ตอนที่ 776 ผู้วิเศษคู่รัก!
ถึงแม้ตอนแรกสุดระหว่างผู้วิเศษทั้งยี่สิบสองคนจะไม่คุ้นเคยกัน
แต่ตราบใดที่เคยรวมกลุ่มกันไปทำภารกิจต้านภัยพิบัติ ไม่ว่าอย่างไรก็เท่ากับเป็นสหายร่วมรบ
ทว่าเมื่อเกิดสงครามศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาอย่างกะทันหันก็ได้ทำผู้วิเศษทั้งหมดแตกหักกันอย่างสิ้นเชิง
หมดความเชื่อใจระหว่างกัน
นอกจากคู่รักอย่างผู้วิเศษพระจันทร์กับผู้วิเศษพระอาทิตย์ รวมถึงผู้วิเศษยุติธรรมกับผู้วิเศษพลังที่เป็นเพื่อนร่วมเป็นร่วมตายกัน ก็ไม่มีผู้วิเศษคนไหนอีกที่เลือกจะจับกลุ่มไปกับผู้วิเศษคนอื่นเพื่อต้านภัยพิบัติ
กลัวจะถูกแทงข้างหลัง
หลังจากสงครามศักดิ์สิทธิ์ครั้งนั้น ผู้วิเศษคู่รักก็ไปจากเมืองแห่งโลก ไม่ได้กลับมาอีก
ซาโรห์ก็ไม่แน่ใจว่าผู้วิเศษคู่รักดับสูญไปด้วยสาเหตุอะไร
พลังพิเศษของผู้วิเศษคู่รักธรรมดามาก ไม่มีความพิเศษอะไร
ซาโรห์ไม่เคยเก็บเอามาใส่ใจ
แต่ถึงแม้จะผ่านมานานขนาดนี้แล้ว เธอก็ไม่มีทางลืมความโหดร้ายของสงครามศักดิ์สิทธิ์
เธอจะไม่มีทางปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกครั้ง!
ซาโรห์ก็รู้ว่า เมื่อเดวิลกับผู้วิเศษอีกสามคนที่หักหลังกลับมา นั่นก็คือภัยพิบัติทำลายล้าง
เธอไม่มีความสามารถในการทำนาย
แต่ซาโรห์สันนิษฐานว่า ภัยพิบัติใหญ่ที่ว่าในอนาคต มีความเป็นไปได้แปดสิบเปอร์เซ็นต์ว่าจะเป็นสงครามศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่สอง
หลายปีที่ผ่านมานี้ พลังของพวกเขากำลังอยู่ในช่วงพัฒนาสูงขึ้น
แต่จะสู้ผู้วิเศษเดวิลได้หรือไม่ก็ยังไม่รู้
“ดีมาก คู่รัก” ซาโรห์พยักหน้าช้าๆ สีหน้าเย็นชา “เห็นหรือเปล่าว่าใครพาเธอกลับมา”
“ขอโทษที” นักบวชหญิงถอนหายใจ “แค่ทำนายได้ว่าคู่รักอยู่ระหว่างทางก็สุดความสามารถของฉันแล้ว ส่วนคนที่พาเธอมาคือใคร ฉันทำนายไม่ได้”
สายตาของซาโรห์เย็นชาลงในทันที
หากว่ากันด้วยเรื่องทำนาย ถ้าวงล้อแห่งโชคชะตาเป็นอันดับสองก็ไม่มีใครกล้าพูดว่าเป็นอันดับหนึ่ง
แม้แต่แอสโตรแลบอันนี้ก็เป็นของที่วงล้อแห่งโชคชะตาทิ้งไว้
มิฉะนั้นลำพังแค่พลังทำนายและความสามารถในการพยากรณ์ของนักบวชหญิง ไม่มีทางทำนายเรื่องของผู้วิเศษคนไหนได้
วงล้อแห่งโชคชะตาดับสูญไปสิบกว่าศตวรรษแล้ว แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครลืมเธอได้เลย
ราวกับว่าได้ถูกฝังอยู่ในชีวิตทีละน้อยจนเกิดเป็นเงาตามตัว
ซาโรห์ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกมา มือที่จับคฑาออกแรงมากกว่าเดิม
เธอไม่เข้าใจจริงๆ ด้วยนิสัยเย็นชาของวงล้อแห่งโชคชะตาที่กีดกันคนให้อยู่ห่างพันลี้ ทำไมถึงยังมีผู้วิเศษเป็นเพื่อนกับเธอได้
“สรุปว่าคู่รักก็จะเหมือนอัศวินรถม้า กลับมาจากเจ็ดทวีปสี่มหาสมุทรเหมือนกัน” ซาโรห์พูดเสียงขรึม “ถ้าอย่างนั้นระยะนี้ ใครก็ตามที่มาจากนอกเมือง ไม่ว่าจะมาตามช่องทางปกติหรือพลัดหลงเข้ามาก็ต้องไล่ตรวจทุกคน!”
รับมือกับผู้วิเศษเดวิลยากมาก แต่กับผู้วิเศษคู่รักไม่ใช่ปัญหา
ขอแค่แยกออกมาได้ว่าเป็นใครก็สามารถฆ่าทิ้งได้ทันที
นักบวชหญิงพยักหน้าเบาๆ แต่ก็ลังเลขึ้นมาอีกรอบ “ซาโรห์ แต่อันที่จริงพวกเราก็ยังไม่แน่ใจสาเหตุของสงครามศักดิ์สิทธิ์ครั้งนั้น”
“ต้องการทำลายล้างเมืองแห่งโลก ทำชาวเมืองที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวเดือดร้อน เขามีเหตุผลอะไรก็ล้วนไม่สมควรทั้งนั้น” ซาโรห์ขมวดคิ้วเล็กน้อยแบบที่ไม่อาจสังเกตเห็น “อีกทั้งเขาก็ไม่ได้พูดอะไร”
นักบวชหญิงถอนหายใจ หลับตาลง
…
เช้าวันต่อมา
ตระกูลเรนเกล
ซู่เวิ่นเตรียมขนมเสร็จเรียบร้อยแล้ว จัดเอาไว้ให้อิ๋งจื่อจิน เดินออกไปส่งด้วยตัวเอง
พ่อบ้านจัดการตกแต่งห้องของบิลให้เป็นห้องเลี้ยงลูกหมูที่สวยงาม รอแค่รับสัตว์เลี้ยงของคุณหนูใหญ่กลับมา
เขายังได้ไหว้วานให้พ่อครัวไปคิดค้นอาหารอร่อยสำหรับหมู
ต่อให้ลูกหมูตัวนี้ถูกเลี้ยงจนตัวเท่าช้าง ตระกูลเราก็เลี้ยงไหว
พ่อบ้านยิ้มอย่างใจดี
รอจนรถที่อิ๋งจื่อจินนั่งวิ่งออกไปแล้วเขาถึงหันกลับมา
“คุณนายใหญ่ครับ ท่านสามหายไปนานมากแล้ว” เขาพูดเสียงเบา “ไม่อยู่ที่บริษัทและก็ไม่ได้อยู่ที่คฤหาสน์ส่วนตัว ให้ส่งคนออกไปตามหาไหมครับ”
“เขาน่ะเหรอ” ซู่เวิ่นครุ่นคิดเล็กน้อย “ถ้าพ่อบ้านไม่พูด ฉันก็เกือบลืมไปแล้วว่ายังมีคนคนนี้อยู่ ก็ไปหาดูแล้วกัน”
พ่อบ้านขานรับแล้วรีบสั่งทีมคุ้มกัน
ซู่เวิ่นไม่ได้รู้สึกเป็นห่วงโมเชี่ยนเท่าไร
ชายวัยกลางคนแค่คนเดียว อีกทั้งใช่ว่าจะดูแลตัวเองไม่ได้ อยู่ๆ จะหายไปกลางอากาศหรือไง
ถ้าไม่ใช่เพราะอิ๋งจื่อจินเคยเตือนเธอว่ามีอิทธิพลมืดคิดจะลงมือกับทายาทสายตรงของตระกูลเรนเกล ซู่เวิ่นก็ขี้เกียจจะส่งคนไปตามหา
อย่างไรเสียโมเชี่ยนก็ไม่ได้มีพรสวรรค์อะไรเป็นพิเศษ ศัตรูไม่น่ามีอารมณ์อยากทำอะไรเขา
ซู่เวิ่นก็จัดการเก็บสัมภาระแล้วไปคฤหาสน์ของนอร์ตันตามที่อยู่ที่อิ๋งจื่อจินให้ไว้
ซีนายมารอที่หน้าประตูตั้งแต่ตื่น
“พี่สะใภ้ใหญ่” พอเห็นซู่เวิ่น ซีนายก็วิ่งออกไป
ซู่เวิ่นหยิบขนมที่เตรียมไว้ออกมายื่นให้ซีนาย
จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นยิ้มพลางพยักหน้า “คุณฟรานซิส”
นอร์ตันเหลือบมองซีนายที่เปิดกล่องอย่างมีความสุข เขาทำเสียงจึ๊ จากนั้นถึงได้หันไปพยักหน้าให้ซู่เวิ่น เรียกอย่างสุภาพ “คุณนายใหญ่”
ซู่เวิ่นตะลึง
เธอรู้ว่าเพื่อนของอิ๋งจื่อจินไม่ธรรมดา
หน้าตาและบุคลิกของผู้ชายคนนี้เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนทั่วไป
แต่ซู่เวิ่นก็ไม่ได้คิดไปในทางผู้วิเศษ
ซีนายกินขนมหมดหนึ่งชิ้นก็มีความมั่นใจ “วันนี้ฉันจะนอนกับพี่สะใภ้ใหญ่ คุณห้ามเข้ามาในห้องของฉัน!”
ในที่สุดเธอก็จะไม่ต้องถูกรังแกแล้ว
“ตามสบาย” นอร์ตันกอดอก ยิ้มพลางพูด “งั้นทางที่ดีเธอคาดหวังได้เลยว่าจะมีคนมาห่มผ้าให้ตอนที่เธอถีบผ้าห่มออก”
ซีนาย “…”
คนคนนี้น่ารำคาญชะมัด
รอเธอกลับคืนร่างเดิมเมื่อไรเธอจะไม่มีทางพูดกับเขาอีก
…
อีกด้านหนึ่ง
ห้าชั่วโมงต่อมาอิ๋งจื่อจินก็ไปถึงตี้ตู
เธอไปส่งตี้อู่เย่ว์กลับบ้านตระกูลตี้อู่ก่อน จากนั้นถึงไปโลกจอมยุทธ์กับฟู่อวิ๋นเซิน
อิ๋งจื่อจินไม่ได้กลับมาสามเดือน
ในช่วงเวลาสามเดือนนี้ก็เหมือนดีดนิ้วผ่านไปสำหรับจอมยุทธ์ที่มีอายุขัยยืนยาวกว่าคนธรรมดา
แต่ความเปลี่ยนแปลงในระยะนี้กลับพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน
ยังคงเป็นสามตระกูลจอมยุทธ์ชั้นแนวหน้า
หลังจากตระกูลเซี่ยล้มลง ตระกูลหลิงก็กลายเป็นตระกูลอันดับสามแบบก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว
และเป็นเพราะมีความร่วมมือกับโลกแพทย์แผนโบราณ ถึงขั้นที่อิทธิพลอยู่เหนือกว่าตระกูลหลินอยู่กลายๆ
ตระกูลหลินร้อนใจนั่งไม่ติด
ทว่าเนื่องจากมีการปรากฏตัวของเฟิงซิว คนในตระกูลหลินจำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกกลัว รวมถึงหลินอู๋เลี่ยงผู้นำตระกูลหลิน
กลัวจะซ้ำรอยตระกูลเซี่ย ช่วงหลายวันมานี้ตระกูลหลินจึงอยู่กันแบบระมัดระวังตัว
แต่บางคนไม่คิดแบบนั้น
“ทนไม่ไหวแล้ว ต้องหยุดความเจริญรุ่งเรืองของตระกูลหลิงให้เร็วที่สุด” ชายชราคนหนึ่งยืนขึ้น “ไม่อย่างนั้นรอพวกเขาเหยียบหัวตระกูลหลินของพวกเราได้เมื่อไร โลกจอมยุทธ์ยังจะมีที่สำหรับตระกูลหลินอีกเหรอ”
ถึงแม้ตระกูลเย่ว์จะถ่อมตัว แต่ฝีมือต่อสู้ก็ล้ำเลิศ
แล้วตระกูลหลิงมีอะไร
ถ้าไม่มีพวกแพทย์แผนโบราณสนับสนุน ตระกูลหลิงก็เบียดเข้าสิบอันดับแรกไม่ได้ด้วยซ้ำ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเข้าแทนที่ตระกูลเซี่ย
“ท่านผู้นำตระกูล ช่วยไม่ได้ครับ” ชายวัยกลางคนที่อยู่ด้านข้างยิ้มเศร้า “ปรมาจารย์เฟิงซิวคุมศาลสถิตยุติธรรมอยู่ แล้วพวกเราจะลงมือกับตระกูลหลิงยังไง”
“เฟิงซิวอยู่ได้อีกไม่นานหรอก” ชายชราพูดขึ้นอีกครั้ง “แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังบอกว่าห้าร้อยปีเป็นขีดจำกัดอายุขัยของมนุษย์แล้ว เหลือเวลาอีกไม่กี่ปีแล้ว”
“อีกทั้งเขาก็ไม่มีเรี่ยวแรงจะสนใจการแก่งแย่งชิงดีของสองตระกูลหรอก”
“ต่อให้เฟิงซิวมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่ปี” ชายวัยกลางคนลังเล “แต่คุณอิ๋งคนนั้นเป็นอาจารย์ของเฟิงซิว เธอ…”
เรื่องที่อิ๋งจื่อจินเป็นอาจารย์ของเฟิงซิวกับฝูซีได้ลือกันไปทั่วโลกจอมยุทธ์กับโลกแพทย์แผนโบราณแล้ว
ไม่มีใครกล้าไม่เกรงกลัว
แม้จนถึงตอนนี้จอมยุทธ์หลายคนก็ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับอิ๋งจื่อจิน เธอถึงได้ยังดูเด็กขนาดนี้
“ถ้าเธอยังเก่งกว่าเฟิงซิวจริง ตอนนั้นคงไม่ต้องให้เฟิงซิวช่วยแล้ว ยังจะฆ่าเซี่ยฮ่วนหรานด้วยตัวเองไม่ได้อีกเหรอ” ชายชราพูดขัดจังหวะ “อีกอย่างเธอไปจากโลกจอมยุทธ์แล้ว ไม่มีทางกลับมาในช่วงสองสามปีนี้ เงาก็เหมือนกัน”
“ฉันจะไปลองหยั่งเชิงดูที่บ้านตระกูลหลิงหน่อย”
วรยุทธ์ของเขาเป็นอันดับสองในตระกูลหลิน สามร้อยกว่าปี ผู้นำตระกูลหลิงก็ยังห่างชั้นกับเขาอยู่มาก
ถ้าไม่ใช่เพราะฟู่อวิ๋นเซินกับอิ๋งจื่อจินไม่อยู่ เขาก็คงไม่กล้ามีความคิดแบบนี้
ชายชราพูดจริงทำจริง ลุกออกไปยังอาณาเขตของตระกูลหลิงทันที
สาเหตุที่ตระกูลหลิงเจริญรุ่งเรืองได้เร็วขนาดนี้ นอกจากเป็นเพราะร่วมมือกับแพทย์แผนโบราณหลายคนแล้ว ยังเป็นเพราะสวัสดิการของตระกูลที่ดึงดูดจอมยุทธ์คนอื่นๆ
จอมยุทธ์เหล่านี้จึงเลือกมาอยู่ในสังกัดตระกูลหลิง
ชายชรากวาดตามอง เห็นสมาชิกสายตรงคนหนึ่งของตระกูลหลิงทันที
สมาชิกสายตรงคนนี้ไม่เป็นที่รู้จักนัก ความสามารถก็ธรรมดา
ถ้าเป็นหลิงเหมียนซีหรือเจียงหราน ชายชราย่อมไม่กล้าลงมือ
แต่พอเป็นคนอื่นก็ไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมาก
ฆ่าสักคนก่อน!
ดวงตาของฉายชราฉายแววอาฆาต กำลังภายในถูกปล่อยออกมาหมด พุ่งเข้าใส่สมาชิกสายตรงคนนั้น
เสียงลมกระโชก ดังบาดแก้วหู
มีเสียงกรีดร้องดังระงมบนถนน
“กรี๊ด!”
“ระวัง!”
เทวดาก็ช่วยไม่ได้
ชายชราแสยะยิ้ม โจมตีอย่างรุนแรง
แต่วินาทีถัดมาทันใดนั้นลมกลับสงบ
ฟึ่บ!
มีมือปรากฏตรงหน้าชายชรา
มือนั้นแค่ใช้ปลายนิ้วก็ขวางการโจมตีของชายชราเอาไว้ได้ทั้งหมด