ตอนที่ 801 บุกเข้าไป! กำจัดคนเลว
ถึงแม้ช่วงหลายวันมานี้เธอจะดูแลลูเอลอยู่ที่ตระกูลเรนเกลตลอด แต่ก็คอยติดต่อคณบดีนอร์แมนอยู่เสมอ
เช้าวันนี้คณบดีนอร์แมนยังพูดกับเธอด้วยความดีใจอยู่เลยว่า อยากให้เธอดูสิ่งประดิษฐ์ชิ้นใหม่
อีกทั้งยังมีแนวคิดใหม่สำหรับโปรเจ็กต์ใหญ่ระดับประวัติศาสตร์อย่างยานอวกาศข้ามจักรวาลด้วย
คณบดีนอร์แมนเป็นคนที่คลั่งการวิจัย มีเหรอจะไม่อยู่ห้องทำงานในวันทำงาน
อาจารย์กิตติมศักดิ์คนที่พูดเม้มริมฝีปาก เริ่มลำบากใจ “คุณอิ๋ง คือคณบดี…”
“รุ่นน้องอิ๋ง!” มีเสียงเรียกด้วยความร้อนรน “รุ่นน้องอิ๋ง ทำไมมาสำนักวิจัยล่ะ พี่บอกเธอแล้วว่าอย่ามาไม่ใช่เหรอ”
เยี่ยซือชิงกับพวกนักศึกษาวิ่งออกมาจากทางห้องทดลอง ศีรษะมีแต่เหงื่อ
อิ๋งจื่อจินหันถาม ดวงตาหงส์เย็นชา “เกิดอะไรขึ้นคะรุ่นพี่เยี่ย”
เยี่ยซือชิงลังเล สุดท้ายก็ยอมบอก “เมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนทางสำนักผู้วิเศษส่งคนมาเชิญตัวคณบดีนอร์แมนไป”
บอกว่า ‘เชิญ’ แต่แท้จริงแล้วไม่ต่างจากจับตัวไป
ใครจะกล้าขัดขวางคนที่สำนักผู้วิเศษส่งมา
“เยี่ยซือชิง!” อาจารย์กิตติมศักดิ์คนหนึ่งพูดขึ้น “ใครให้เธอพูด!”
พวกเขาย่อมรู้จักนิสัยของอิ๋งจื่อจินดี
ปกติอิ๋งจื่อจินให้ความเคารพคณบดีนอร์แมนมากขนาดไหน พวกเขาก็รู้
ถ้าเธอรู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นกับคณบดีนอร์แมน ต่อให้อีกฝ่ายจะแข็งแกร่งขนาดไหน เธอก็ลุยแน่นอน
เยี่ยซือชิงเม้มริมฝีปาก “ต่อให้หนูไม่บอก เดี๋ยวรุ่นน้องอิ๋งก็ต้องรู้อยู่ดี”
“สำนักผู้วิเศษ” อิ๋งจื่อจินพยักหน้าช้าๆ ยิ้มบาง “ดีมาก”
ถึงขั้นลักพาตัวอย่างโจ่งแจ้งแล้ว
เห็นทีจะร้อนใจจนทนรอไม่ไหวแล้วสินะ
อิ๋งจื่อจินพูด “ผู้วิเศษคนไหน”
เยี่ยซือชิงหน้าซีดลง เดาทางของอิ๋งจื่อจินไม่ถูก “มากับคนของคณะชีววิทยาและพันธุศาสตร์ นะ น่าจะเป็นท่านนักมายากล”
“นักมายากล” อิ๋งจื่อจินสีหน้าเรียบเฉย “เข้าใจแล้ว”
เธอไม่อยู่ต่อ หันตัวเดินออก
“คุณอิ๋ง!” อาจารย์กิตติมศักดิ์คนหนึ่งร้อนใจ อยากเข้าไปขวางเธอ “คุณอิ๋ง นอร์แมนบอกว่าเกิดเรื่องกับเขาไม่เป็นไร แต่ห้ามเกิดเรื่องกับคุณครับ!”
นี่เป็นคำสั่งที่ทางสำนักผู้วิเศษสั่งลงมาเองเชียวนะ
ต่อให้ตอนนี้อิ๋งจื่อจินเป็นหัวหน้าตระกูลเรนเกลแล้ว แต่ก็ต่อกรกับสำนักผู้วิเศษไม่ได้อยู่ดี
สำนักผู้วิเศษมีอำนาจเด็ดขาดในเมืองแห่งโลก ไม่มีใครสั่นคลอนสถานะได้
ไม่ว่าจะเป็นตระกูลชั้นแนวหน้าหรือสำนักวิจัย สุดท้ายก็เป็นแค่ของเล่นของสำนักผู้วิเศษเท่านั้น
แม้พวกเขาต่างรู้ว่าหลังจากคณบดีนอร์แมนถูกพาตัวไป มีความเป็นไปได้ว่าจุดจบคงไม่ต่างจากคณบดีคนก่อนที่หายสาบสูญจากโลกนี้ไปอย่างสิ้นเชิง
พวกเขามุ่งมั่นในวิทยาศาสตร์ ซื่อสัตย์ต่อชาวเมือง แต่ไม่ขอภักดีต่อสำนักผู้วิเศษ
ต่อให้การคิดค้นเทคโนโลยีต้องสูญเสียเลือดเนื้อ พวกเขาก็ยินดี
“ห้ามใครเป็นอะไรทั้งนั้น” อิ๋งจื่อจินกดโทรศัพท์พลางเดินออก น้ำเสียงเย็นชา “เฉิงหย่วน พาปรมาจารย์จอมยุทธ์ห้าร้อยคนมาคุ้มกันคณะวิศวะไว้”
“ถ้ามีอาจารย์กิตติมศักดิ์ถูกลักพาตัวไปอีกแม้แต่คนเดียว คัมภีร์วิทยายุทธ์ลับของนายจะถูกยึดคืนหมด”
เฉิงหย่วนที่อยู่ปลายสายกำลังคุยกับพ่อบ้านอยู่ พอได้ยินคำพูดนี้ก็ตื่นตัวทันที “ครับท่านบูรพาจารย์! รับรองครับ ผมรับประกันเลย!”
คัมภีร์วิทยายุทธ์ลับเป็นเหมือนชีวิตของเขา
ให้เขาเอาเฉิงจิ่นไปขายเลยยังได้
คำพูดนี้ทำให้บรรดาอาจารย์กิตติมศักดิ์ต่างตะลึง
คัมภีร์อะไรนะ
“อาจารย์บอกว่าห้ามฉันเป็นอะไรไป” อิ๋งจื่อจินพูด “ดูท่าสำนักผู้วิเศษจะมีข้อแลกเปลี่ยนอะไรกับเขา”
คราวนี้บรรดาอาจารย์กิตติมศักดิ์ต่างสีหน้าเปลี่ยน
“ฉันพูดถูกสินะ” อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเบาๆ “ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ฉันจะพาอาจารย์ออกมาเองค่ะ”
เธอเคยเอายาป้องกันตัวให้นอร์แมนไป รับประกันได้ว่าเขาจะไม่มีอันตรายในเวลาอันสั้น
ขณะที่อาจารย์กิตติมศักดิ์ยังอยากพูดอะไรต่อ อิ๋งจื่อจินก็ทิ้งไว้เพียงเงาด้านหลังแล้ว
ด้านนอกสำนักวิจัย ฟู่อวิ๋นเซินรออยู่ข้างรถ
พอเห็นอิ๋งจื่อจินออกมาเขาก็สัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิตที่แผ่ซ่านออกจากตัวเธอ
เย็นชาจนน่ากลัว
ครั้งล่าสุดที่เป็นแบบนี้คือตอนที่เกิดเรื่องขึ้นกับเจียงหราน
ถ้าเกิดขึ้นแค่กับตัวเธอ แต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่มีทางแสดงอารมณ์ใดๆ
ฟู่อวิ๋นเซินจับมือเธอ “เกิดเรื่องขึ้นเหรอ”
“อืม” อิ๋งจื่อจินขึ้นรถ “ไปสำนักผู้วิเศษ ช่วยคน”
ฟู่อวิ๋นเซินก็เดาได้ทันที แววตาขรึมลง “ไป”
…
ในเวลาเดียวกันที่สำนักผู้วิเศษ
ผู้วิเศษที่ส่งคนไป ‘เชิญ’ คณบดีนอร์แมนก็คือนักมายากล
แต่เขาไม่ได้คิดจะกำจัดคณบดีนอร์แมนเร็วขนาดนั้น
นี่เป็นคำแนะนำของหอคอย
“นายให้ฉันลักพาตัวนอร์แมนมาทำไมตอนนี้” นักมายากลไม่ค่อยพอใจ “การคัดเลือกหัวหน้าตระกูลเรนเกลเพิ่งจบลงไปไม่นาน มีหลายคนจับตาดูฉันอยู่ นี่ไม่เท่ากับนายเอาฉันไปขายเหรอ”
“ไม่ใช่แน่นอน” หอคอยตอบ “ก็แค่อยากใช้เขาล่อคนออกมา จะได้สะดวกให้ฉันกับโจ้วเหยียนลงมือ”
นักมายากลพยักหน้า ขมวดคิ้วพลางพูด “นายคงไม่ได้หมายถึงอิ๋งจื่อจินใช่ไหม”
เขาแค่ปรุงยาเป็นอย่างเดียว ปฏิบัติการทั้งหมดเป็นหน้าที่ของพวกอัลไคด์
“ใช่ ผู้หญิงคนนั้น รวมถึงคุณชายใหญ่ตระกูลอวี้ด้วย” หอคอยปัดอกเสื้อ “นอกจากนี้ก็ใกล้ถึงเวลาที่ท่านจะกลับมาแล้ว”
นักมายากลตื่นเต้นขึ้นมาทันที “ท่านจะกลับมาแล้วเหรอ!”
“ใช่” หอคอยยักไหล่ “พวกเราต้องช่วยท่านกำจัดอุปสรรคทั้งหมดก่อนที่ท่านจะกลับมา อย่าให้ท่านต้องเหนื่อยใจกับเรื่องแค่นี้”
“ได้ ไม่มีปัญหา!” นักมายากลตอบ “ยังต้องการยาอะไรอีก ฉันจะทำให้เดี๋ยวนี้”
“อืม นายทำไป ส่วนคณบดีคณะวิศวะคนนี้ก็ยกให้ซาโรห์จัดการแล้วกัน” หอคอยยืนขึ้น “ซาโรห์จะต้องไม่อยากปล่อยคนที่ทำเธอเสียหน้าไว้แน่นอน พวกเรายังต้องเก็บแรงไว้”
นักมายากลขานรับต่อเนื่อง
หอคอยยิ้มแล้วออกจากสำนักผู้วิเศษ
ภายในอีกห้องหนึ่ง
ซาโรห์นั่งอยู่บนบัลลังก์ มือยังคงจับคฑา บุคลิกน่าเกรงขาม
คณบดีนอร์แมนถูกอัศวินสองคนจับกดนั่งที่เก้าอี้ ขยับไม่ได้
แต่สีหน้าของเขายังคงไม่ทุกข์ร้อน ไม่มีความเกรงกลัวเลยสักนิด
“นอร์แมนใช่ไหม” นิ้วของซาโรห์เคาะบัลลังก์เบาๆ “รู้หรือเปล่าว่าทำไมถึงเชิญคุณมา”
“ถุย ไม่รู้หรอก” คณบดีนอร์แมนประชด “รู้แค่ว่าพวกคุณมันกบในกะลาที่โลกทัศน์คับแคบ!”
หลายปีมานี้สำนักผู้วิเศษจงใจชะลอการพัฒนาเทคโนโลยี ทำร้ายนักวิจัยเทคโนโลยีไปไม่น้อย
คณบดีนอร์แมนคาดการณ์ไว้ก่อนแล้วว่าสักวันจะต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับเขา
ขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกโชคดี
ดีที่เขาส่งไฟล์เอกสารติดรหัสลับทั้งหมดให้อิ๋งจื่อจินไปแล้ว
อย่างน้อยการวิจัยเทคโนโลยีก็ยังดำเนินต่อไปได้
ตราบใดที่ยังมีการถ่ายทอด เส้นทางนี้ก็ไม่มีทางตัดขาด
เขาเชื่อว่าอีกสิบปีหรือร้อยปีให้หลัง พิมพ์เขียวทั้งหมดจะกลายเป็นจริงได้
“ดี หัวรั้นดี” ซาโรห์ไม่โกรธ แต่กลับหัวเราะ เธอยกมือขึ้น “ในเมื่อหัวรั้นขนาดนี้งั้นก็ตัดมือเขาก่อนแล้วกัน”
นักวิจัยเทคโนโลยี ถ้าไม่มีมือยังจะวิจัยยังไงได้อีก
“มาๆ ตัดสิ” คณบดีนอร์แมนชูคอขึ้น “ฉันอยู่ตรงนี้ มาสิ”
ซาโรห์แสยะยิ้ม “อวดดีเหมือนลูกศิษย์ไม่มีผิด”
เธอนั่งพิงบัลลังก์ ยิ้มประชด “แต่ฉันเอ่ยวาจาไปแล้วต้องทำให้ได้ เอาคุณมาแทนลูกศิษย์ งั้นฉันก็จะไม่มีทางแตะต้องเธออีก”
คณบดีนอร์แมนสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย แต่ยังคงไร้ความเกรงกลัว
ซาโรห์ยกมืออีกครั้ง “ลงมือได้”
อัศวินสองคนเข้าไปทันที จับข้อมือของคณบดีนอร์แมนไว้ กำลังจะฟันให้ขาด
แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะได้ลงมือ
“ตูม!”
คลื่นกำลังภายในโจมตีมาจากด้านหลัง ระเบิดออกในชั่วพริบตา
“พลั่ก!”
อัศวินทั้งสองคนส่งเสียงร้องโอดครวญ กระเด็นลงพื้นแล้วหมดสติไป
คณบดีนอร์แมนลืมตา อดตะลึงไม่ได้
ทำไมเขาไม่เป็นอะไรล่ะ
ซาโรห์สีหน้าเปลี่ยน ตวาดเสียง “ใคร!”
ใครรุกล้ำเข้ามาในอาณาเขตของเธออีก
“ฉันเอง”
มีเสียงเย็นชาดังขึ้น
ซาโรห์เงยหน้า ยังไม่ทันมองเห็นชัดเบื้องหน้าก็มืดลง
มีฝ่ามือหวดเข้ามาที่ใบหน้าของเธอ
อิ๋งจื่อจินไม่มีความปรานีแม้แต่น้อย
ตบนี้มีกำลังภายใน แรงมหาศาล
ซาโรห์ลอยกระเด็นออกไปอย่างไม่ทันตั้งตัวอีกครั้ง
“พลั่ก!”
เป็นเหมือนลูกระเบิดที่กระแทกเข้ากำแพงอย่างแรง
สำนักผู้วิเศษที่แน่นหนา แต่กำแพงเริ่มปรากฏรอยร้าวให้เห็น
เมื่อเห็นคนที่ลงมืออย่างชัดเจน คณบดีนอร์แมนก็หลับตาแล้วลืมตาอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองลืมตาอย่างถูกต้อง
เขาอ้าปากค้างเป็นรูปตัวโอ “ว้าว ลูกศิษย์ สุดยอดไปเลย”
อิ๋งจื่อจิน “…”
ในบรรดาผู้วิเศษไม่กี่คน คนที่เธอระแวงที่สุดคืออัลไคด์ผู้วิเศษดวงดาว
ถ้าอัลไคด์ควบคุมหรือสะกดคณบดีนอร์แมน เรื่องก็จะยุ่งยากแล้ว
แต่ตามคาด เธอไม่ควรกังวลเรื่องสภาพจิตใจของคณบดีนอร์แมน
ชายชราผู้นี้เป็นคนมองโลกในแง่ดี ยังคงมีความสุขอยู่ท่ามกลางความทุกข์ได้
ซาโรห์เจ็บไปทั้งตัว
เธอพยายามเงยหน้าขึ้น มึนไปหลายวินาที
ครั้งนี้ในที่สุดเธอก็เห็นเงาตรงหน้าทับซ้อนกับผู้หญิงที่มากับหลิงเหมียนซีในคืนนั้น
ดวงตาของเธอเบิกโพลงอย่างรุนแรง “แกเองเหรอ!”