ตอนที่ 583 บอสเจอกัน จัดสักดอก
ลุค แพชช์เป็นหนึ่งในผู้ดูแลของตระกูลแพชช์ อยู่ตระกูลแพชช์มาหลายสิบปี สร้างผลงานไว้ไม่น้อย จึงได้รับอนุญาตให้ใช้นามสกุล ‘แพชช์’
เขารับหน้าที่ประสานงานกับไทม์มีเดียมาตลอด และที่สำคัญที่สุดคือ ภาพยนตร์ที่ครั้งนี้ไทม์มีเดียส่งเข้าชิงรางวัลตุ๊กตาทองเกี่ยวข้องกับคุณหนูสายตรงคนหนึ่งของตระกูลแพชช์
ไดน่า แพชช์
ขณะเดียวกันเธอก็รับหน้าที่กำกับและเป็นโปรดิวเซอร์ด้วย
คุณหนูไดน่าคนนี้เป็นหนึ่งในตัวเลือกผู้สืบทอดตระกูลแพชช์ในวันหน้า มีคนสนับสนุนอยู่ไม่น้อย
ปีนี้เพิ่งอายุยี่สิบปีก็สร้างภาพยนตร์ของตัวเองได้แล้ว ทั้งยังเข้าตาคณะกรรมการตัดสินรางวัลตุ๊กตาทอง เก่งมากจริงๆ
ไม่ว่าอย่างไรตระกูลแพชช์ก็ต้องทำให้เธอได้รับรางวัล ผู้กำกับยอดเยี่ยม ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และการแสดงยอดเยี่ยม และนี่ก็เป็นเป้าหมายของคลาร์คเช่นกัน
ถ้าไดน่าสามารถอาศัยภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จได้ วันหน้าเมื่อเธอได้เป็นนายใหญ่ตระกูลแพชช์ เขาก็จะได้รับประโยชน์อยู่ไม่น้อย
ไม่แน่อาจจะได้เข้ามาอยู่ในตระกูลแพชช์และได้รับอนุญาตให้ใช้นามสกุลแพชช์ด้วย
นึกบางอย่างขึ้นมาได้อีก คลาร์คพูดอย่างลังเล “คุณลุคครับ แต่ทางบริษัทภาพยนตร์ยูนิเวอร์แซลพิกเจอร์สเคยร่วมงานกับชูกวงมีเดียหลายครั้ง นักแสดงหญิงในสังกัดชูกวงมีเดียก็ได้รับความสนใจจากยูนิเวอร์แซลพิกเจอร์สมาก จะเป็นการ…”
ลุคส่ายมือ ไม่เห็นด้วย “บริษัทที่ร่วมงานกับบริษัทภาพยนตร์ยูนิเวอร์แซลพิกเจอร์สมีเยอะแยะไป ในฐานะที่เป็นประเทศอุตสาหกรรมบันเทิง บริษัทในประเทศคิวกับประเทศวีมีน้อยเหรอ แต่คุณลองดูนะว่ามีบริษัทไหนบ้างที่เทียบกับพวกเราได้”
บริษัทภาพยนตร์ยูนิเวอร์แซลพิกเจอร์สไม่ใช่มูลนิธิการกุศลเสียหน่อย มีเหรอจะตั้งใจช่วยคนจนโดยเฉพาะ
อีกอย่าง ผู้รับผิดชอบที่แท้จริงของบริษัทภาพยนตร์ยูนิเวอร์แซลพิกเจอร์สเป็นถึงสมาชิกสายตรงของตระกูลลอเรนท์ สถานะในตระกูลก็ไม่ต่ำ เป็นบุคคลระดับคณะผู้อาวุโส
พวกคนตระกูลลอเรนท์สนใจแค่ความเจริญรุ่งเรืองของตระกูลลอเรนท์ ก็มีแค่วีนัสกรุ๊ปที่จะทำให้พวกเขาสนใจได้บ้าง
“นี่เป็นตั๋วเข้างานเทศกาลภาพยนตร์” ลุคดันตั๋วให้สามใบ พูดแฝงความนัย
“คณะกรรมการรางวัลตุ๊กตาทองอยู่ในนั้นหลายคน จะได้รางวัลไหมก็ขึ้นอยู่กับพวกคุณแล้ว”
ในที่สุดคลาร์คก็ยิ้มออก “ขอบคุณคุณลุคครับ ผมจะติดต่อคุณไดน่าด้วยตัวเอง”
ลุคพยักหน้าแล้วให้คลาร์คออกไป
…
วันต่อมา ที่โรงแรม
อิ๋งจื่อจินสวมผ้าปิดปาก ใส่แว่นกันแดด จากนั้นก็ลงไปชั้นล่าง
นอกจากนี้เธอยังได้แปลงโฉมด้วย
เรื่องที่ซีซาร์จะออกมาปรากฏตัวสู่สาธารณชนอีกครั้ง ในเมื่อแม้แต่บนเว็บบอร์ดเอ็นโอเคยังลือกันไปทั่วแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ใช่ความลับอะไรสำหรับสี่ตระกูลมหาเศรษฐีแห่งยุโรป โลกใต้ดิน และอิทธิพลใหญ่อื่นๆ
มีคนที่จับตาดูเยอะมาก
ไม่ว่าเป้าหมายจะเป็นซีซาร์หรือเธอ
ต่างก็ยุ่งยากเหมือนกัน
เลขาสาวเห็นเธอเล่นใหญ่เป็นครั้งแรกก็แอบงง
“บอสคะ บอสจะไปไหนเหรอคะ”
อิ๋งจื่อจินตอบสั้นๆ “เจอคน”
ขณะที่ทั้งสองคนคุยกันอยู่นั้นก็มีเสียงเครื่องยนต์ดังมา มีรถเคลื่อนเข้ามา
เลขาสาวหันไปมอง แล้วก็เห็นรถสีทองอร่ามแสบตา “…”
ใครแม่งซื้อรถแบบนี้วะเนี่ย
สมองเพี้ยนหรือเปล่า
อิ๋งจื่อจินกุมขมับ
ตอนแรกเธอคิดว่าซีซาร์ล้อเล่นเสียอีก
รถทองจริงๆ
คนที่มารับคือจ็อบ ลอเรนท์ คนรับใช้ใกล้ชิดของซีซาร์
ถึงแม้เขาจะนึกสงสัยอยู่มาก แต่ก็ไม่ได้ถาม พาอิ๋งจื่อจินไปส่งที่คฤหาสน์ของตระกูลลอเรนท์อย่างรวดเร็ว
มีทางเข้าไปโดยเฉพาะ สมาชิกคนอื่นในตระกูลที่อยู่ในคฤหาสน์ไม่มีสิทธิ์ใช้เส้นทางนี้ จึงไม่รู้ว่ามีคนมา
ยิ่งเข้าไปลึกก็ยิ่งสว่าง
มองเห็นได้อย่างชัดเจนว่า กำแพงของเส้นทางนี้ฉาบด้วยทอง ส่องประกายวิบวับ
สีหน้าของอิ๋งจื่อจินไร้อารมณ์
เธอล่ะหมั่นไส้พวกเศรษฐีจริงๆ
เมื่อเดินไปถึงห้องที่อยู่สุดทางเดิน จ็อบก็เคาะประตู “นายท่านครับ”
ซีซาร์ที่อยู่ด้านในพูดขึ้น “นายไปได้แล้ว”
จ็อบถอยออกไปทันที
อิ๋งจื่อจินเปิดประตูเดินเข้าไป
ยังดีที่ครั้งนี้ไม่มีประกายทองทำเธอแสบตา
แต่ภายในห้องนี้เต็มไปด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้าสารพัด
ซีซาร์ยืนขึ้น เข้าไปหา “บอส ผม…”
“ยืนตรงนั้น” สองมือของอิ๋งจื่อจินล้วงกระเป๋ากางเกง เหลือบมองเขา
“ฉันเพิ่งเปลี่ยนชุดใหม่มา อย่าเอาน้ำมูกน้ำตาของนายมาเลอะตัวฉัน”
อิ๋งจื่อจินไร้เยื่อใยมาก ท่าทางของเธอบ่งบอกอยู่อย่างเดียวคือ
อยู่ห่างๆ ฉันไว้ อย่าแม้แต่จะคิด
ซีซาร์ “…”
ถึงแม้คำพูดคำจาของบอสเขาดูเหมือนจะเปลี่ยนไปมาก ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น แต่นิสัยก็ยังเหมือนเดิม
แถมยังเถียงเก่งขึ้น
ไปเอาอย่างมาจากใคร
ซีซาร์ก็หยุดยืน พูดอย่างจนปัญญา “บอส ครั้งนี้ผมไม่ได้คิดจะร้องไห้จริงๆ นะ ผม…”
ขณะพูดกลับมีเสียงสะอื้นมาจากลำคอของเขา
เด็กหนุ่มก้มหน้า ผมสีทองเปียกชื้นแนบใบหน้า
หนึ่งร้อยปีแล้ว
เขาไม่เคยคิดว่าจะได้เจอเธออีกครั้ง
อิ๋งจื่อจิน “…”
เธอก็รู้
“ยาของนาย” อิ๋งจื่อจินโยนกล่องไปใบหนึ่ง “ฉันไปขุดกรุสมบัติของนอร์ตันมาเลยนะ”
ถึงแม้นอร์ตันจะจับพลัดจับผลูหลงไปอยู่ในดินแดนใหม่ แต่เขาก็ไม่ได้เอาสมุนไพรเล่นแร่แปรธาตุไปหมด
สมุนไพรเหล่านี้มีค่ามาก คุณภาพก็สูงมากเช่นกัน นักศึกษาคณะเล่นแร่แปรธาตุของมหาวิทยาลัยนอร์ตันไม่มีทางได้ใช้และก็ใช้ไม่ได้
ครั้งล่าสุดที่ติดต่อนอร์ตัน อิ๋งจื่อจินจงใจถามเอาสูตรเล่นแร่แปรธาตุมาจากนอร์ตัน
อย่างไรเสียเธอก็ไม่ค่อยได้ศึกษาเรื่องพวกนี้ นอร์ตันย่อมเก่งกว่าเธอในเรื่องเล่นแร่แปรธาตุ
เมื่อได้สูตรยามาแล้ว เธอก็ให้รองอธิการบดีส่งพวกส่วนผสมที่เหลืออยู่ของนอร์ตันมาให้เธอ ถึงได้ทำยาฟื้นฟูร่างกายของซีซาร์ออกมาได้
“จึ๊” ซีซาร์รับกล่องมา “เขาใจกว้างแบบที่เห็นได้ยาก ต้องให้บอสออกหน้าถึงจะได้ผล”
ก็พอดี ไว้เขาฟื้นฟูร่างกายเสร็จ เขาก็จะได้ออกไปเห็นดวงอาทิตย์อีกครั้งแล้ว
ตระกูลลอเรนท์เจริญรุ่งเรืองอย่างแท้จริงได้เป็นเพราะอิ๋งจื่อจิน
ตอนนั้นที่อิ๋งจื่อจินไปผจญภัยก็ได้พาซีซาร์ที่ยังเด็กมากไปด้วย
สถานที่ที่ไปคืออาณาจักรแอตแลนติสที่ตามตำนานบอกว่าล่มสลายไปแล้ว
ตามตำนานบอกว่าแอตแลนติสเป็นอาณาจักรโบราณที่มีอารยธรรมสูงมาก
จากบันทึกที่เก่าแก่ที่สุด ปรากฏในหนังสือบทสนทนา บอกว่าอาณาจักรแห่งนี้ล่มสลายเพราะเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อนเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อนคริสต์ศักราช
พวกเขาตามหาอาณาจักรแอตแลนติสได้สำเร็จโดยมีอิ๋งจื่อจินนำทาง ทองคำก็ถูกขนกลับมาจากที่นั่น
ด้วยเหตุนี้ตระกูลลอเรนท์จึงเป็นตระกูลอันดับหนึ่งแบบที่ไม่มีใครสั่นคลอนได้
จนกระทั่งซีซาร์ ลอเรนท์ ถูกลอบสังหารเสียชีวิต ตระกูลลอเรนท์ถึงเริ่มเสื่อมถอย
เมื่อเขาฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ตระกูลลอเรนท์ก็กลับมารุ่งเรืองอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
“บอส เมื่อไรจะไปแอตแลนติสอีกรอบล่ะ” ซีซาร์ลูบคาง
“เงินน่ะ มีเยอะๆ ไม่มีใครไม่ชอบหรอก ใช่ไหมล่ะ”
เขาอ่านในเว็บบอร์ดเอ็นโอเค มีหลายคนบอกว่าอยากรวมทีมไปล่าทอง
อิ๋งจื่อจินส่ายหน้าเล็กน้อย “แอตแลนติสหายสาบสูญสิ้นเชิงแล้ว ไปไม่ได้”
“หายสาบสูญไปแล้วเหรอ”
“อืม หายไปจากโลกนี้แล้ว ครั้งก่อนถ้าออกจากที่นั่นช้าหน่อย พวกเราก็ต้องตายกันหมด”
ซีซาร์นึกย้อนความหลัง
นึกถึงตอนนั้นที่พวกเขาไป แอตแลนติสเป็นซากปรักหักพังที่อยู่ในส่วนลึกของมหาสมุทรแอตแลนติก ไม่ได้เจริญรุ่งเรืองแบบที่ในหนังสือบันทึกไว้
พังทลายอย่างสิ้นเชิง ไม่หลงเหลือส่วนดี
ใกล้หายสาบสูญเต็มที
ซีซาร์รู้สึกเสียดาย “ก็ได้ ถ้าไม่ติดว่าตอนนั้นแบกกลับมาไม่ได้มาก ผมจะขนกลับมาให้หมด”
เขาจะทำคฤหาสน์ของเขาให้เป็นสีทองทั้งหมด เอาให้แสบตาทุกคน
ซีซาร์ไปกินยาอยู่ด้านข้าง
อิ๋งจื่อจินนั่งบนโซฟาที่ทำจากขนหงส์ รับสายจากฟู่อวิ๋นเซิน
“เมื่อคืนหลับสบายไหม”
“ก็ดี”
“ฝันเห็นอะไรหรือเปล่า”
อิ๋งจื่อจินครุ่นคิดแล้วตอบ “ไม่ได้ฝันเห็นคุณ”
ฟู่อวิ๋นเซินเลิกคิ้ว “หืม? เยาเยา เธอไม่รักพี่ชายแล้ว”
“ที่ไหนกัน” อิ๋งจื่อจินหาวออกมา แต่ไม่ตอบแบบขอไปที เธอจริงจัง
“ครั้งนี้ไม่มีหมอนข้างของคุณ ฉันหลับได้ไม่ลึกเท่าไร เมื่อไรจะมาหาพร้อมหมูของฉัน”
ซีซาร์ที่ได้ยินทั้งหมดชัดเต็มสองรูหู “…?”
“อย่างช้าสุดก็เย็นวันพฤหัส” ฟู่อวิ๋นเซินยิ้ม “ต้องไปร่วมพิธีเปิดกับเธออีก วางใจได้ พี่ชายจะแปลงโฉม พวกเราจะได้ไม่ขึ้นคำค้นยอดนิยม”
อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “อืม”
เธอจบบทสนทนา หันหน้าไปก็เห็นเด็กซื่อจ้องเธอตาค้าง
ผ่านไปสักพักซีซาร์ถึงพูดออกมา “บอสสองมาตรฐานจริงๆ”
คำถามเดียวกัน แต่คำตอบที่ได้ต่างกันลิบลับ
อิ๋งจื่อจินตอบ “ใช่”
ซีซาร์ “…”
เขาเสยผม “บอส ช่วยดูดวงเรื่องความรักให้หน่อยสิ”
“ได้” อิ๋งจื่อจินกางไพ่ทาโรต์ “เลือกไพ่มา”
ญาณพยากรณ์ของเธอยังไม่ฟื้นคืน
แต่เรื่องดูดวงความรัก ใช้ไพ่ทาโรต์ก็สามารถทำนายออกมาได้อย่างง่ายดาย
ซีซาร์เลือกไพ่เสร็จอย่างรวดเร็ว
“นาย…” พอเห็นไพ่อิ๋งจื่อจินก็นิ่งไปชั่วครู่ “เลิกคิดเถอะ”
ซีซาร์ “?”
“ในสิบปีนี้นายไม่มีแฟนหรอก”
ซีซาร์ตกใจมาก “สะ…สิบปีเลยเหรอ”
นับตั้งแต่เขาฟื้นขึ้นมา เขาก็อุดอู้อยู่ในคฤหาสน์แห่งนี้มาร้อยกว่าปีแล้ว
ถ้าไม่ได้นอร์ตันใช้วิชาเล่นแร่แปรธาตุขยายขีดจำกัดร่างกายของเขา ทั้งยังทำให้รูปโฉมของเขาหยุดเวลาไว้ที่เดิม ตอนนี้เขาก็เท่ากับเป็นตาแก่ไปแล้ว
แต่ว่าสิบปีเลยเหรอ
ซีซาร์รับไม่ได้
อิ๋งจื่อจินยืนขึ้น “ฉันไปก่อน อยู่นานไม่ได้ ไว้จะมาใหม่”
“อ้อจริงสิ” ซีซาร์ถามต่อ “บอสเปิดบริษัทภาพยนตร์ในประเทศจีนเหรอ”
“ไม่ถือว่าเปิดเอง แฟนยกให้”
“…”
ซีซาร์รู้สึกเสียดแทงใจ หยิบกระดาษปึกหนึ่งวางบนมืออิ๋งจื่อจิน “นี่เป็นตั๋วเข้างานเทศกาลภาพยนตร์ ผมเอาไว้ก็ไม่มีประโยชน์ ยกให้บอสแล้วกัน”
อิ๋งจื่อจินรับไว้แล้วออกจากคฤหาสน์ลอเรนท์
ซีซาร์กดกริ่งเรียกจ็อบเข้ามา พูดอย่างจริงจัง
“ฉันต้องการแต่งงาน นายลองไปดูว่ามีตระกูลไหนต้องการเกี่ยวดองบ้าง เอารูปมาให้ฉันดู”
จ็อบ “?”
นายท่านของเขาไปโดนตัวอะไรมา
“นายท่าน อย่าหาว่าผมยุ่งเลยนะครับ” จ็อบลังเล
“ถ้าบอกอายุที่แท้จริงของนายท่านออกไป คุณหนูตระกูลไหนบ้างจะกล้า…”
ซีซาร์เหล่มองด้วยสายตาเย็นชา
จ็อบรีบออกไปเตรียมรูปทันที
…
หลังจากถอดเครื่องแต่งตัวอำพรางออกหมด อิ๋งจื่อจินก็กลับไปที่โรงแรม
เลขาสาวกับพวกซังเย่าจือนั่งอยู่ที่ล็อบบี้ของโรงแรม
ด้านตรงข้ามพวกเขายังมีกลุ่มชาวต่างชาติ
พอเลขาสาวเห็นอิ๋งจื่อจินก็ลุกไปหา พูดเสียงเบา “บอสคะ นี่คือประธานของไทม์มีเดีย ส่วนนั่น คุณไดน่า แพชช์ค่ะ”
อิ๋งจื่อจินหันไปมอง ไม่มีท่าทีอะไรเป็นพิเศษ เธอนั่งลงบนเก้าอี้
“สวัสดีครับคุณอิ๋ง ผมคลาร์คครับ” คลาร์คหันมายิ้มให้
“คือแบบนี้ครับ พรุ่งนี้มีงานเทศกาลภาพยนตร์ คณะกรรมการก็มาด้วย พวกคุณจะไปกันไหมครับ”
เขาพูดจบก็ไม่รอให้อิ๋งจื่อจินตอบ กลับตอบเอง
“ดูความจำของผมสิ ลืมไปว่าพวกคุณไม่มีตั๋วเข้างาน เข้าไปไม่ได้”
คำพูดนี้ทำให้หลายคนสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย
ซังเย่าจือขมวดคิ้ว
ถึงแม้เขาจะเคยได้รับรางวัลระดับสากล แต่ถ้าอยากถูกยกย่องว่าเป็นราชาภาพยนตร์ระดับโลก เขาก็ต้องคว้ารางวัลตุ๊กตาทองมาให้ได้ก่อน
อยู่ในถิ่นคนอื่นทำได้แค่อดทนไว้
เมื่อปีที่แล้วเซี่ยมั่นอวี่ถูกคุณหนูตระกูลเบวินจงใจทำร้ายเพราะได้รับบทนักแสดงนำหญิง พวกเขาก็พูดแล้ว
ตระกูลเบวินฝีมือโหดเหี้ยม ในฐานะที่ตระกูลแพชช์เป็นผู้นำของสี่ตระกูลมหาเศรษฐีแห่งยุโรป มีแต่จะโหดยิ่งกว่า
ซังเย่าจือก็เคยได้ยินเรื่องโลกใต้ดินของยุโรป ที่นั่นเต็มไปด้วยทหารรับจ้างที่โหดเหี้ยมอำมหิต
นอกเหนือจากนี้ยังมีของที่ห้ามวางขายในตลาดทั่วไปอย่างเช่น อาวุธขนาดใหญ่สารพัด ยาพิษ เป็นต้น
ประเทศจีนอยู่ห่างจากยุโรปเยอะมาก มังกรที่แข็งแกร่งก็ไม่อาจสู้งูเจ้าถิ่น
ชูกวงมีเดียเป็นบริษัทบันเทิงอันดับหนึ่งของประเทศจีน
แต่หากเทียบทั้งโลกก็ยังห่างชั้นอยู่มาก ไม่ติดแม้แต่สามสิบอันดับแรก
แถมเทศกาลภาพยนตร์ระดับนี้ยังจัดขึ้นที่ยุโรป
ตั๋วเข้างานมีไม่มาก ย่อมไม่มีทางตกถึงมือพวกเขา
“ในเมื่อคุณอิ๋งไปไม่ได้ พวกเราก็คงร่วมทางไม่ได้แล้ว” คลาร์คแค่ยิ้ม เจือไปด้วยสีหน้าเย้ยหยัน
“หวังว่าพิธีเปิดงานมอบรางวัลตุ๊กตาทองในวันศุกร์พวกคุณจะไปถึงทันเวลา และก็หวังว่าผลรางวัลที่ประกาศออกมาจะทำให้พวกคุณดีใจได้นะครับ”
คำพูดนี้หมายความว่า ตระกูลแพชช์จะติดสินบนคณะกรรมการแล้ว
ด้วยความสามารถของตระกูลแพชช์ที่มีอำนาจล้นฟ้าในยุโรป ย่อมทำแบบนี้ได้
อีกทั้งการคว้ารางวัลตุ๊กตาทองก็เป็นเรื่องยากมาตลอดสำหรับประเทศจีน
ไดน่ากวาดตามอง ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
ไม่มีดูถูกหรือเยาะเย้ย แค่มองข้ามอย่างสิ้นเชิง
พวกคนจีนยังไม่มีค่าให้เข้าตาเธอ
เธอยืนขึ้น พูดด้วยน้ำเสียงรำคาญ “ไปเถอะ”
อิ๋งจื่อจินไม่เงยหน้า มือยังวางอยู่บนที่เท้าแขน “พวกเรามีตั๋วเข้างาน”