คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 789 แข่งคัดเลือกหัวหน้าตระกูล!

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 789 แข่งคัดเลือกหัวหน้าตระกูล!

ฟู่อวิ๋นเซินถูกผู้เฒ่าฟู่ส่งไปอยู่ตี้ตูตอนห้าขวบ จากนั้นก็ใช้ชีวิตอยู่ในโลกจอมยุทธ์เกือบสิบปี

เข้าไปอยู่ในศาลสถิตยุติธรรม ผูกมิตรกับเนี่ยอี้และคนอื่นๆ

ตอนนั้นหลิงเหมียนซียังเด็กมาก เพิ่งเกิดได้ไม่นาน ยังอยู่ในวัยคลาน

ต่อมาเธอถึงได้รู้จักฟู่อวิ๋นเซินเพราะเนี่ยอี้ และก็ได้รู้ว่าร่างกายผู้เฒ่าฟู่ถูกพิษ ซึ่งพิษชนิดนี้แม้แต่บรรดาแพทย์แผนโบราณก็ยังจนปัญญา

ถ้ายาพิษมาจากฝีมือของผู้วิเศษนักมายากล แบบนั้นก็ไม่แปลกแล้ว

หลิงเหมียนซีกับเนี่ยอี้เห็นมาตลอดว่าฟู่อวิ๋นเซินผ่านความเป็นความตายครั้งแล้วครั้งเล่ามาได้อย่างไร

เธอไม่มีความรู้สึกดีๆ ให้คุณนายผู้เฒ่าอวี้แม้แต่น้อย

คุณนายผู้เฒ่าอวี้พูดไม่ออกแล้ว

ชั่วขณะที่เห็นใบหน้าของหลิงเหมียนซี อวี้เสวี่ยเซิง ฉินหลิงอวี๋ และซิว ประหนึ่งมีค้อนขนาดยักษ์ทุบลงมาที่กลางศีรษะของเธอ เห็นดาวเห็นเดือนในชั่วพริบตา

ที่มากกว่านั้นคือความตระหนกหวาดกลัว

คุณนายผู้เฒ่าอวี้ปากสั่นฟันกระทบกัน ปรับน้ำเสียงไม่ถูก “ผะ ผู้วิเศษ…”

นี่คือความน่ายำเกรงแบบเฉพาะของผู้วิเศษ!

ก่อนหน้านี้ไม่นานเธอเพิ่งพบผู้วิเศษจักรพรรดินีไป เธอย่อมจำความรู้สึกได้ดี

ตรงนี้มีผู้วิเศษถึงสี่คน!

สมองคุณนายผู้เฒ่าอวี้อื้ออึง

เมื่อกี้เธอพูดอะไรไปนะ

เธอบอกให้ฟู่อวิ๋นเซินแต่งงานกับไชโลห์ก็จะได้ใกล้ชิดกับผู้วิเศษ

แต่พอมาดูตอนนี้มันเป็นเรื่องน่าตลกสิ้นดี

ผู้วิเศษสี่คนมาดูเธอ เพียงเพื่อมาหนุนหลังให้ฟู่อวิ๋นเซินอย่างนั้นเหรอ

เวลานี้คุณนายผู้เฒ่าอวี้ถึงตระหนักได้ว่า อำนาจและภูมิหลังของฟู่อวิ๋นเซินดีกว่าที่เธอคิดเอาไว้มาก

เธอใช้ทั้งมือและเท้าคลานเข้าไปหาฟู่อวิ๋นเซินเหมือนคนบ้า เริ่มคำนับอ้อนวอนไม่หยุด “อวิ๋นเซิน คุณชายเจ็ด ย่าผิดไปแล้ว ย่าผิดไปแล้วจริงๆ”

ฟู่อวิ๋นเซินแสยะยิ้ม “ก็บอกแล้วว่าอย่านับญาติส่งเดช”

“อวิ๋นเซิน เป็นความผิดของย่าคนเดียว หลานควรบอกย่าแต่แรกสิ” คุณนายผู้เฒ่าอวี้ผุดรอยยิ้มเอาอกเอาใจ “อวิ๋นเซิน ผู้วิเศษเหล่านี้เป็นใครเหรอ แนะนำให้ย่ารู้จักหน่อยสิ”

ถ้ามีผู้วิเศษสี่คน ตระกูลอวี้ก็จะเป็นอิทธิพลอันดับหนึ่งในเมืองแห่งโลก ไม่มีใครเทียบได้

พอนึกถึงตรงนี้ ร่างกายของคุณนายผู้เฒ่าอวี้ก็สั่นอย่างรุนแรงด้วยความตื่นเต้น

“เอาแบบนี้แล้วกัน ปู่ผมยังทนมาได้ตั้งยี่สิบกว่าปี ถ้าคุณทนได้สักสองนาทีผมจะเรียกคุณว่าย่าแล้วกัน” ฟู่อวิ๋นเซินพูด “ไม่เกินไปใช่ไหม”

คุณนายผู้เฒ่าอวี้สีหน้าเปลี่ยน กำลังจะเอ่ยปากปฏิเสธแต่กลับถูกบังคับให้กลืนยาลงไป

อย่าว่าแต่สองนาทีเลย แค่สองวินาทีเธอก็เจ็บปวดจนเบื้องหน้ามืดมิด เริ่มลงไปดิ้นทุรนทุรายบนพื้นแล้ว

ฟู่อวิ๋นเซินยืนขึ้น เงยหน้าเล็กน้อย

แม้แต่ตอนนี้เขาก็ยังจินตนาการไม่ออกว่าผู้เฒ่าฟู่ต้องทนทุกข์ทรมานขนาดไหนในช่วงหลายปีนั้น

พลังแห่งรักช่างแข็งแกร่งเหลือเกิน

แข็งแกร่งจนเอาชนะทุกอย่างได้

ไม่มีใครสงสารคุณนายผู้เฒ่าอวี้

ซิวหันไปพูดกับอวี้เสวี่ยเซิง “ดูสิ ผมสีดอกเลาของฉันสวยกว่าผมของยายแก่คนนี้หรือเปล่า”

อวี้เสวี่ยเซิงมองดู ยิ้มบาง “นายลองทำสีเหลืองอมส้มก็ไม่เลวนะ”

“นายก็คิดว่าสีเหลืองอมส้มมันสว่างดีใช่ไหมล่ะ” ซิวเห็นด้วย “เดี๋ยวอาทิตย์หน้าฉันจะไปซื้อน้ำยามาย้อม”

ในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีคุณนายผู้เฒ่าอวี้ก็หมดสติไปอย่างสิ้นเชิง

ฉินหลิงอวี๋หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา “เดี๋ยวบอกให้เยี่ยนคนเพี้ยนลบภาพกล้องวงจรปิดก่อน”

รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง

ในเมื่อยังหาศัตรูทั้งหมดไม่พบก็ต้องซ่อนตัวไว้ก่อน

“ลบกล้องวงจรปิดอะไร ฉันอยู่ทั้งคนยังจะปล่อยให้ทุกคนโดนจับได้อีกเหรอ” ซิวพูดด้วยความรังเกียจ “ชักจะดูถูกความสามารถในการซ่อนเร้นของฉันเกินไปแล้ว”

พวกเขาเดินเข้ามาในศาลตัดสินอย่างเปิดเผย แต่หน่วยอัศวินโดยรอบกลับไม่เห็นพวกเขา

ฉินหลิงอวี๋รีบเปลี่ยนคำพูด “โทษที ไม่เคยออกทำภารกิจกับนายก็เลยไม่รู้ความสามารถ”

“ก็จริง” ซิวถอนหายใจ “ชะตาลิขิตจริงๆ”

มีแม่เหล็กอย่างอิ๋งจื่อจินทำให้บรรดาผู้วิเศษที่ไม่เคยพูดคุยกันมาก่อนมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

“ฉันไปก่อนนะ” ฟู่อวิ๋นเซินหันมา พูดเสียงเนือย “จะกลับไปหาคู่หมั้น เธอยังเด็ก ต้องเอาใจมากๆ หน่อย”

ซิว “?”

เด็กเหรอ

หูของเขาต้องฟังผิดไปแน่ๆ

“ทำไมพวกนายถึงเชื่อฟังเขาขนาดนี้” ซิวไม่เข้าใจ “ถ้าไม่ติดว่าฉันเอาชนะเขาไม่ได้ ฉันไม่สนใจเขาแน่นอน แต่นาย…”

ผู้วิเศษพระอาทิตย์ พลังพิเศษคือปกป้อง

พลังป้องกันเป็นอันดับหนึ่ง

แม้แต่ระเบิดนิวเคลียร์ก็ป้องกันได้ แข็งแกร่งกว่าจอมยุทธ์มาก

อวี้เสวี่ยเซิงยิ้ม “ไว้เดี๋ยวก็รู้เอง”

ซิวลูบหัว

ลึกลับอะไรขนาดนั้น แถมยังต้องปิดบังเขาด้วย

สำนักผู้วิเศษเวลาตีสอง

คนดูแลเข้ามารายงานด้วยความตื่นตกใจ “แย่แล้วครับท่านจักรพรรดินี คุณนายผู้เฒ่าอวี้หมดสติอย่างรุนแรงครับ!”

ซาโรห์ได้ฟังก็ขมวดคิ้ว “เกิดอะไรขึ้น”

เธอต้องการฆ่าปิดปาก แต่ก็ไม่มีทางยอมให้คนอื่นทำแทน

“ยังไม่ทราบครับ และก็ไม่มีร่องรอยคนอื่นเข้ามาด้วย” คนดูแลคุกเข่าบนพื้น พูดด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว

“ศาลตัดสินเริ่มทำการตรวจสอบแล้ว จากการวินิจฉัยเบื้องต้นคือถูกพิษครับ แต่เป็นพิษอะไรกันแน่ยังไม่ได้ข้อสรุปครับ”

“โง่เง่า” ซาโรห์พูดเสียงเย็นชา “ส่งไปตรวจที่คณะชีววิทยาและพันธุศาสตร์ ตรวจสอบให้เร็วที่สุด”

เธอก็อยากจะรอดูว่าใครกล้าลงมือข้ามหน้าข้ามตาเธอ

คนดูแลปาดเหงื่อ กำลังจะถอยออกไป

แต่ซาโรห์เรียกไว้อีกครั้ง “การคัดเลือกหัวหน้าตระกูลเรนเกลเตรียมพร้อมแล้วหรือยัง”

“พร้อมแล้วครับ” คนดูแลหยุดลง หยิบเอกสารออกมาหนึ่งฉบับแล้วยื่นให้ด้วยความนอบน้อม “นี่คือกระบวนการคัดเลือกครับ”

ซาโรห์กวาดตาดู “หนึ่งเดือนนานเกินไป กระชับให้สั้นลง เอาให้เสร็จในหนึ่งสัปดาห์”

คนบางคนเธอไม่อยากเห็นเป็นครั้งที่สองอีก

คนดูแลรีบขานรับ “ครับท่านจักรพรรดินี”

ซาโรห์นวดศีรษะ ส่ายมือไล่ด้วยความรำคาญ “เอาล่ะ ออกไปได้”

ไม่กี่วันต่อมา

ปลายเดือนตุลาคม

การคัดเลือกหัวหน้าตระกูลเรนเกลเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ

มีการปล่อยกำหนดการคัดเลือกลงในเว็บดับบลิวก่อนวันคัดเลือกหนึ่งวัน

แข่งขันรายการละสองวัน วันแรกเป็นการแข่งวิศวะเครื่องกล

มีการถ่ายทอดสดตลอดการแข่งขัน

นับตั้งแต่เว็บดับบลิวถูกก่อตั้งขึ้นมา นี่ยังเป็นครั้งแรกที่จัดงานใหญ่ขนาดนี้ยกเว้นพิธีฉลองขึ้นปีใหม่ตอนปลายปี

ยังไม่ถึงเวลาก็มีคนมารอชมกันแน่นขนัดแล้ว

[มาเพราะคุณไชโลห์]

[+1]

[ไม่ได้เห็นบรรดาผู้วิเศษ ได้เห็นคุณไชโลห์ก็ยังดี]

เดิมทียังมีสมาชิกสายตรงคนอื่นๆ ที่เข้าร่วมคัดเลือกอีก แต่ต่อมาพอเห็นศักยภาพและอิทธิพลของไชโลห์ต่างก็พากันเลือกที่จะถอนตัวออกทั้งหมด

นี่จึงเป็นการคัดเลือกที่แข่งกันสองคน

อิ๋งจื่อจินมาตรงเวลาพอดี เธอกอดกล่องขนมที่ซู่เวิ่นทำให้

ไม่ว่าจะมองยังไงก็ไม่เหมือนมาแข่ง

ไชโลห์เหล่มองอิ๋งจื่อจิน ไม่เก็บเอามาใส่ใจ

“ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่การคัดเลือกหัวหน้าตระกูลเรนเกลในครั้งนี้ครับ” ผู้ตัดสินถูกส่งมาจากสำนักผู้วิเศษ “การแข่งขันในวันนี้คือวิศวะเครื่องกล ต่อไปผมจะประกาศกติกา…”

เขายังไม่ทันพูดจบก็ถูกขัดจังหวะ

“สนามแรกฉันขอยอมแพ้ค่ะ” ไชโลห์ยกมือขึ้น ยิ้มใจกว้าง “ฉันไม่ถนัดเรื่องวิศวะเครื่องกล แถมจื่อจินก็สอบเข้าคณะวิศวะได้เป็นอันดับหนึ่งของปีนี้”

“ฉันไม่จำเป็นต้องฝืนค่ะ ขอยอมแพ้เลยดีกว่า”

เดิมทีสนามนี้เธอก็ตั้งใจยกให้อิ๋งจื่อจินอยู่แล้ว

และก็เป็นสนามเดียวที่อิ๋งจื่อจินจะชนะได้

เห็นได้ชัดว่าผู้ตัดสินก็ได้รับแจ้งมาจากทางสำนักผู้วิเศษก่อนแล้ว ไม่มีแม้แต่จะถามความคิดเห็นของอิ๋งจื่อจิน พูดสรุปทันที “สนามแรกคุณอิ๋งชนะครับ”

บนหน้าจอใหญ่ขึ้นคะแนนหนึ่งต่อศูนย์

สนามแรกยังไม่ทันแข่งก็จบลงทั้งแบบนี้แล้ว ชาวเมืองอดเสียดายไม่ได้

[คุณไชโลห์ใจกว้างจริงๆ ยอมแพ้เลยทันที ไม่ถือสาหาความด้วย สมกับเป็นลูกศิษย์ของสามผู้วิเศษ]

[เครื่องกลเป็นเรื่องถนัดของอิ๋งจื่อจิน งั้นการเล่นแร่แปรธาตุ การรักษาทางการแพทย์ และการต่อสู้ก็คือเรื่องถนัดของคุณไชโลห์ ไม่สู้คุณหนูใหญ่ก็ใจกว้างหน่อย ยอมแพ้ไปเถอะ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวถึงเวลาได้ทำตระกูลเรนเกลกับคุณนายซู่เวิ่นขายหน้าตายเลย]

[นั่นสิ พอเทียบกันแบบนี้สองคนต่างกันราวฟ้ากับเหวเลย]

ไชโลห์หันหน้าไปยิ้ม “จื่อจิน เธอคิดว่าไง”

อิ๋งจื่อจินสภาพเหมือนยังไม่ตื่นดี

พอได้ยินแบบนี้ดวงตาหงส์ที่ขมุกขมัวก็เหลือบขึ้น เธอหาว ตอบแบบขอไปที “ยังไงก็ได้”

แววตาของไชโลห์ขรึมลง

ไม่ว่าอย่างไรเธอก็เป็นอาของอิ๋งจื่อจิน

หลานสาวกลับไม่ให้ความเคารพอาได้ขนาดนี้

การคัดเลือกรายการต่อไปเธอต้องทำให้อิ๋งจื่อจินรู้ว่าแบบไหนที่เรียกเหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมียอดคน

นอร์ตันที่อยู่ในกลุ่มคนใช้คางชี้ “นี่น่ะเหรอน้องสาวฝาแฝดของเธอ”

ซีนายนั่งอยู่บนบ่านอร์ตัน ร่างกายหดเกร็ง เธอตอบ “แฝดไข่คนละใบ”

“มิน่าล่ะ” นอร์ตันกอดอก “หน้าตาถึงอัปลักษณ์แบบไม่ธรรมดา”

ซีนาย “…”

เธอสงสัยว่าตัวเองก็ถูกเหมารวมด้วย

ซีนายยื่นมือออกไป หมายจะกระชากผมที่นอร์ตันใช้ปลอมตัว

แต่ถูกจับไว้เสียก่อน

นอร์ตันจับข้อมือของเธอ พูดเตือน “อย่าแตะต้องผมของฉัน”

“อ่อ” ซีนายหดมือกลับ “ฉันกลัวตัวเองนั่งไม่ดี แต่ผมคุณสีนี้มาแต่เกิดเหรอ”

สีหน้าของนอร์ตันชะงัก “ไม่ใช่ ดูการแข่งขัน”

บนหน้าจอใหญ่เริ่มขยับอีกครั้ง

สนามที่สอง

เล่นแร่แปรธาตุ!

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
ชาตินี้เธอขอแค่ได้ปลูกดอกไม้ เลี้ยงหมู กลายเป็นมอดที่สุขสบายที่สุดก็พอ เพื่อชีวิตวัยเกษียณอันสุขสบายสงสัยงานนี้ต้องลงแรงกันหน่อย!อิ๋งจื่อจิน คือลูกเลี้ยงแห่งตระกูลอิ๋งตระกูลเลื่องชื่อแห่งเมืองฮู่เฉิง พ่วงตำแหน่งคลังเลือดมีชีวิตของอาสาวเธอถูกรังแกสารพัด เป็นเด็กหัวไม่ดีที่แม่แท้ๆ ยังไม่อยากยอมรับแต่นั่นเป็นเรื่องก่อนที่ ‘เธอ’ จะตื่นขึ้นเธอเคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลายตัวตน หลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นหมอ แม่มด ผู้บำเพ็ญ ได้รู้จักกับบุคคลในตำนานมากมายแต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมาแล้ว…ชาตินี้เธอเลยอยากลองเป็นมอดที่มีความสุขไร้กังวล ใช้ชีวิตวัยเกษียณให้สุขสบายดูบ้างจัดการคนในตระกูล ฟาดหน้าเพื่อนตัวร้าย ขึ้นเป็นหัวโจกโรงเรียนเอาเถอะ อยากสบายก็ต้องลำบากก่อน กวาดมันให้ราบก่อนค่อยว่ากัน!อิ๋งจื่อจิน “มาตกลงกันหน่อย เลิกเรียกฉันว่าเด็กน้อยได้ไหม”“อายุห่างสามปีก็มีช่องว่างระหว่างวัยแล้ว พี่ชายคนนี้โตกว่าเธอห้าปี เธอไม่ใช่เด็กน้อยจะเป็นอะไร”อิ๋งจื่อจินชะงัก ขมวดคิ้ว “พี่ชายเหรอ”ดวงตาดอกท้อหรี่ลง “เรียกพี่ชายให้ฟังอีกครั้งซิ”“ฝันเก่งนะคุณ”“…”ได้ การเจรจาล้มเหลว ฟู่อวิ๋นเซินยอมแพ้เด็กน้อยหลอกยากพอตัว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท