คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 705 ถานถานอายุเท่าเธอ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 705 ถานถานอายุเท่าเธอ

อิ๋งจื่อจินได้ยินเสียงก็เงยหน้าขึ้น

คราวนี้ดวงตาของเธอมองเห็นชัดเจนยิ่งขึ้น

แสงแดดฉาบใบหน้าของเธอจนเป็นสีทองอ่อนๆ ดวงตาสุกใสดุจสายน้ำ

คล้ายดวงตาของรูปปั้นที่สมบูรณ์แบบ ลืมตาขึ้นอีกครั้งหลังจากหลับใหลไปนาน งดงามในชั่วขณะที่ตื่น

ซู่เวิ่นมองด้วยความตะลึง ขอบตาเริ่มรื้น มีน้ำตาเอ่อล้น

ถึงแม้เธอกับลูเอลเจอกันครั้งแรกจะเป็นเรื่องเมื่อยี่สิบห้าปีก่อนแล้ว

แต่เธอหลับไปนานยี่สิบปี สำหรับเธอ การเจอกันครั้งแรกคือเมื่อห้าปีก่อน

ทุกอย่างยังคงชัดเจน

ชั่วขณะนี้ราวกับเธอเห็นลูเอลที่ตอนนั้นเดินมาหาเธอ

ไม่ใช่หน้าตาที่คล้ายกัน แต่เป็นสายตา

อิ๋งจื่อจินเองก็อึ้ง

เธอเดินขึ้นหน้า กำลังจะก้มตัวเก็บกล่องอาหารขึ้นมา

แต่วินาทีถัดมามือของเธอก็ถูกจับไว้

มือของซู่เวิ่นเย็นเฉียบ คล้ายหิมะในฤดูหนาว เย็นสุดขั้ว

มือของอิ๋งจื่อจินชะงัก “คุณป้า?”

“ขอโทษทีจ้ะ ป้าตื่นเต้นเกินไปหน่อย” ซู่เวิ่นเช็ดน้ำตา ยิ้มพลางพูด “ได้ยินซีนายบอกว่าคุณหมอเทวดาใช้ชีวิตอยู่ในประเทศจีนตั้งแต่เด็ก ใช่ไหมจ๊ะ”

“ค่ะ” อิ๋งจื่อจินตอบ “หนูเกิดที่เมืองฮู่เฉิงประเทศจีน ตอนเด็กๆ เคยถูกลักพาตัว ไม่เคยไปจากประเทศจีนก่อนอายุสิบเจ็ดค่ะ”

“อย่างนั้นเหรอ” ซู่เวิ่นพึมพำ “คุณพ่อคุณแม่ดีกับหนูไหม หนูสวยขนาดนี้ เก่งขนาดนี้ พวกเขาจะต้องรักหนูมากแน่นอนใช่ไหมจ๊ะ”

อิ๋งจื่อจินเงียบไปชั่วขณะ “พวกเขาไม่รักหนูค่ะ”

ถึงแม้จะไม่มีเยื่อใยกับตระกูลอิ๋ง

แต่เธอก็กำลังคิดว่าทำไมบนโลกนี้ถึงได้มีพ่อแม่ที่เห็นแก่ผลประโยชน์ เห็นลูกเป็นเครื่องมือได้

ซู่เวิ่นขมวดคิ้ว สังเกตเห็นว่านี่ไม่ใช่คำถามที่ดี จึงไม่ถามอะไรมากอีก

เธอยังจับมืออิ๋งจื่อจิน หยุดคิดเล็กน้อยแล้วถามต่อ “ปีนี้อายุสิบเก้าปีเหรอจ๊ะ”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเบาๆ “ค่ะ”

“ถ้าถานถานยังมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้ก็อายุเท่าหนูเลย” ซู่เวิ่นถึงปล่อยมือ ถอนหายใจเบาๆ

“เมื่อกี้ป้าเก็บอาการไม่อยู่ เพราะหนู…”

อิ๋งจื่อจินรู้ว่าซู่เวิ่นคิดอะไรอยู่

เพราะเธอกับซู่เวิ่นหน้าตาละม้ายคล้ายกันมากทีเดียว

ตอนแรกที่ซีนายเจอเธอก็เคยพูดทำนองนี้

ซู่เวิ่นส่ายหน้าเบาๆ ยิ้มพลางพูด

“ชื่อเล่นของหนูชื่อเยาเยาใช่ไหม ต่อไปป้าเรียกหนูแบบนั้นแล้วกัน เป็นชื่อที่เพราะจริงๆ”

เธอย่อตัวลงเก็บกล่องอาหารขึ้นมายื่นให้ “เยาเยาจ๊ะ ในนี้มีขนมสามร้อยชิ้น มีหลายสิบรส เพียงพอให้หนูกินได้ระยะหนึ่ง ไว้ป้าจัดการเรื่องในตระกูลเรนเกลเสร็จเรียบร้อย ป้าจะมาหาหนูที่สำนักวิจัยบ่อยๆ นะ”

เมื่อวานซู่เวิ่นทำขนมทั้งคืน

กล่องอาหารนี้ใช้เทคนิคคล้ายกับถุงมหัศจรรย์ ในนั้นใส่อาหารได้เป็นจำนวนมาก

ไม่มีทางหมดอายุภายในห้าสิบปี

แววตาของอิ๋งจื่อจินชะงัก เธอรับมา “ขอบคุณค่ะคุณป้า”

“ไม่เป็นไรจ้ะ” ซู่เวิ่นยิ้ม “ปลายเดือนหนูต้องส่งโปรเจ็กต์แล้ว รีบไปทำต่อเถอะจ้ะ”

เธอมองส่งอิ๋งจื่อจินเดินออกไปแล้วถึงหันตัวเดินออก

ระหว่างทางซู่เวิ่นแอบใจลอย

เธอกลับคฤหาสน์ตระกูลเรนเกล เจอโมเชี่ยนที่วิ่งเข้ามาหา

“พี่สะใภ้ใหญ่ น้องห้าปลอดภัยใช่ไหมครับ” โมเชี่ยนไม่ได้เล่นละคร เขาร้อนใจจริงๆ “ผมเห็นข่าวบอกว่าเจอแค่ศพของคุณหมอเทวดา แต่ไม่เจอน้องห้า”

ซู่เวิ่นหยุดเดิน กวาดตามองเขา “นายคิดว่าปลอดภัยไหมล่ะ”

โมเชี่ยนไม่กล้าหายใจแรง

ระเบิดรุนแรงขนาดนั้น ขนาดหมอเทวดายังตายทันที

ถึงแม้จะไม่พบร่องรอยของซีนายในเหตุการณ์ แต่ก็คงไม่ได้ดีไปกว่ากัน

“พี่สะใภ้ใหญ่ ช่วงหลายปีมานี้น้องห้าก็ลำบากอยู่ไม่น้อย” โมเชี่ยนเช็ดเหงื่อ “ผมเตือนเธอหลายครั้งแล้วว่าลูกสาวพี่สะใภ้ถูกฝังอยู่ในสุสาน แต่น้องห้าก็ยังจะดันทุรังออกไปตามหาที่นอกเมือง”

“ปรากฏว่าน้องห้าก็พากลับมาอยู่หลายคน หน้าตาก็คล้ายพี่สะใภ้ใหญ่กับพี่ใหญ่อยู่หรอก”

พอได้ยินแบบนี้ซู่เวิ่นก็ตะลึง “มีรูปไหม เอามาให้ดูหน่อย”

โมเชี่ยนไม่กล้าขัด เอารูปถ่ายที่เก็บไว้ในช่วงสิบปีมานี้ยื่นให้

ล้วนเป็นรูปถ่ายของเด็กสาวอายุประมาณยี่สิบปี

สิบปีมานี้ซีนายตามหาครั้งแล้วครั้งเล่า หาเป้าหมายที่สอดคล้องที่ยุโรปมาได้อยู่หลายคน

ซู่เวิ่นไล่ดูรูปทีละใบ

เด็กสาวในรูปแต่ละใบ ถ้าไม่คล้ายเธอก็คล้ายลูเอล

ถึงขั้นที่บางคนหน้าคล้ายเธอแปดสิบเปอร์เซ็นต์

แต่ก็ไม่ใช่ทั้งนั้น

ซู่เวิ่นเงียบไป จากนั้นก็ถอนหายใจ

นั่นสิ

เธอเป็นคนฝังถานถานกับมือ ป้ายหน้าหลุมเธอก็เขียนเอง

คนตายแล้วคืนชีพไม่ได้

อีกทั้งเมืองแห่งโลกกับประเทศจีนยังเป็นสองสถานที่ที่ห่างไกลกันมาก

เธอคิดอะไรอยู่กันแน่

ตอนนั้นซีนายก็ไม่รู้ ถึงได้ตามหามาตลอด

แต่เธอเป็นคนที่รู้ กลับยังเพ้อฝันอยู่

โมเชี่ยนสังเกตสีหน้าของซู่เวิ่นด้วยความระมัดระวัง “พี่สะใภ้ใหญ่ ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าครับ การตายของคุณหมอเทวดาเป็นอุบัติเหตุ อย่าเสียใจไปเลยครับ”

“ฉันไม่เป็นไร” ซู่เวิ่นค่อยๆ ดึงสติกลับมา เธอพูด “นายออกไปเถอะ”

โมเชี่ยนโล่งอก ตอนออกไปหลังของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่ออีกครั้ง

เวลานี้เขาวิงวอนอยากให้ลูเอลกลับมาโดยเร็ว

เขาอยู่กับลูเอลยังไม่กดดันเท่าอยู่กับซู่เวิ่น

อีกด้านหนึ่ง

อิ๋งจื่อจินเดินกอดกล่องอาหารกลับเข้าหอพัก เธอเปิดออกแล้วหยิบมาเข้าปากหนึ่งชิ้น

ขนมเหนียวหนึบมีรสหวาน เข้าปากก็ละลาย ไม่เลี่ยน

เธอไม่อยากแบ่งขนมนี้ให้ใครกิน

ไม่ใช่เพราะรสมือของซู่เวิ่นล้ำเลิศขั้นสุดยอด ก็แค่ไม่อยาก

หลังจากอิ๋งจื่อจินกินไปหลายชิ้นก็ปิดฝากลับเหมือนเดิม เอาไปวางบนชั้น

เธอล็อกอินเว็บดับบลิว ใส่พวกข้อมูลสินค้าแล้วกดเริ่มประมูล

เมื่อวานเสียหายไปสามพันล้าน ต้องรีบหากลับมา

อิ๋งจื่อจินครุ่นคิด จากนั้นก็เข้าไปที่โซนสมุนไพร กดสั่งมาเยอะมาก

ถึงแม้ซู่เวิ่นจะฟื้นแล้ว ร่างกายก็ไม่ได้เสียหายอะไรมาก

แต่ก็ต้องปรับสมดุล ย่อมดีกว่า

โทรศัพท์มือถือดังขึ้นในเวลานี้

[ซีนาย : อาอิ๋ง ฉันมาถึงแล้ว]

ข้อความเพิ่งส่งมาถึง ตามมาด้วยเสียงเคาะหน้าต่าง

ซีนายที่สูงหนึ่งร้อยยี่สิบเซนติเมตรสวมรองเท้าเหาะลอยอยู่ในอากาศ

อิ๋งจื่อจินนวดหัว เปิดหน้าต่างให้ซีนายเข้ามา

“เอ๊ะ” ซีนายเห็นกล่องอาหารบนชั้น “พี่สะใภ้ใหญ่เอาขนมมาให้เธอเหรอ”

อิ๋งจื่อจินตอบอืม

“อาอิ๋ง ฉันมีเรื่องอยากขอร้อง” ซีนายครุ่นคิดชั่วขณะ

“ถ้าเธอมีเวลา ช่วยอยู่เป็นเพื่อนพี่สะใภ้ใหญ่ให้มากหน่อยก่อนพี่ใหญ่จะกลับมาได้ไหม”

ต่อให้ซู่เวิ่นเข้มแข็งแค่ไหนก็ยังเป็นผู้หญิงอยู่ดี

ลูกสาวตายตั้งแต่คลอดออกมา คนเป็นแม่ย่อมเดินออกมาจากความเศร้าไม่ได้ง่ายๆ ในช่วงเวลาอันสั้น

“อืม ต่อให้เธอไม่พูดฉันก็จะทำ” อิ๋งจื่อจินไม่ปฏิเสธ มือข้างหนึ่งหยิบกุญแจรถ มืออีกข้างหิ้วซีนายขึ้นมา “ไปเถอะ”

ซีนาย “…”

พอเธอคิดว่าอีกเดี๋ยวต้องไปเจอตาแก่ที่อยากจะผ่าเธอตลอดเวลาแล้วก็รู้สึกไม่สบอารมณ์เท่าไร

ปกตินอร์ตันไม่อยู่ในสำนักผู้วิเศษ แต่อยู่คฤหาสน์ชานเมืองนอกศูนย์กลาง

อิ๋งจื่อจินได้ที่อยู่ของนอร์ตันมาจากซิว เธอขับรถมาจอดหน้าคฤหาสน์

คฤหาสน์แห่งนี้ติดทะเลสาบ ด้านข้างยังมีป่าขนาดย่อม

เป็นสถานที่ดีที่ใช้ทำการทดลอง

“รอเดี๋ยวนะ” อิ๋งจื่อจินลงจากรถ “ขอฉันบอกเขาเรื่องที่ต้องระวังก่อน”

ซีนาย “…”

เธอไม่อยากเข้าไปเลย

อิ๋งจื่อจินเปิดประตูเข้าไป ได้กลิ่นเหล้าอ่อนๆ

วินาทีถัดมาก็ได้ยินเสียง “ฟึ่บ” ขวดเหล้าพุ่งมาทางเธอ

ด้วยแรงมหาศาล

เธอหรี่ตามอง ไม่หลบ ยกมือข้างหนึ่งรับขวดเหล้าไว้ได้อย่างมั่นคง

เป็นขวดวิสกี้

แบบที่นอร์ตันชอบดื่มมากที่สุด

อิ๋งจื่อจินวางขวดลงแล้วพูด “ฉันไม่ดื่มเหล้า เก็บไว้ดื่มเองเถอะ”

“ใช้ได้นี่บอส” นอร์ตันหันตัวจากบันได ยิ้มพลางพูด “เดิมทีคิดว่าบอสบาดเจ็บแล้วฝีมือจะตก นึกไม่ถึงว่ายังเก่งเหมือนเดิม”

อิ๋งจื่อจินเงยหน้า “เมื่อก่อนฉันก็ไม่รู้ว่านายเป็นผู้วิเศษด้วย”

“ผู้วิเศษไม่เห็นมีดีอะไร” นอร์ตันเปิดขวดเหล้า “ผมกลับไม่อยากให้ฟื้นคืนความทรงจำส่วนนั้นกับพลัง”

“หลายวันก่อนผมเจอซีซาร์แล้ว” เขาจิบเหล้าแล้วแสยะยิ้ม “ยังเป็นไอ้เด็กงี่เง่าเหมือนเดิม น่ารำคาญ”

อิ๋งจื่อจินเหลือบมองเขา “อายุของนายกับเขาก็ไม่ได้ต่างกันมาก”

คนเพี้ยนสองคน ยังจะมีหน้ามาเทียบกันอีก

“อ่อ” นอร์ตันยักไหล่ “อายุจิตใจของผมโตกว่ามันมาก มันชอบอ้อนบอส แต่ผมไม่”

“อืม” อิ๋งจื่อจินพูด “นายคิดแต่จะสู้กับฉันแล้วก็ผ่าฉัน”

นอร์ตันยกมือ พูดเสียงเนือย “มิกล้า”

“เลิกพูดไร้สาระ ฉันพาคนมาแล้ว” มือข้างหนึ่งของอิ๋งจื่อจินล้วงกระเป๋า “ฉันเล่าให้นายฟังไปแล้ว ยาเล่นแร่แปรธาตุชนิดนั้นเข้าไปในร่างกายเธอทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติ นายลองดูแล้วกันว่าจะคิดค้นยาแก้เวอร์ชันสมบูรณ์ได้ไหม”

“จึ๊ ยุ่งยากชะมัด” นอร์ตันขมวดคิ้ว “ได้ พาเข้ามาสิ”

สิบกว่าวินาทีถัดมาซีนายก็ชะโงกศีรษะน้อยๆ มาตรงประตู “อาอิ๋ง”

นอร์ตันวางขวดเหล้าลง ค่อยๆ เดินเข้าไป

ซีนายมองใบหน้าของเขา

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท