คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 202 ตบไปที่หน้าจงจือหว่าน

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ทันใดนั้นก็ได้ยินคำตอบนี้ ซิวอวี่ถึงกับหยุดหายใจ

ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอจะต้องคิดว่าอิ๋งจื่อจินล้อเล่นแน่นอน

แต่คราวนี้ไม่แล้ว

วาดเล่นๆ ก็ได้ภาพสีน้ำมันมาหนึ่งภาพ ถึงขั้นดึงดูดให้ศาสตราจารย์ดังของมหาวิทยาลัยศิลปะรอยัลแห่งยุโรปมาหาได้ ออกแบบเสื้อผ้าก็คงไม่คณามือ

ซิวอวี่มองไปรอบตัว พูดเสียงเบา “พ่ออิ๋ง เธอแอบเข้าไปอยู่ในชูกวงมีเดียตั้งแต่เมื่อไร”

“ไม่เชิงแอบ” อิ๋งจื่อจินหาวออกมา พูดเสียงเนือย “เข้าไปโจ่งแจ้งเลย”

“เฮ้อ ฉันก็อยากเข้าชูกวงมีเดียเหมือนกัน” ซิวอวี่พูดด้วยความตื่นเต้น “พ่ออิ๋ง ฉันว่าฉันเรียนจบแล้วเข้าไปเป็นแม่บ้านในชูกวงมีเดียดีกว่า ทำความสะอาดแค่ห้องของลูกจ๋า”

เจียงหรานที่กำลังสะลึมสะลือจะหลับพอได้ยินคำพูดนี้ก็เริ่มตื่น “อะไรนะ จะเป็นแม่บ้านเหรอ งั้นมาทำบ้านฉันสิ ฉันให้เดือนละแสน”

ซิวอวี่ตบไปหนึ่งที แอปเปิ้ลกระเด็นไปโดนศีรษะของเจียงหราน

อิ๋งจื่อจินหันหน้าไปมองทั้งสองคนพลางครุ่นคิด

เจียงหรานกับซิวอวี่มาจากตี้ตูทั้งคู่ เรื่องนี้ไม่ต้องสงสัย

แต่สาเหตุและจุดประสงค์ยังไม่รู้

อิ๋งจื่อจินหลุบตาลงเล็กน้อย

เจียงหรานฝึกวิทยายุทธ์โบราณ หนีไม่พ้นความเกี่ยวข้องกับวงการวิทยายุทธ์โบราณ ไม่ใช่คนธรรมดา

ด้วยความสามารถในการพยากรณ์ตอนนี้ของเธอ ยังพยากรณ์ข้อมูลสำคัญอะไรออกมาไม่ได้

อีกทั้งภายในร่างกายของเจียงหรานยังมีกำลังภายในที่ไม่ใช่ของเขา เห็นได้ชัดว่ามาจากจอมยุทธ์โบราณที่พลังแข็งแกร่งกว่า

ส่วนซิวอวี่ ทำให้เธอนึกถึงตระกูลใหญ่ตระกูลหนึ่งในตี้ตู

“เอ๊ะ คนอย่างฉันจิตใจชั่วร้าย ชอบสะใจคนอื่น” ซิวอวี่สีหน้ามีความสุข “อยากรู้จริงๆ ว่าจงจือหว่านมีสีหน้ายังไง”

ราวกับต้องการทำให้เธอสมความปรารถนา กล้องถ่ายทอดสดได้ตัดภาพไปในเวลานี้

ช่างกล้องถ่ายจงจือหว่านพร้อมขึ้นชื่อให้

จงจือหว่านในจอหน้าซีดเหมือนกระดาษ เหงื่อแตกเลอะเครื่องสำอาง สภาพเหมือนลูกหมาตกน้ำ

ปากของเธอสั่นไม่หยุด ร่างกายก็สั่นเหมือนเครื่องโม่ข้าว

จงจือหว่านเห็นกล้องถ่ายมาที่เธอ เธออยากหนี แต่สายตาของทุกคนจับจ้องมาที่เธอหมดแล้ว

สายตาของพวกเขาฉายแววรังเกียจ คล้ายมองขยะ

มีชนักติดหลัง แสบร้อนไปหมด

มาช่าที่อยู่ตรงที่นั่งกรรมการยืนขึ้นอีกครั้ง

เธอถือไมโครโฟน สีหน้ามีรอยยิ้มเล็กน้อย “ชุดธีม ‘สี่สัตว์เทพ’ ของชูกวงมีเดียเป็นผลงานออกแบบที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ฉันเคยเห็นในช่วงที่ตัวเองเป็นกรรมการมานี้”

“มีเอกลักษณ์ มีความแปลกใหม่ ทำให้ฉันเกือบคิดว่านักออกแบบจากประเทศจีนท่านนี้เคยเห็นสัตว์เทพทั้งสี่ตัวนี้จริงๆ”

ในขณะที่เธอพูด บนหน้าจอขนาดใหญ่ทั้งสองฝั่งก็ได้ขึ้นข้อมูลของนักออกแบบของชูกวงมีเดีย

ไม่มีรูป ไม่ระบุเพศ

มีเพียงคำเดียว

ปีศาจ

“เป็นที่น่าเสียดายที่เธอติดธุระมาไม่ได้ค่ะ” มาช่าพูดต่อ “แต่นี่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการคว้าที่หนึ่งในครั้งนี้”

ไม่มีใครอยากคัดค้าน

อย่าว่าแต่ทั้งสี่ชุดเลย ต่อให้เอาออกมาชุดเดียวก็สามารถสะกดทุกสายตาได้

“งั้นจงจือหว่าน…” สายตาของมาช่าเคลื่อนไป รอยยิ้มหุบลงในชั่วพริบตา “ก่อนหน้านี้ฉันถามคุณว่าคุณแน่ใจนะว่าคุณเป็นคนออกแบบเอง คุณตอบว่าใช่ ทั้งยังมั่นใจ”

“ฉัน คือ…” จงจือหว่านลนลาน เธอหายใจเข้าลึกสองสามครั้งถึงฝืนคุมสติไว้ได้ “ฉันออกแบบเอง ฉันเองก็นึกไม่ถึงว่าจะเจอคอนเซ็ปต์เดียวกัน แถมยังเหมือนกันได้ขนาดนั้น”

เธอหมดทางให้ถอยแล้ว ไม่สู้ลองสู้ดูสักตั้ง

ใครจะรู้ว่าสีหน้าของมาช่ากลับเย็นชายิ่งกว่าเดิม “มาถึงขนาดนี้แล้วคุณยังจะไม่ยอมรับ หลังเวที”

พอมีเสียงสั่ง บนหน้าจอขนาดใหญ่ก็ปรากฏชุดทั้งสี่ของชูกวงมีเดีย

สตาฟหลังเวทีตั้งใจขยายลวดลายของแต่ละชุด

“ทุกท่านดูนะคะ” มาช่ายกมือ “ฉันสอบถามทางชูกวงมีเดียมาแล้วถึงได้ทราบว่าทั้งสี่ชุดนี้มีลูกเล่นแฝงอยู่”

“ลวดลายกลุ่มนี้ไม่เพียงแต่จะเพื่อความสวยงาม ยังแฝงชื่อของนักออกแบบเอาไว้ด้วย เป็นอักษรแบบจ้วนของประเทศจีน”

บนหน้าจอขนาดใหญ่ ลวดลายได้ถูกดึงออกมาทำให้เด่นชัด

เวลานี้มาช่าได้พูดต่อ “จากนั้นทุกท่านดูชุดของทางหวาซิ่วค่ะ”

หน้าจอถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง ฝั่งขวาเป็นภาพชุดของหวาซิ่วที่ถูกขยายตรงลวดลายเหมือนกัน

สำหรับชาวจีนแล้ว อักษรจ้วนอ่านยากกว่าอักษรข่ายมาก ค่อนข้างที่จะนามธรรม

แต่นี่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการมองออกว่าลวดลายทั้งสองฝั่งเหมือนกัน

เป็นหลักฐานว่าลอกเลียนแบบชั้นดี

[ว้าว ฉันไม่เคยเจอใครหน้าหนาเท่านี้มาก่อนเลยนะ คัดลอกผลงานก็ว่าแย่แล้ว นี่ยังจะไม่ยอมรับอีก ไปเอาความกล้ามาจากไหน]

[อายุเท่านี้ อนาคตยังอีกยาวไกล ทำไมต้องคัดลอกผลงานด้วย เพื่ออะไร]

[ตอนแรกสุดฉันยังรู้สึกชื่นชมสาวน้อยคนนี้นะ หน้าตาใช้ได้ บุคลิกก็ดี นึกไม่ถึงว่าจะเป็นพวกฉาบฉวย แหวะ]

จงจือหว่านมองลวดลายกลุ่มนั้นด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ สีหน้าซีดลงอีกครั้ง

ไม่ว่ายังไงเธอก็นึกไม่ถึงว่าลวดลายกลุ่มนี้จะเป็นชื่อนักออกแบบของชูกวงมีเดีย!

เธอยังคิดว่ามีไว้แค่เพื่อความสวยงาม

ราวกับเข้าไปในฝูงผึ้งจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน มีเสียงหึ่งๆ ดังอยู่ในสมองของจงจือหว่าน

แสงไฟส่องมาที่ใบหน้าของเธอ คล้ายกำลังเย้ยหยันในความไม่รู้ของเธอและประจานเธอ

“วงการออกแบบ นักออกแบบไม่จำเป็นต้องอาศัยการลอกเลียนแบบผลงานเพื่อดำรงชีวิตหรอกนะคะ” มาช่าพยักหน้าให้กล้อง “ฉันก็ขอใช้โอกาสนี้ประกาศว่า หวาซิ่วจะถูกแบนไม่ให้เข้าร่วมการประกวดออกแบบและการคัดเลือกใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนจงจือหว่าน…”

“เดิมทีฉันเห็นคุณอายุยังน้อย คิดว่าคงไม่ประสีประสา ถึงได้ถามย้ำหลายครั้ง ถ้าคุณกล้ายอมรับผิดฉันก็จะให้โอกาสคุณ แต่คุณไม่ทำ”

ริมฝีปากของจงจือหว่านสั่นอย่างรุนแรง สีหน้าซีดเผือด

“ดังนั้นขอโทษด้วยนะคะ คุณถูกแบนในวงการนักออกแบบแล้ว ฉันเองก็หวังว่าทุกท่านที่นั่งอยู่ในที่นี้จะเก็บไว้เป็นอุทาหรณ์ ไม่ว่าเมื่อไรก็ห้ามคัดลอกผลงานคนอื่นเด็ดขาด!”

ตรงที่นั่งผู้ชมที่อยู่ด้านข้าง

เคอฮุ่ยจูก็ตกใจหน้าซีด

เธอนึกไม่ถึงว่าเหตุการณ์ที่จงจือหว่านคัดลอกผลงานจะทำให้หวาซิ่วโดนหางเลขไปด้วย

แต่นักออกแบบคัดลอกผลงาน ทั้งยังตั้งใจปกปิด พวกเขาจะไปรู้ได้อย่างไร

“พี่ พี่ไปหาใครที่ไหนมา!” เคอฮุ่ยจูข่มความโมโห โทรหาคุณนายมู่ที่อยู่ไกลถึงตี้ตู เธอกัดฟันพูด “พี่รู้ไหมว่าเด็กคนนั้นลอกเลียนแบบผลงาน! แถมยังไปลอกผลงานของชูกวงมีเดีย หวาซิ่วซวยไปด้วยแล้ว!”

“พี่ ฉันเชื่อใจพี่ถึงได้ให้ช่วยหานักออกแบบ แต่พี่หาอะไรมาให้ฉัน! พี่แต่งเข้าตระกูลมู่ไปแล้วเลยไม่สนความเป็นความตายของพวกเราใช่ไหม”

“อะไรนะ” คุณนายมู่สีหน้าเปลี่ยน “คัดลอกผลงานเหรอ”

“ใช่ คัดลอกผลงาน!” เคอฮุ่ยจูแสยะยิ้ม “พี่ดูถ่ายทอดสดสิ!”

พูดจบเธอก็ตัดสายทิ้ง

ขณะเดียวกันลั่วจื่อเย่ว์ก็ลนลานเช่นกัน

เดิมทีเธอเป็นนางแบบที่หวาซิ่วเชิญมา สามารถบอกปัดความเกี่ยวข้องกับหวาซิ่วได้อย่างสิ้นเชิง

แต่โพสต์เวยปั๋วของเธอก่อนหน้านี้ได้ปิดกั้นทางรอดของเธอหมดแล้ว

คนที่เลียนแบบไม่ใช่เซี่ยมั่นอวี่ แต่กลับเป็นเธอ

“ลั่วจื่อเย่ว์!” ผู้จัดการส่วนตัวโมโหแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน “ผมพูดไว้ว่ายังไง บอกให้รอก่อนๆ เซี่ยมั่นอวี่ไม่ใช่คนที่คุณคิดจะเหยียบก็เหยียบได้ ดูนี่สิ!”

ลั่วจื่อเย่ว์มองโทรศัพท์มือถือที่เขาโยนให้ด้วยท่าทางแข็งทื่อ แขนขาเย็นเฉียบ

ตอนนี้ประเทศจีนเป็นเวลาสามทุ่มครึ่ง ทางยุโรปเป็นช่วงบ่าย

แต่ตอนกลางคืนเป็นช่วงที่ชาวเน็ตกำลังคึกคักที่สุด

ออกแบบชุดเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่มองข้าม เดิมทีก็ไม่ค่อยมีใครสนใจ

แต่เพราะมีซังเย่าจือที่ช่วยเรียกกระแส คนที่รับชมถ่ายทอดสดก็เลยมีมาก

เพียงแต่ชาวเน็ตคาดไม่ถึงว่า พอเข้ามาดูก็ได้เจอข่าวใหญ่ที่น่าตะลึง

#ชูกวงมีเดียVSหวาซิ่ว#

#จงจือหว่านคัดลอกผลงาน#

#ลั่วจื่อเย่ว์ปีนเกลียวราชินีภาพยนตร์เซี่ย#

สามแฮชแท็คร้อนแรงขึ้นชาร์ตสามอันดับแรกอย่างเหนียวแน่น ไม่ขยับแม้แต่น้อย

คนที่ไม่ได้ชมถ่ายทอดสดพอกดเข้าไปก็รู้แล้วว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น

[ขำเป็นบ้า ลั่วจื่อเย่ว์อุตส่าห์สร้างภาพว่าเป็นดาราใหญ่ผู้สง่างาม ในความเป็นจริงคือนังตอแหลที่แสร้งเรียกคะแนนสงสาร สุดท้ายรถคว่ำจ้า โดนแหกไม่มีเหลือ]

[อยากให้ช่วยกันแบนลั่วจื่อเย่ว์ไปเลย ร้องเพลงเต้นห่วยขนาดนั้นยังเดบิวต์ในรายการวัยรุ่นสร้างฝัน101 ได้ แถมยังปีนเกลียวราชินีภาพยนตร์เซี่ย คู่ควรอยู่ในวงการบันเทิงต่อไปเหรอ]

[มีคนรู้จักตระกูลเคอไหม ตระกูลในตี้ตูเหรอ เศรษฐีหรือเปล่า]

[ไม่เคยได้ยิน ไม่ดังมั้ง ฉันเคยได้ยินแต่ตระกูลเนี่ย ตระกูลมู่ ตระกูลซิว ตระกูลเล็กๆ แหละถึงทำเรื่องขายหน้าแบบนี้ได้]

[จงจือหว่านเป็นใครกัน ขุดหน่อย ที่น่ากลัวกว่าเรื่องคัดลอกผลงานคือผิดแล้วยังไม่รู้จักปรับปรุงตัวนี่แหละ]

[ขายหน้าไปทั้งโลกแล้ว หมดกันๆ]

ทางด้านนี้ชาวเน็ตเริ่มสวมวิญญาณนักสืบ ตามหาว่าจงจือหว่านคือใคร

อีกด้านหนึ่งการประกวดก็จบลง

ชูกวงมีเดียคว้าอันดับหนึ่ง ส่วนหวาซิ่วไม่เพียงแต่จะไม่ได้รับสักรางวัล ยังถูกขับไล่ออกไปด้วย

เคอฮุ่ยจูหายใจลำบาก โมโหจนเวียนหัว

เธอหันขวับกลับไปมองจงจือหว่านที่สติล่องลอยด้วยสายตาเคียดแค้น สีหน้าก็เย็นชาสุดขั้ว

เคอฮุ่ยจูเดินเข้าไปหาโดยไม่สนว่ารอบตัวยังมีคนอยู่จำนวนมาก

เธอยกมือตบหน้าจงจือหว่าน

โกรธแค้น ไร้ความปรานี

“ฝีมือแค่นี้ ยังคิดจะอยากเหยียบเข้าตี้ตูงั้นเหรอ”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท