คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 401 อิ๋งเย่ว์เซวียนจนมุม

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 401 อิ๋งเย่ว์เซวียนจนมุม

“…”

พอคำพูดนี้จบลงก็เกิดความเงียบขึ้นในห้องโถงใหญ่

สายตาทุกคู่ต่างไปรวมอยู่ที่อิ๋งเย่ว์เซวียน

เผยเทียนอี้รับไม่ได้ยิ่งกว่า

มนุษย์ทุกคนต่างมีความเห็นแก่ตัว เขาเข้าข้างอิ๋งเย่ว์เซวียนมาตลอดโดยอยู่ภายใต้กฎระเบียบที่ทำได้

เขาสามารถปูทางที่ไร้อุปสรรคให้อิ๋งเย่ว์เซวียนได้โดยตรงภายใต้ขอบเขตอำนาจของเขา

อย่างไรเสียนี่ก็รุ่นน้องของเขา

แต่เผยเทียนอี้นึกไม่ถึงเลยว่า คนที่ขโมยข้อมูลการทดลองไปจะเป็นอิ๋งเย่ว์เซวียนอีกทั้งยังเอาข้อมูลการทดลองฉบับนี้ถ่ายโอนไปที่คอมพิวเตอร์ของอิ๋งจื่อจิน

เวลามันลงตัวเกินไป หลักฐานก็ชัดเจนมาก

เผยเทียนอี้ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ

“เย่ว์เซวียน” เผยเทียนอี้กัดฟันแน่น “เธอเอาหลักฐานออกมา ขอเพียงแต่เธอยืนยันได้ว่าเธอไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้”

เล็บของอิ๋งเย่ว์เซวียนจิกเข้าไปในฝ่ามือ

ถูกคนตั้งมากมายขนาดนี้มองอยู่ เธอกลับใจเย็นอย่างน่าประหลาด “รุ่นพี่เชื่อเธอเหรอคะ”

“ฉันบอกแล้วว่ารอยนิ้วมือปลอมแปลงได้ง่าย ใครจะไปรู้ว่าเธอจงใจรอเวลานี้หรือเปล่า อยากโยนความผิดมาให้ฉัน”

ใบหน้าตุ๊กตาของเถิงอวิ้นเมิ่งโกรธจนหน้าแดง

“งั้นเธอลองพูดมาหน่อยว่า จื่อจินจะปลอมแปลงรอยนิ้วมือเธอไปทำอะไร จุดไหนของเธอที่ควรค่าให้จื่อจินปลอมแปลงไม่ทราบ”

“ขนาดแค่จะไปไหนจื่อจินยังขี้เกียจ ยังจะมีอารมณ์ปลอมแปลงรอยนิ้วมือเธออีกเหรอ”

นอกจากเผยเทียนอี้แล้ว คนอื่นๆ รวมถึงเถิงอวิ้นเมิ่งกับเฟิงเย่ว์ต่างไม่รู้เรื่องราวของตระกูลอิ๋ง

อิ๋งจื่อจินไม่เคยเล่าให้ฟัง

อันที่จริงเผยเทียนอี้ก็ไม่รู้เรื่องคุณหนูตัวจริงตัวปลอมของตระกูลอิ๋ง รวมถึงเรื่องที่เกิดขึ้นต่อมา

มีแค่คนในฮู่เฉิงกับคนส่วนน้อยที่ตอนนั้นเกี่ยวข้องกับกรณีอิ๋งลู่เวยในเน็ตถึงจะรู้เรื่องราวที่แท้จริงตั้งแต่ต้นจนจบกับเรื่องภายใน ถึงขั้นที่เถิงอวิ้นเมิ่งไม่เคยเจออิ๋งเย่ว์เซวียนด้วยซ้ำ ยิ่งไปกว่านั้นไม่รู้ว่าอิ๋งเย่ว์เซวียนเป็นใคร แต่เธอกับอิ๋งจื่อจินคลุกคลีกันมานานขนาดนี้ เธอย่อมเชื่ออิ๋งจื่อจินอย่างไม่มีเงื่อนไข

อิ๋งจื่อจินที่ได้ยินแบบนี้ถึงกับหันไปมอง “…”

ชั่วขณะนั้นเธอไม่รู้ว่าเถิงอวิ้นเมิ่งกำลังปกป้องเธอหรือแฉเธอกันแน่

แต่มันก็เป็นเรื่องจริง

โลกโลกาภิวัตน์ก็เหมือนโลกบำเพ็ญเพียรที่เธอเคยอยู่เมื่อก่อนที่ไหนกัน โลกนั้นสามารถเหาะไปไหนก็ได้ หรือสามารถเดินทางนับพันลี้ได้ในชั่วพริบตา

จอมยุทธจะเก่งแค่ไหนก็ได้แค่ขุดศักยภาพในตัวมาพัฒนาให้ได้ถึงขีดจำกัด

“น่าตลกดีนะ” อิ๋งเย่ว์เซวียนแสยะยิ้ม

“งั้นเธอก็บอกฉันหน่อยว่า ฉันจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร ได้ประโยชน์อะไร”

“นอกจากแฟลชไดร์ฟจิ๋วที่ไม่รู้แม้แต่ว่าใครเป็นเจ้าของ ยังมีหลักฐานอื่นอีกไหม”

เธอจะยอมรับไม่ได้เด็ดขาด!

เรื่องแบบนี้ถ้ายอมรับ เส้นทางนักวิจัยของเธอได้ถูกปิดตายแน่นอน

วงการวิทยาศาสตร์ไร้พรมแดน

ไม่ว่าจะยุโรปหรือประเทศจีน มหาวิทยาลัยกับบรรดาศาสตราจารย์ของทั้งสองฝั่งต่างมีการติดต่อกัน

นอกจากงานวิจัยลับที่เกี่ยวพันถึงผลประโยชน์ของตระกูลใหญ่ เหล่าผู้ทรงอิทธิพลของวงการวิทยาศาสตร์ก็มักจะแลกเปลี่ยนข้อมูล และบอกเล่าการค้นพบอะไรใหม่ๆ

ขอเพียงแต่เรื่องนี้ได้ข้อสรุป ไม่เกินสามวัน พวกห้องทดลองใหญ่ๆ จะต้องรู้ชื่อของเธอกันหมดแน่นอน อีกทั้งยังจะเอาเธอขึ้นบัญชีดำ

จะปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด!

อิ๋งเย่ว์เซวียนเม้มริมฝีปาก ใบหน้ามีรอยยิ้มหยามเหยียด

“ใครไม่รู้บ้างว่าอิ๋งจื่อจินก็รู้จักกับศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยตี้ตู เท่าที่ฉันรู้ แฟลชไดร์ฟไร้สายแบบนี้ขายให้คนในของมหาวิทยาลัยตี้ตูแล้ว เธอสนิทกับศาสตราจารย์จั่วขนาดนั้น จะหาซื้อไม่ได้เลยเหรอ”

สาขาคอมพิวเตอร์มีการติดต่อกับสาขาฟิสิกส์ก็จริง แต่อิ๋งจื่อจินจะมีอำนาจถึงขั้นขอให้สาขาคอมพิวเตอร์เอาภาพกล้องวงจรปิดเมื่อเดือนที่แล้วมาได้เลยเหรอ

ถ้าอิ๋งจื่อจินแฮกระบบของสาขาคอมพิวเตอร์ก็จะถูกขึ้นบัญชีดำเหมือนกัน

“ดูท่าจะจำเป็นต้องทำแล้ว” อิ๋งจื่อจินเอามือเคาะโต๊ะ “ขอโทรศัพท์มือถือด้วยค่ะ”

หัวหน้าทีมสืบสวนรีบคืนโทรศัพท์ให้

อิ๋งจื่อจินรับมา กดเบอร์โทรออกแล้วเปิดลำโพง

ดังอยู่สามทีก็มีคนรับ

“สวัสดีค่ะอาจารย์หลัว หนูอิ๋งจื่อจินนะคะ” อิ๋งจื่อจินพูด

“มีคนใส่ร้ายหนูว่าขโมยข้อมูลการทดลอง จำเป็นต้องให้ทางสาขาคอมพิวเตอร์ช่วยเป็นพยานหน่อยค่ะ รบกวนขอภาพกล้องวงจรปิดของคลังที่เก็บแฟลชไดร์ฟไร้สายในช่วงสองเดือนนี้หน่อยนะคะ”

อีกฝ่ายเป็นเสียงผู้หญิง พูดเสียงดังฟังชัด

“ได้สิ อาจารย์จะไปเอาให้เดี๋ยวนี้ รอเดี๋ยวนะ”

ฟังถึงตรงนี้อิ๋งเย่ว์เซวียนก็สีหน้าเปลี่ยนอีกครั้ง

เธอรู้จักอาจารย์หลัวคนนี้ ถึงแม้จะไม่ได้มีตำแหน่งศาสตราจารย์ แต่รับหน้าที่ดูแลเรื่องส่วนใหญ่ของสาขาคอมพิวเตอร์ และเธอก็เป็นคนดูแลห้องควบคุมกล้องวงจรปิดด้วยเช่นกัน

อิ๋งจื่อจินรู้จักอาจารย์หลัวได้ยังไง!

อิ๋งเย่ว์เซวียนทำใจเย็นต่อไปไม่ได้แล้ว เหงื่อออกเต็มหลัง

เธออยากออกไปจากที่นี่ทันที แต่ก็ทำไม่ได้…

เผยเทียนอี้มองเธออยู่ตลอด แววตาผิดหวังมากขึ้นเรื่อยๆ

สิบห้านาทีต่อมาอาจารย์หลัวก็ส่งภาพกล้องวงจรปิดมาที่คอมพิวเตอร์ของอิ๋งจื่อจิน

วิดีโอจากกล้องวงจรปิดในช่วงสองเดือนมีความยาวมาก กว่าจะดูหมดก็ยุ่งยากพอสมควร

“ต้องสืบให้กระจ่าง” อิ๋งจื่อจินนั่งพิงเก้าอี้ พูดอย่างใจเย็น “ดูเลยค่ะ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าวันไหน”

“เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วง พวกเรามีระบบตรวจจับใบหน้า สามารถจับภาพให้ตรงตามเงื่อนไขได้” หัวหน้าทีมสืบสวนบอกให้ลูกน้องเอารูปของอิ๋งเย่ว์เซวียนใส่เข้าไปในโปรแกรม

“ต้องขอโทษด้วยที่เข้าใจคุณผิดนะครับ”

“ไม่เป็นไรค่ะ” อิ๋งจื่อจินตอบ “เป็นเรื่องปกติของคน ฉันเข้าใจได้”

พอมีระบบตรวจจับใบหน้า ไม่นานข้อมูลที่สอดคล้องกันก็ปรากฏ

เป็นวันที่ยี่สิบเจ็ดเมษายน เวลาบ่ายสามโมง

เผยเทียนอี้ก็ดูอยู่ พอดูจบหัวใจของเขาก็เย็นเฉียบอย่างสิ้นเชิงแล้ว

ภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นอย่างชัดเจนว่า อิ๋งเย่ว์เซวียนเอาแฟลชไดร์ฟจิ๋วมาอันหนึ่งจริงๆ

ท่าทางเหมือนเผลอ ติดมือมาเองโดยไม่ทันระวัง

หัวหน้าทีมสืบสวนสีหน้าเย็นชา “ขโมยข้อมูลการทดลอง ทั้งยังใส่ร้ายคนอื่น ทำผิดซ้ำๆ”

“ใช่ค่ะ ฉันเอาแฟลชไดร์ฟจิ๋วมาอันหนึ่ง” อิ๋งเย่ว์เซวียนมือสั่นอย่างรุนแรง มือหดเข้าไปอยู่ในแขนเสื้อ

“งั้นคุณมีหลักฐานอะไรที่บ่งบอกว่าแฟลชไดร์ฟอันนี้เป็นของฉัน”

อิ๋งจื่อจินเงยหน้า สายตาเย็นชา “ดูท่าเธอจะฉลาดน้อยจริงๆ”

อิ๋งเย่ว์เซวียนโกรธจนตัวสั่น

“อิ๋งจื่อจิน! เวลานี้แล้วยังจะมาดูถูกฉันอีกเหรอ”

โทรศัพท์มือถือดังขึ้นในเวลานี้ อาจารย์หลัวโทรมา

“จื่อจิน เธอพูดถูกจริงๆ” อาจารย์หลัวพูดเสียงขรึม “แฟลชไดร์ฟจิ๋วหายไปหนึ่งอัน รหัสเจ็ดแปด”

อิ๋งเย่ว์เซวียนหน้าซีด

แฟลชไดร์ฟจิ๋วมีรหัสด้วยเหรอ

ทำไมเธอไม่เห็น

หัวหน้าทีมสืบสวนหยิบแผ่นเหล็กกลมอันนั้นขึ้นมาสังเกตดูหนึ่งรอบแล้วพูดขึ้น “นี่เป็นรหัสมอส”

บนแผ่นเหล็กมีขีดหลายเส้นกับจุดกลม ดูเหมือนสะเปะสะปะ แต่ในความเป็นจริงแสดงถึงตัวเลขสองตัว สองขีดแนวนอนกับสามจุดคือเลขเจ็ด สามขีดแนวนอนกับสองจุดคือเลขแปด

รหัสเจ็ดแปด

รหัสมอสคิดค้นขึ้นในปีหนึ่งพันแปดร้อยสามสิบเจ็ด เป็นรูปแบบการสื่อสารโดยใช้ตัวเลขในยุคแรกๆ และยังเป็นรหัสฐานสองชนิดหนึ่ง

อิ๋งจื่อจินไม่เคยศึกษา และไม่ได้เรียนโดยเฉพาะ

ก็แค่เธอเคยได้ยินจั่วหลีพูดถึงเรื่องนี้

ศาสตราจารย์สาขาคอมพิวเตอร์ที่รับหน้าที่ออกแบบแฟลชไดร์ฟจิ๋วไร้สายอันนี้ชื่นชอบพวกรหัสลับอย่างรหัสมอส เอนิกมา อะไรพวกนี้มากทีเดียว

ด้วยเหตุนี้จึงเอามันใส่ลงไปด้วยในการออกแบบ ทั้งยังคุยโวว่าถ้าเขาไม่บอก คนอื่นๆ ในสาขาก็ไม่รู้หรอก

อิ๋งเย่ว์เซวียนหน้าซีด ตัวสั่น

จุดกับขีดแนวนอนพวกนั้นมันคือรหัสมอสเหรอ

เธอเองก็สังเกตเห็นแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่ามีความพิเศษอะไร นึกว่าเป็นแค่ลวดลาย

หลักฐานอยู่ตรงหน้า อิ๋งเย่ว์เซวียนจะแถอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์แล้ว

เผยเทียนอี้กำมือแน่น ทำใจให้สงบไม่ได้เลย

“พูดมา” หัวหน้าทีมสืบสวนพูดเสียงแข็ง “นอกจากใส่ร้ายคนอื่นแล้ว คุณยังเอาข้อมูลการทดลองถ่ายโอนไปที่ไหนอีกบ้าง”

“ไม่มี…ไม่มีที่ไหนทั้งนั้น” อิ๋งเย่ว์เซวียนยิ้มเศร้า

“ข้อมูลการทดลองพวกนี้เป็นของพวกรุ่นพี่ ฉันจะปล่อยให้รั่วไหลได้ยังไง”

เธอก็แค่อยากตัดอนาคตของอิ๋งจื่อจิน นึกไม่ถึงว่าจะทำเผยเทียนอี้ติดร่างแหด้วย

ถ้าเธอรู้ว่าการที่ข้อมูลการทดรองรั่วไหลจะทำเผยเทียนอี้ถูกไล่ออกจากศูนย์วิจัย เธอจะเปลี่ยนไปใช้วิธีอื่นแน่นอน

“เอาตัวไปก่อน” หัวหน้าทีมสืบสวนไม่อยากเสียเวลาพูดกับอิ๋งเย่ว์เซวียน

“ถ้าคุณยังทำอย่างอื่นอีกก็เตรียมเข้าไปนอนในคุกได้เลย”

ตอนนี้หลักฐานชัดเจน ทีมสืบสวนสามารถเอาตัวอิ๋งเย่ว์เซวียนไปได้ทันที

ทันใดนั้นอิ๋งเย่ว์เซวียนก็เหมือนนึกอะไรขึ้นได้ เงยหน้าขวับ “เธอจงใจ!”

เธอฉวยโอกาสตอนที่พวกคนของทีมสืบสวนเปิดคอมพิวเตอร์ของอิ๋งจื่อจินเริ่มตรวจสอบ เอาเอกสารในแฟลชไดร์ฟจิ๋วอันนี้ถ่ายโอนเข้าไป

เพราะช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงที่ไฟร์วอลเปิดอยู่

เมื่อเป็นแบบนี้อิ๋งเย่ว์เซวียนก็สามารถใช้โอกาสนี้เอาเอกสารที่ขโมยมาถ่ายโอนเข้าคอมพิวเตอร์ของอิ๋งจื่อจินได้

แต่ตอนนี้อยู่ๆ เธอก็นึกเรื่องสำคัญขึ้นมาได้

อิ๋งจื่อจินเก่งคอมพิวเตอร์ ต่อให้เปิดไฟร์วอลอยู่ การโอนถ่ายข้อมูลของเธอก็มีความเป็นไปได้ที่จะถูกปิดกั้นอยู่ดี

มีเหรอจะราบรื่นได้ขนาดนั้น

อิ๋งจื่อจินยืนขึ้น เทน้ำ “เคยบอกแล้ว เธอไม่ได้สำคัญขนาดนั้น”

เธอรู้เรื่องที่ข้อมูลการทดลองของส่วนทดลองรั่วไหลตั้งแต่เมื่อคืนที่กลับมาแล้ว

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในคนที่เข้าไปในโซนใจกลาง เธอต้องถูกสงสัยแน่นอน

เธอก็เลยเตรียมตัวไว้ให้พร้อม

หลังจากเข้ามาในเมืองมหาวิทยาลัย ฟู่อวิ๋นเซินก็ให้เครื่องมือตรวจจับมาอันหนึ่ง

เครื่องมือตรวจจับอันนี้สามารถตรวจจับเครื่องมือสะกดรอย รวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ปล่อยสัญญาณอื่นๆ ได้ เป็นเครื่องมือที่พวกนักสืบของไอบีไอต้องมี หาซื้อในท้องตลาดไม่ได้แม้แต่ในเว็บบอร์ดเอ็นโอเค

ดูจากระเบิดยี่สิบลูกก็มองออกได้ว่า มีอิทธิพลจำนวนไม่น้อยที่จับตาดูรอบชิงชนะเลิศครั้งนี้อยู่

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท