ด้วยสายตาเรียบเฉย

ดูเหมือนจะรู้สึกร้อนเขาจึงดึงคอเสื้อออกเล็กน้อย เผยให้เห็นไหปลาร้า

ฟู่อวิ๋นเซินเคาะโต๊ะเรื่อยเปื่อย “เยาเยา”

อิ๋งจื่อจินเงยหน้า มองคอเสื้อที่เบี้ยวของชายหนุ่มแล้วขมวดคิ้ว

สามวินาทีต่อมาเธอก็ยื่นมือออกไปจับคอเสื้อของเขาให้ตรง

ความเย็นจากปลายนิ้วสัมผัสถูกคอยาวของชายหนุ่ม

ราวกับมีมวลอากาศเคลื่อนไหวเล็กน้อย เกิดเป็นคลื่นแผ่ขยาย

ฟู่อวิ๋นเซินอึ้งไปชั่วขณะ จากนั้นก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ “ไม่ใช่มั้ง เด็กน้อย เธอเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำเหรอ”

อิ๋งจื่อจินไม่ตอบ แต่ก็จับแขนเสื้อด้านซ้ายของเขาให้เท่ากับด้านขวาคล้ายคนเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำอีกรอบ “เสร็จแล้ว”

จากนั้นถึงมองหน้าเขา “มีอะไรเหรอ”

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก ก็แค่…” ดวงตาดอกท้อของฟู่อวิ๋นเซินโค้งมน น้ำเสียงเรื่อยเปื่อย “คอยดูว่าพี่ชายสั่งสอนคนที่รังแกเธอยังไงนะ”

“หืม?” อิ๋งจื่อจินชะโงกหน้าไปอ่านเวยปั๋ว

แอทเรียกข้าว่าจอมยุทธ์ศัตรูพ่าย : [เจอเรื่องสนุกมา แอคเคาท์เชิงพาณิชย์สามร้อยแปดสิบสี่แอคเคาท์เชื่อมโยงกัน โพสต์แบบเดียวกัน สร้างข่าวลือเหมือนกัน ดูเหมือน…จะอยู่ภายใต้บริษัทของอิ๋งลู่เวยด้วยนะ]

ด้านล่างแนบภาพประกอบหลายภาพ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท