คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 626 ฆ่ามัน! ตระกูลเซี่ยระเบิดตูม

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 626 ฆ่ามัน! ตระกูลเซี่ยระเบิดตูม

ในอดีตผู้อาวุโสใหญ่เคยเรียนรู้จากตี้อู่ชวนอยู่ไม่กี่วัน

ถึงแม้จะเป็นเวลาเพียงไม่กี่วัน แต่ก็ได้รับความรู้มากมาย

ตระกูลตี้อู่ครองตำแหน่งตระกูลอันดับหนึ่งในวงการนักพยากรณ์ได้อย่างมั่นคงหลายร้อยปีโดยไม่สั่นคลอน ไม่ใช่ว่าไม่มีสาเหตุ

ถึงแม้ตระกูลตี้อู่จะมีประวัติอันยาวนาน สามารถไล่ย้อนขึ้นไปได้ถึงสมัยราชวงศ์ซ่ง

แต่ก็เพิ่งเจริญรุ่งเรืองมากในช่วงประมาณศตวรรษที่สิบแปด

ทั้งหมดเป็นเพราะตี้อู่เซ่าเสียน

เขาเป็นเด็กหนุ่มอัจฉริยะ แม้จะอายุสั้น แต่กลับมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ววงการ

ผู้อาวุโสใหญ่ก็ให้การนับถือตี้อู่เซ่าเสียนมาตลอด

บางครั้งยังได้ยินตี้อู่ชวนเล่าว่า ที่ตี้อู่เซ่าเสียนประสบความสำเร็จสูงขนาดนี้เป็นเพราะเขามีอาจารย์ที่เก่งมาก

อาจารย์คนนี้ของตี้อู่เซ่าเสียนได้ถ่ายทอดวิชาตั้งค่ายกลฮวงจุ้ย ศาสตร์พยากรณ์ ทั้งยังทิ้งคัมภีร์ไว้ให้เล่มหนึ่ง สำหรับให้ทางสายของตี้อู่เซ่าเสียนได้ศึกษา

แต่ค่ายกลบางแบบที่อยู่ในคัมภีร์ แม้แต่ตี้อู่เซ่าเสียนก็ยังทำไม่ได้

ผู้อาวุโสใหญ่จำค่ายกลหนึ่งในนั้นได้อย่างแม่นยำ ก็คือค่ายกลเจ็ดดาว

เขาเคยอ่าน แต่ค่ายกลเจ็ดดาวก็ยากเหลือเกิน

หลักฮวงจุ้ยที่ใช้คาบเกี่ยวกับปัจจัยมากมาย

เช่น สภาพอากาศ สมรภูมิ เวลา เป็นต้น

หากมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่สอดคล้องก็จะพังทลายได้ง่ายๆ หรือแม้กระทั่งอาจส่งผลกระทบต่อตัวเอง

มีนักพยากรณ์หลายคนที่ตายขณะตั้งค่ายกลฮวงจุ้ยที่เกินกว่าความสามารถของตัวเอง

ในสายตาของผู้อาวุโสใหญ่ ไม่มีใครสามารถตั้งค่ายกลเจ็ดดาวได้สำเร็จ

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการตั้งให้สำเร็จในคำพูดเดียว

เสร็จในคำพูดเดียวเชียวนะ!

นี่เป็นค่ายกลระดับสูงสุด แม้แต่ผู้อาวุโสใหญ่ยังเคยเห็นแต่ในหนังสือ

แค่ยกมือขณะพูดคุยก็ตั้งค่ายกลขนาดใหญ่ขึ้นมาได้อย่างเงียบๆ

ไม่เหมือนเขาที่ต้องใช้เวลาถึงสิบปีกว่าจะตั้งค่ายกลบูชาสวรรค์ได้สำเร็จ

ตัดความเป็นไปไม่ได้ทั้งหมดออกไป แม้คำตอบเดียวจะยากเกินกว่าจะรับไหว แต่มันก็เป็นเรื่องจริง

ชั่วขณะนี้ผู้อาวุโสใหญ่ได้ล้มเลิกความคิดที่ตัวเองยังจะชนะได้อีก

ตี้อู่เซ่าเสียนเป็นสัญลักษณ์ความรุ่งเรืองของวงการนักพยากรณ์

งั้นอาจารย์ของตี้อู่เซ่าเสียนจะแสดงถึงอะไร!

ในด้านพยากรณ์ เขากับอิ๋งจื่อจินคือความแตกต่างระหว่างคนกับเทพ

ผู้อาวุโสใหญ่หายใจหอบแรง ดวงตาแดงก่ำ สีหน้าบิดเบี้ยวยิ่งกว่าเดิม

เขาขาดสติอย่างสิ้นเชิง ตะโกนออกไปโดยไม่สนอะไรแล้ว “ฉันจะไปบอกเซี่ยฮ่วนหราน! แกรอก่อนเถอะ แกตายแน่!”

“ต่อให้แกเป็นอาจารย์ของตี้อู่เซ่าเสียน ไม่ก้มหัวให้ตระกูลเซี่ย ก็ต้องตายเหมือนกัน!”

วรยุทธ์ของเซี่ยฮ่วนหรานเป็นอันดับหนึ่งของโลกจอมยุทธ์ ถ้าเขาออกโรง ใครยังจะรอดได้อีก

ปล่อยผู้หญิงคนนี้ไว้ไม่ได้เด็ดขาด!

มิฉะนั้นจะเป็นตัวหายนะ!

จะขัดขวางแผนการใหญ่ของตระกูลเซี่ยที่ต้องการยึดครองโลกจอมยุทธ์

ผู้อาวุโสใหญ่กำลังจะตั้งค่ายกลหลบหนี

แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้หนีก็มีค่ายกลอื่นตั้งอยู่รอบตัวเขาก่อนแล้ว

นี่คือค่ายกลที่เมื่อครู่ตี้อู่เย่ว์แอบตั้งไว้เงียบๆ

มีอยู่ในทุกทิศทาง ปิดกั้นเส้นทางหลบหนีทั้งหมดของผู้อาวุโสใหญ่ตระกูลเซี่ย

อิ๋งจื่อจินยกมือ สายตาเย็นชา “จบแค่ตรงนี้”

เสียงของอิ๋งจื่อจินถูกกำลังภายในขยายแรงสั่นสะเทือน พลังทะลุทะลวงรุนแรงมาก

ผู้อาวุโสใหญ่อยู่ใกล้สุด สะเทือนเยื่อแก้วหูของเขาจนมีเลือดออก

เขาช็อกหนัก “ปรมาจารย์จอมยุทธ์!”

ที่แท้ที่อิ๋งจื่อจินลอยอยู่ในอากาศได้ไม่ใช่เพราะค่ายกลค้ำไว้หรอกเหรอ

คนที่เขาเผชิญหน้าด้วยคือปรมาจารย์จอมยุทธ์!

พวกนักท่องเที่ยวที่กำลังลงจากเขาต่างได้ยินกันหมด

แต่ก็มีหลายคนที่คิดว่าเป็นการถ่ายละคร คิดว่าเป็นบทที่อยู่ในเรื่อง

น่าเกรงขามพอสมควร

นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยคิดไว้ว่าเดี๋ยวกลับไปจะเสิร์ชหาดูว่าเรื่องอะไร

แต่เป็นเรื่องบังเอิญมากที่ช่วงนี้มหาวิทยาลัยตี้ตูได้ให้พวกศาสตราจารย์ของสามคณะใหญ่หยุดสามวัน ออกเงินให้พวกเขาไปท่องเที่ยว

สถานที่ก็คือเขาซงซาน

จั่วหลีกำลังรีบตามศาสตราจารย์คนอื่นลงเขา

พอเขาได้ยินเสียงนี้ก็อดอึ้งไม่ได้ “ศาสตราจารย์กู่ ลองฟังดูสิครับว่าใช่เสียงนักศึกษาอิ๋งหรือเปล่า”

ศาสตราจารย์กู่ก็อึ้ง จากนั้นก็ส่ายหน้า ถอนหายใจยาว “เสี่ยวจั่ว คิดถึงนักศึกษาอิ๋งมากเกินไปแล้ว หูแว่วล่ะสิ”

จั่วหลี “…”

เขาเปล่านะ เขาก็แค่มีระบบเรดาร์ตามหาอิ๋งจื่อจินติดตัว เพื่อที่จะให้เธอกลับไปทำการทดลองและเขียนบทความ

“เมื่อกี้เด็กสาวคนนั้นบอกว่าเป็นละครของชูกวงมีเดียไม่ใช่เหรอ” ศาสตราจารย์กู่พูด “นักศึกษาอิ๋งเป็นบอส เธอจะมาแสดงด้วยตัวเองเลยเหรอ”

จั่วหลีนึกถึงภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ที่เขาเห็นอยู่ไกลๆ

ก็จริง

ถ้าไม่มีสลิงจะมีคนลอยคว้างอยู่กลางอากาศขัดต่อแรงโน้มถ่วงของโลกได้ยังไง

เขาที่เป็นศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์จะคัดค้านเป็นคนแรก!

ศาสตราจารย์กู่ยิ้มตาหยีพลางพูดขึ้น “เสี่ยวจั่ว ให้ฉันพาไปเช็กสมองหน่อยไหม ฉันได้ส่วนลดยี่สิบเปอร์เซ็นต์นะ”

จั่วหลี “…พอเถอะครับ”

บรรดานักท่องเที่ยวออกจากตรงนั้นไปหมดแล้ว

“ฮัลโหล แฟนพี่สาว” ตี้อู่เย่ว์หลบไปด้านข้างแล้วโทรศัพท์ “พี่สาวให้โทรมาบอกว่าเธอลงมือแล้ว เรื่องด่วน มีหลายคนที่เห็น”

“กล้องวงจรปิดก็มี เลยอยากให้คุณช่วยลบภาพกล้องวงจรปิดทั้งหมดที่อยู่รอบเขาซงซานในตี้ตูค่ะ ห้ามปล่อยให้ปรากฏในเน็ตเป็นอันขาด”

บอกว่าใช้สลิงก็พอจะหลอกพวกนักท่องเที่ยวได้อยู่หรอก แต่ไม่มีทางปิดบังผู้เชี่ยวชาญได้

ไม่อย่างนั้นไม่ต้องใช้เวลานานหรอก เว็บบอร์ดโซเชียลของแต่ละประเทศคงได้ลือกันไปใหญ่ว่าคนจีนมีวรยุทธ์กันหมด เป็นเทพไปแล้ว

แววตาของฟู่อวิ๋นเซินขรึมลงเล็กน้อย “รับทราบ เฝ้าเธอไว้ เดี๋ยวผมไป”

ตี้อู่เย่ว์ยังอยากพูดอะไรอีก แต่มีเสียง ตูม ดังสนั่นบนเขา ก้อนหินเริ่มเคลื่อนหล่น

ถ้าหินพวกนี้ถล่มลงไปจะสร้างความเสียหายครั้งใหญ่

“โอ้โห!” ตี้อู่เย่ว์รีบวิ่งไป เริ่มตั้งค่ายกล

ตั้งค่ายกลเสร็จภายในสิบห้าวินาที ขวางก้อนหินพวกนั้นไม่ให้หล่นลงไปได้สำเร็จ

เพียงชั่วเวลาประเดี๋ยวเดียวตี้อู่เย่ว์ตั้งค่ายกลไปมากขนาดนี้ เธอเริ่มหมดแรงแล้ว

แต่เธอไม่ได้พัก แค่เช็ดเหงื่อแล้วเดินขึ้นเขา

เมื่อเธอไปถึงยอดเขา ผู้อาวุโสใหญ่ตระกูลเซี่ยก็ล้มอยู่บนพื้น หมดลมหายใจไปแล้ว

เขานอนตายตาค้าง เห็นได้ชัดว่าตายอย่างไม่ยอมแพ้

อิ๋งจื่อจินนั่งขัดสมาธิอยู่

ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็ลืมตาขึ้น “ตระกูลเซี่ยคงใกล้ระเบิดแล้ว”

“ระเบิดอะไรเหรอ” ตี้อู่เย่ว์เกาหัว เดินเข้าไป “นี่มันค่ายกลอะไรเหรอ”

อิ๋งจื่อจินยืนขึ้น “ค่ายกลเจ็ดดาว อยากเรียนไหม”

“เรียนๆๆ” อยู่ๆ ตี้อู่เย่ว์ก็พูดขึ้น “งั้นพี่สาวรับฉันเป็นศิษย์ได้หรือเปล่า”

อิ๋งจื่อจินเลิกคิ้ว “ทำไม อยากให้ปู่เธอเรียกเธอว่าท่านอาบูรพาจารย์เหรอ”

“เปล่าๆๆ” ตี้อู่เย่ว์สำลัก “ฉันแค่อยากเรียนจริงๆ”

เธอเงียบไปชั่วครู่ “พี่สาว ฉันอ่อนแอเกินไป เมื่อก่อนก็เอาแต่เที่ยวเล่น ถ้าไม่มีพี่สาว เกิดปู่ตายไปก่อน ตระกูลตี้อู่ก็ไม่มีใครค้ำจุนได้แล้ว”

สุขภาพของตี้อู่ชวนย่ำแย่อยู่ได้อีกไม่นานแล้ว

นักพยากรณ์ย่อมได้รับเคราะห์จากการพยายามแก้ไขบ่วงกรรม ไม่ใช่อาการเจ็บป่วยที่แพทย์แผนโบราณจะรักษาได้ ทำได้เพียงยอมรับผล

หากตี้อู่ชวนจากไป ตระกูลตี้อู่ก็จะถูกคนจำนวนมากจับจ้อง

อิ๋งจื่อจินหลุบตาลง หัวเราะเบาๆ “ได้”

ในที่สุดก็โตสักทีนะ

เธอรู้สึกดีใจ

ด้วยพรสวรรค์ของตี้อู่เย่ว์ วันหน้าจะต้องเป็นนักพยากรณ์อันดับหนึ่งของประเทศจีนได้แน่นอน

เธอทิ้งความเสียดายหลายอย่างไว้ในตัวตี้อู่เซ่าเสียน ครั้งนี้จะได้ชดเชยให้ได้แล้ว

ตี้อู่เย่ว์ดีใจมาก คุกเข่าลงทันที คำนับอาจารย์

“เอาล่ะ ไม่ต้องพิธีรีตอง” อิ๋งจื่อจินห้าม “ขอแค่เธอรับปาก จะทำนายใครก็ได้แต่อย่าทำนายฉัน จำคำนี้ไว้ตลอดไป”

“ไม่มีปัญหาๆ” ตี้อู่เย่ว์รับปาก “อาจารย์เก่งขนาดนี้ ศิษย์ก็ไม่กล้าทำนายอาจารย์หรอกค่ะ”

ใช่ว่าเธอจะไม่เคยเห็น ตอนนั้นแค่ปรมาจารย์เว่ยลองพยากรณ์ชื่อของอิ๋งจื่อจินก็กระอักเลือดออกมาแล้ว

ผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอแบกรับเรื่องแบบนี้ไม่ไหวหรอก

อิ๋งจื่อจินครุ่นคิดชั่วครู่แล้วเอาอมยิ้มยัดใส่มือตี้อู่เย่ว์ พูดอย่างใจเย็น “ช่วงนี้อาจารย์ค่อนข้างจน ใช้อันนี้เป็นของขวัญรับศิษย์แล้วกัน”

ตี้อู่เย่ว์ “?”

เธอรีบฉีกกระดาษห่อออก

ขณะที่เอาอมยิ้มเข้าปากเธอก็เหมือนนึกคำพูดของตี้อู่ชวนขึ้นมาได้ ตอนบรรพบุรุษของเธอคำนับเป็นศิษย์ อย่างน้อยก็ได้ทองมาก้อนหนึ่ง

แต่เธอ…

ตี้อู่เย่ว์กัดอมยิ้ม

แต่ก็อร่อยดีนะ

รสลิ้นจี่

เวลานี้

บ้านตระกูลเซี่ย

เซี่ยเนี่ยนได้รับบาดเจ็บ นายใหญ่เซี่ยกับคุณนายเซี่ยอยู่เฝ้าเธอ ไม่กล้าปล่อยให้เกิดอะไรขึ้นกับเธอแม้แต่น้อย

ไม่อย่างนั้นพอเซี่ยฮ่วนหรานออกมา พวกเขาจะโดนคาดโทษ

ขณะที่คุณนายเซี่ยกำลังจะไปยกรังนกมาจากห้องครัว พอเดินพ้นประตูพื้นก็สั่นสะเทือน

เธอร้องด้วยความตกใจ เท้าลื่น

วินาทีถัดมา

ตูม!

ตูมๆๆ!

เสียงระเบิดดังสนั่นไม่หยุด ชวนให้แสบแก้วหู

นายใหญ่เซี่ยเข้าไปประคองคุณนายเซี่ยได้ทันเวลา รู้สึกงุนงง “แผ่นดินไหวเหรอ”

แต่เพียงชั่วพริบตาเขาก็สังเกตเห็นถึงความผิดปกติ “ไม่ถูกสิ มาจากทางสุสานบรรพชน!”

สุสานบรรพชนเป็นที่ฝังศพของเหล่าผู้นำตระกูลเซี่ย แม้แต่เซี่ยฮ่วนหรานยังต้องไปกราบไหว้ ใครกล้ารุกรานสุสานบรรพชนของตระกูลเซี่ย!

นายใหญ่เซี่ยวิ่งไปที่สุสานบรรพชนทันที

เมื่อเขาไปถึง คณะผู้อาวุโสตระกูลเซี่ยก็มาถึงก่อนแล้ว

ภาพเหตุการณ์ตรงหน้าทำให้นายใหญ่เซี่ยตะลึงตาค้าง

สุสานบรรพชนของตระกูลเซี่ยระเบิด!

ถึงขั้นที่ว่าตรงกลางสุดเป็นหลุมยุบลงไป

แต่ไม่พบคน

นี่ไม่ใช่ฝีมือมนุษย์กระทำ

ผู้อาวุโสรองขมวดคิ้วมองอยู่สักพัก สีหน้าเปลี่ยน “ไม่ได้การ พี่ใหญ่ล้มเหลวแล้ว ตระกูลเซี่ยไม่ได้ดวงพวกนั้นมา กลับสูญเสียที่มีอยู่ไปด้วยซ้ำ!”

สุสานบรรพชนเป็นฮวงจุ้ยล้ำค่าที่ดีที่สุดในอาณาเขตของตระกูล

หากแม้แต่สุสานบรรพชนยังระเบิด ก็แสดงให้เห็นว่าตระกูลเซี่ยสูญเสียดวงไปมากขนาดไหน

ดวงที่ตระกูลเซี่ยสะสมมาหลายร้อยปีได้หายไปหมดแล้วในเวลานี้!

สรุปสั้นๆ ได้ว่าชีพจรมังกรถูกตัดขาด

นี่ก็เป็นเรื่องที่เคยมีในสมัยโบราณ

เมื่อชีพจรมังกรของราชวงศ์หนึ่งถูกตัดขาด ดวงชะตาของราชวงศ์นั้นก็จะเดินมาถึงวาระสุดท้าย

ผู้คนเสื่อมศรัทธา เกินกว่าจะกอบกู้

แต่ตระกูลเซี่ยไม่เหมือนราชวงศ์ ตระกูลเซี่ยมีฝีมือการต่อสู้

แต่การสูญเสียดวงก็ถือเป็นการสูญเสียอย่างมหาศาล

น้ำเสียงของผู้อาวุโสรองร้อนรน “เกรงว่านักพยากรณ์พวกนั้นจะเตรียมรวมตัวกันเพื่อมาเอาเรื่องตระกูลเซี่ยแล้ว!”

จะหาเรื่องใครก็อย่าหาเรื่องนักพยากรณ์

เกิดลงมือเล่นงานที่ดวงปาจื้อ แบบนั้นจะยุ่งยากแล้ว

หากนักพยากรณ์พวกนั้นผนึกดวงชะตามาเล่นงานตระกูลเซี่ย ตระกูลเซี่ยก็จะเสียหายถึงแก่นแท้

นายใหญ่เซี่ยพูดเสียงสั่น “ผะ ผู้อาวุโสรอง ทำไงดีครับ”

“ปิดประตูบ้าน!” ผู้อาวุโสรองสั่งทันที “ใครก็ตามที่แซ่เซี่ยห้ามออกไปเด็ดขาดจนกว่าท่านผู้นำตระกูลจะออกมา!”

“ห้ามก่อเรื่อง ศาลสถิตยุติธรรมก็ไม่มีข้ออ้างให้เข้ามา”

ผู้อาวุโสสามพยักหน้า พูดเสียงเครียด “มีแค่หนทางนี้แล้ว”

ค่ายกลบูชาสวรรค์ไม่สำเร็จ อีกทั้งยังล่วงเกินวงการนักพยากรณ์

พวกเขาทำได้เพียงรอพึ่งเซี่ยฮ่วนหรานแล้ว

อดทนสามเดือนก็ไม่เป็นไร

ขอเพียงแต่ครั้งนี้เซี่ยฮ่วนหรานเก็บตัวฝึกได้สำเร็จ วรยุทธ์ก้าวหน้าขึ้นมากอีกครั้ง

โลกจอมยุทธ์ก็จะอยู่ในกำมือตระกูลเซี่ย เมื่อถึงตอนนั้นค่อยสะสมดวงก็ยังไม่สาย

อีกด้านหนึ่ง

จั่วหลีลงจากเขาซงซานกลับถึงเขตที่พักตัวเอง

ในสมองยังคงมีคำว่า ‘กฎความโน้มถ่วงสากลของนิวตัน’ วนเวียนอยู่ตลอด

พอเดินถึงประตูทางเข้า ยามหน้าประตูก็ทักทายเขาอย่างเป็นกันเอง “ศาสตราจารย์จั่ว นี่พัสดุครับ ส่งมาจากประเทศเอ็ม”

“ประเทศเอ็มเหรอ” จั่วหลีคิดว่าอาจเป็นเพื่อนเก่าของเขาส่งมา จึงพยักหน้าแล้วถือพัสดุเดินขึ้นตึก

พอเข้าไปในบ้านเขาก็กินข้าวพร้อมเมียกับลูก จากนั้นถึงเข้าไปแกะพัสดุในห้องหนังสือ

แกะเสร็จจั่วหลีก็พบว่าเป็นตัวอย่างวารสารที่ศูนย์ฟิสิกส์สากลส่งให้เขา

วารสารตัวอย่างปักษ์นี้จะตีพิมพ์ออกมาปลายเดือนเมษายน ซึ่งก็อีกไม่กี่วันแล้ว

จะตีพิมพ์ออกไปทั่วโลก และก็จะส่งถึงมือศาสตราจารย์แต่ละคนในแวดวงวิทยาศาสตร์

เนื่องจากจั่วหลีก็มีตำแหน่งกิตติมศักดิ์ในศูนย์ฟิสิกส์สากล ถึงแม้จะไม่สูง แต่เขาอายุยังน้อย

ด้วยเหตุนี้ทางศูนย์ฟิสิกส์สากลจึงมักส่งวารสารหรือของต่างๆ มาให้เขาอยู่เรื่อยๆ

จั่วหลีคลั่งไคล้ฟิสิกส์มาตลอด พอได้วารสารมาเขาก็เปิดอ่านบทความด้านใน

ปักษ์นี้มีผลงานชื่อดังของศาสตราจารย์สูงวัยที่มีชื่อเสียงในระดับสากลอยู่หลายคน

จั่วหลีอ่านจบก็พยักหน้าต่อเนื่อง

ขิงยิ่งแก่ยิ่งเผ็ดจริงๆ สินะ

เขาอ่านต่อ เปิดไปจนถึงบทความสุดท้าย

จั่วหลีขมวดคิ้ว

เขาอ่านบรรทัดแรกก็จำได้ว่าเป็นบทความของอิ๋งจื่อจิน

อิ๋งจื่อจินไม่ได้เขียนแค่ฟิสิกส์ดาราศาสตร์ ยังได้เขียนเรื่องเอกภพคู่ขนานด้วย

แนวคิดแปลกใหม่ อีกทั้งข้อมูลอ้างอิงก็มีหลักฐานชัดเจน

เพียงแต่สำนวนการเขียนออกจะด้อยกว่าพวกศาสตราจารย์สูงวัยหน่อย แต่ก็ถือว่าเก่งมากแล้วสำหรับคนอายุเท่าเธอ

อ่านแค่รอบเดียวก็ไม่มีทางลืม

ศูนย์ฟิสิกส์สากลบอกว่าตีกลับบทความของอิ๋งจื่อจินมาแล้ว ไม่ผ่านการพิจารณา

แล้วทำไมตอนนี้ถึงไปโผล่ในวารสารวิทยาศาสตร์ได้

นี่จงใจเซอร์ไพรส์เขาเหรอ

ขณะที่จั่วหลีกำลังงงอยู่นั้น

และแล้วเขาก็เห็นชื่อเจ้าของบทความนี้

เอลิซาเบธ ลอเรนท์

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท