ตอนที่ 577 ตบหน้าตระกูลเมิ่ง ข่าวสะเทือนฟ้าสะเทือนดิน
ฝูเฉินก็แปลกใจเหมือนกัน
วันนั้นที่เขาได้เจอฉาเซิ่ง ถึงแม้หญิงชราจะไม่ได้ขี้หงุดหงิดแบบที่เล่าลือกัน แต่อยู่ด้วยยากแน่นอน
แย่งขากระต่ายย่างกับเด็กหนุ่มอย่างเขา ทั้งยังไล่เขาอย่ามาเกะกะสายตา
แต่ถึงแม้ฉาเซิ่งจะเป็นคนแบบนี้ อิ๋งจื่อจินกลับเข้ากับฉาเซิ่งได้ดี
ฝูเฉินก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่เขาชินแล้ว
ช่วยไม่ได้ ปรมาจารย์ก็เป็นปรมาจารย์อยู่วันยังค่ำ
มักจะทิ้งระเบิดได้เสมอโดยที่คนอื่นไม่รู้ตัว
ดวงตาของอันหลิงเบิกกว้างยิ่งกว่าเดิม พูดเสียงหลง “พี่ว่าไงนะ คุณอิ๋งพาพี่ไปเจอเหรอ”
“ใช่ๆ ครั้งหน้าถ้ามีเรื่องดีๆ แบบนี้อีกฉันจะพานายไปเจอด้วย” ฝูเฉินดันตัวอันหลิง “นายรีบไปช่วยฉันปรุงยาเร็วเข้า ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวผู้อาวุโสบ้านฉันออกมาฉันจะถูกถีบตกทะเลสาบอีก”
อันหลิงทำได้เพียงหยิบสมุนไพรขึ้นมาก่อน แล้วเริ่มจัดการเก็บเอาส่วนดี แต่ก็อดถามอีกไม่ได้ “คุณจื่อจินรู้จักกับฉาเซิ่งได้ยังไงเหรอ ครั้งล่าสุดที่ฉาเซิ่งเผาสวนสมุนไพรของตัวเองก็แทบไม่ออกมาอีกเลย”
“เรื่องแบบนี้ฉันจะไปรู้ได้อย่างไร” ฝูเฉินพูดเสียงเนือย “นายยุ่งเรื่องคุณอิ๋งให้น้อยๆ หน่อย”
อันหลิง “…”
เหมือนน้องสาวของเขาไม่มีผิด เล่นเน็ตมากไป
อันหลิงเริ่มช่วยฝูเฉินปรุงยาอย่างยอมจำนน
เขาเอาสมุนไพรที่เตรียมเสร็จแล้วใส่หม้อยา อยู่ๆ ก็นึกขึ้นมาได้เรื่องหนึ่ง
ฉาเซิ่งกับอิ๋งจื่อจินเป็นเพื่อนต่างวัยกัน ตระกูลเมิ่งรังแกเธอขนาดนี้ ตอนนี้ยังจะไปขอสมุนไพรจากฉาเซิ่งอีก จะได้กลับไปเหรอ
…
บนเขาที่ห่างจากสมาพันธ์โอสถไม่ไกล
บ้านพักอาศัยของฉาเซิ่ง
หลังจากที่หญิงชราตัดสินใจออกจากเขาก็ย้ายกลับมาอีก
ที่เธอยอมออกจากเขาก็มีสาเหตุมาจากการบังเอิญเจออิ๋งจื่อจิน
แต่สิ่งสำคัญที่สุดเป็นเพราะแพทย์ผิดจรรยาบรรณปรากฏตัวที่โลกแพทย์แผนโบราณอีกแล้ว
ความแค้นระหว่างฉาเซิ่งกับแพทย์ผิดจรรยาบรรณฝังลึกมาก ทั่วทั้งโลกแพทย์แผนโบราณไม่ขออยู่ร่วมกับแพทย์ผิดจรรยาบรรณ
“ยัยหนูอิ๋ง ไม่รู้ว่าเธอเคยได้ยินชื่อผู้นำตระกูลคนนั้นของตระกูลฝูหรือเปล่า เป็นผู้ก่อตั้งสำนักเทียนอี เธอรับลูกศิษย์ไว้ทั้งหมดสิบเจ็ดคน” หญิงชราพูด “ลูกศิษย์คนที่เก้าเป็นคนเก่งฝีมือดีมาก เป็นทั้งจอมยุทธและแพทย์แผนโบราณที่พบเจอได้ยาก ร่างกายของเธอก็มีความพิเศษ เลือดของเธอใช้ถอนพิษได้”
“แต่น่าเสียดายตรงที่ ปีที่เธออายุยี่สิบหกถูกแพทย์ผิดจรรยาบรรณทำร้าย ก็คงถูกจับไปทำยานั่นแหละ เฮ้อ”
อิ๋งจื่อจินเข้าใจ แววตาหม่นลง
ฝูซีเคยเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟัง
แพทย์ผิดจรรยาบรรณเดินบนเส้นทางผิดๆ มีความสามารถเก่งกว่าแพทย์แผนโบราณระดับเดียวกัน ฝีมือการต่อสู้ก็เก่งกว่า
ฝูซีเอาชนะไม่ได้ไม่ใช่เพราะความสามารถของเธอไม่สูง
ทั่วทั้งโลกแพทย์แผนโบราณ วรยุทธ์ของฝูซีสูงชนิดที่ติดเพดาน
แต่ปัญหาอยู่ที่มองผิวเผินแพทย์ผิดจรรยาบรรณไม่ต่างอะไรกับแพทย์แผนโบราณ ยากที่จะแยกแยะ ร่องรอยก็ไม่มี
ต่อให้เป็นฝูซีก็จนปัญญาเหมือนกัน
“ฉันมีลางสังหรณ์ว่า อีกเดี๋ยวแพทย์ผิดจรรยาบรรณก็จะออกอาละวาดอีกครั้งแล้ว” ฉาเซิ่งพูดเสียงขรึม “ยัยหนู ถ้าครั้งนี้พวกเขาออกมา เกรงว่าเธอจะเป็นเป้าหมายสำคัญของพวกเขา ระวังตัวให้ดี”
ฟู่อวิ๋นเซินเหลือบตาขึ้น “มีผมอยู่ทั้งคน”
“นายอยู่นี่แหละถึงน่าโมโห” ฉาเซิ่งมองบน
“นายก็ต้องระวังด้วย เลือดของนายมีความพิเศษ มหัศจรรย์ยิ่งกว่าเลือดของลูกศิษย์คนที่เก้าของฝูซีเสียอีก ดีไม่ดีพวกมันก็จะจับนายเหมือนกัน”
“คงไม่ได้หรอกครับ” ฟู่อวิ๋นเซินยิ้มมุมปาก พูดอย่างใจเย็น
“วรยุทธของผมร้อยห้าสิบปีแล้ว ผมรู้สึกว่าอีกไม่กี่วันก็จะร้อยหกสิบปีแล้ว”
ต่อให้แพทย์ผิดจรรยาบรรณจะเก่งแค่ไหน อย่างมากก็สู้ได้แค่จอมยุทธที่มีวรยุทธเจ็ดสิบแปดสิบปี
ยังห่างชั้นกับปรมาจารย์จอมยุทธอีกเยอะ
หญิงชรามือสั่น อ้าปากค้าง “นายนี่มัน…”
ฝึกได้เร็วขนาดนี้ใครจะไปสู้ได้
ถ้าให้เวลาฟู่อวิ๋นเซินอีกสิบปี เกรงว่าวรยุทธ์ของเขาคงอยู่เหนือผู้นำตระกูลเซี่ยแล้ว
ฉาเซิ่งเอามือทาบอก “ยัยหนู เธอบอกว่าจะไม่อยู่เดือนกว่าเหรอ”
“ค่ะ” อิ๋งจื่อจินไม่ปิดบังเหมือนตอนอยู่สมาพันธ์โอสถแล้ว เธอพยักหน้าเบาๆ “จะเก็บตัวค่ะ อยากบรรลุปรมาจารย์จอมยุทธ”
ฉาเซิ่งตะลึงอีกครั้ง พูดออกมาทันที “อู้หูว”
ปรมาจารย์จอมยุทธ์ บทจะบรรลุก็บรรลุได้เหรอ ทำอย่างกับว่านั่งดื่มชาก็บรรลุได้
พวกเทพเล่นกับแค่พวกเทพด้วยกันสินะ
ฟู่อวิ๋นเซินเหลือบตาขึ้น พูดกึ่งยิ้ม “คุณยายใช้โทรศัพท์ไม่เป็นสักที แต่ศัพท์วัยรุ่นคล่องเชียวนะครับ”
ฉาเซิ่งตอบอย่างไม่เกรงใจ “นี่ไม่ใช่เพราะจะได้ตามเด็กวัยรุ่นอย่างพวกเธอทันหรอกเหรอ เกิดพอถึงเวลาฉันฟังไม่เข้าใจจะทำอย่างไร”
ตอนนี้โลกแพทย์แผนโบราณกับโลกจอมยุทธแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม รุ่นสูงวัยทั้งหมดกับแปดสิบเปอร์เซ็นต์ของรุ่นหนุ่มสาวยังคงหัวโบราณ ปฏิเสธเทคโนโลยีจากโลกภายนอกทุกชนิด
ตระกูลเซี่ยหนักสุด ถ้าเห็นของจำพวกโทรศัพท์มือถือจะใช้กฎตระกูลลงโทษทันที
แต่ยังมีหนุ่มสาวยี่สิบเปอร์เซ็นต์ที่ชอบเล่นเน็ต ไปเที่ยวข้างนอก
ในอนาคตมีแนวโน้มสูงว่าโลกแพทย์แผนโบราณกับโลกจอมยุทธจะต้องยอมรับเทคโนโลยีใหม่ๆ แน่นอน
ใครก็ขวางไม่ได้ ก็แค่จะช้าหรือเร็วเท่านั้น
“ครับ งั้นคุณยายพักผ่อน” ฟู่อวิ๋นเซินพูด “พวกเราไปก่อน ผมจะไปเตรียมที่สำหรับเก็บตัวให้เยาเยาด้วย”
ฉาเซิ่งส่ายมือ “อยากได้สมุนไพรอะไรก็มาเอาได้เสมอนะ”
พอโรคทางใจของเธอดีขึ้น ร่างกายก็เบาลงไม่น้อย
“หนุ่มน้อย เจอกันครั้งหน้าหวังว่านายจะ…” สายตาของฟู่อวิ๋นเซินหยุดอยู่ที่หัวโล้นของเด็กน้อยหลายวินาที ทันใดนั้นก็ยิ้มออกมา “มีผมขึ้นสักสามเส้น”
เด็กน้อยเสียใจอีกรอบ แต่เขาไม่เข้าใจ “ทำไมต้องสามเส้นด้วยครับ”
“หืม? เพราะนายจะได้มีชื่อใหม่ว่าโล้นสามเส้นไงล่ะ”
“…”
เด็กน้อยไปนั่งตรงมุมกำแพงแล้วเริ่มกุมหัวร้องไห้
ฉาเซิ่งทนดูต่อไปไม่ไหว เริ่มเหวี่ยงเสียมไล่คน
“ไปๆ อย่ามารังแกเด็ก รีบไปเลยไป”
ฟู่อวิ๋นเซินจับมืออิ๋งจื่อจินเดินออกจากประตู
เขาครุ่นคิดพลางพูด “ดูสิ อีกหน่อยพี่ชายเรียกเธอว่าบรรพบุรุษ เธอจะดีใจไหม หืม เยาเยา”
จะคำเรียกอะไรก็ตาม พอออกมาจากปากของเขามักมีมนต์เสน่ห์บางอย่าง ชวนดึงดูด
ทำเล่นอยู่เรื่อย
“ไม่ดีใจ” อิ๋งจื่อจินเหลือบมองเขา “แก่ไป”
เรียกตัวเองว่าพี่ชาย เรียกเธอว่าบรรพบุรุษ ต้องมีงานอดิเรกแบบไหนกัน
“งั้นก็เด็กน้อยเหมือนเดิมแล้วกัน” ฟู่อวิ๋นเซินล้วงช็อกโกแลตออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
“เด็กน้อย กินไหม”
อิ๋งจื่อจินรับมาพลางชม “ผู้บัญชาการ ทำตัวเป็นกล่องขนมแบบนี้ใช้ได้เลยนะ”
เหมือนกระเป๋าหน้าของโดราเอมอน ในนั้นมีทุกอย่าง
ทั้งสองคนเดินต่อ
ไปเจอกับกลุ่มคนจากตระกูลเมิ่ง
เมิ่งหว่านก็อยู่ในนั้นด้วย
พอเห็นอิ๋งจื่อจินเธอก็สีหน้าเปลี่ยน นึกถึงความอับอายเมื่อเช้าที่สมาพันธ์โอสถ รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง
ทำไมไปที่ไหนก็เจอแต่อิ๋งจื่อจิน
ตอนนี้เมิ่งหว่านเหม็นขี้หน้าอิ๋งจื่อจินมาก นอกจากเรื่องเมิ่งชิงเสวี่ยได้รับบาดเจ็บกระอักเลือดแล้ว ยังมีอีกสาเหตุหนึ่ง
ก็คือเรื่องที่อิ๋งจื่อจินแข่งกับเมิ่งชิงเสวี่ยในงานล่าสัตว์ฤดูหนาว ไม่นานข่าวก็แพร่ไปทั่วโลกแพทย์แผนโบราณ รู้ไปถึงหูสามตระกูลใหญ่ของโลกจอมยุทธ์อย่างตระกูลหลิน เซี่ย เย่ว์ และตระกูลใหญ่ๆ อีกหลายตระกูล
เมิ่งชิงเสวี่ยเป็นอันดับหนึ่งในรุ่นหนุ่มสาวของโลกแพทย์แผนโบราณ เรื่องนี้เป็นที่ทราบกันดี
แต่ตอนนี้แม้แต่เธอยังแพ้ ไม่เท่ากับหมายความว่าอันดับในโลกแพทย์แผนโบราณต้องเปลี่ยนแล้วเหรอ
แน่นอนว่าการแข่งชนะเมิ่งชิงเสวี่ยไม่ได้หมายความว่าฝีมือการรักษาของอิ๋งจื่อจินจะเป็นอันดับหนึ่งในโลกแพทย์แผนโบราณ อย่างไรเสียสูงกว่านั้นยังมีแพทย์แผนโบราณรุ่นอาวุโสกว่า
แต่นี่หมายความว่า วันข้างหน้าอิ๋งจื่อจินจะเจริญก้าวหน้าจนกลายเป็นแพทย์แผนโบราณอันดับหนึ่งได้แน่นอน
ตระกูลเมิ่งตั้งใจบ่มเพาะเมิ่งชิงเสวี่ยมานานหลายปีขนาดนี้ เพียงชั่วพริบตาชื่อเสียงก็ถูกคนจากตระกูลเล็กๆ แย่งไประหว่างทาง
เรื่องนี้ทำใจไม่ได้จริงๆ
เมิ่งหว่านอดพูดขึ้นไม่ได้ “พวกเธอก็มาพบฉาเซิ่งเหรอ ไม่ได้เจอล่ะสิ”
ฟู่อวิ๋นเซินเหลือบตาขึ้น กวาดตามองไป “พวกคุณไม่ได้เจอแน่นอน”
“หนุ่มน้อย เธอยังไม่มีสิทธิ์มาแสดงความคิดเห็นเรื่องของตระกูลเมิ่ง” เมิ่งหว่านก็รู้สึกว่าฟู่อวิ๋นเซินขัดหูขัดตาเหมือนกัน
โลกแพทย์แผนโบราณกับโลกจอมยุทธมีคนเก่งๆ ตั้งมากมาย ไม่รู้จริงๆ ว่าเมิ่งชิงเสวี่ยถูกใจผู้ชายที่มาจากโลกปุถุชนได้อย่างไร
เมิ่งหว่านแสยะยิ้ม เดินขึ้นหน้าหนึ่งก้าวแล้วพูดเสียงดัง “ฉาเซิ่ง ตระกูลเมิ่งมาขอสมุนไพร”
พอเธอพูดจบก็มีเสียงเย็นชาดังมาจากด้านใน “ไม่ให้ ไสหัวไป”
รอยยิ้มของเมิ่งหว่านยังไม่ทันผุดขึ้นก็ชะงักอยู่แบบนั้น ใบหน้าเริ่มแดง
ไหนว่าเลิกเก็บตัวแล้วไง
ทำไมฉาเซิ่งไม่ไว้หน้าแม้แต่ตระกูลเมิ่ง
ฟู่อวิ๋นเซินก็ไม่สนใจคนพวกนี้อีก เขาหันไป “เยาเยา ไปเถอะ”
หลังจากทั้งสองคนไปแล้ว ผ่านไปไม่กี่วินาทีเด็กน้อยผู้ช่วยก็วิ่งออกมา หัวโล้นๆ ตะโกนออกไป
“ยายฉาบอกว่า ไม่ให้พวกคุณเข้าพบ ไสหัวไปให้หมด”
คนตระกูลเมิ่งต่างหน้าเสีย
แต่ก็ต้องรักษามารยาทไว้
เมิ่งหว่านครุ่นคิดอยู่สักพักแล้วยิ้มอย่างสุภาพ
“ดูท่าวันนี้ฉาเซิ่งจะสุขภาพไม่ดี พวกเราค่อยมาวันอื่นแล้วกัน”
“ไม่ใช่นะ” เด็กน้อยชะโงกหัวโล้นออกมาอีกครั้งแล้วยิ้มอย่างไร้เดียงสา
“ก็แค่เหม็นขี้หน้าพวกคุณ มาวันอื่นก็ไม่มีประโยชน์”
“ไม่ให้เจอก็คือไม่ให้เจอ พวกคุณเก่งขนาดนี้ก็ไปปลูกสมุนไพรเอาเองแล้วกัน”
เมิ่งหว่านโกรธหน้าเขียวทันที
แต่นี่เป็นคนข้างกายฉาเซิ่ง จะล่วงเกินได้อย่างไร
เมิ่งหว่านทำได้เพียงกลืนความโกรธนี้ลงไป หันไปพูดด้วยสีหน้าเย็นชา “ไปเถอะ”
ฉาเซิ่งไม่ยอมให้พวกเขาเข้าพบ พวกเขายังจะทนหน้าด้านอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร
เมิ่งหว่านพูดประชด “มิน่าเมื่อกี้ถึงได้เจอสองคนนั้นที่นี่ ดูท่าจะถูกฉาเซิ่งปฏิเสธเหมือนกัน น่าเสียดายที่มาช้าไป ไม่ทันได้เห็นพวกเขาหน้าแตก”
ขนาดพวกเขายังไม่ได้เจอ แล้วอิ๋งจื่อจินเพิ่งมาโลกแพทย์แผนโบราณได้นานเท่าไร มีเหรอจะได้เจอ
พอนึกถึงตรงนี้นายใหญ่เมิ่งก็รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
ใช่ว่าสมุนไพรพวกนี้จะมีแค่ที่ฉาเซิ่ง เกิดตามธรรมชาติยิ่งดีขึ้นไปใหญ่ ก็แค่จนถึงตอนนี้ยังหาไม่พบ
นายใหญ่เมิ่งสูดลมหายใจเข้าลึก “ขอยืมพวกทีมคุ้มกันของตระกูลเย่ว์ให้ช่วยไปค้นหาบนภูเขาลูกใหญ่ ต้องหาสมุนไพรที่ใช้รักษาชิงเสวี่ยให้เจอ”
…
อิ๋งจื่อจินเริ่มเก็บตัวอย่างเป็นทางการ
ก่อนเก็บตัวอิ๋งจื่อจินได้โอนงานทั้งหมดของชูกวงมีเดียให้ประธานกรรมการลู่ ให้เขาดำรงตำแหน่งแทนซีอีโอไปก่อน
ประจวบเหมาะพอดีกับที่การคัดเลือกศิลปินหน้าใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้ว
รายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202 ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทางสถานีองุ่นจึงกำหนดให้รายการวัยรุ่นสร้างฝัน 303 เป็นการเฟ้นหาศิลปินนานาชาติ
จะมีเด็กฝึกทั้งหมดสิบเอ็ดคนที่ได้เดบิวต์ โดยแบ่งเป็นเด็กฝึกต่างชาติสี่คน เด็กฝึกชาวจีนเจ็ดคน
ครั้งนี้เป็นการเดบิวต์วงเกิร์ลกรุ๊ป
อวิ๋นเหอเย่ว์จะเข้าร่วมรายการในฐานะโค้ชเต้น
ตอนนี้เธอเป็นดารากระแสนิยม ชื่อเสียงและอิทธิพลไม่ด้อยไปกว่าฉินหลิงอวี๋กับซังเย่าจือ
กอปรกับมีบริษัทบันเทิงต่างประเทศจำนวนไม่น้อยที่ส่งเด็กฝึกมา รายการวัยรุ่นสร้างฝัน 303 จึงกำลังมุ่งสู่ระดับสากล
เฮเลน่าเป็นเด็กฝึกที่ทางไทม์มีเดียส่งมาเข้าร่วม ปีนี้อายุสิบแปดปี
นอกจากภารกิจเดบิวต์เป็นศิลปินแล้วยังต้องมารวบรวมข่าวด้านลบของชูกวงมีเดียด้วย
อวิ๋นเหอเย่ว์ตั้งเป็นสตูดิโอส่วนตัว แต่ทั่วทั้งวงการบันเทิงต่างรู้ว่าเธอเป็นคนของชูกวงมีเดีย
ครั้นแล้วเฮเลน่าจึงจับตาดูอวิ๋นเหอเย่ว์อยู่ตลอด จับตาดูมาหนึ่งเดือนแล้ว ในที่สุดเธอก็พบข่าวใหญ่สะเทือนฟ้าสะเทือนดิน
อวิ๋นเหอเย่ว์เป็นผู้หญิง!
รายการเฟ้นหาบอยแบนด์ ผู้หญิงเข้าร่วม ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร พวกแฟนคลับไม่มีทางยอมแน่
ไอดอลที่ได้เดบิวต์เพราะแฟนคลับทุ่มโหวตให้ ปรากฏว่าโกหกเรื่องเพศงั้นเหรอ
ใครจะไปรับได้
ฉินหลิงอวี๋เดบิวต์ที่ต่างประเทศ หลังจากโด่งดังเป็นพลุแตกถึงได้กลับประเทศจีน จึงมีแค่อวิ๋นเหอเย่ว์ที่เดบิวต์ในประเทศจีนแล้วขึ้นเป็นอันดับหนึ่งอย่างแท้จริง
โด่งดังไปทั้งประเทศภายในเวลาหนึ่งปี
ประสบความสำเร็จได้รวดเร็วแบบนี้ สามารถนำไปเขียนเป็นหนังสือได้แล้ว
อวิ๋นเหอเย่ว์ยังไม่ได้มีชื่อเสียงในต่างประเทศมากนัก แค่เพิ่งเริ่ม
แต่คนที่มาเข้าร่วมรายการวัยรุ่นสร้างฝัน 303 ย่อมต้องรู้จักอวิ๋นเหอเย่ว์ หลังฝึกเสร็จก็มักจะมาเข้าหาเธอ
เฮเลน่านึกไม่ถึงจริงๆ ว่าอวิ๋นเหอเย่ว์จะเป็นผู้หญิง!
ในบรรดาแฟนคลับตัวยงของอวิ๋นเหอเย่ว์ต่างไม่มีใครรู้เรื่องนี้ แม้แต่ปาปารัซซี่เองก็ยังไม่เคยถ่ายภาพอวิ๋นเหอเย่ว์ในลุคของผู้หญิงได้
เฮเลน่ามองภาพโปสเตอร์ของอวิ๋นเหอเย่ว์
อวิ๋นเหอเย่ว์ที่อยู่ในโปสเตอร์เป็นผู้ชายไม่มีผิดเพี้ยน
เธอยิ้มเล็กน้อย หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรเข้าสำนักงานใหญ่ไทม์มีเดียที่อยู่ไกลถึงยุโรป
“สวัสดีค่ะคุณคลาร์ค” เฮเลน่าพูด “คือแบบนี้ค่ะ ฉันหาช่องโหว่ที่ใหญ่มากของชูกวงมีเดียได้แล้วค่ะ ไม่ค่ะ ไม่ถึงกับจะทำให้เจ๊ง อย่างไรซะก็เป็นบริษัทบันเทิงอันดับหนึ่งของจีน แต่เรื่องหมดความน่าเชื่อถือย่อมมีแน่”
หยุดเล็กน้อย เธอพูดด้วยเสียงนุ่มนวล “ใช่ค่ะ เรื่องนี้พวกเขาผิดเต็มๆ รอฟังข่าวดีจากฉันได้เลยนะคะ”
ลำพังแค่ข่าวที่ว่าเพศที่แท้จริงของอวิ๋นเหอเย่ว์คือเพศหญิงก็ทำฮือฮาไปทั้งวงการบันเทิงได้แล้ว
ไม่ว่าจะชูกวงมีเดียหรือซีอีโออย่างอิ๋งจื่อจิน ต่างไม่มีทางจบสวยในฐานะผู้ปิดบัง