คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 448 ตระกูลอิ๋งคู่ควรเหรอ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 448 ตระกูลอิ๋งคู่ควรเหรอ

พอได้ยินแบบนี้เวินเฟิงเหมียนก็เงียบไปชั่วขณะ จากนั้นก็ส่ายหน้า “ยี่สิบกว่าปีแล้ว อะไรที่ควรเปลี่ยนก็เปลี่ยนไปแล้ว ตระกูลจี้ก็ซับซ้อน กลับไปจะยิ่งยุ่งยาก”

อุบัติเหตุห้องทดลองบนเกาะครั้งนั้นไม่ได้เกี่ยวพันแค่ตระกูลจี้

ถึงแม้ตระกูลจี้จะไม่ค่อยปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนมาตลอด แต่ภายในก็ไม่ได้สงบเป็นระเบียบเรียบร้อย

สองสายตระกูลมักจะขัดแย้งกันอยู่บ่อยครั้งเรื่องโปรเจ็กต์ทดลอง

เรื่องผ่านมานานมาก เวินเฟิงเหมียนไม่อยากตามขุดคุ้ย แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่รู้สาเหตุที่การทดลองล้มเหลวอย่างกะทันหัน เกรงว่าจะเป็นฝีมือคนในตระกูลจี้สักคน

อย่างไรเสียโปรเจ็กต์ทดลองนี้ก็สำคัญมาก หากสำเร็จก็จะนำเกียรติยศชื่อเสียงมาให้อย่างไร้ขีดจำกัด ใครๆ ก็อยากได้

เพียงแต่ตอนนั้นคนตระกูลจี้ที่ถูกส่งชื่อไปร่วมโปรเจ็กต์นี้มีอยู่แค่สิบสามคน

ตระกูลจี้ใหญ่มาก แตกออกไปหลายสาย เวินเฟิงเหมียนก็ไม่ได้รู้จักทุกคน

เขามีชีวิตรอดออกจากเกาะแห่งนั้น แต่ช่วงหลายวันนั้นกลับมีสติไม่เต็มร้อย มองไม่เห็นใคร

อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเบาๆ “เข้าใจแล้วค่ะ”

เธอได้ทำความรู้จักตระกูลจี้มากขึ้นจากฟู่อวิ๋นเซิน

ตระกูลจี้ไม่มีการเรียกนายใหญ่อะไรแบบนี้ วัดกันแค่ความสำเร็จในงานวิจัย

พวกสายที่ตอนนี้ค่อนข้างจะมีความเคลื่อนไหว หนึ่งในนั้นคือจี้อี้หางพี่ชายคนรองของเวินเฟิงเหมียน

ส่วนอีกสองคนที่อยู่ในสายเดียวกับจี้อี้หางมีความสัมพันธ์เป็นศัตรูกัน ตอนนี้กำลังแย่งชิงโปรเจ็กต์ทดลองที่สำคัญอยู่

หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแพ้ บารมีก็จะลดฮวบ

วนเวียนเป็นวัฏจักรเช่นนี้

ดังนั้นช่วงยี่สิบกว่าปีที่เวินเฟิงเหมียนออกมา ตระกูลจี้ก็ได้เปลี่ยนแปลงไปมาก

มีสายที่ขึ้นมามีบารมี และก็มีสายที่ตกต่ำอยู่ตลอด

แต่ถ้าตอนนั้นเวินเฟิงเหมียนทำการทดลองครั้งนั้นสำเร็จก็จะมีสถานะมั่นคงอย่างสิ้นเชิงอยู่ในสายนี้ของตระกูลได้

น่าเสียดายที่สุดท้ายล้มเหลว ทั้งยังมีคนตายไปไม่น้อย

“เยาเยา ตระกูลจี้ซับซ้อน อย่าไปยุ่ง” เวินเฟิงเหมียนไอ “ลูกสอบได้อันดับหนึ่ง ตระกูลจี้อาจมาหาลูก เพื่อให้ลูกไปเข้าร่วมทีมวิจัยของพวกเขา”

“ไม่ไปค่ะ” อิ๋งจื่อจินตอบ “หนูขี้เกียจ”

“พ่อก็หลบหน้ามานานเกินไปแล้ว ยังไงซะพวกเขาก็คิดว่าพ่อตายไปแล้ว” เวินเฟิงเหมียนพยักหน้า “แต่ลุงรองของลูกเป็นคนใช้ได้ ถ้าอีกหน่อยได้เจอกันทำความรู้จักไว้ก็ได้”

พ่อแม่ของเวินเฟิงเหมียนเป็นนักวิจัยทั้งคู่ จากไปเร็ว ตายไปตั้งแต่เขาอายุห้าขวบ

และก็เป็นเพราะเข้าร่วมการทดลองหลายโปรเจ็กต์ ถูกกัมมันตรังสีมากเกินไป ทำให้ร่างกายเสื่อมโทรมจนตาย

ถึงแม้จี้อี้หางจะโตกว่าเขาแค่สองปี แต่ถ้ามีอะไรก็จะแบ่งให้เขาก่อน

เวินเฟิงเหมียนถอนหายใจเบาๆ

ถ้าเขากลับไป เกรงว่าก็มีแต่จะสร้างความวุ่นวายให้จี้อี้หาง

คนบางคนในตระกูลจี้ไม่ใช่คนดี

โดยเฉพาะเมื่อการทดลองครั้งนั้นล้มเหลว ทั้งตระกูลจี้ต่างถูกถามหาความรับผิดชอบ

“พ่อมาฝึกกับหนูหน่อยค่ะ” อิ๋งจื่อจินเงยหน้าขึ้น “ถึงแม้พรสวรรค์จอมยุทธ์ในตัวพ่อจะหายไปแล้ว แต่ยาเม็ดนั้นที่หนูให้กินสามารถทำให้ฝึกวิทยายุทธ์ได้ค่ะ เอาไว้ป้องกันตัวก็ยังดี”

ยาที่เธอปรุงออกมาครั้งนั้นย่อมแบ่งให้เวินเฟิงเหมียนหนึ่งเม็ดด้วย

“ก็ได้” เวินเฟิงเหมียนคิดแล้วตอบตกลง “ตอนนี้ลูกดังใหญ่แล้ว กลายเป็นเป้าในสายตาคนไม่น้อย พ่อจะเป็นตัวถ่วงของลูกไม่ได้”

อัจฉริยะทางด้านวิทยาศาสตร์ย่อมเป็นเป้าหมายในการชิงตัวของทุกฝ่าย จึงได้รับการคุ้มกันจากประเทศ

แต่ก็มักมีบางกลุ่มอิทธิพลที่กอดความคิดที่ว่า ‘ในเมื่อครอบครองไม่ได้ก็ทำลายเสีย’

นับตั้งแต่ผลสอบของอิ๋งจื่อจินออกมาจนถึงตอนนี้ได้มีคนสามกลุ่มลงมือไปแล้ว

แต่พวกเขายังไม่ทันได้แม้แต่จะแตะต้องอิ๋งจื่อจินก็ถูกอวิ๋นซานกับอวิ๋นอู้ที่ซ่อนตัวอยู่จัดการทิ้ง

อิ๋งจื่อจินย่อมไม่มีทางใช้คัมภีร์ลับของโลกจอมยุทธ์ เธอเขียนอีกหนึ่งฉบับให้เวินเฟิงเหมียน

ความเร็วในการสร้างกำลังภายในต้องดูที่พรสวรรค์ด้วย เร็วสุดสิบนาทีก็มี แต่บางคนก็ช้าได้ถึงห้าปี

เวินเฟิงเหมียนนั่งอยู่ที่โซฟา เริ่มฝึกตามวิธีที่เขียนไว้บนกระดาษ

เป็นไปตามที่อิ๋งจื่อจินคาดไว้ ใช้เวลาไม่นาน

หนึ่งชั่วโมงต่อมาเวินเฟิงเหมียนก็สร้างกำลังภายในได้สำเร็จ

เวินเฟิงเหมียนหายใจช้าๆ ยิ้มพลางพูด “รู้สึกตัวเบาขึ้นเยอะเลย โลกจอมยุทธ์มหัศจรรย์มาก”

อิ๋งจื่อจินครุ่นคิดเล็กน้อย “พ่อคะ พ่อเป็นจอมยุทธ์ที่มีพรสวรรค์ ตระกูลจี้ในโลกจอมยุทธ์ทำไมถึงไม่รับพ่อกลับไป”

ต่อให้เป็นโลกจอมยุทธ์ก็ไม่ใช่ว่าเด็กทุกคนจะมีพรสวรรค์จอมยุทธ์ติดมาด้วย

จอมยุทธ์ที่มีพรสวรรค์คิดเป็นสัดส่วนแค่ห้าเปอร์เซ็นต์ของจอมยุทธ์ทั้งหมด

อีกทั้งจอมยุทธ์ที่มีพรสวรรค์ก็มีแบ่งว่าแข็งแกร่งหรืออ่อนแอ

ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีการฝึกวิทยายุทธ์ พรสวรรค์ในตัวเวินเฟิงเหมียนยังสามารถช่วยชีวิตเขาไว้ได้

เห็นได้ชัดว่าเขามีพรสวรรค์จอมยุทธ์ที่แข็งแกร่ง

“ตอนนั้นสายตระกูลทางพ่อไม่ได้ถูกเห็นความสำคัญ ไม่ได้เจอคนในตระกูลที่อยู่ในโลกจอมยุทธ์” เวินเฟิงเหมียนถอนหายใจ “นี่ก็ยังดีที่ไม่ได้กลับไป ฟังเรื่องในโลกจอมยุทธ์ที่พวกลูกเล่าแล้วพ่อรับไม่ได้”

โลกจอมยุทธ์โหดเหี้ยมนองเลือดเกินไป เกิดการสู้กันตายได้ทุกวัน

ถ้าไปใช้ชีวิตอยู่ในโลกจอมยุทธ์จริง จะสามารถรอดมาจนถึงทุกวันนี้ได้ไหมยังไม่รู้

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “พ่อคะ ช่วงสองวันนี้หนูจะไปลาพวกคุณตาค่ะ จากนั้นพวกเราไปตี้ตูกัน”

เวินเฟิงเหมียนไม่คัดค้านอะไร เขาแค่ยิ้ม “ลูกโตแล้ว ตัดสินใจเองได้เลยนะ”

ณ เมืองตี้ตู

บ้านตระกูลซิว

ซิวเหยียนหงุดหงิดมากในช่วงหลายวันมานี้

เดิมทีเธอเป็นดาราของเทียนสิงมีเดีย ตอนนี้เทียนสิงมีเดียล้มแล้ว งานของเธอในวงการบันเทิงก็เสียหายอย่างหนัก

และสิ่งสำคัญยิ่งกว่าคือ เธอได้ยินสมาชิกตระกูลซิวไม่ใช่แค่คนเดียว บอกว่าซิวอวี่จะกลับมาแล้ว

ครั้งนี้แม้แต่ผู้เฒ่าซิวก็ไม่ได้ขัดขวางอีก กลับจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับซิวอวี่ด้วยซ้ำ รับซิวอวี่กลับมาอย่างสมเกียรติ

เพราะซิวอวี่รู้จักกับคนที่สอบได้อันดับหนึ่งคะแนนเต็มงั้นเหรอ

อย่างน้อยเธอก็ร้องได้เต้นเป็น แถมยังมีน้องชาย ซิวอวี่มีความสามารถอะไร

ซิวเหยียนก็รู้ว่าเธอคงห้ามไม่ได้ ช่วงหลายวันนี้เธอจึงไม่ได้กลับบ้านตระกูลซิว พักอยู่ในคอนโดที่ซื้อไว้ในเมืองอยู่ตลอด

“คุณหนูใหญ่” บอดี้การ์ดคนหนึ่งของตระกูลซิวเคาะประตู เมื่อได้รับอนุญาตก็เข้าไป พูดเสียงเบา “ตระกูลอิ๋งที่คุณหนูให้สืบมีความเคลื่อนไหวอีกแล้วครับ”

สีหน้าของซิวเหยียนชะงัก “ความเคลื่อนไหวอะไร”

“อิ๋งเจิ้นถิงนายใหญ่ตระกูลอิ๋งเข้าโรงพยาบาลเพราะตับวายเฉียบพลันครับ กำลังเร่งหาตับไปปลูกถ่าย” บอดี้การ์ดพูด “คนในตระกูลอิ๋งหลายคนไปตรวจดูความเข้ากัน แต่ก็ไม่มีของใครที่ใช้ได้ รวมถึงลูกชายแท้ๆ ของอิ๋งเจิ้นถิง คุณนายอิ๋งกำลังร้อนใจนั่งไม่ติดครับ”

ซิวเหยียนหรี่ตา “ปลูกถ่ายตับ…อิ๋งจื่อจินไปตรวจหรือยัง”

“แน่นอนว่ายังครับ” บอดี้การ์ดส่ายหน้า “ตระกูลอิ๋งหาตัวเธอไม่เจอครับ”

หรือพูดอีกอย่างก็คือ ตระกูลอิ๋งคู่ควรเหรอ

ขนาดวงการไฮโซของตี้ตูตระกูลอิ๋งยังเบียดเข้ามาอยู่ไม่ได้

บอดี้การ์ดพูดต่อ “อีกอย่าง กรุ๊ปเลือดของอิ๋งจื่อจินมีความพิเศษขนาดนั้น มีความเป็นไปได้แปดสิบเปอร์เซ็นต์ที่จะเข้ากันไม่ได้ครับ ต่อให้ใช้ได้ก็ไม่มีประโยชน์”

ซิวเหยียนครุ่นคิดอยู่สักพัก แสยะยิ้ม “ไม่สิ มีประโยชน์แน่นอน”

เธอเคาะโต๊ะ “ช่วยสงเคราะห์ดีกว่า เอาเรื่องของพวกเขาไปเปิดเผยในเน็ต มีรายการตามหาญาติไม่ใช่เหรอ เอาไปออกรายการนั้นแหละ ฉันอยากช่วยพวกเขาหาตับมาปลูกถ่าย”

บอดี้การ์ดอึ้ง “เปิดเผยเหรอครับ”

“ใช่ เปิดเผย” สีหน้าของซิวเหยียนเรียบเฉย “ฉันจำได้ว่ารายการตามหาญาติรายการนี้ตอนก่อนเป็นพ่อแม่ที่ทอดทิ้งลูก เด็กคนนั้นถูกพ่อแม่บุญธรรมเลี้ยงดูเป็นอย่างดี”

“ต่อมาพ่อป่วย ต้องการรับบริจาคอวัยวะ ก็เลยมาออกรายการนี้ตามหาลูก จึ๊ แน่ล่ะ ลูกของเขามีเหรอจะช่วยเขา จนจบรายการก็ไม่มาปรากฏตัว สมน้ำหน้า”

“คือ…” บอดี้การ์ดลังเล “แต่อิ๋งจื่อจินไม่เหมือนกัน สถานะของเธอสูงมาก สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ ไม่มีใครกล้าใส่ร้ายเธอ”

ซิวเหยียนยิ้ม พูดแฝงความนัย “บนโลกนี้ไม่เคยขาดคนที่แอบอ้างศีลธรรม นายคอยดูเถอะ พอถึงเวลาจะต้องมีแม่พระมากมายออกมาโจมตียัยนั่น แม้แต่พ่อตัวเองก็ไม่ช่วย ด่าทออย่างรุนแรง”

บอดี้การ์ดไม่รู้จักกับดักในโลกไซเบอร์ แต่พอได้ยินซิวเหยียนพูดแบบนี้ก็รู้สึกว่ามีเหตุผล “คุณหนูใหญ่ เกิดเรื่องนี้ลามมาถึงคุณหนูจะทำยังไงครับ”

พวกเขาก็รู้เรื่องที่ตระกูลมู่ ตระกูลเนี่ย และตระกูลตี้อู่ร่วมกันจัดงานเลี้ยงฉลองเลื่อนระดับการศึกษาให้อิ๋งจื่อจิน

ตระกูลชั้นแนวหน้าสามตระกูลของตี้ตูยืนอยู่ด้านหลังเธอ ใครจะกล้าไปมีเรื่องด้วย

เดิมทีซิวเหยียนเข้ามาอยู่ในบ้านตระกูลซิวได้ก็เพราะน้องชาย หากว่ากันตามสายเลือดย่อมเทียบซิวอวี่ไม่ติด

สายอื่นของตระกูลซิวจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ยอมรับสถานะของซิวเหยียน เป็นผู้เฒ่าซิวที่กำจัดพวกเสียงเห็นต่างด้วยตัวเอง

ตอนนี้ซิวอวี่กำลังจะกลับมา ซิวเหยียนรู้ว่าสถานะของเธอก็จะลดลงไปอีก ถึงขั้นที่อาจถูกไล่ออกจากบ้านตระกูลซิว

เธอต้องตัดกำลังของซิวอวี่เสียตั้งแต่ตอนนี้

“ก็แค่สร้างกระแส ไม่ได้จะเอาตับยัยนั่นเสียหน่อย” ซิวเหยียนเสยผม “พอเปิดเผยเรื่องนี้ไป คนที่ซวยก็มีแค่ตระกูลอิ๋ง ส่วนเหตุการณ์หลังจากนั้นจะเป็นไง มันเป็นเรื่องที่ตระกูลอิ๋งควรคิดเอาเอง”

“ตระกูลอิ๋งจะล่มสลายก็ล่มไป เกี่ยวอะไรกับฉันด้วย”

บอดี้การ์ดพูดด้วยความเคารพ “เชิญคุณหนูสั่งมาได้เลยครับ”

“เรื่องนี้พวกนายไม่ต้องยุ่ง พยายามอย่าให้เกี่ยวข้องกับตระกูลซิว” ซิวเหยียนดื่มชา “ฉันมีคนไปจัดการให้โดยเฉพาะ”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท