คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 324 เจ็บหน้า ไอบีไอมาเพราะอิ๋งจื่อจิน

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 324 เจ็บหน้า ไอบีไอมาเพราะอิ๋งจื่อจิน

เผยเทียนอี้เงยหน้าขึ้นทันที อดอึ้งไปไม่ได้ “ศาสตราจารย์”

เขาไม่คิดว่าความกังวลของเขาผิดปกติอะไร

เพราะเคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นแล้ว

ข้อมูลวิจัยของห้องทดลองถูกผู้ช่วยที่เข้ามาใหม่เอาไปแพร่งพราย สร้างความเสียหายที่ไม่อาจหวนคืน

สุดท้ายไล่สืบก็พบว่า ผู้ช่วยคนนี้ก็คือคนที่ผู้มีอิทธิพลฝ่ายศัตรูส่งมาล้วงข้อมูล

แต่ตอนนั้นไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น และก็ไม่มีใครสงสัยผู้ช่วยคนนี้ เพราะผู้ช่วยคนนี้เป็นนักศึกษาที่เพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วถูกเชิญเข้ามาทำงานที่ห้องทดลอง

มีพรสวรรค์ด้านการวิจัย เรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะ

ทางยุโรปมีการแบ่งห้องทดลองเป็นหลายระดับ

ห้องทดลองฟิสิกส์ของเกอร์เวนอยู่ระดับเอสที่สูงที่สุด ลับสุดยอด แล้วจะให้คนเข้าไปทำงานง่ายๆ ได้อย่างไร

“เผยเทียนอี้ ถ้านักเรียนอิ๋งคิดแบบนั้นจริง เธอไม่มีทางช่วยหาพิกัดว่าผมอยู่ที่ไหนหรอก” สีหน้าของเกอร์เวนดูผิดหวัง “คุณระแวงย่อมไม่ผิด แต่สงสัยในตัวคนอื่นแบบนี้ เดิมทีก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกที่ควร”

เขายังคงยืนกราน “ขอโทษเธอ”

เผยเทียนอี้รู้สึกตึงเครียดขึ้นมาในทันที ถึงแม้เกอร์เวนจะไม่ใช่อาจารย์ที่ปรึกษาของเขา และก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับขอบเขตงานวิจัยของเขาแม้แต่น้อย

แต่เกอร์เวนมีสถานะที่สูงมากในแวดวงวิชาการ อาจารย์ที่ปรึกษาของเขาก็ยังสู้ไม่ได้

เขาภูมิใจในพรสวรรค์ของตัวเองมาตลอด เป็นนักเรียนเก่งในสายตาคุณครูมาตั้งแต่เด็ก ยังไม่เคยถูกพูดแบบนี้ใส่

สายตาของอาจารย์คนอื่นๆ ภายในห้องประชุมก็มองมาทางนี้

ราวกับมีหนามทิ่มแทงที่ด้านหลัง

เผยเทียนอี้เม้มริมฝีปาก ลุกขึ้น โค้งตัวให้อิ๋งจื่อจินแล้วเอ่ยขอโทษอย่างยากลำบาก “ขอโทษ”

อิ๋งจื่อจินไม่ได้มองเขา เธอถามเกี่ยวกับกลศาสตร์ควอนตัมอีกครั้ง “ศาสตราจารย์คะ พวกเราคุยต่อ”

เกอร์เวนถูกคำถามเหล่านั้นดึงความสนใจกลับมา เริ่มพูดไม่หยุดด้วยความตื่นเต้น

เผยเทียนอี้บอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร

ไม่มีอะไรชวนให้รู้สึกแย่ไปกว่าการถูกมองข้ามอย่างสิ้นเชิง

เขานั่งอยู่ข้างๆ เงียบ ไม่พูดอะไร

แต่เขาจำต้องยอมรับว่า เกอร์เวนได้รับการช่วยเหลือเพราะอิ๋งจื่อจินจริงๆ

โทรศัพท์มือถือดังขึ้นในเวลานี้ ราวกับมาช่วยชีวิตเผยเทียนอี้ไว้ เขาออกไปรับสาย

คนที่โทรมาคือห้องทดลองทางยุโรป ถามเรื่องสุขภาพของเกอร์เวน

หลังจากเผยเทียนอี้ไล่ตอบทุกคำถามเสร็จก็จบบทสนทนา

เขาไม่ได้กลับเข้าไปในห้องประชุมอีก แต่กลับห้องของตัวเอง

ภายในห้องประชุม

เกอร์เวนนั่งอธิบายไปแบบนี้ยาวสี่ชั่วโมง

เดิมทีพวกอาจารย์อยู่เพราะอยากเรียนตามไปด้วย ปรากฏว่าฟังถึงช่วงหลังๆ ก็มึนไปหมด สมองเต็มไปด้วยเรือรบอวกาศ

พวกเขาต้องยอมให้อิ๋งจื่อจินเลยจริงๆ ที่ยังมีคำถามขึ้นมาเรื่อยๆ

สติปัญญาห่างชั้นกับคนคนนี้มากเหลือเกิน

“เอ๊ะ นักเรียนอิ๋ง คุณจะไม่พิจารณาข้อเสนอของผมเหรอ” เกอร์เวนรู้สึกว่าเขาหาเพื่อนคู่คิดในเรื่องกลศาสตร์ควอนตัมเจอแล้ว เขาดีใจมาก “ถ้าคุณยินดี ผมจะทำเรื่องอนุญาตให้คุณตอนนี้เลย”

“กำลังพิจารณาค่ะ” อิ๋งจื่อจินครุ่นคิดเล็กน้อย “แต่ฉันยังเรียนไม่จบมอปลาย ไว้จบแล้วฉันอาจจะไปค่ะ”

กลศาสตร์ควอนตัมกับจักรวาลอวกาศถือเป็นการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ที่เธอให้ความสนใจในตอนนี้

ตอนนี้แวดวงวิชาการยังไม่มีใครเก่งไปกว่าเกอร์เวนในเรื่องนี้

“ไม่ต้องแล้ว ไม่ต้องเรียนมอปลายแล้ว” เกอร์เวนร้อนใจ “ระดับคุณเก่งกว่าพวกนักวิจัยที่เรียนกับผมเสียอีก คุณข้ามชั้น ข้ามชั้นได้เลย เรื่องนี้ผมช่วยได้”

“ห้ามเด็ดขาดค่ะศาสตราจารย์” อิ๋งจื่อจินหยุดเล็กน้อย พูดอ้อมๆ “ขอฉันใช้ชีวิตเกษียณแบบสบายๆ อีกสักระยะนะคะ”

เกอร์เวน “…”

เขาไม่ค่อยเข้าใจวัยรุ่นสมัยนี้

ขนาดคนอายุหกสิบกว่าอย่างเขายังไม่อยากจะเกษียณ แต่เธอใช้ชีวิตเกษียณแล้ว

“ก็ได้” เกอร์เวนจำต้องฝืนยอม “ผมจะไปเตรียมเรื่องให้ก่อน ไว้ถึงเวลาคุณก็มาได้เลยทันที”

หลังจากส่งอิ๋งจื่อจินกลับแล้ว เกอร์เวนก็โทรไปที่ห้องทดลอง

“ใช่ ไว้ถึงตอนนั้นทางห้องทดลองของผมจะมีคนมาเพิ่มอีกคน แต่ตอนนี้ยังไม่ต้อง เธอยังไม่จบมอปลาย ไว้เธอเรียนจบผมค่อยติดต่อเธออีกที”

นักวิจัยทางห้องทดลองรู้สึกตะลึงมาก

ห้องทดลองของเกอร์เวนไม่เหมือนห้องทดลองอื่น เพราะหัวข้อวิจัยยากมาก คนที่เข้าไปได้อย่างน้อยก็ต้องระดับศาสตราจารย์

ต่อให้เป็นนักวิจัยที่เกอร์เวนเป็นที่ปรึกษาให้ในมหาวิทยาลัยก็ยังไม่ถูกเขาดึงเข้าห้องทดลองด้วยซ้ำ

ทำไมอยู่ๆ ก็คึกอยากรับเด็กมัธยมเข้ามาล่ะ

ถึงแม้นักวิจัยคนนั้นจะรู้สึกแปลกใจ แต่ก็ยังคงสั่งให้ไปเตรียมการ

เด็กมอปลายที่เข้าตาเกอร์เวนได้ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน

หลังจากพักผ่อนอีกสองสามวัน เกอร์เวนก็เดินทางกลับยุโรปพร้อมคณะสำรวจวิจัย

เรื่องที่ทำให้เผยเทียนอี้ตะลึงมากคือ ทางสำนักสืบสวนสากลส่งหัวหน้านักสืบมาหนึ่งคนกับนักสืบระดับสูงอีกห้าคนเพื่อคุ้มกันพวกเขา

บางทีฝีมือการต่อสู้ของพวกเขาอาจไม่สูงมาก แต่พวกเขาเป็นตัวแทนของไอบีไอ

ไอบีไอเป็นหน่วยงานที่ทั่วโลกยอมรับว่าไม่ควรมีเรื่องด้วย

ถ้าใครอยากแตะต้องไอบีไอ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องคิดก่อนว่าตัวเองจะแบกรับความโกรธของไอบีไอไหวหรือเปล่า

เรียกได้ว่าพวกเขาสามารถเดินทางกลับยุโรปได้อย่างสบายใจแล้ว

เกอร์เวนสนใจแค่เรื่องวิชาการ สำหรับเขาไอบีไอหรืออื่นๆ เป็นเพียงสิ่งที่ไม่อยู่ในสายตา

แต่เผยเทียนอี้ให้ความสำคัญมาก เขาถามเรื่องนี้ออกไป

“พวกคุณโชคดีมากครับ” นักสืบพูดเหมือนไม่จริงจัง “เพราะมีแขกวีไอพีคนหนึ่ง เรื่องนี้ก็เลยรู้ถึงหูผู้บัญชาการสูงสุดของพวกเรา เบื้องบนก็เลยส่งพวกเรามาโดยเฉพาะครับ”

ไอบีไอปกป้องสันติสุขของโลก นักสืบพวกนี้วิ่งทำงานไปทั่วโลก

สามารถโยกคนมาได้ในเวลาอันสั้น จะต้องใช้คำสั่งเร่งด่วนแน่นอน

คำสั่งเร่งด่วนแบบนี้มีแค่ผู้บัญชาการสูงสุดเท่านั้นที่ใช้ได้

เกอร์เวนได้รับการคุ้มกันระดับสากลก็จริง แต่ไม่มีทางทำให้ไอบีไอมาเร็วขนาดนี้ได้

แต่เผยเทียนอี้ไม่รู้ว่าเหนือประธานไอบีไอขึ้นไปยังมีผู้บัญชาการอยู่อีกคน เขาจึงนึกถึงแค่ประธานไอบีไอ แต่นั่นก็เพียงพอให้ตกตะลึงแล้ว

“แขกวีไอพี ใครเหรอครับ”

นักสืบยักไหล่ ไม่ตอบ

เรื่องของผู้บัญชาการสูงสุด พวกเขาที่เป็นลูกน้องย่อมไม่มีทางรู้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนนอกเลย

ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่เคยเจอผู้บัญชาการสูงสุดด้วย

แต่หมู่นี้มีข่าวลือในไอบีไอว่าผู้บัญชาการมีแฟน กำลังอยู่ในช่วงเอาอกเอาใจแฟน

พวกเขาที่เป็นลูกน้องเลยสงสัยกันเป็นพิเศษ

วันที่สิบสี่ธันวาคมเป็นวันสุดท้ายของรอบแรกไอเอสซี

ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้อันดับคะแนนเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกวินาที แต่ไม่รวมสิบอันดับแรก

คะแนนของสิบอันดับแรกทิ้งห่างผู้เข้าร่วมคนอื่นๆ อย่างขาดลอย โดยเฉพาะอแมนด้าที่อยู่อันดับหนึ่งของชาร์ตรวมในตอนนี้ คะแนนของเธอเกินแปดพันเข้าไปแล้ว

ทิ้งห่างอันดับสองถึงหนึ่งพันคะแนน

อันดับที่สิบห่างกับอันดับที่สิบเอ็ดถึงหนึ่งพันห้าร้อยคะแนน

เดิมทีคนส่วนใหญ่มุ่งความสนใจไปที่ผู้เข้าแข่งขันจากประเทศจีนที่ซ่อนชื่อผู้ใช้งานไว้ คิดว่าคนนี้จะต้องได้อันดับหนึ่งของชาร์ตรวมแน่นอน

แต่ผ่านไปเกือบยี่สิบวัน คะแนนของผู้เข้าแข่งขันคนนี้ก็ยังไม่ขยับแม้แต่น้อย ตกรวดเดียวหลุดสิบอันดับแรก

เวลานี้ในโปรแกรมโซเชียลมีเดียต่างๆ ทั่วโลกได้เกิดกระแสระลอกใหม่อีกครั้ง รวมถึงบนเวยปั๋ว

[พูดตามตรงนะ เก่งจริงแหละ ยอมรับ แต่ไม่คิดว่ามาแค่เรียกร้องความสนใจเหรอ เดี๋ยวคะแนนก็พุ่งขึ้น เดี๋ยวก็หยุดนิ่งสิบกว่าวันไม่ขยับ รู้ว่าเก่งแต่ก็ไม่ควรมาล้อเล่นแบบนี้หรือเปล่า แน่ใจนะว่าไม่ได้มาแค่เรียกร้องความสนใจ]

[อาศัยความที่ตัวเองฉลาด ไม่เห็นการแข่งขันระดับโลกแบบนี้อยู่ในสายตา ไม่รู้หรือไงว่าตัวเองเป็นตัวแทนของประเทศจีน]

[เป็นไงล่ะ เคยบอกแล้วว่าพวกคนจีนน่ะไม่ไหวหรอก (ยิ้ม)]

[ประเทศจีนจะไหวไม่ไหวไม่ต้องให้นายมาสาระแนพิมพ์หรอก เวลายังไม่หมด รู้เหรอว่าใครจะได้ที่หนึ่งกันแน่]

คำด่าว่อนเน็ต ทางโรงเรียนเอลานก็จับตามองชาร์ตอันดับในโค้งสุดท้ายเช่นกัน

เพราะหลายคนที่ก่อนหน้านี้อยู่อันดับสูงๆ ตอนนี้หล่นไปอยู่ท้ายๆ แล้ว

อันที่จริงรอบคัดเลือกยังวัดอะไรไม่ได้มาก นอกจากเงินรางวัลแล้วก็ไม่มีอะไรให้อีก แต่นี่คือศักดิ์ศรีอย่างหนึ่ง

งานแข่งขันวิทยาศาสตร์ระดับนานาชาติเกี่ยวพันถึงทั้งประเทศ

ใครจะยอมแพ้ได้ง่ายๆ

แต่ดูจากตอนนี้ อันดับหนึ่งของชาร์ตรวมที่เคยสร้างความฮือฮาไปทั่วโลกคนนี้ก็ไม่มีความเคลื่อนไหวมาตลอดเลยจริงๆ

เวลาหนึ่งทุ่ม พวกอาจารย์ดูอันดับบนชาร์ตก็เห็นว่าคะแนนเปลี่ยนไป

“เพิ่งจะมาเริ่มตอนนี้ ไม่ทันหรอก” หนึ่งในอาจารย์ส่ายหน้า “ห่างกับอแมนด้าตั้งสามพันคะแนน จะตามทันเหรอ”

ไม่มีทางที่จะตอบถูกติดกันเยอะๆ จนคะแนนเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

จับตาดูอีกหนึ่งชั่วโมง คะแนนบนชาร์ตอันดับก็หยุดเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง อันดับหนึ่งของชาร์ตรวมที่ลึกลับก่อนหน้านี้ยังคงไม่ติดสิบอันดับแรก

สีหน้าของอาจารย์คนหนึ่งตะลึง “ล็อกชาร์ตแล้ว!”

รอบคัดเลือกของไอเอสซีจะสิ้นสุดลงในวันที่สิบห้าธันวาคมเวลาเที่ยงคืน แต่สองทุ่มของวันที่สิบสี่ระบบทำโจทย์จะทำการล็อกชาร์ตของแต่ละโซนไว้รวมถึงชาร์ตรวมทั่วโลก

สี่ชั่วโมงสุดท้าย แม้แต่คณะกรรมการไอเอสซีเองก็ยังไม่สามารถรู้ได้ว่าคะแนนของผู้เข้าร่วมแข่งขันคือเท่าไรกันแน่

ยิ่งทำให้ร้อนใจกันเข้าไปใหญ่

อย่าว่าแต่สี่ชั่วโมงเลย ต่อให้สิบนาทีก็มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

ทุกวินาทีของสี่ชั่วโมงเป็นช่วงเวลาที่ผ่านไปอย่างยากลำบากสำหรับผู้เข้าร่วมแข่งขันของไอเอสซีทุกคน

บรรดาผู้เข้าร่วมกำลังทำโจทย์อย่างบ้าคลั่ง พวกอาจารย์กับศาสตราจารย์นั่งเฝ้าหน้าเว็บรอให้ถึงเวลาเที่ยงคืน

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ในที่สุดก็ถึงเวลาเที่ยงคืนแล้ว

วันที่สิบห้ามาเยือน ชาร์ตอันดับของจริงก็ได้ปรากฏขึ้น

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท