ตอนที่ 418 มือมืดที่อยู่เบื้องหลัง
หลังจากเห็นผู้ชายคนนั้นผู้ว่าการเมืองมหาวิทยาลัยก็ตะลึง “ประธาน…ลิซิเนียส”
แน่นอนว่าเหตุระเบิดครั้งนี้อยู่ในขอบเขตความดูแลของไอบีไอ พวกเขาจึงต้องมา ก็แค่จะช้าหรือเร็วเท่านั้น
ครั้งนี้ถือว่าไอบีไอมาเร็วมากแล้ว เพราะนับจากเริ่มระเบิดก็เพิ่งผ่านไปแค่สามชั่วโมงกว่า
แต่ผู้ว่าฯ ไม่ได้นึกไปถึงประธานไอบีไอ
เมื่อก่อนมีก่อการร้ายที่บาดเจ็บและเสียหายหนักยิ่งกว่า ลิซิเนียสก็ยังแค่สั่งการอยู่ในสำนักงานใหญ่ไอบีไอ
ทำไมครั้งนี้ถึงมาด้วยตัวเอง
ผู้ว่าฯ เริ่มเครียดขึ้นมาทันที
นอกจากอัจฉริยะของแต่ละประเทศ คนที่ถูกฝังอยู่ในนั้นยังมีใครอีก
ผู้ว่าฯ พอรู้เรื่องมาบ้าง
ชื่อของบรรดาผู้บริหารระดับสูงของไอบีไอล้วนมาจากชื่อของจักรพรรดิโรมัน
อย่างเช่นประธานลิซิเนียส หรืออย่างรองประธานไดอา หรืออย่างผู้บัญชาการทางอากาศแอนโทนี่
นี่ไม่เพียงแต่จะแสดงถึงศักยภาพ ยังแสดงถึงอำนาจที่ยิ่งใหญ่อีกด้วย
แต่น้อยคนที่จะรู้ว่า ลิซิเนียสไม่ได้มีอำนาจสูงสุดในไอบีไอ เหนือเขาขึ้นไปยังมีผู้บัญชาการสูงสุดอยู่อีกคน
ผู้บัญชาการสูงสุดคนนี้ไม่ได้อยู่ในสารบบของไอบีไอ แต่มีอำนาจแต่งตั้งโยกย้ายทุกคนในไอบีไอ รวมถึงลิซิเนียส
ลิซิเนียสขมวดคิ้วเหลือบมองผู้ว่าการมหาวิทยาลัย “ช่วยออกมาหมดทุกคนแล้วเหรอ”
“ยะ ยังมีอีกสิบกว่าคนครับ” หัวหน้าทีมกู้ภัยที่อยู่ข้างๆ ยื่นรายชื่อให้ ก้มหน้ายิ้มเศร้า “ควันพิษหนาแน่นเกินไป พวกเราเข้าไปไม่ได้ครับ”
แต่ไอบีไอไม่เหมือนกัน
ไอบีไอมีเทคโนโลยีและอาวุธป้องกันที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก เพราะเหตุนี้ถึงสามารถพิทักษ์ความสงบสุขของโลกได้
ลิซิเนียสรับใบรายชื่อมา จากนั้นก็หยิบแผนที่ “ไป เข้าไป”
หลักการสูงสุดของไอบีไอคือ ชีวิตของทุกคนบนโลกต้องมาก่อนเป็นลำดับแรก
ส่วนเรื่องอื่นเป็นลำดับหลังทั้งหมด
รวมถึงความเป็นความตายของตัวพวกเขาเอง
“ครับผู้บัญชาการ” นักสืบระดับสูงยกมือทำความเคารพ
ก่อนมาพวกเขาได้จัดเตรียมอุปกรณ์กู้ภัยกับมาตรการป้องกันไว้เรียบร้อยแล้ว
ทว่ายังไม่ทันที่พวกนักสืบของไอบีไอจะเข้าไปก็มีเสียงเครื่องบินดังขึ้นอีกครั้ง
ลิซิเนียสหรี่ตาเงยหน้ามองไป จากนั้นก็อดอึ้งไม่ได้
นั่นคือเครื่องบิน แต่รูปร่างกลับประหลาด ดูแบนๆ
เครื่องบินหยุดลง มีกลุ่มคนลงมาจากเครื่องบิน
พวกเขาอยู่ในชุดเครื่องแบบของมหาวิทยาลัย
ตรงหน้าอกด้านขวามีสัญลักษณ์สีทอง
หน่วยปฏิบัติการมหาวิทยาลัยนอร์ตัน!
คนที่นำทีมมาครั้งนี้คือหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการ
ตาเขียวผมทอง หน้าตาคมคาย ดูหนุ่มมาก อายุไม่เกินยี่สิบห้าปีแน่นอน
“คิดอยู่ว่าพวกคุณคงมาถึงแล้ว” หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการพยักหน้าเล็กน้อย “งั้นเข้าไปด้วยกันเลยแล้วกัน”
คราวนี้แม้แต่ลิซิเนียสก็ตะลึง “พวกคุณ…”
ไอบีไอกับหน่วยปฏิบัติการมหาวิทยาลัยนอร์ตันเคยร่วมงานกันหลายครั้งเพื่อจับนักโทษสากล
แต่ในหลายครั้งที่ร่วมงานกันก็เพราะมีนักศึกษาของมหาวิทยาลัยนอร์ตันที่โดนจับไป หน่วยปฏิบัติการของมหาวิทยาลัยนอร์ตันถึงได้ออกโรง
เขาเช็กแล้วว่าในซากปรักหักพังไม่มีนักศึกษาของมหาวิทยาลัยนอร์ตัน
แล้วนี่ทำไมหน่วยปฏิบัติการมหาวิทยาลัยนอร์ตันถึงออกมาได้
ผู้ว่าการเมืองมหาวิทยาลัยงงมาก “ประธานลิซิเนียสครับ พวกเขาคือ…”
ลิซิเนียสส่ายมือ ห้ามไม่ให้เขาพูด จากนั้นก็หันไปพูดกับหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการ “งั้นก็เข้าไปด้วยกันครับ”
ทั้งสองทีมเข้าไปทันที
หัวหน้านักสืบที่เหลืออยู่ช่วยทีมกู้ภัยดูแลคนบาดเจ็บ กางเต็นท์ชั่วคราว แจกจ่ายอาหาร
ในที่สุดผู้ว่าฯ ก็รู้สึกโล่งอก ความตึงเครียดที่มีอยู่ได้ผ่อนคลายลง
มีไอบีไออยู่ก็แสดงว่าตอนนี้ไม่มีทางเกิดอันตรายแล้ว
ผู้ว่าฯ ส่ายมือเพื่อบอกให้ทีมตำรวจสลับกันไปพัก
เขาเองก็รับขนมปังมาเริ่มกิน พอหันไปกลับเห็นรถคันหนึ่งขับมาด้วยความเร็วสูง
ผู้ว่าฯ ตกใจมาก
รถคันนั้นหยุดได้ทันเวลาในจังหวะที่กำลังจะชน
หัวหน้านักสืบระดับสูงเงยหน้าขึ้นก็เห็นเด็กหนุ่มรีบร้อนลงจากรถ
“ดูเหมือนจะมาช้าไป” เด็กหนุ่มดูเวลา ขมวดคิ้ว “ไอบีไอมาแล้ว”
หัวหน้านักสืบระดับสูงมองข้างรถคันนี้ทันที ตรงนั้นมีตราประจำตระกูล
ไม่มีใครในยุโรปไม่รู้จัก
ตระกูลลอเรนท์!
“สวัสดีครับ คุณคือผู้ว่าการเมืองมหาวิทยาลัยใช่ไหมครับ” เด็กหนุ่มยื่นมือออกมาจับมือผู้ว่าฯ “ผมคือโคลิน ลอเรนท์ ตระกูลลอเรนท์จะรับผิดชอบความเสียหายทั้งหมดในครั้งนี้ รวมถึงความปลอดภัยของทุกคนด้วยครับ”
ผู้ว่าฯ อึ้ง ปล่อยให้มือตัวเองถูกจับส่ายไปมา “หา? คะ ครับ พวกคุณ…”
หัวหน้านักสืบระดับสูงปาดเหงื่อ สูดลมหายใจเข้าลึก
สามอิทธิพลใหญ่ที่ทั่วโลกยอมรับว่าไม่ควรมีเรื่องด้วยวันนี้มารวมตัวกันหมดเลยเหรอ!
พวกเขามาเป็นเรื่องปกติ แต่มหาวิทยาลัยนอร์ตันกับตระกูลลอเรนท์มันเรื่องอะไรกัน
…
เวลานี้ไม่เพียงแต่ควันพิษจะยังไม่สลายไป กลับหนาแน่นมากกว่าเดิม
เวินเฟิงเหมียนมาถึงซากถล่มของโรงแรมแล้ว ในมือมีเครื่องตรวจจับผู้รอดชีวิต เขาตรวจหาพลางตะโกน “เยาเยา คุณฟู่”
เงียบมาก ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ
อยู่ท่ามกลางควันพิษเดธมานานขนาดนี้ ชุดป้องกันระดับเอสก็เริ่มกลายเป็นสีดำ
ร่างกายของเวินเฟิงเหมียนโงนเงน
เขามีโชคชะตาแบบนี้ ลูกสาวของเขาก็ต้องมาเจอด้วยเหรอ
ชุดป้องกันกลายเป็นสีดำเร็วมาก
เมื่อมันกลายเป็นสีดำทั้งหมดก็จะไม่มีประโยชน์อะไรอีก!
“คุณครับ! รีบลงมาก่อน! พวกเรามาช่วยแล้ว ใจเย็นๆ นะครับ” ลิซิเนียสเข้ามาก็เห็น เขารีบกระโดดขึ้นไปหา “พวกเราจะช่วยลูกสาวของคุณออกมานะครับ”
เวินเฟิงเหมียนก็หมดแรงแล้วจริงๆ พูดลำบาก เปล่งเสียงแทบไม่ได้ “รบกวนด้วย ต้องช่วยเธอให้ได้”
“ผู้บัญชาการ ตรงนี้ครับ!” นักสืบคนหนึ่งตะโกนด้วยความดีใจ “ตรวจพบการเต้นของหัวใจครับ”
ลิซิเนียสเดินเข้าไป คนอื่นๆ ช่วยกันยกก้อนหินออก
ด้านล่างมีคนอยู่จริงๆ
แต่ภาพเหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนตะลึง
ชายหนุ่มใช้สองมือค่อยๆ ดันตัวผู้หญิงในอ้อมอกขึ้นมา
ตรงแขนของเขามีบาดแผลน้อยใหญ่มากมาย เห็นแล้วน่าสะพรึง
เขาใช้แขนของตัวเองยันก้อนหินไว้เพื่อให้เด็กสาวมีพื้นที่หายใจ
ตอนที่เห็นใบหน้าของผู้ชายคนนี้ลิซิเนียสก็อึ้งไป
ในเวลานี้เอง ฟู่อวิ๋นเซินก็เหลือบตาขึ้นมองลิซิเนียส
หลังจากแน่ใจว่าอิ๋งจื่อจินถูกเอาตัวขึ้นไปแล้ว เรี่ยวแรงทั้งหมดของเขาก็หายไปในชั่วพริบตา หลับตาลง ล้มไปด้านหลัง
“ผู้…” ลิซิเนียสสีหน้าเปลี่ยน กลืนคำเรียกไปได้ทันเวลา รีบจับบ่าของฟู่อวิ๋นเซินไว้ “คุณ!”
โชคดีที่ไอบีไอเตรียมอุปกรณ์มามากพอ ไม่ต้องกลัวว่ากองซากเหล่านี้จะถล่มอีกครั้ง
ผู้หญิงสองคนของหน่วยปฏิบัติการมหาวิทยาลัยนอร์ตันรีบส่งตัวอิ๋งจื่อจินขึ้นรถฉุกเฉิน ใส่เครื่องช่วยชีวิตต่างๆ แล้วเริ่มทำการรักษา
ทางด้านลิซิเนียสกับนักสืบอีกคนหนึ่งได้ช่วยฟู่อวิ๋นเซินออกมาจากหลุมลึก
“ผู้บัญชาการครับ พบสิ่งนี้ครับ” นักสืบอีกคนหนึ่งวิ่งเข้ามา
เขาแบมืออก ในนั้นมีเศษเสื้อผ้าชิ้นหนึ่ง
บนเศษผ้ามีสัญลักษณ์รูปหัวกะโหลกสีดำที่ชัดเจน
สีหน้าประหลาด ราวกับกำลังเยาะเย้ยและท้าทาย
ลิซิเนียสเงียบไปชั่วครู่ “พวกเขาจงใจ”
ไอบีไอสืบหาที่มาของหัวกะโหลกสีดำนี้ไม่ได้
เพราะคนที่สวมใส่สัญลักษณ์นี้ล้วนไม่มีรอยนิ้วมือ กรุ๊ปเลือด หรือใบหน้าที่ตรงกับคลังข้อมูลระดับโลก
เรื่องเดียวที่ยืนยันได้คือ เป็นกลุ่มอิทธิพลที่อยู่ไม่สุข
ในประวัติศาสตร์ ที่ใดก็ตามที่ปรากฏสัญลักษณ์นี้ แม้จะมีน้อยมาก แต่ก็เกิดการบาดเจ็บและล้มตายจำนวนไม่น้อย
“เก็บไว้ให้ดี” ลิซิเนียสสั่ง “เดี๋ยวเอากลับไปตรวจสอบที่หน่วย”
ทีมกู้ภัยทั้งสองทีมยังได้เจอพวกคนที่อยู่ในรายชื่อ
เรื่องโชคดีก็คือ คนเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในศูนย์กลางของควันพิษ และยังมีลมหายใจอยู่
ลิซิเนียสไม่ได้ส่งข้อความเข้ากลุ่มผู้บริหารระดับสูงของพวกเขา แค่ส่งหาแอนโทนี่
มีแค่เขากับแอนโทนี่ที่เคยเห็นใบหน้าแท้จริงของฟู่อวิ๋นเซิน
[ผู้บัญชาการยังมีชีวิตอยู่]
เขาส่งข่าวได้แค่เท่านี้
ใช่ ยังมีชีวิตอยู่
แต่จะฟื้นไหมยังไม่รู้
…
ทางด้านประเทศจีน
ผ่านพ้นช่วงเย็น คนติดตามข่าวยิ่งมีมากขึ้น
คำค้นยอดนิยมยังคงขึ้นอันดับสูงไม่มีวี่แววจะลง
[อ๊ากกก ตกลงมีข่าวบ้างหรือยัง ช่วยส่งข่าวหน่อยได้ไหม!]
[เส้นทางที่บินไปเมืองมหาวิทยาลัยหยุดให้บริการแล้ว อยากไปก็ไม่ได้ ฉันใจคอไม่ดีมาตั้งแต่เย็นแล้วเนี่ย]
[ฉันรู้ว่าเฟิงเย่ว์กับพวกเถิงอวิ้นเมิ่งหนีออกมาได้แล้ว เทพอิ๋งล่ะ เทพอิ๋งสบายดีไหม]
จนกระทั่งมีคนที่รู้รายละเอียดออกมาเปิดเผยข้อมูล
[มีข่าวล่าสุด เกิดควันพิษขึ้นในเมืองมหาวิทยาลัย ทีมกู้ภัยก็เข้าไปไม่ได้ อีกทั้งในบรรดาคนที่ถูกช่วยออกมาได้ก็ไม่มีชื่อของอิ๋งจื่อจิน]
พอเวยปั๋วโพสต์นี้ปรากฏก็มีคอมเมนต์ที่รับไม่ได้ตามมาด้านล่าง
[ข่าวลือ! ข่าวลือ!]
[ไม่เชื่อ ฉันไม่เชื่อเด็ดขาด เทพอิ๋งจะตายได้ยังไง เธอยังต้องถ่ายเอ็มวีกับลูกอวี๋อีกนะ!]
[ตอนนี้ก็ไม่มีข่าวของลูกอวี๋เลย ใจคอไม่ดี]
แฟนคลับของฉินหลิงอวี๋วิเคราะห์ได้จากในไลฟ์สดว่าฉินหลิงอวี๋น่าจะไปช่วยคนแล้ว
ต่อมาห้องไลฟ์ก็ถูกตัด พวกแฟนคลับเลยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ฉินหลิงเยี่ยนอยู่ยุโรป แต่ก็ให้ความสนใจเรื่องในประเทศจีน
เขาถอนหายใจเบาๆ ยื่นโทรศัพท์มือถือให้ฉินหลิงอวี๋ที่อยู่ข้างกัน “เธอจะรายงานตัวว่าปลอดภัยให้แฟนคลับรู้หน่อยไหม”
แขนข้างหนึ่งของฉินหลิงอวี๋เข้าเฝือกอยู่ สีหน้าซีดเซียว