คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 703 หนุนหลัง! นอร์ตัน ‘พูดถึงฉันอยู่เหรอ’

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 703 หนุนหลัง! นอร์ตัน ‘พูดถึงฉันอยู่เหรอ’

“การจราจรแถวนี้เป็นอัมพาตหมดแล้วครับ!”

การจราจรทางอากาศของเมืองแห่งโลกเป็นที่แพร่หลายเมื่อปลายศตวรรษที่ยี่สิบ

ในช่วงยี่สิบปีมานี้มียานพาหนะรุ่นใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ บรรดาชาวเมืองก็ชอบที่จะซื้อพวกรถที่เหาะได้มากกว่า

เส้นทางบนอากาศเกิดอุบัติได้ง่าย

ดังนั้นรถที่ใช้เส้นทางจะได้รับการควบคุมอย่างเข้มงวดจากทางสำนักจราจรตลอดเวลา

แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เกิดเหตุระเบิด

เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้ามาถึงขั้นนี้ ต่อให้เป็นระเบิดจิ๋วที่คณะวิศวกรรมศาสตร์คิดค้นขึ้นก็ไม่มีทางรอดเครื่องตรวจจับไปได้

อีกทั้งการจราจรทางอากาศเป็นอัมพาต การจราจรบนพื้นดินก็ต้องได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน

ซู่เวิ่นสีหน้าเปลี่ยนทันที “เกิดเรื่องตั้งแต่เมื่อไร!”

รถที่ซีนายขับขายราคาพันล้านในเว็บดับบลิว

อีกทั้งยังเป็นรุ่นที่สร้างขึ้นมาอย่างจำกัด ต้องจับฉลากซื้อ

คนที่ซื้อได้จะต้องรวยมาก มีสถานะระดับหนึ่งในเมืองแห่งโลก

“รีบเตรียมรถ ทีมคุ้มกันออกทำงาน” ซู่เวิ่นลุกพรวด “ตามฉันไปช่วยเดี๋ยวนี้!”

“คุณนายใหญ่!” พอได้ยินแบบนี้พ่อบ้านก็ร้อนใจขึ้นมาทันที รีบห้าม “คุณนายใหญ่เพิ่งฟื้นนะครับ ร่างกายยังมีอาการหลงเหลืออยู่หรือเปล่าก็ยังไม่รู้”

“เกิดเหตุระเบิดขึ้นแล้ว ไม่แน่ผู้ก่อเหตุอาจยังอยู่ในที่ลับ ความปลอดภัยของคุณนายใหญ่ก็สำคัญนะครับ!”

ซู่เวิ่นกลับเดินออกไปแล้ว

เธอร้อนใจมากเหลือเกิน

เธอเองก็บอกไม่ถูกว่าความกระวนกระวายใจแบบนี้มันคืออะไรกันแน่

พอซู่เวิ่นออกคำสั่ง ทีมคุ้มกันชั้นยอดของตระกูลเรนเกลก็ตามออกไปด้วย

โมเชี่ยนมองตามหลังซู่เวิ่นที่เดินไปไกล เขาโล่งอก

ทรุดลงบนพื้น รู้สึกได้เลยว่าหลังเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ

ร่างเย็นเฉียบของคุณนายสามอยู่ข้างเขา

โมเชี่ยนเช็ดเหงื่อบนศีรษะ

นับแต่วันนี้เป็นต้นไป เขาจะทำอะไรต้องระมัดระวังให้ดี

“ปิ๊นๆๆ…”

เสียงแตรรถดังระงมบนท้องฟ้า

[แจ้งเตือน! แจ้งเตือน!]

[เส้นทางข้างหน้าเกิดอุบัติเหตุ รถทุกคันโปรดเลี่ยงเส้นทาง!]

[แจ้งเตือนอีกครั้ง หากไม่มีความจำเป็น เย็นวันนี้ชาวเมืองที่อยู่โซนตะวันออกกรุณางดเดินทาง]

เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันแบบนี้สร้างความเดือดร้อนให้หลายคน

บิลก็รวมอยู่ในนั้น

เธอยกแว่นกันแดดขึ้น ถามคนขับรถด้วยความไม่พอใจ “เกิดอะไรขึ้น”

คนขับรถมือสั่น “คุณหนูบิลครับ ทางตระกูลส่งข่าวมาว่า คุณหนูห้ากับคุณหมอเทวดานั่งอยู่ในรถคันที่ระเบิดครับ คุณนายใหญ่ไปช่วยเหลือด้วยตัวเองแล้ว”

บิลขมวดคิ้ว “ตายหรือเปล่า”

คนขับรถลังเล “เหตุระเบิดระดับนั้น ต่อให้เป็นอัศวินจอกศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่น่ารอดหรือเปล่าครับ”

ขนาดพวกเขาอยู่ไกลยังมีถูกสะเก็ดระเบิดอยู่บ้าง

คนที่อยู่จุดศูนย์กลางของระเบิดยังจะรอดอีกเหรอ

“อ่อ” บิลใส่แว่นกันแดดอีกครั้ง “น่ารำคาญ กลับสำนักวิจัย”

คนขับรถรีบเลี้ยวรถทันที

ทางด้านหน้า

กลุ่มควันดำลอยโขมง รถจำนวนหลายสิบคันไหม้เกรียม

หนึ่งในนั้นเกิดเสียงดัง “ตึง”

เท้าของอิ๋งจื่อจินถีบประตูรถ สีหน้าเย็นชา

มือข้างหนึ่งของเธอกอดเด็กทารกผู้หญิงวัยขวบกว่าเอาไว้ มืออีกข้างถือโทรศัพท์มือถือ เธอพูด “ผู้บัญชาการ?”

“เยาเยา” น้ำเสียงของฟู่อวิ๋นเซินเย็นชา “อยู่ที่ไหน”

อิ๋งจื่อจินบอกพิกัด จากนั้นก็วางเด็กทารกไว้ในที่ปลอดภัย

ต่อมาเธอกดปุ่มที่อยู่ในผ้าห่อตัวเด็ก

ปุ่มนี้จะแจ้งให้พ่อแม่เด็กทราบได้

อิ๋งจื่อจินครุ่นคิดแล้วเอาหยกชิ้นหนึ่งวางในมือของเด็กน้อย

ในเมื่อได้เจอกันแล้วก็คือพรหมลิขิต

อย่างน้อยหยกชิ้นนี้ก็ช่วยให้เด็กทารกพ้นเคราะห์ได้ครั้งหนึ่ง

พอทำทุกอย่างเสร็จ อิ๋งจื่อจินก็ลุกขึ้นแล้วมุ่งหน้าไปยังพิกัดอย่างรวดเร็ว

ฟู่อวิ๋นเซินมาถึงแล้ว

แววตาของเขาขรึมลง จับมืออิ๋งจื่อจิน สำรวจบาดแผลตามร่างกายของเธออย่างละเอียด

นอกจากแผลถลอกตามแขนแล้วส่วนอื่นก็ไม่ได้บาดเจ็บ

“ฉันไม่เป็นไร” อิ๋งจื่อจินหาว “ระเบิดระดับแค่นี้ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก ก็แค่ใช้กำลังภายในไปไม่น้อย”

เธอพูดอย่างใจเย็น “พี่ชาย ตื่นตูมเกินไป”

ที่โชคดีก็คือ ครั้งนี้ไม่มีคนเสียชีวิต

ในที่สุดเธอก็ช่วยชีวิตคนอื่นๆ ไว้ได้

ฟู่อวิ๋นเซินลูบศีรษะเธอ ยิ้มจนปัญญา “พี่ชายก็แค่เป็นห่วงเธอ ถ้าไม่ห่วงเธอแล้วจะให้ห่วงใคร”

“ระเบิดแบบนั้นอีกแล้ว” เขาหันไป แววตาขรึมลงกว่าเดิม “มิน่าเครื่องมือถึงตรวจไม่พบ โชคดีที่เตรียมการไว้ก่อนแล้ว”

หลักการของระเบิดที่ทำจากสสารเล่นแร่แปรธาตุไม่สอดคล้องกับเทคโนโลยีใดๆ

ฟู่อวิ๋นเซินโอบเอวเธอ ทั้งสองคนกระโดดลงจากกลางอากาศ

“อืม” อิ๋งจื่อจินมองไปทางที่ควันดำโขมง “ไปก่อนเถอะ”

ขณะพูดสายตาเธอก็ชะงัก ถอนหายใจเบาๆ “พันล้าน”

ระเบิดหายวับ

“คนคลั่งเงิน” ฟู่อวิ๋นเซินหยิกแก้มเธอ หัวเราะเบาๆ “เงินยังหาใหม่ได้ ถ้าชอบรถเดี๋ยวกลับไปจะซื้อให้คัน”

อิ๋งจื่อจินเลิกคิ้ว “อืม คุณหาเงินเลี้ยงครอบครัว และก็รับหน้าที่ปั้นหน้าหล่อด้วย”

โทรศัพท์มือถือดังขึ้นในเวลานี้

“ติ๊ดๆๆ” ดังถี่เร็ว ซู่เวิ่นส่งข้อความมา

อิ๋งจื่อจินเงียบไปชั่วขณะแล้วตอบกลับ

[คุณป้าคะ ตัวตนนี้ของหนูตายไปแล้ว พรุ่งนี้เช้าพวกเราเจอกันที่สำนักวิจัยได้ค่ะ ซีนายก็ไม่เป็นอะไร]

ด้วยระดับความฉลาดของซู่เวิ่น แค่นี้ก็เข้าใจแล้ว

ที่แท้คุณหมอเทวดาก็แปลงโฉมมา

หลังจากแน่ใจว่าอิ๋งจื่อจินปลอดภัยดี ซู่เวิ่นก็โล่งอก หัวใจที่เคว้างคว้างก็สงบลง

[คุณหมอเทวดา พรุ่งนี้เจอกันจ้ะ ป้าจะทำขนมไว้ให้ ไม่ต้องกินอาหารเสริมแล้วนะ ไม่อร่อยเลยสักนิด]

[อิ๋งจื่อจิน : ค่ะ ขอบคุณค่ะคุณป้า]

ซู่เวิ่นเก็บโทรศัพท์กลับโดยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ไม่พูดอะไร ช่วยค้นหาคนต่อ

อีกด้านหนึ่ง

ซีนายถูกอิ๋งจื่อจินช่วยออกไป สเก็ตบอร์ดพาเธอไปยังที่เปลี่ยว

พอเธอเงยหน้าก็พบว่าเธอมาถึงบริเวณใกล้ๆ สำนักผู้วิเศษ

ครั้นแล้วเธอจึงหยิบยาแก้อาการที่อิ๋งจื่อจินเตรียมไว้ให้ออกมากินหนึ่งเม็ด ร่างกายกลับคืนเป็นผู้ใหญ่อีกครั้ง

แบบนี้ก็ไปไหนมาไหนคล่องตัว

ขณะที่ซีนายเตรียมจะออกไป

เวลานี้มีเสียงฝีเท้าถี่เร็วดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงตวาดของเหล่าอัศวิน

“มีคนลอบสังหารท่านนักมายากล!”

“รีบจับตัวเร็ว!”

“รายงานครับ! นักฆ่าสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว เอวคอด สวมกางเกงยีนส์ สูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบสองเซนติเมตร เป็นหญิงสาวผมสีบลอนด์ สัดส่วน แปดสิบแปด หกสิบ แปดสิบห้าครับ”

“ถ้าใครพบเจอ ไม่ต้องจับเป็น ยิงทิ้งได้เลย!”

ซีนายเพิ่งจัดระเบียบเสื้อผ้าเสร็จ สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

ข้อมูลนี้ตรงกับตัวเธอทุกประการ

นี่คือแผนที่วางไว้ล่วงหน้า

สถานะของผู้วิเศษอยู่สูงมาก

ลอบสังหารผู้วิเศษ ต่อให้เป็นบุคคลระดับลูเอลก็ต้องถูกยิงทิ้งทันที

ผู้วิเศษคุ้มครองเมืองแห่งโลกมาหลายสิบศตวรรษ ชาวเมืองแห่งโลกก็เชื่อมั่นในผู้วิเศษแบบไม่มีเงื่อนไข

ซีนายหันตัววิ่งหนี

แต่เล็กจนโตเธอเอาแต่ทำการทดลองอยู่ในสำนักวิจัยมาตลอด สมรรถภาพร่างกายของเธอจึงไม่ถือว่าดีมาก

ซีนายใช้เทคโนโลยีที่ติดตัวหลบการตามล่าของอัศวินได้ครั้งแล้วครั้งเล่า

จนกระทั่งเธอฝ่าเข้าไปในเส้นทางหนึ่ง เท้าของเธอหยุดชะงัก

แย่แล้ว

นี่มันเส้นทางที่ไม่มีทางออก

ซีนายเงยหน้าขึ้น

เหนือศีรษะมีโดรนสารพัดบินวนอยู่

ถ้าเธอใช้อุปกรณ์เหาะออกไปก็จะถูกจับทันที

แววตาของซีนายสุขุมเยือกเย็น คิดหาทางหนีออกไป

ในเวลานี้เองมีมือมาจับข้อมือของเธอไว้

ตามมาด้วยแรงมหาศาล ยันตัวเธอไปติดกับกำแพง

ซีนายตัวเกร็ง มือจับที่ปืนเลเซอร์แล้ว

แต่แรงมหาศาลนั้นทำให้เธอขยับไม่ได้ ร่างกายถูกกดไว้อย่างสิ้นเชิง

พื้นที่คับแคบ อุณหภูมิค่อยๆ สูงขึ้น

ศีรษะของเธอถูกผู้ชายตรงหน้าใช้มือจับไว้ เบื้องหน้ามีแต่ความมืดมิด

จากมุมของเธอมองไม่เห็นอะไร เห็นเพียงกระดูกไหปลาร้าที่อยู่ใต้เสื้อเชิ้ตของอีกฝ่าย

ตามมาด้วยลมหายใจกระเพื่อม

“ตึกๆๆ”

เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

“ทางนี้! เร็วเข้า อยู่ทางนี้!”

เสียงของซีนายเย็นชา “พวกเขากำลังจับฉัน ปล่อยฉัน ไม่อย่างนั้นคุณจะซวยไปด้วย ขอบคุณที่เจตนาดี”

ผู้ชายคนนั้นไม่พูดอะไร

“ตึก!”

เสียงฝีเท้าหยุดลงในเวลานี้

คนที่นำมาคือผู้บัญชาการอัศวินจอกศักดิ์สิทธิ์

ซีนายใจคอไม่ดี

“นั่นใคร” ผู้บัญชาการอัศวินจอกศักดิ์สิทธิ์หรี่ตา สายตาดุดัน

เส้นทางนั้นมืดมิด แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการมองเห็นได้อย่างชัดเจนของเขา

ผู้บัญชาการอัศวินจอกศักดิ์สิทธิ์สังเกตเห็นผมสีบลอนด์

และคนที่ถูกกดเข้าหากำแพงก็เป็นผู้หญิงอย่างไม่ต้องสงสัย

แม้จะไม่แน่ใจว่าเป็นนักฆ่าหรือเปล่า แต่ยอมฆ่าคนผิดตัวดีกว่าปล่อยไปสักคน

“ฟังให้ดี ปล่อยผู้หญิงในมือซะ มิฉะนั้นแกก็จะถูกจับด้วยในข้อหาลอบสังหารผู้วิเศษ!”

ชายหนุ่มค่อยๆ หันหน้ามา

แสงจากประกายไฟทำให้ผู้บัญชาการอัศวินจอกศักดิ์สิทธิ์เห็นใบหน้าของเขา

ผมสีดอกเลาเส้นละเอียดดูสะดุดตายิ่งขึ้นเมื่ออยู่ในเส้นทางที่มืดมิดนี้

ต่างหูสีดำสองเม็ดสะท้อนแสง ช่วยขับให้ใบหน้าของชายหนุ่มยิ่งดูขาวผ่อง

ในที่สุดเขาก็เงยหน้าขึ้น มือยังคงล็อกซีนายไว้ไม่ให้เธอขยับ และไม่ให้เธอเห็นใบหน้าของเขา

นอร์ตันยิ้ม พูดอย่างใจเย็น “นาย พูดถึงฉันอยู่เหรอ”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท