คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 412 เธอคือเกว็น บราวน์!

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 412 เธอคือเกว็น บราวน์!

เพราะมีการหยุดพักกลางคัน ภายในสนามแข่งก็เลยเงียบมาก

คำนี้เข้าหูของทุกคนอย่างชัดเจน

อิ๋งจื่อจินพูดเป็นภาษาอังกฤษ ผู้ชมที่อยู่ในสนามแข่งส่วนใหญ่จึงเข้าใจ

มือของไอริน่ายังคงอยู่ในท่าเปิดขวดน้ำ รอยยิ้มตรงมุมปากค้างเติ่ง

แววตาของเธอเย็นชา เธอกัดฟันพูด “เธอว่าไงนะ!”

อิ๋งจื่อจินไม่แคร์สักนิดที่จะต้องพูดซ้ำอีกครั้ง สายตาเรียบเฉย “ขยะ”

[ฮ่าๆๆ! ขยะ! ว่าหล่อนนั่นแหละ!]

[ฉันรู้ว่าทำไมเทพอิ๋งต้องใช้สิทธิ์ของอันดับหนึ่งชาร์ตรวมมาลงแข่งอีกครั้ง ก็เพราะต้องการพูดคำนี้กับไอริน่า]

[ฉันไม่รู้จะพูดอะไรแล้วจริงๆ แค่อยากร้องไห้

การแข่งขันที่ผ่านมาสามวัน ฉันดูตลอด ฉันได้ยินไอริน่าพูดว่าขยะเป็นสิบๆ รอบ

เธอจงใจเล่นงานผู้เข้าแข่งขันจากประเทศจีนของเรา ทั้งยังหยามเกียรติคนของพวกเรา เด็กสาวหลายคนร้องไห้ แต่พวกเราทำอะไรไม่ได้เลย]

[รู้ไหมว่าทำไมพวกเราถึงชอบเทพอิ๋ง เธอรู้เยอะ แต่เธอไม่มีทางโอ้อวดข่มคนอื่น และก็ไม่มีทางถ่อมตัวจนปล่อยให้คนอื่นมาเหยียบหัว]

เวลานี้พวกตัวก่อกวนในห้องถ่ายทอดสดก็พากันหายเงียบทั้งหมด

เถิงอวิ้นเมิ่งที่อยู่ล่างเวทีเอามือปิดปาก น้ำตาก็ไหลออกมาเหมือนกัน

“วางใจได้” ขาขวาของอิ๋งจื่อจินงอเล็กน้อย ท่ายืนสบายๆ พูดเหมือนล้อเล่น “ฉันจะไม่ให้เธอได้สักคะแนน”

ไอริน่าหันขวับ “อย่ามาทำเป็นพูดดี เธอกำลังฝันอยู่!”

มันต้องมีสักข้อที่เธอแก้ได้เร็วกว่าอิ๋งจื่อจิน

แต่โจทย์ข้อถัดมาก็คือการลงโทษไอริน่าอย่างรุนแรง

ผ่านไปอีกห้าข้อเธอก็ยังคงไม่ได้สักคะแนน

ความเร็วในการตอบคำถามของอิ๋งจื่อจินทำให้เธอสัมผัสกับความหวาดกลัวเป็นครั้งแรก

“อืม โจทย์ข้อนี้เป็นโจทย์เบาสมอง ง่ายมากครับ พวกเราจะได้ผ่อนคลายกันบ้าง” พิธีกรยิ้ม “ทั้งคู่เชิญดูโจทย์ได้ครับ”

ภาพบนหน้าจอใหญ่เปลี่ยนเป็นโจทย์ข้อใหม่

[กุ่ยกู่จื่อเลือกเลขมาสองตัวจากสองถึงเก้าสิบเก้า

เขาบอกเลขสองตัวนี้ให้ผางเจวียนกับซุนปิ้นรู้

แต่สองคนนี้ต่างไม่รู้เลขของอีกฝ่าย

วันต่อมาผางเจวียนพูดกับซุนปิ้นว่า “ถึงฉันจะไม่รู้ว่าคำตอบคืออะไร แต่แกต้องไม่รู้เหมือนกันแน่นอน

ไม่กี่วินาทีถัดมาซุนปิ้นก็พูดว่า “ฉันรู้แล้ว”

ผ่านไปสักพักผางเจวียนก็พูดขึ้น “ฉันรู้แล้ว”

คำถามคือ เลขสองจำนวนนี้คือเท่าไร]

จั่วหลี “…”

เขาคิดมาตลอดว่าทีมออกโจทย์ดูเพี้ยนๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่ออกโจทย์สิบแปดภาษาในการแข่งทีม

[? โจทย์อิหยังล่ะเนี่ย]

[กุ่ยกู่จื่อเคยทำแบบนี้ด้วยเหรอ ถ้าฉันเป็นซุนปิ้นจะทุบให้หัวแบะ]

[อย่าโดนโจทย์หลอก ข้อนี้ง่ายมาก ฉันจะบอกทุกคนให้ โจทย์ข้อนี้ใช้การคาดการณ์ของก็อลท์บัค…]

มีผู้ชมในสนามแข่งและชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยเริ่มแก้โจทย์แล้ว

ทีมชอบให้ความรู้ก็ทำหน้าที่พิมพ์ข้อความขึ้นหน้าจออย่างสุดความสามารถ

แต่พวกเขาเพิ่งอ่านโจทย์เสร็จ ใช้เวลาไปห้าหกวินาที

อิ๋งจื่อจินที่อยู่บนเวทีก็ได้กดปุ่มตอบแล้ว “เลขสองจำนวนคือสี่กับสิบสามค่ะ”

คนออกโจทย์ที่กำลังภูมิใจว่าต้องใช้เวลาคิดเกินสิบวินาทีแน่ๆ “…”

นี่เขาออกโจทย์ได้พิสดารไม่พออีกเหรอ!

[ยอมคุกเข่าให้เทพอิ๋งเลยจริงๆ โจทย์ทุกข้อเลยหรือเปล่าที่เทพอิ๋งแค่มองก็ตอบได้]

[พวกเธอดูสีหน้าคนออกโจทย์สิ ช็อกไปแล้ว]

“ขี้โกงๆ!”

ด้านล่างมีผู้ชมตะโกนอีกแล้ว โดยเฉพาะนักเรียนของโรงเรียนเอลาน

นักเรียนชายคนหนึ่งพูดด้วยความโมโห “ตัวละครที่อยู่ในโจทย์นี้เป็นคนเอเชียทั้งนั้น ไอริน่าไม่รู้จักเสียหน่อย!”

ถ้าไอริน่าแพ้ คะแนนที่ไอริน่าชนะได้มาก็จะเป็นของประเทศจีนทั้งหมด

พอถึงตอนนั้นทีมที่รั้งท้ายก็จะกลายเป็นพวกเขา

“ผู้ชมท่านนี้กรุณานั่งให้เรียบร้อยครับ” พิธีกรยิ้มอย่างสุภาพ “คนออกโจทย์ต้องคำนึงถึงนักเรียนทุกคนอยู่แล้วครับ ไม่มีทางลำเอียงเด็ดขาด”

[ขำเป็นบ้า บอกว่าคณะกรรมการเข้าข้างประเทศจีนเหรอ ประสาทหรือเปล่า โจทย์มีของทุกประเทศ ฉันเห็นมีออกตำนานเทพของยุโรปด้วย ทำไม เทพอิ๋งรู้เรื่องของยุโรป แต่พวกเธอไม่รู้เรื่องของประเทศจีน เลยพูดแบบนี้เหรอ]

[ขยะก็คือขยะอยู่วันยังค่ำ ดีแต่หาข้ออ้างให้ตัวเอง]

ไอริน่าหน้าซีดกว่าเดิม เริ่มยืนไม่ไหว

นับตั้งแต่เธอถูกเรียกว่าเด็กเทพจนถึงตอนนี้ ยังไม่เคยถูกหยามเกียรติแบบนี้มาก่อน

“ตอนนี้เป็นโจทย์ข้อสุดท้าย” พิธีกรรับใบโจทย์มาจากคนออกโจทย์ เขาอ่านเสร็จก็พูดขึ้น “โจทย์ข้อนี้เกี่ยวข้องกับนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะท่านหนึ่งของเราครับ คุณไซมอน แบรนด์ และเขาก็เป็นแรงบันดาลใจให้จัดการแข่งขันไอเอสซีขึ้นมาด้วยครับ”

ดวงตาของอิ๋งจื่อจินขยับเล็กน้อย เธอหลุบตาลง

เรียกได้ว่าครั้งล่าสุดที่เธอมาท่องโลกมนุษย์ ในบรรดาอาจารย์จำนวนมากของเธอ ไซมอน แบรนด์สอนสิ่งต่างๆ ให้เธอมากที่สุดแล้ว

เพียงแต่ชีวิตของไซมอน แบรนด์ไม่สงบสุขนัก นอกจากด้านวิทยาศาสตร์ ด้านอื่นก็เรียกได้ว่าเป็นความโศกเศร้า

ไอริน่าสายตาเย็นชาขึ้นมาทันที มือก็กำแน่นจนเกิดเสียงกระดูกลั่น

อิ๋งจื่อจินย่อมสังเกตเห็นแล้ว ดวงตาหงส์หรี่ลง

ท่าทีตอบสนองของไอริน่ามันดูมากเกินไป

“พวกเราส่งอัจฉริยะท่านหนึ่งจากไป ตอนนี้ได้ต้อนรับสองอัจฉริยะแห่งศตวรรษใหม่” พิธีกรพูดต่อ “เอาล่ะ ทั้งสองคนตั้งใจฟังให้ดีนะครับ นี่คือโจทย์แจกคะแนนเลยครับ…”

“ไซมอน แบรนด์ทิ้งบันทึกเอาไว้มากมาย ซึ่งบันทึกเหล่านี้ตอนนี้ได้ถูกเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ยุโรป ทางคณะกรรมการของเราได้ถ่ายบันทึกเหล่านี้ออกมาพร้อมทั้งแสดงอยู่บนหน้าจอครับ”

บนจอใหญ่ปรากฏภาพกระดาษที่เก่าจนเหลือง

เป็นภาพวาดที่ซับซ้อน ม้าวิ่งอยู่บนท้องฟ้า

และโจทย์ก็ปรากฏ

[ขอถามว่าภาพวาดภาพนี้ของไซมอน แบรนด์ มีชื่อว่าอะไร]

ผู้ชมและชาวเน็ตต่างงง

[นี่น่ะเหรอคำถามแจกคะแนน]

[นี่ถ้าไม่เคยไปดูที่พิพิธภัณฑ์ก็ไม่รู้หรือเปล่า]

[ต่อให้ไปดูก็ใช่ว่าจะจำได้ ฉันเคยไป ภาพวาดของไซมอน แบรนด์มีหลายภาพที่ดูแล้วคล้ายกัน แต่ชื่อเรียกไม่เหมือนกัน]

สายตาของอิ๋งจื่อจินจ้องที่จอใหญ่สามวินาทีแล้วพูดขึ้น “เอสซี-สามร้อย-วี เครื่องยนต์รุ่นที่ห้าค่ะ”

พอคำตอบนี้ออกมาไอริน่าก็สีหน้าเปลี่ยนทันที หันไปมองอิ๋งจื่อจิน

พิธีกรอึ้งไปครึ่งนาทีเต็มๆ ถึงได้สติกลับมา สีหน้ายังคงเหม่อ “คำตอบก็คือเอสซี-สามร้อย-วี นี่คือเครื่องบินรุ่นแรกที่ไซมอนด์ แบรนด์ออกแบบ แต่สมัยนั้นยังไม่มี นี่เป็นภาพในจินตนาการของเขาครับ”

พออธิบายเสร็จเขาก็อดชมไม่ได้ “ดูท่านักเรียนอิ๋งจื่อจินจะมีความสามารถที่อะไรผ่านตาก็ไม่มีทางลืมนะครับ”

อิ๋งจื่อจินชะงักเล็กน้อย “พอไหวค่ะ”

เธอต้องจำได้เร็วอยู่แล้ว

แต่ไม่ใช่กับรูปนี้

รูปนี้เธอเคยเห็นไซมอน แบรนด์วาดมากับตา ก็เลยจำได้ขึ้นใจ

“โจทย์สามสิบข้อหมดแล้วครับ คะแนนก็ออกมาแล้วเช่นกัน” พิธีกรหยุดเล็กน้อย “เชิญทุกท่านดูที่หน้าจอครับ”

ภาพบนหน้าจอใหญ่ขยับ ปรากฏคะแนนของทั้งสองฝ่าย

ตัวหนังสือสีแดง ใหญ่มาก สะดุดตา

สามสิบต่อศูนย์!

ขาดลอย!

บดขยี้อย่างแท้จริง!

เฟิงเย่ว์หายใจหอบแรง เหงื่อไหลท่วมตัว “ชนะแล้ว เมิ่งเมิ่ง พวกเราชนะแล้ว!”

เถิงอวิ้นเมิ่งพูดเสียงสะอื้น เธอเช็ดน้ำตาไม่หยุด “ใช่ พวกเราชนะแล้ว”

จั่วหลีมองคะแนนบนหน้าจออย่างอึ้งๆ ขอบตาก็เริ่มแดง

เดิมทีเขาเตรียมใจไว้แล้วว่าจะได้อันดับรั้งท้าย

แต่ตอนนี้มีคนใช้การกระทำบอกเขาว่า พวกเขาพลิกกลับมาชนะได้แล้ว

อิ๋งจื่อจินเดินลงจากเวทีแข่งมาหยุดยืนตรงหน้าเขา

“ศาสตราจารย์จั่วหลีคะ” อิ๋งจื่อจินโค้งตัวเล็กน้อย “เสร็จสิ้นภารกิจ”

คำพูดนี้สะเทือนแก้วหูของจั่วหลี ราวกับเป็นคลื่นลูกใหญ่ที่สาดซัดเข้ามา สะเทือนไปถึงจิตใจ

จั่วหลีกลืนน้ำลายอึกใหญ่ พูดเสียงสั่น “เก่งมาก เธอทำได้ดีมาก ไม่มีใครเก่งไปกว่าเธออีกแล้ว”

ไม่ได้ทำเพื่อเกียรติของตัวเอง แต่เพื่อประเทศ

“ขอไปพักผ่อนหน่อยนะคะ” อิ๋งจื่อจินนวดศีรษะ “ไว้ผลคะแนนรวมออกเมื่อไรช่วยบอกหนูด้วย”

ถึงแม้เธอจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มามากมาย แต่ระหว่างตอบโจทย์ก็ต้องใช้สมาธิสูงมาก ใช้พลังไปเยอะทีเดียว

ฟู่อวิ๋นเซินที่อยู่ด้านข้างหยิบเสื้อคลุมมาคลุมให้เธอ มือขวาถือแก้วเก็บอุณหภูมิ “กินน้ำเกลือหน่อย”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า

ทั้งสองคนไปพักผ่อนที่ห้องใหญ่หลังเวที

อิ๋งจื่อจินดื่มน้ำอึกใหญ่แล้วพูดขึ้น “อันที่จริงฉันไม่ได้คิดเยอะขนาดนั้น แค่ไม่อยากเห็นพวกเขาถูกรังแก”

ฟู่อวิ๋นเซินลูบศีรษะเธอ ยิ้มเล็กน้อย “พี่ชายรู้”

“อยากกินช็อกโกแลต”

“เตรียมไว้แล้ว”

ทั้งสองคนออกไปทางประตูข้างของสนามแข่ง

อีกด้านหนึ่ง อยู่ๆ ไอริน่าก็ตื่นตกใจ วิ่งตามออกไปขวางหน้าฟู่อวิ๋นเซินกับอิ๋งจื่อจินอย่างรวดเร็ว

ฟู่อวิ๋นเซินเหลือบตาขึ้น

สีหน้าของไอริน่าดูแตกตื่น เธอมือสั่น “เธอใช่ไหม ต้องเป็นเธอแน่นอน!”

“มีแค่เธอที่จะรู้อะไรมากขนาดนั้น!”

ไอริน่าเดินขึ้นหน้าทีละก้าว พูดเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ “ฉันนึกออกแล้ว เธอก็นึกออกแล้วเหมือนกัน ฉันแพ้ให้เธออีกแล้ว! ฉันไม่ยอม!”

อิ๋งจื่อจินกระแอมสองที ไม่เงยหน้าขึ้น เอาหน้าพิงอกด้านขวาของฟู่อวิ๋นเซิน

“ขยะมีพิษคนนี้บ้าไปแล้ว” แววตาของฟู่อวิ๋นเซินขรึมลง “ช่วยเอาเธอออกไปด้วยครับ”

พวกตำรวจลังเล สุดท้ายก็ค่อยๆ ขยับเข้าไป แต่ไม่แตะต้อง

ไม่ว่าอย่างไรไอริน่าก็เป็นเด็กเทพที่อยู่ในความคุ้มครองของมหาวิทยาลัยเฮลก้า

หากเกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกเขาจะแบกรับไม่ไหว

อัจฉริยะสองคนประจันหน้ากัน ดึงดูดความสนใจได้ไม่น้อย

คนที่อยู่หลังเวทีมีมากขึ้นเรื่อยๆ บางคนก็ตกใจไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

“ต้องเป็นเธอแน่ๆ! ฉันไม่มีทางจำผิด!” ไอริน่าสงบสติอารมณ์ไม่ได้ เธอตะโกนแผดเสียง “เธอคือเกว็น!”

นักเรียนที่นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะแห่งศตวรรษที่สิบเจ็ดอย่างไซมอน แบรนด์ ภูมิใจที่สุด

เกว็น บราวน์

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท