ตอนที่ 762 ผู้วิเศษพระจันทร์!
หลังจากแน่ใจว่าข้อความนี้ถูกส่งออกไปเรียบร้อย คณบดีคณะพันธุศาสตร์ถึงโล่งอก
ก่อนอีเมลฉบับนี้จะเข้ามา เขาไม่เคยได้ยินชื่อฉินหลิงอวี๋กับฉินหลิงเยี่ยนมาก่อน
ในข้อมูลก็บอกเพียงว่าพวกเขาเป็นคนของสมาพันธ์แฮกเกอร์
สมาพันธ์แฮกเกอร์ก็เป็นอิทธิพลที่เพิ่งมีขึ้นมาเมื่อร้อยกว่าปีก่อน ไม่มีทางเทียบกับสำนักวิจัยที่ก่อตั้งมาสิบศตวรรษได้
ต่อให้ฆ่าลูกชายของประธานสมาพันธ์แฮกเกอร์ สมาพันธ์แฮกเกอร์ก็ไม่กล้ามีปัญหากับคณะชีววิทยาและพันธุศาสตร์ของพวกเขา
คณบดีคณะพันธุศาสตร์ทำเสียงจึ๊ เริ่มวางแผนเล่นงานคณะวิศวะกับคณบดีนอร์แมนต่อ
ภาพเหตุการณ์นี้ถูกเด็กหนุ่มสองคนเห็นตั้งแต่ต้นจนจบผ่านอุปกรณ์แอบถ่าย
“ดูคนธรรมดาพวกนี้สิ เรื่องแค่นี้ก็กลัวแล้ว จากนั้นก็ยินดีให้พวกเราบงการ” เด็กหนุ่มยิ้ม “มนุษย์ธรรมดา ไม่มีทางเป็นปรปักษ์กับผู้วิเศษได้หรอก”
“ใช่ คนพวกนี้เป็นหมากให้พวกเราจับเดินทั้งนั้น” เด็กหนุ่มอีกคนพยักหน้า “ครั้งนี้พวกเราไม่ต้องออกโรง สองผลงานล้มเหลวนี้ก็ถูกกำจัดทิ้งได้”
พวกเขาย่อมสืบได้เช่นกันว่าผู้วิเศษอัศวินรถม้าที่กลับมากำลังตามหาร่องรอยของพวกเขาอยู่
ระยะนี้พวกเขาจึงต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น
“นายท่านเคยบอกไว้ ต้นปีหน้าอาจมีภัยพิบัติใหญ่ระดับทำลายล้างโลกได้” เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว “ผู้วิเศษทั้งยี่สิบสองคนที่ดำรงอยู่เพื่อปกป้องเมืองแห่งโลกกับโลกมนุษย์จะรู้สึกได้ถึงลางบอกเหตุก่อน”
เด็กหนุ่มอีกคนอึ้ง “นั่นก็หมายความว่า พวกผู้วิเศษที่กลับมาเกิดใหม่จะทยอยกลับมาแล้วเหรอ”
เด็กหนุ่มส่ายหน้า “ไม่แน่ใจ นายท่านแค่บอกว่า ลางบอกเหตุที่ว่านี้จะดึงพวกเขามาที่เมืองแห่งโลกเพื่อต่อต้านภัยพิบัติใหญ่ระดับทำลายล้างโลก”
“ซี้ด…” เด็กหนุ่มอีกคนแทบหยุดหายใจ “ถ้าอย่างนั้นผู้วิเศษทั้งยี่สิบสองคนก็จะมารวมตัวกันแล้วงั้นสิ”
“รวมตัวไม่ได้หรอก” เด็กหนุ่มยิ้ม “จนถึงตอนนี้มีผู้วิเศษห้าคนที่ดับสูญอย่างสิ้นเชิงไปแล้ว มากสุดก็เหลือแค่สิบเจ็ดคน”
เขาหยิบไพ่ทาโรต์ออกมาห้าใบจากในสำรับแล้ววางเรียงตามลำดับ
ผู้โง่เขลา พลัง วงล้อแห่งโชคชะตา ยุติธรรม เทวทูต
ผู้วิเศษที่ดับสูญไปอย่างสิ้นเชิง
เด็กหนุ่มอีกคนเอะใจ “ฉันนึกออกแล้ว พลังกับยุติธรรมถูกนายท่านฆ่าเมื่อนานมาแล้ว พวกเขาไม่มีทางกลับมาเกิดใหม่ได้อีก”
“ก็ใช่น่ะสิ” เด็กหนุ่มแสยะยิ้ม “ตลกนักพรตเป็นบ้า ยังจะตามหาสองคนนั้นอยู่อีก”
ฆ่านักพรตย่อมง่าย แต่ก็หาตัวยากเหลือเกิน
บนโลกนี้นอกจากวงล้อแห่งโชคชะตาแล้ว เกรงว่าคงไม่มีใครหาตัวนักพรตเจอได้อีก
…
ตอนเย็น
ฟู่อวิ๋นเซินมารับอิ๋งจื่อจินที่สำนักวิจัย
โชคดีที่หอพักของอิ๋งจื่อจินเป็นตึกที่แยกออกไป ไม่อย่างนั้นหากเห็นสองคนนี้ปรากฏตัวพร้อมกันได้สะเทือนไปทั้งเว็บดับบลิว
“เด็ก…น้อย” ฟู่อวิ๋นเซินก้มหน้า สายตาอยู่ระดับเดียวกับเธอ ดวงตาดอกท้อโค้งมน “ผลโปรเจ็กต์เป็นยังไงบ้าง”
อิ๋งจื่อจินหาว “อาจารย์ช็อกไปหนึ่งรอบ”
“คณบดีนอร์แมนเหรอ” ฟู่อวิ๋นเซินหันมาจูงมือเธอ “ได้ยินว่าเขาฝึกวรยุทธ์ด้วย”
“อืม เขาอยากเหาะไปไหนเหมือนคุณได้”
“…”
ฟู่อวิ๋นเซินเลิกคิ้ว “อืม งั้นเขายังต้องฝึกอีกสองสามร้อยปี”
ทั้งสองคนออกจากสำนักวิจัย เดินออกไปตามทางเดินเล็กๆ ในสวนป่า
“คุณชายฟู่!”
มีเสียงเรียกด้วยความร้อนรน
“คุณชายฟู่ รอก่อนค่ะ!”
ฟู่อวิ๋นเซินไม่แม้แต่จะหยุดเดิน
กลับเป็นอิ๋งจื่อจินที่หันไปมอง เธอเลิกคิ้ว “มีสาวมาหาน่ะ”
“น่าเบื่อ” ดวงตาดอกท้อของฟู่อวิ๋นเซินหรี่ลง “ให้คนมาลากตัวไปดีกว่า”
อิ๋งจื่อจินยกมือห้าม “ฉันเอง”
มือของฟู่อวิ๋นเซินชะงัก “เยาเยา?”
หนิงรั่ววิ่งตามมา เห็นเหตุการณ์นี้พอดี
อิ๋งจื่อจินดันฟู่อวิ๋นเซินไปไว้ข้างหลัง ท่าทางกลับกันอย่างสิ้นเชิง แต่กลับดูอบอุ่นรักใคร่กลมเกลียวอย่างบอกไม่ถูก
หนิงรั่วกัดริมฝีปาก
“ฉันสงสัยจริงนะ” อิ๋งจื่อจินพูด “ทำไมคุณถึงได้ชอบยุ่งกับแฟนคนอื่นมากขนาดนี้ หรือคิดว่าตัวเองแย่งได้แน่ๆ”
คำพูดนี้มีพลังโจมตีและหยามเกียรติสูงมาก สีหน้าของหนิงรั่วซีดลงทันที “คุณ!”
สาเหตุที่เธอมาหาฟู่อวิ๋นเซินคือ หนึ่ง อยากมาถามเขาดูว่ารู้หรือเปล่าว่าหลิงอวี่อยู่ที่ไหน
สอง มีความคิดแบบนั้นจริงๆ
แต่เธอไม่มีอะไรที่เทียบผู้หญิงตรงหน้านี้ได้เลย
“อืม ไม่ใช่แฟนแล้ว” มือของฟู่อวิ๋นเซินวางอยู่บนศีรษะอิ๋งจื่อจิน ลากเสียงยาว หัวเราะเบาๆ “เลื่อนขั้นเป็นคู่หมั้นเมื่อสองวันก่อน”
อิ๋งจื่อจินเหล่มองเขา “ฉันไม่ได้แหวนหมั้น ไม่ยอมรับ”
“แหวนน่ะมี” ฟู่อวิ๋นเซินจับหน้าเธอ “อยู่ระหว่างออกแบบ”
เขาพูดจบก็กดโทรออก กวาดตามองอย่างเย็นชา “ห้ามบุคคลคนนี้ปรากฏตัวในโซนใจกลางเมือง สำนักวิจัย และอาณาเขตของตระกูลเรนเกล”
คำพูดเดียวชี้เป็นชี้ตายหนิงรั่ว
ชีวิตนี้เธอจะไม่ได้คลุกคลีกับชนชั้นสูงอีกแล้ว
หนิงรั่วตัวเย็นเฉียบ พูดไม่ออกสักคำ
ฟู่อวิ๋นเซินดูเวลา “หนุ่มหน้าเด็กชวนพวกเราไปกินข้าวที่สมาพันธ์แฮกเกอร์”
“อืม ไปเถอะ”
“ให้อุ้มไปไหม”
“อากาศร้อน กลับห้องแอร์แล้วค่อยอุ้ม”
ฟู่อวิ๋นเซินเงยหน้ามองท้องฟ้า สีหน้าเรื่อยเปื่อย
ดูท่าศัตรูหัวใจของเขาจะเป็นสวรรค์
ร้อนจนสาวน้อยของเขาขยันเดินแล้ว
…
สมาพันธ์แฮกเกอร์
“ตาแก่ ผมพาแขกมาให้แล้ว” ฉินหลิงเยี่ยนเดินเอ้อระเหยเข้ามา “รีบให้คนออกมาต้อนรับ ห้ามให้กินพวกอาหารเสริมบ้าบออะไรนั่นนะ เอาของอร่อย!”
แน่นอนว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นของอร่อยที่สุดในโลก
“ตากงตาแก่อะไร” ประธานสมาพันธ์ได้ยินแบบนี้ก็ถลึงตาใส่ โมโหหนวดเต้น “ฉันเป็นปู่แกนะ!”
“ปู่กับผีสิ” ฉินหลิงเยี่ยนกวนประสาท “ก็แค่ลูกชายส่งยีนของตัวเองไปทำการทดลองแล้วได้ตัวอ่อนมาสองตัว”
“ไม่ได้คลอดไม่ได้เลี้ยงดูยังอยากจะได้หลานชายคนโตที่ฉลาดหลักแหลมอีก ไม่ไปบนเลยล่ะ”
ประธานสมาพันธ์โมโหเกือบสิ้นลม หนวดสั่น “เจ้าบ้านี่!”
เขาอดทน “แขกอยู่ไหนล่ะ”
“ไปเตรียมก่อนเลย” ฉินหลิงเยี่ยนส่ายมือ “เดี๋ยวผมกับเพื่อนจะเล่นเกมกัน เตรียมเสร็จแล้วค่อยมาเรียกผม”
ประธานสมาพันธ์อยากถีบฉินหลิงเยี่ยนสักที แต่ก็จนปัญญา “ออกไปๆๆ”
ฉินหลิงเยี่ยนเดินนวยนาดออกไป
อีกด้านหนึ่ง
อิ๋งจื่อจินตามฉินหลิงอวี๋ไปที่บ้านของเธอเอง
ในบ้านมีกระป๋องเปล่าอยู่ไม่น้อย บนพื้นยังมีพวกกระดาษ
อิ๋งจื่อจินก้มเก็บขึ้นมา “นี่อะไรเหรอ”
บนกระดาษแต่ละใบมีสัญลักษณ์วงกลม
เธอมองออกตั้งแต่แวบแรกว่านี่คือไพ่พระจันทร์ในสำรับไพ่ทาโรต์
แสดงถึงความกระวนกระวายใจ
“หา? อ๋อ” ฉินหลิงอวี๋หันมอง นวดหัวพลางพูด “ฉันน่าจะละเมอวาดน่ะ”
“ละเมอเหรอ” อิ๋งจื่อจินวางกระดาษลง “เธอติดนิสัยนอนละเมอตั้งแต่เมื่อไร”
“อืม ถึงแม้เทคโนโลยีของที่นี่จะเจริญก้าวหน้า ทุกอย่างสะดวกไปหมด แต่ฉันก็ยังคงไม่ชิน” ฉินหลิงอวี๋ยักไหล่ “พอฉันไม่ชินก็จะละเมอ”
อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “ให้คุณอวี้ดูหรือยัง”
ฉินหลิงอวี๋อึกอัก จากนั้นถึงตอบ “ฉันจะไปหาเขาทำไม ไม่ได้สนิทกันเสียหน่อย”
อิ๋งจื่อจินคิดแค่ว่าเป็นเพราะฉินหลิงอวี๋เย็นชา ไม่ชอบอยู่กับคนต่างเพศ
ครั้นแล้วจึงนั่งลง ยื่นมือออกไป “ฉันจะดูให้เธอแล้วกัน”
คราวนี้ฉินหลิงอวี๋ว่านอนสอนง่าย “ดูยังไงเหรอ”
“จับชีพจร”
“…”
เธอคิดว่าอิ๋งจื่อจินจะใช้ไพ่ทาโรต์ทำนายให้เธอเสียอีก
สิบกว่าวินาทีต่อมาอิ๋งจื่อจินก็เอามือออก “ชีพจรของเธอปกติ หัวใจก็ปกติ แต่ว่าฝันบ่อย ทำให้รบกวนการนอน”
“ไพ่พระจันทร์แสดงถึงความกระวนกระวาย เคว้งคว้างเพราะความไม่รู้ หรือเป็นไปได้ว่า…”
พอพูดถึงตรงนี้อิ๋งจื่อจินก็หยุด
เงยหน้าขึ้น สังเกตฉินหลิงอวี๋อย่างละเอียด
เตรียมจะพาฉินหลิงอวี๋ไปที่สำนักผู้วิเศษสักรอบ
“เหมือนจะมีนิดหน่อย” ฉินหลิงอวี๋คิด “แต่ฉันก็ไม่ได้ฝันอะไรนะ”
“เธอถึงขั้นละเมอแล้ว”
“…”
“กินยานอนหลับสักหน่อย” อิ๋งจื่อจินดันขวดหยกให้ “เพิ่งทำเมื่อสองสามวันก่อน ยังเหลืออยู่หน่อย”
ฉินหลิงอวี๋รับมา จับบ่าอิ๋งจื่อจิน “จริงสิอาอิ๋ง ยังไม่ได้ถ่ายเอ็มวีที่เธอรับปากไว้เลยนะ”
“หืม?” อิ๋งจื่อจินจำเรื่องนี้ได้แล้ว เธอเลิกคิ้ว “ตอนนี้เหรอ”
“ใช่ ที่นี่มีทิวทัศน์ใหม่ๆ เยอะดี ฉันเลือกไว้แล้ว” ฉินหลิงอวี๋พูด “ไว้กลับไปจะเอาไปเซอร์ไพรส์พวกแฟนคลับ”
ทั้งสองคนเดินไปทางเขาด้านหลังสมาพันธ์แฮกเกอร์
ทันใดนั้นก็ทำสีหน้าตกใจพร้อมกัน
แม้ฉินหลิงอวี๋จะไม่มีวิทยายุทธ์ ใช้กำลังภายในโอบล้อมเพื่อค้นหาความผิดปกติโดยรอบไม่ได้
แต่ความไวต่อสิ่งผิดปกติของนักฆ่าอาชีพในช่วงหลายปีมานี้ได้ทำให้เธอรู้สึกถึงอันตรายที่คืบคลานเข้ามาได้อย่างรวดเร็ว
เธอมองขนที่ตั้งชันบนแขน สีหน้าเปลี่ยนไป
สัมผัสที่หกระดับนี้ เธอเคยมีแค่ตอนที่แอบเข้าไปลอบฆ่าคนตระกูลแมนสันครั้งแรก
ซึ่งครั้งนั้นเธอบาดเจ็บสาหัสไปครึ่งปี พักฟื้นอยู่สองปีร่างกายถึงจะกลับมาปกติ
คงไม่ใช่ว่า…
อิ๋งจื่อจินเงยหน้า สายตาเย็นชา “ไป”