คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 66 ภาพลักษณ์พังทลาย

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ในเวลาเดียวกับที่ผู้เฒ่าจงตะคอกประโยคนี้ออกมา ทันใดนั้นอิ๋งลู่เวยก็กรีดร้องด้วยความตกใจ “คุณแม่ แม่คะ ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ”

คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งหลับตาแน่น ลมหายใจถี่เร็ว เห็นได้ชัดว่าหมดสติไปแล้ว

“รีบเรียกรถพยาบาลเร็ว!” อิ๋งลู่เวยลนลาน “พ่อบ้าน พ่อบ้าน!”

ในขณะเดียวกันเธอเองก็โล่งอก

ยังดีที่คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งไม่ได้ยินคำพูดประโยคสุดท้ายของผู้เฒ่าจง

พ่อบ้านรีบไปตามหมอประจำบ้านมาก่อนจากนั้นจึงโทรเรียกรถพยาบาล

บรรดาคนรับใช้ในคฤหาสน์ตระกูลอิ๋งก็ลนลานทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน

อิ๋งลู่เวยเป็นลูกสาวที่คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งมีตอนอายุมากแล้ว อีกทั้งยังเกิดก่อนกำหนด

ตอนนั้นเดิมทีคุณนายผู้เฒ่าอิ๋งก็เป็นสตรีที่ตั้งท้องตอนอายุมาก พอเป็นแบบนี้ร่างกายก็ยิ่งเสียหายหนัก ยิ่งแก่ก็ยิ่งทรุด ทั้งยังเป็นโรคความดันโลหิตสูง น้ำตาลในเลือดสูง เป็นต้น

บางครั้งเดินๆ อยู่ข้างนอกก็อาจเป็นลมไปได้

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงที่ผู้เฒ่าจงมาตะคอกใส่

ในที่สุดจงมั่นหวาก็ได้สติกลับมา เธอตวาดเสียงดัง “มัวอึ้งอะไรอยู่ ไปเอายามาสิ!”

รถพยาบาลมาถึงในสามนาที เจ้าหน้าที่รีบนำตัวคุณนายผู้เฒ่าอิ๋งขึ้นเปลหามแล้วพาไปที่โรงพยาบาลอันดับหนึ่ง

อิ๋งลู่เวยกับพ่อบ้านรีบร้อนตามไป จงมั่นหวาอยู่ต่อ

“ฉันล่ะเชื่อเลย ตั้งนานไม่เป็นลม กลับมาหมดสติในเวลานี้” ผู้เฒ่าจงยังอยากด่าต่อ “สลบไปแบบนี้ ตั้งเวลาไว้สินะ”

คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งอายุน้อยกว่าเขาเกือบสิบปี แต่ร่างกายยังแข็งแรงสู้เขาไม่ได้

“คุณพ่อ!” จงมั่นหวารู้สึกปวดหัวมาก พูดเสียงเบา “พูดต่อหน้าคุณแม่ได้ยังไงคะ”

ถ้าไม่ใช่เพราะมีอยู่ครั้งหนึ่งเธอคุยโทรศัพท์กับอิ๋งเจิ้นถิงแล้วถูกผู้เฒ่าจงที่มารดน้ำต้นไม้ตรงระเบียงได้ยินเข้าพอดี เรื่องในวันนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น

“ทำไม เขาไม่ใช่ย่าของจื่อจินหรือไง” ผู้เฒ่าจงไม่ไว้หน้าจงมั่นหวาแม้แต่น้อย “ทำไมฉันจะพูดไม่ได้”

“คุณพ่อ มันไม่ใช่เพราะเรื่องนี้” จงมั่นหวาเถียง “คุณแม่ร่างกายไม่แข็งแรง รับเรื่องสะเทือนใจไม่ได้มาก คุณพ่อไปพูดตรงๆ แบบนี้ เกิดคุณแม่เส้นเลือดในสมองแตกจะทำยังไงคะ”

นี่ก็เป็นสาเหตุที่พวกเขาปิดบังคุณนายผู้เฒ่าอิ๋งมาตลอด

ข้อแรก จะยอมเสี่ยงกับการที่คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งอาการกำเริบไม่ได้

ข้อสอง ก็ไม่จำเป็นต้องบอก อย่างไรเสียพวกเขาก็ไม่คิดจะเปิดเผยตัวตนของอิ๋งจื่อจินให้ทุกคนรับรู้อยู่แล้ว

มันน่าขายหน้าเกินไป

มีเหรอที่ผู้เฒ่าจงจะไม่รู้ว่าจงมั่นหวาคิดอะไรอยู่ เขาโมโหจนหัวเราะ “ได้ จงมั่นหวา ตามใจ อย่ามาเสียใจทีหลังก็แล้วกัน พอถึงตอนนั้นฉันไม่อยากมานั่งฟังแกร้องไห้หรอกนะ”

เขาเองก็ไม่ได้อยากให้ยายแก่คนนั้นรู้ความจริง เกิดสร้างความยุ่งยากให้อิ๋งจื่อจินมากกว่าเดิมจะทำยังไง

หมดสติได้ดี เขาบอกได้แค่ว่าทำบาปทำกรรมไว้เยอะก็สมควรแล้ว!

ผู้เฒ่าจงสะบัดแขนแล้วเดินออกโดยไม่หันกลับมามอง

จงมั่นหวาขมวดคิ้ว ไม่ได้ตามไป

เธอไม่เข้าใจความโมโหของผู้เฒ่าจง

เธอทำไม่ค่อยถูกก็จริง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเอาเรื่องถึงขนาดนี้หรือเปล่า

ส่วนเรื่องเสียใจทีหลัง

จงมั่นหวาแสยะยิ้ม

จะเป็นไปได้ยังไง

ตอนที่อิ๋งซื่อกรุ๊ปกับอิ๋งลู่เวยรู้เรื่อง ก็ติดอันดับคำค้นยอดนิยมในเวยปั๋วไปแล้ว ทั้งยังมีสองแท็ก

#ลูกเลี้ยง คลังเลือดมีชีวิต#

#อิ๋งลู่เวยเป็นโรคฮีโมฟีเลีย#

ต่อให้อยู่อันดับที่สี่สิบกว่า แต่ก็มีคนเห็นอยู่ดี

โดยเฉพาะ ‘คลังเลือดมีชีวิต’ ถูกชาวเน็ตกดเข้ามาดูจำนวนมาก

[โห ฉลาดขึ้นมาเลยฉัน คลังเลือดมีชีวิตมีอยู่จริงๆ เหรอเนี่ย คิดว่ามีแต่ในนิยายเสียอีก ชีวิตจริงโหดร้ายยิ่งกว่าในนิยาย]

[ครอบครัวนี้โหดเหี้ยมเกินไปหรือเปล่า คนรวยรังแกคนธรรมดาได้ คนรวยคิดจะทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ]

[น่าขำเป็นบ้า แฟนคลับอิ๋งลู่เวยยังจะมาพูดว่าสงสารอิ๋งลู่เวย คนที่ควรสงสารคือน้องอิ๋งถึงจะถูก]

[เฮอะ พวกแฟนคลับสติไม่ดีของอิ๋งลู่เวยยังมาบอกว่าน้องคนนั้นสมควรบริจาคเลือดให้อิ๋งลู่เวยอยู่แล้ว อิ๋งลู่เวยเป็นไง แฟนคลับก็เป็นแบบนั้นสินะ แหวะ]

เรื่องสร้างข่าวเท็จด่าทอเสียๆ หายๆ เมื่อคราวก่อนยังผ่านไปแค่ไม่กี่วัน ภาพลักษณ์ของอิ๋งลู่เวยก็ถูกทำลายลงยิ่งกว่าเดิม

ถึงแม้แฟนคลับของเธอจะยังซื่อสัตย์คอยปกป้อง พยายามแก้ต่างให้ แต่ก็ยากที่จะต่อกรกับการโจมตีของคนที่มีตรรกะความคิดปกติ

พออ่านคอมเมนต์เหล่านี้ สีหน้าของอิ๋งลู่เวยก็บิดเบี้ยวทันที

เธอหยิบโทรศัพท์มาโทรหาผู้จัดการส่วนตัวทันที “รีบจัดการแท็กพวกนั้น บอกให้จอมแฉอะไรนั่นลบโพสต์ด้วย!”

“ได้ๆๆ” คลื่นลูกเก่ายังไม่ทันสงบก็มีคลื่นใหม่โผล่มาอีก ผู้จัดการส่วนตัวปวดหัวเหลือเกิน “คุณก็เลิกเข้าเวยปั๋ว อีกเดี๋ยวทางสตูดิโอจะโพสต์รูปคุณตอนซ้อมเปียโน”

อิ๋งลู่เวยโมโหมาก กระแทกกดแป้นเปียโน

เกี่ยวอะไรกับเธอด้วย

เธอไม่ได้บังคับอิ๋งจื่อจินให้บริจาคเลือดเสียหน่อย ใส่ร้ายเธอไม่เว้นแต่ละวัน

อิ๋งลู่เวยไม่คิดว่าเป็นความผิดของตัวเองแม้แต่น้อย เธอข่มอารมณ์โมโห ซ้อมเปียโนต่อ

มีตระกูลอิ๋งออกหน้า แท็กยอดนิยมก็ถูกกำจัดไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่จอมแฉสะท้านโลกไซเบอร์ลบโพสต์ไปแล้วก็โพสต์อีโมติคอนน้อยใจ

[โอ๋ๆ นะจอมแฉ พวกเศรษฐีก็งี้แหละ จอมแฉระวังตัวด้วยนะ รีบย้ายบ้านล่ะ]

[อิ๋งลู่เวยทำตัวแบบนี้น่าขยะแขยงมาก เลิกพูดถึงละ ไปดูน้องอิ๋งเลี้ยงหมูดีกว่า]

เดิมทีที่บรรดาชาวเน็ตกดติดตามแอคเคาท์เกษียณแล้วอย่ากวนก็แค่เพราะรู้สึกว่าอิ๋งจื่อจินโพสต์ชีวิตประจำวันได้น่าสนุกดี

แต่ช่วงนี้พวกเขามีสิ่งที่น่าสนใจใหม่ เพราะพวกเขาพบว่าน้องนางฟ้าคนนี้ซื้อหมูมาจริงๆ แถมยังลงรูปด้วย

[ตูตูน่ารักจังเลย อยากเลี้ยงบ้างจัง]

[น้องอิ๋ง หนูไม่เป็นไรใช่ไหมคะ หนูต้องรีบไปจากตระกูลอิ๋งเลยนะ อย่าให้พวกเขาสูบเลือดอีกนะลูก]

อิ๋งจื่อจินกำลังท่องเว็บทั่วโลก พอเห็นคนจำนวนไม่น้อยมาปลอบจึงตอบกลับ [ไม่เป็นไรค่ะ]

[น้องอิ๋งโพสต์รูปตัวเองบ้างได้ไหม ไม่เคยเห็นหน้าตรงเลย อยากเห็นๆ]

อิ๋งจื่อจินขมวดคิ้ว มือที่ว่างอยู่อีกข้างกดพิมพ์ในโทรศัพท์

[มืดแล้วนะ เลิกฝันกลางวัน]

[อุ๊ย น้องอิ๋งปฏิเสธได้น่ารักจัง เจ้ถูกใจ]

อิ๋งจื่อจินนวดศีรษะ อยากจะบล็อกแอคเคาท์เวยปั๋วพวกนี้จริงๆ

แต่อย่างไรซะก็เป็นผู้หญิงทั้งนั้น แถมยังเป็นห่วงเธอ เธอยังพอทนไหว

เห็นทีเธอคงต้องไปสร้างแอคเคาท์ใหม่อีกอันแล้ว

อิ๋งจื่อจินปิดแจ้งเตือนเวยปั๋วแล้วท่องเว็บต่างๆ ต่อ

แต่เธอค้นหมดทุกเว็บแล้วก็ยังไม่เจอเว็บบอร์ดที่ชื่อเอ็นโอเค

ต้องมีอะไรแน่ๆ

อิ๋งจื่อจินเอานิ้วเคาะโต๊ะ เงียบไปสักพัก ขณะที่กำลังเตรียมแฮกคอมพิวเตอร์ที่อยู่อีกฟากของมหาสมุทร ทันใดนั้นสตูดิโอของอิ๋งลู่เวยก็โพสต์เวยปั๋ว

แอดสตูดิโออิ๋งลู่เวย : [โพสต์รูปใหม่ของลู่เวยให้ทุกคนได้ดูกัน (อีโมติคอนดอกไม้)]

ด้านล่างแนบหนึ่งรูป

อิ๋งลู่เวยซ้อมเปียโนอยู่ในห้อง มีโน้ตดนตรีวางอยู่ข้างหน้า

เหล่าแฟนคลับแห่กันมาทันที

[พี่สาวพักผ่อนเยอะๆ นะคะ รอดูคอนเสิร์ตน้า]

[กดรายงานพวกแอนตี้แฟนให้หมด ปกป้องลู่เวยคนเก่ง]

[ฉันรู้อยู่แล้วว่าลู่เวยต้องฝึกตะวันกับจันทราของวีร่า โฮลท์ซได้แน่ อยากฟังแล้ว!]

อิ๋งจื่อจินมองโน้ตดนตรีที่จงใจขยายใหญ่ ดวงตาหงส์หรี่ลง

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท