คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 149 หมอเทวดาของคนตาย

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

แฮชแท็กพวกนี้เห็นได้ชัดว่าเพิ่งมา ยังไม่เป็นที่นิยมเท่าไร

แต่เนื่องจากมีชื่อซังเย่าจือที่เป็นดาราดังก็เลยทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็ขึ้นมาอยู่อันดับต้นๆ ชาร์ตคำค้นยอดฮิตสิบอันดับแรกเกี่ยวข้องกับซังเย่าจือไปแล้วแปดอันดับ นี่ไม่ใช่แค่ประเด็นร้อนเพราะดาราดังแล้ว ต่อให้ซิวอวี่ไม่รู้ว่าหัวใจหยุดเต้นหมายถึงอะไร แต่เธอไม่มีทางไม่รู้ความหมายของ ‘ตายฉับพลัน’

เธอจ้องแฮชแท็กนี้อยู่ห้านาทีเต็มๆ จากนั้นถึงค่อยๆ กดเข้าไปดู เรื่องราวความเป็นมาประมาณว่า

จากการจัดตารางงานของบริษัท ซังเย่าจือจึงไปเข้าร่วมรายการที่ชื่อว่า ‘ผจญภัยท้าตาย’ โดยมีดาราใหม่ของบริษัทไปด้วยอีกสองคน นี่เป็นรายการที่เกี่ยวข้องกับกีฬาผาดโผน ท้าทายขีดจำกัดของมนุษย์โดยเฉพาะ มีทั้งการปีนป่ายด้วยมือเปล่า ขี่จักรยานวิบาก กระโดดร่มกลางอากาศ วิ่งอิสระ สเก็ตผาดโผน เป็นต้น เพียงแต่คนที่เข้าร่วมกีฬาผาดโผนไม่ใช่นักกีฬาผาดโผน แต่เป็นดารา รายการนี้เป็นรายการร่วมทุนสร้างของซิงเฉินกับบริษัทเอนเตอร์เทนเมนต์อีกสองบริษัท ก็แค่ใช้ความอยากรู้อยากเห็นของผู้คนให้เป็นประโยชน์

โดยเฉพาะการได้ซังเย่าจือดาราอันดับหนึ่งในวงการที่เกิดหลังปีเก้าสิบห้ามาเข้าร่วม ความดังและยอดผู้ชมก็มีแต่จะทะยานสูงขึ้น เรื่องนี้ซิวอวี่ก็รู้

อย่างไรเสียเธอก็เข้าไปดูในกลุ่มแฟนคลับในเวยปั๋วทุกวัน ตอนนั้นมีพวกหัวหน้าแฟนคลับโพสต์ตารางงานของซังเย่าจือ ตอนนั้นพอโพสต์ตารางงานนี้ออกมาพวกแฟนคลับก็โวยวายเวยปั๋วแทบแตก เป็นถึงราชาภาพยนตร์ยังจะถูกส่งไปร่วมรายการวาไรตี้ที่ไร้หลักการแบบนี้อีกเหรอ เห็นได้ชัดว่าซิงเฉินอยากอาศัยชื่อเสียงของซังเย่าจือสร้างกระแสให้บริษัทตัวเอง อีกทั้งยังได้ดันดาราใหม่ เพียงแต่เธอตามดาราดูแค่หน้าตามาตลอด ซังเย่าจือเป็นดาราที่เธอติดตามมานานที่สุด

ให้เธอซื้อสินค้าที่เขาเป็นพรีเซนเตอร์ย่อมได้ ปั่นยอดต่างๆ ก็ได้ แต่เธอไม่มีทางไปวิ่งหาดาราคนไหนตามตารางงานเป็นการเฉพาะ

ซิวอวี่นึกไม่ถึงว่า จะเกิดเรื่องขึ้นกับซังเย่าจือเพราะรายการวาไรตี้

แอทสำนักข่าวเวยปั๋ว : [นักข่าวในพื้นที่รายงานว่า ซังเย่าจือราชาภาพยนตร์ที่เกิดปีเก้าสิบห้า ได้หมดสติไปขณะเข้าร่วมรายการผจญภัยท้าตาย และได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลซินกั่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยังอยู่ในระหว่างช่วยชีวิต เราจะติดตามความคืบหน้าต่อไป ทุกท่านโปรดอดใจรอ]

ถึงแม้จะพูดแบบนี้ พวกแฟนคลับก็ไม่มีทางใจเย็นลงได้

แอทซังเย่าจือ : [พี่จ๋า ขอร้องล่ะนะ รีบออกมาสิ ให้พวกเราได้รู้ว่าพี่ยังปลอดภัย พี่ยังมีชีวิตอยู่!]

[ฉันล่ะเชื่อเลยจริงๆ ซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์ พวกคุณมันบริษัทเฮงซวยอะไรกัน! พี่ชายฉันไม่ใช่ดาราโนเนมที่ไม่มีศักยภาพ เขาเป็นราชาภาพยนตร์ ราชาภาพยนตร์หมายถึงอะไรพวกคุณเข้าใจหรือเปล่า!]

[เขาถ่ายหนังก็เหนื่อยมากแล้ว ทำไมยังต้องให้เขาถ่อไปร่วมรายการแบบนี้แต่เช้าด้วย]

[ทุกคนใจเย็นก่อน เย่าจือสุขภาพแข็งแรงมาตลอด ร่างกายก็ปกติดี ไม่มีทางเป็นอะไรแน่นอน มีใครอยู่ใกล้ซินกั่งบ้าง ลองไปดูก่อน คนอื่นๆ ไปเข้าเรียนไปทำงานกันก่อนนะ]

ซิวอวี่เปลี่ยนใส่ชุดนักเรียนแล้วไปโรงเรียน ระหว่างทางก็อ่านข่าวต่อ

หลังจากที่เธออ่านโพสต์ในแฮชแท็กแรกๆ จบถึงได้กดเข้าไปดูในแฮชแท็กซังเย่าจือหัวใจหยุดเต้นตายฉับพลัน

เห็นโพสต์แรก

แอทจอมแฉสะท้านโลกไซเบอร์ : [ได้ข่าวมาว่าราชาภาพยนตร์ซังหัวใจหยุดเต้นตายฉับพลัน เสียใจกับทุกคนด้วยครับ]

ด้านล่างยังมีอธิบายการตายฉับพลันสองแบบ

แบบแรกคือหัวใจหยุดเต้นฉับพลัน แบบที่สองคือไม่ใช่เกิดจากหัวใจหยุดเต้นฉับพลัน

ปกติคนที่ตายฉับพลันจะเป็นแบบแรก เกิดเหตุไม่คาดคิดอย่างกะทันหัน ใครก็ขวางไม่ได้

แอคเคาท์เชิงพาณิชย์แอคเคาท์นี้ซิวอวี่ก็รู้จัก

เป็นพวกปาปาราซซี่ก็จริง แต่ไม่มีทางโพสต์ข่าวปลอม

พอเวยปั๋วโพสต์นี้ออกมาก็แทบจะระเบิดอย่างสิ้นเชิง

[เฮ้ย จอมแฉ ฉันมองนายผิดไป เดิมทีคิดว่านายจะแฉแต่ข่าวจริง ที่แท้ก็สร้างข่าวลือด้วย ไม่ตามนายแล้ว]

[แฮชแท็กซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์ รีบออกมาแก้ข่าวสิ อยู่ดีๆ พวกคุณก็ทำคนตาย ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของพวกคุณกินขี้เป็นอาหารเหรอ]

เดิมทีซิวอวี่มาถึงโรงเรียนแล้ว แต่พอเห็นโพสต์นี้เธอก็หันไปบอกเจียงหรานให้ลาหยุดแทนเธอ จากนั้นก็จองตั๋วเครื่องบินรีบไปโรงพยาบาลที่เกิดเรื่อง

ระหว่างพักคาบสองตอนเช้า

ภายในโรงเรียนก็ฮือฮาเช่นกัน หลายคนไม่มีสมาธินั่งเรียน ต่อให้เป็นคลาสเด็กอัจฉริยะที่ใส่ใจการเรียนมาตลอดก็ตาม พวกเขาก็เคยได้ยินชื่อซังเย่าจือ

ภาพยนตร์ที่ทำให้ซังเย่าจือได้รับรางวัลราชาภาพยนตร์โกลด์เด้น ฟลาวเวอร์ ตอนนั้นทุบสถิติทำรายได้ถล่มทลาย หลายคนเคยดู แม้แต่คนแก่กับเด็กก็ยังรู้จัก

เจียงหรานไม่รู้เรื่องนี้ เขามองที่นั่งว่างสองที่ในห้องเรียน รู้สึกหงุดหงิด “ทำไมสองคนนี้ไม่มา”

“พี่หราน พูดอะไรแบบนั้น เจ๊อวี่แกตามดาราใช่ไหมล่ะ” ลูกน้องพูด “ดาราที่เจ๊ตามเกิดเรื่องขึ้น ได้ยินว่าหัวใจหยุดเต้นตายฉับพลัน แต่ยังไม่ชัวร์นะ ในเน็ตวุ่นวายกันไปหมด”

เจียงหรานขมวดคิ้ว “เกิดอะไรขึ้น”

เขาไม่ค่อยเล่นเน็ตและก็ไม่ได้ติดตามวงการบันเทิง

ซิวอวี่ชอบคนที่หน้าตา ชอบตามดาราบ่อยๆ

เขารู้จักเธอมาหลายปีขนาดนี้ ตั้งแต่เด็กจนโต ไอดอลของเธอไม่ห้าสิบก็ร้อยคนได้

ลูกน้องรีบเอาเวยปั๋วให้เจียงหรานดู

เจียงหรานเข้าใจแล้ว นิ่งไปเล็กน้อย “แต่พ่ออิ๋งก็ตามซังเย่าจือเหรอ”

ถ้าเป็นดาราที่พ่อตาม เขาต้องเอาอกเอาใจด้วยหรือเปล่า ลูกน้องเกาหัว

“ไม่รู้สิ แต่เจ๊อวี่ชอบป้ายยาพ่ออิ๋งบ่อย พ่ออิ๋งก็ชอบคนที่หน้าตาเหมือนกัน ก็เป็นไปได้มั้ง”

เจียงหรานครุ่นคิด ลุกขึ้นแล้วถีบลูกน้องหนึ่งที “ลาหยุดให้ฉันด้วย”

“พี่หราน พี่จะไปไหน”

“ซินกั่ง”

ณ โรงพยาบาลซินกั่ง

ตอนนี้เป็นเวลาสิบโมง ข้างนอกมีนักข่าวที่ได้ยินข่าวมารอกันอยู่ไม่น้อยแล้ว

แต่ไม่ว่าจะซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์หรือกองถ่ายรายการก็ยังไม่มีใครมาสักคน

เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้กลับมีแค่ผู้จัดการส่วนตัว ผู้ช่วย และแฟนคลับที่ตามซังเย่าจือไปกองถ่ายรายการ ผู้จัดการส่วนตัวโทรหาบริษัทหลายสายนับไม่ถ้วน แต่ไม่ติดสักสาย

เขาร้อนใจแทบตาย ที่มากกว่าคือความโมโห

เขาดูแลซังเย่าจือมาตั้งแต่อายุสิบหก เรียกได้ว่าได้เห็นการเติบโตของเด็กผู้ชายจนกลายมาเป็นหนุ่ม ตอนนี้ถูกบริษัททำลายเข้าแล้ว หัวใจหยุดเต้นตายฉับพลันผู้จัดการส่วนตัวแทบไม่อยากเชื่อ ทั้งๆ ที่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนยังเป็นคนปกติที่กระโดดโลดเต้นได้ ทำไมเพียงชั่วพริบตาก็ล้มไป

“คุณหมอครับ ช่วยตรวจอย่างละเอียดอีกรอบสิครับ” ผู้จัดการส่วนตัวเร่ง “เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา ขอแค่หมอช่วยชีวิตได้”

หมอถอดหน้ากากปิดปากออก ส่ายหน้า พูดอ้อมค้อม “นำตัวมาส่งช้าไป หัวใจหยุดเต้นตอนตีห้าสี่สิบ ทำไมเพิ่งนำตัวส่งโรงพยาบาลตอนหกโมงครึ่งล่ะครับ”

หัวใจหยุดเต้นตายฉับพลันก็พิสูจน์แล้วว่าเป็นอาการที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันตอนอัดรายการ สูญเสียการรับรู้

แต่นี่มันไม่ควรจะเป็นไปได้

“ผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้นไม่มีลมหายใจแล้ว เครื่องกระตุ้นหัวใจรวมถึงอุปกรณ์ช่วยชีวิตอื่นๆ ก็ใช้หมดแล้วครับ” หมอทำหน้าเสียดาย “ผู้ป่วยแข็งแรงดี ถ้ามาถึงเร็วกว่านี้ไม่มีทางเป็นแบบนี้ครับ”

ผู้จัดการส่วนตัวยืนอึ้ง

หมอส่ายหน้าอีกครั้ง เตรียมนำร่างของซังเย่าจือเข้าห้องดับจิต

สวัสดี​ครับ​“หมอครับ ใจเย็นๆ รอก่อน” ไม่รู้ว่าผู้จัดการส่วนตัวนึกอะไรขึ้นมาได้ รีบพูดขึ้น “พวกเรารู้จักคุณหมอเทวดาท่านหนึ่ง จะให้เธอมาดูครับ”

ขณะพูดเขาก็เริ่มโทรศัพท์

หมอเองก็รู้ว่าเป็นการยากที่อีกฝ่ายจะรับได้ในทันที จึงรออย่างอดทน

แต่คนตายก็คือคนตาย ต่อให้เป็นหมอเทวดาแล้วอย่างไรล่ะ

รอสายอยู่สามวินาทีก็มีคนรับ

ผู้จัดการส่วนตัวถือโทรศัพท์ด้วยมือที่สั่น “คุณอิ๋งครับ ผมไม่อยากจะรบกวนคุณเลยจริงๆ แต่ว่าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นกับเย่าจือแล้วครับ อยากให้คุณช่วยมาดูหน่อย ค่าตอบแทนไม่ใช่ปัญหาแน่นอน พวกเราอยู่ที่ซินกั่ง ไม่ทราบว่าคุณ…”

ยังไม่ทันพูดจบก็ถูกขัดจังหวะ

“ไม่ต้องค่ะ ฉันมาแล้ว อยู่ด้านหลังคุณ” ผู้จัดการส่วนตัวอึ้ง หันขวับทันที

เขาเห็นเด็กสาวกำลังเดินมาจากตรงบันได

เธอสวมหน้ากากปิดปาก ตรงหูใส่หูฟังบลูทูธ หลังจากเห็นเธอถึงได้ตัดสายทิ้ง

“คุณอิ๋ง!” ผู้จัดการส่วนตัวดีใจแทบบ้า “คุณอิ๋ง รีบไปดูเร็วเข้าครับ เย่าจืออยู่ในนี้”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “ฉันทราบค่ะ”

เมื่อวานซืนเธอไม่ได้อธิบายความหมายของไพ่ใบที่สามให้ซังเย่าจือฟัง เพราะไพ่ใบนี้ หากทำนายออกมาก็คือจุดจบของชีวิตเขา นี่แตกต่างกับตอนที่เธอใช้ญาณเทพพยากรณ์ตอนเจอเนี่ยเฉาครั้งแรก

ของเนี่ยเฉาคือชีวิตตกอยู่ในอันตราย ต่อให้ครั้งนั้นเธอไม่ช่วยเขา เขาก็ไม่มีทางถึงฆาต แต่บาดเจ็บสาหัสเป็นเรื่องที่แน่นอน ส่วนซังเย่าจือ ไพ่ทาโรต์บอกเธอว่า เขาต้องตายแน่นอน

เรื่องที่เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายแบบนี้เธอไม่มีทางเข้าไปยุ่งโดยตรง จึงทำได้เพียงเปลี่ยนแปลงอะไรเล็กน้อย จะสำเร็จหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าตัว ผู้จัดการส่วนตัวเปิดประตูห้องผู้ป่วย พาอิ๋งจื่อจินเข้าไป

หมออยากห้าม แต่ก็ไม่มีสิทธิ์ ทำได้เพียงส่ายหน้าถอนหายใจ “เลอะเลือน”

เด็กสาวคนเดียวจะเป็นหมอเทวดาอะไรกัน

นี่ไม่ใช่กำลังล้อเล่นหรอกเหรอ

คนไข้หมดลมหายใจอย่างสิ้นเชิงตั้งแต่เมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนแล้ว เห็นหมอตั้งหลายคนอย่างพวกเขาเป็นเพียงหุ่นตั้งโชว์หรือไง

พยาบาลคนหนึ่งเดินเข้ามาอย่างรีบร้อน เธอพูด “ปิดข่าวไว้ไม่ได้แล้ว ข้างนอกมีนักข่าวมากขึ้นเรื่อยๆ และยังมีแฟนคลับอีกจำนวนมาก ทำไงดีคะ”

ขณะที่พยาบาลพูดก็ได้ยื่นโทรศัพท์มือถือให้หมอ

ในนั้นมีแถลงการณ์ล่าสุดของกองถ่ายรายการ

แอทกองถ่ายรายการผจญภัยท้าตาย : [เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่ทางกองถ่ายได้ทำการกู้ชีวิตราชาภาพยนตร์ซังในทันที พร้อมทั้งนำตัวส่งโรงพยาบาลซินกั่ง ราชาภาพยนตร์ซังจะไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอน พวกเรารับรองได้ หัวใจหยุดเต้นตายฉับพลันอะไรนั่นเป็นข่าวลือทั้งนั้น ทุกคนโปรดอย่าเชื่อครับ]

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท