คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 625 พ่ออิ๋งลงมือ สถานะอันน่าเหลือเชื่อ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 625 พ่ออิ๋งลงมือ สถานะอันน่าเหลือเชื่อ

เขาซงซานอยู่ในตี้ตู พอๆ กันกับภูเขาที่ตอนนั้นฮวน เฮอร์เชล ล่อเวินทิงหลานขึ้นไป

ภูเขาลูกนี้เป็นจุดท่องเที่ยวชื่อดังของตี้ตู เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคมเป็นหน้าร้อน จึงมีนักท่องเที่ยวจากนานาประเทศเยอะมาก

หากเริ่มใช้ค่ายกลนี้ขึ้นมา ไม่ใช่แค่นักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปบนเขาลูกนั้น แต่จะได้รับผลกระทบไปทั้งตี้ตู

แน่นอนว่าปล้นดวงจากแต่ละคนไปไม่มีทางทำให้ถึงตาย และก็อาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ

แต่วิธีการก็โหดเหี้ยมมาก

สะสมทีละน้อยเพื่อให้ได้มาก เอาดวงนิดหน่อยของแต่ละคนมารวมกันก็เพียงพอค้ำจุนให้ตระกูลเซี่ยยั่งยืนไปได้อีกร้อยปี

ตระกูลเซี่ยถึงขั้นให้ผู้อาวุโสใหญ่ของพวกเขาไปชิงดวงของคนอื่นเพื่อหล่อเลี้ยงตระกูลเซี่ย

เรื่องแบบนี้นายใหญ่เซี่ยกับคณะผู้อาวุโสย่อมตัดสินใจไม่ได้

มีเพียงคำสั่งของเซี่ยฮ่วนหราน

ตี้อู่เย่ว์อึ้ง พูดพึมพำ “ฉันท่องตำราฮวงจุ้ยมาหมดแล้ว ฉันแน่ใจได้ว่าค่ายกลนี้ไม่สอดคล้องกับในหนังสือแม้แต่น้อย”

เธอไม่ชอบเรียนก็จริง แต่กลับเป็นคนหัวดี

แค่อ่านก็เข้าใจ ผ่านตาแล้วไม่มีทางลืม

นี่ก็เป็นสาเหตุที่ตี้อู่ชวนโมโหมาก

หากตี้อู่เย่ว์ตั้งใจกว่านี้อีกนิดคงไปได้ถึงระดับตี้อู่เซ่าเสียนแล้ว

ตี้อู่เย่ว์มีพรสวรรค์สูงกว่าพี่ๆ ทั้งสามคนมากทีเดียว

“อืม ไม่แปลกหรอกที่เธอไม่รู้ ค่ายกลขนาดใหญ่แบบนี้ไม่มีทางมีในหนังสือ ฉันคิดว่าท่านผู้เฒ่าชวนอาจเคยบอกเธอ” แววตาของอิ๋งจื่อจินขรึมลง “เธอรอฉันที่ทางเข้า บอกให้ฝ่ายจัดงานยื้อพิธีออกไปก่อน”

พอได้ยินแบบนี้ตี้อู่เย่ว์ก็เริ่มระแวง “ได้ ฉันจะอ้างว่าปวดท้องบอกให้ฝ่ายจัดงานยื้อเวลาไปก่อน”

ไม่ว่ายังไงคำพูดของตระกูลตี้อู่ก็มีน้ำหนักมากในวงการนักพยากรณ์

อิ๋งจื่อจินกดตัดสาย กลับเข้าห้องประชุมร่ำลาผู้อาวุโสของศาลสถิตยุติธรรมก่อนแล้วถึงไปที่ทางเข้าออกของโลกจอมยุทธ์ มุ่งหน้าสู่เขาซงซาน

ผู้อาวุโสรองดีใจ “พี่ใหญ่ คุณอิ๋งต้องไปหาสาวๆ มาแนะนำให้ผมแน่ๆ”

ฟู่อวิ๋นเซินเหลือบตาขึ้น เหล่มองเขา

ผู้อาวุโสใหญ่ส่ายหน้า ถอนหายใจ

สุขในทุกข์ แต่ก็ทำให้อารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง

เขาซงซาน

วันนี้แดดกำลังดี ดอกซากุระเบ่งบาน

เป็นเวลาเที่ยง นักท่องเที่ยวจำนวนมากกำลังกินข้าวอยู่ในร้านอาหารบนเขา

ไม่รู้แม้แต่น้อยว่าบนเขากำลังมีการรวมกลุ่มของนักพยากรณ์อย่างแท้จริง และยังมีค่ายกลชั่วร้ายที่หมายจะชิงดวงของพวกเขาไป

อิ๋งจื่อจินใช้กำลังภายในตั้งแต่โลกจอมยุทธ์มาตลอดทาง กว่าจะถึงเขาซงซานก็เป็นอีกหนึ่งชั่วโมงครึ่งต่อมา

ตี้อู่เย่ว์เอามือกุมท้อง คอตกหน้าเศร้า “พี่สาว ถ้ายังไม่มาอีกพวกเขาจะคิดว่าฉันระบบขับถ่ายไม่ดีแล้วนะ”

“ลำบากเธอแล้ว” อิ๋งจื่อจินดึงหมวกเบสบอลลง “เขาอยู่ไหน”

“อยู่ตรงนั้น” ตี้อู่เย่ว์พูดเสียงเบา “พี่สาวพูดถูก พอเขาเห็นฉันอยากเลื่อนเวลาออกไปก็ทำสีหน้าผิดปกติเลย”

อิ๋งจื่อจินมองผู้อาวุโสใหญ่ตระกูลเซี่ยที่นั่งอยู่ในศาลารับลม ดวงตาหงส์หรี่ลงเล็กน้อย “เขาเคยได้รับบาดเจ็บไม่น้อยเพราะทำนายเรื่องของฉัน ไม่อย่างนั้นค่ายกลนี้คงถูกใช้ไปนานแล้ว ไม่มีทางรอจนถึงวันนี้”

ตี้อู่เย่ว์แทบหยุดหายใจ “ตาแก่นี่เลวร้ายจริงๆ”

ใบหน้าของอิ๋งจื่อจินถูกบดบังไว้ ผู้อาวุโสใหญ่ไม่รู้จักเธอ

พอเห็นตี้อู่เย่ว์เดินมา เขาก็อดทนใจเย็น พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงใจดี “คุณหนูเย่ว์ เริ่มได้หรือยังครับ”

“ได้แล้วค่ะได้แล้ว” ตี้อู่เย่ว์แสร้งทำเป็นเอามือกุมท้อง “ต้องขอโทษจริงๆ ค่ะ เมื่อวานกินผิดสำแดงไปหน่อย ขออภัย”

“คุณหนูเย่ว์ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ คนเราเกิดเหตุสุดวิสัยได้ทั้งนั้น” ผู้อาวุโสใหญ่ยืนขึ้น “ในเมื่อคุณหนูเย่ว์ไม่เป็นไรแล้ว งั้นก็เริ่มเลยดีกว่า”

“ไม่ต้องเริ่มแล้ว” อิ๋งจื่อจินหันมา “วันนี้ไม่มีพิธี”

ผู้อาวุโสใหญ่สีหน้าเปลี่ยน “ใคร!”

เขาหันไปก็เห็นเด็กสาวที่อายุไม่ถึงยี่สิบ สีหน้าขรึมลง “อายุแค่นี้รู้จักเคารพผู้อาวุโสหรือเปล่า”

อิ๋งจื่อจินเงยหน้า พูดเสียงเนือย “คุณน่ะเหรอ”

ผู้อาวุโสใหญ่อึ้ง สีหน้าบึ้งตึง

นักพยากรณ์คนอื่นทนฟังต่อไปไม่ไหว

“ผู้อาวุโสใหญ่ครับ อย่าไปสนใจเลยครับ เธอไม่อยากเรียนรู้แต่พวกเราอยากฟังครับ”

“เธอเป็นใคร รู้หรือเปล่าว่านี่ใคร มาจากตระกูลไหน ในเมื่ออยู่ในวงการนักพยากรณ์เหมือนพวกเราก็ต้องรู้จักเคารพผู้อาวุโสด้วย”

ผู้อาวุโสใหญ่ลูบเครา เริ่มอารมณ์ดีขึ้น

เขาพูด “เอาล่ะ ผมจะไม่ถือสาเธอ”

“ฉันมีปัญหา” อิ๋งจื่อจินพับแขนเสื้อขึ้น “ค่ายกลบูชาสวรรค์ ตระกูลเซี่ยวางแผนมาดีจริงๆ นะ”

ผู้อาวุโสใหญ่ดวงตาเบิกโพลง “เธอ…”

แย่แล้ว ถูกจับได้!

แต่นอกจากตี้อู่ชวนทำไมยังมีคนรู้เรื่องค่ายกลบูชาสวรรค์อีก

ตามคาด พอได้ยินชื่อนี้ นักพยากรณ์คนอื่นๆ ก็ทำหน้างง

“อายุเท่านี้รู้เยอะจริงๆ นะ” หลังถูกจับได้ผู้อาวุโสใหญ่ก็ไม่ปิดบังอีก แสยะยิ้ม “ถูกต้อง มันคือค่ายกลบูชาสวรรค์”

“ฉันเตรียมค่ายกลบูชาสวรรค์นี้มาสิบปี ในที่สุดก็เสร็จวันนี้ ประชากรตี้ตูสิบล้านคนหนีไม่รอดหรอก! พวกเธอยอมมอบดวงมาหล่อเลี้ยงตระกูลเซี่ยเสียดีๆ!”

ถ้าไม่ใช่เพราะครั้งนั้นที่เขาพยากรณ์ดวงชะตาของคนที่ชื่ออิ๋งจื่อจินจนถูกนักทำนายของยุโรปเล่นงาน เขาก็คงเริ่มค่ายกลบูชาสวรรค์ได้ตั้งแต่ปีที่แล้ว

“คุณน่ะเหรอ” ดวงตาหงส์ของอิ๋งจื่อจินกวาดตามอง เธอแค่ยกมือขึ้น กำลังภายในก็ทำลายแท่นบูชาได้ในชั่วพริบตา

เป็นมุมสำคัญของค่ายกลบูชาสวรรค์พอดี

ผู้อาวุโสใหญ่ทั้งตกใจทั้งโกรธ “อยากตายเหรอ!”

อิ๋งจื่อจินยกมืออีกครั้ง ปล่อยกำลังภายใน “คนที่รนหาที่ตายคือคุณต่างหาก”

ผู้อาวุโสใหญ่ร้องด้วยความเจ็บปวด ถูกซัดกระเด็น

แต่ขณะที่ลอยอยู่กลางอากาศ เขาก็ใช้กำลังภายในประคองตัวไว้ได้ทันเวลา ตะโกนขึ้น “ตั้งค่าย!”

ยังดีที่เขาตั้งค่ายกลโจมตีไว้รอบๆ ค่ายกลบูชาสวรรค์อยู่บ้าง

ต่อให้เป็นปรมาจารย์จอมยุทธ์ ถ้าเข้าไปในค่ายกลนี้ก็ต้องบาดเจ็บสาหัส

ผู้อาวุโสใหญ่แสยะยิ้ม “อยากฆ่าฉัน มันไม่ง่ายหรอกนะ”

อิ๋งจื่อจินเหลือบตาขึ้น ค่อยๆ เดินเข้าไป “งั้นก็ลองดู”

“ตูม!”

ค่ายกลเจอกับค่ายกล เสียงตูมดังขึ้นไม่หยุด

นักพยากรณ์คนอื่นไม่มีวิทยายุทธ์ และก็สร้างค่ายกลไม่เก่งเท่าผู้อาวุโสใหญ่กับอิ๋งจื่อจิน วิ่งหนีกันอุตลุดไปก่อนแล้ว

บนยอดเขาเกิดเสียงโกลาหลดังมาก บรรดานักท่องเที่ยวที่กินข้าวอยู่ตรงไหล่เขาไม่มีทางไม่ได้ยินเสียง

ทุกคนต่างเงยหน้ามองไป

จากนั้นก็ตะลึงงัน

พวกเขาเห็นคนสองคนยืนอยู่ตรงนั้น ลอยอยู่กลางอากาศโดยไม่ได้อาศัยวัตถุใดๆ

เคยเห็นแต่ในละครจอมยุทธ์ ทำไมตอนนี้พวกเขาได้เห็นกับตาแล้ว

ไม่ถูกสิ ขนาดละครจอมยุทธ์ยังไม่กล้าถ่ายแบบนี้ จะถูกผู้ชมแหกเอาได้ว่ามันค้านกับกฎแรงดึงดูด

อะไรวะเนี่ย!

พวกนักท่องเที่ยวอึ้งกันอยู่สักพัก จากนั้นก็รีบล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาเริ่มถ่ายภาพ

“ขอโทษนะคะ ห้ามถ่าย ห้ามถ่ายเด็ดขาด” ตี้อู่เย่ว์จำคำพูดของอิ๋งจื่อจินได้ดี ให้ขวางพวกนักท่องเที่ยวไว้ “มีการใช้สลิงค่ะ กำลังเล่นกันอยู่จริงๆ ค่ะ”

“นี่เป็นการถ่ายทำของชูกวงมีเดียค่ะ ถ้าพวกคุณทำภาพถ่ายหลุดออกไปก่อนจะไม่ดีนะคะ”

พวกหนุ่มสาวพอได้ยินแบบนั้นก็เก็บโทรศัพท์

ละครของชูกวงมีเดียก็เท่ากับละครของอิ๋งจื่อจิน

พวกเขาจะขัดขวางการหาเงินของเธอไม่ได้

แต่หลอกกลุ่มคนสูงวัยได้ยาก พวกเขาเตรียมกลับไปโพสต์ในกลุ่มเพื่อนแล้ว

มีหญิงสูงวัยคนหนึ่งโทรหาคนในครอบครัวด้วยความตื่นเต้น “ลูกแม่ แม่เห็นเทพด้วยล่ะ”

ตี้อู่เย่ว์ชักสิ้นหวัง โทรหาคนดูแลสถานที่ท่องเที่ยวด้วยความลนลาน จะบอกให้พวกเขาช่วยกันนักท่องเที่ยวออกไป

ไม่ต้องให้ตี้อู่เย่ว์พูด ทางเจ้าหน้าที่ก็เริ่มแจ้งเตือนแล้ว

[ประกาศฉุกเฉิน! ประกาศฉุกเฉิน!]

[นักท่องเที่ยวทั้งหมดกรุณารีบออกจากจุดท่องเที่ยว! นักท่องเที่ยวทั้งหมดกรุณารีบออกจากจุดท่องเที่ยว!]

ส่วนบนยอดเขา การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อ

ปะทะกันหลายครั้ง ผู้อาวุโสใหญ่คุกเข่าหอบอยู่บนพื้น เลือดไหลออกจากมุมปากของเขาไม่หยุด

“สับเปลี่ยนค่ายกล ตั้งค่ายในเวลาไม่เกินสามสิบวินาที” อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเบาๆ “ใช้ได้ พรสวรรค์นักพยากรณ์ไม่ธรรมดา มิน่าตระกูลเซี่ยถึงให้คนแซ่อื่นอย่างคุณรับตำแหน่งผู้อาวุโสใหญ่”

ผู้อาวุโสใหญ่แทบไม่อยากเชื่อ

ปีนี้เขาอายุเท่าไรแล้ว

เป็นคนรุ่นเดียวกันกับตี้อู่ชวน

นักพยากรณ์จำพวกฮวงจุ้ย เดิมทียิ่งอายุมากก็ยิ่งเก่ง

ผู้อาวุโสใหญ่ไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ ว่าเด็กสาวคนหนึ่งจะมีความสามารถตั้งค่ายกลเก่งกว่าเขา

เป็นไปได้ยังไง!

ผู้อาวุโสใหญ่หายใจหอบแรง สีหน้าแย่ลงมาก ตวาดเสียง “ตั้งค่าย!”

“ครืน…”

ยอดเขาสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ก้อนหินเริ่มกลิ้งหล่น

ผู้อาวุโสใหญ่หัวเราะเสียงดัง “แกแพ้แล้ว เมื่อกี้ฉันจงใจถ่วงเวลาก็เพื่อตั้งค่ายกลนี้ให้สำเร็จ รอตายได้เลย!”

แต่อิ๋งจื่อจินกลับไม่ขยับ “ค่ายกลเจ็ดดาว”

วินาทีถัดมายอดเขาก็หยุดสั่น

นี่ก็แสดงว่าเพียงชั่วพริบตาอิ๋งจื่อจินได้ตั้งค่ายกลเพื่อหยุดค่ายกลของผู้อาวุโสใหญ่เสร็จแล้ว

“ตั้งค่ายกลเจ็ดดาวเสร็จในคำพูดเดียว” ผู้อาวุโสใหญ่ถอยหลังหนึ่งก้าว พูดด้วยความเหลือเชื่อ “แก…แกเป็นอาจารย์ของตี้อู่เซ่าเสียน!”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท