บทที่ 691 ยกให้หรือ? นี่ใช่ของพวกเจ้าหรือ?
แสงเซียนปะทุ พลังเซียนอันน่าสะพรึงหลั่งไหล ยอดฝีมือมหาตระกูลซึ่งอยู่ที่นี่มิมีผู้ใดฝีมืออ่อนด้อย ขอบเขตเหนือขั้นยอดเซียนกันทั้งสิ้น ซ้ำยังไม่มียอดเซียนธรรมดาสักตน ล้วนแล้วเป็นยอดเซียนระดับสูงสุด
พวกเขาบุกโจมตีอย่างดุดันมิอาจต้าน ยอดฝีมือพรรคกระบี่เซียนร่ายเพลงกระบี่ เสียงกระบี่กู่ร้องสะท้านนภา กระบี่เซียนมหึมาเล่มหนึ่งหลอมรวมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว สูงตระหง่านยิ่งกว่าเทือกเขา
กฎแห่งวิถีกระบี่ซัดสาด อักขระหลั่งไหลรวมเป็นมหาสมุทร กระบี่เซียนมหึมาฟาดฟันเข้าไป สยดสยองเป็นที่สุด!
ยอดฝีมือตระกูลเซียวสำแดงวิชาลับโบราณ เปลวเพลิงสีแดงฉานแผดเผาขึ้นไปถึงท้องฟ้า อสูรเพลิงมากมายคำรามพร้อมบุกออกมา ดุดันน่าเกรงขามเกินหยั่ง พริบตาที่อ้าปาก เสมือนว่าจะกลืนกินแผดเผาน่านฟ้าที่อยู่มาอย่างจีรังยั่งยืนนี้ไป!
ยอดฝีมือตระกูลเฟ่ยเรียกเหล็กท่อนทองเหลืองอร่ามออกมาหนึ่งเล่ม กฎระเบียบไม่ทราบชื่อปรากฏ ส่งแรงดันมันออกไป ปฐพีสั่นไหว บารมีเกริกไกร!
ยอดฝีมือราชวงศ์เฉียนหยวนสวมรัดเกล้าสีม่วงเหลือบทอง แต่งกายด้วยชุดราชนิกูล ทุกอิริยาบถล้วนแฝงไว้ด้วยบารมีของผู้เป็นราชนิกูล นี่คือราชวงศ์อันเป็นอมตะ อยู่ในรายนามกองกำลังอันแข็งแกร่งของภพเซียนเช่นกัน!
เขาปล่อยตราประทับหลวงออกไป แสงสว่างพวยพุ่งวาววาม แข็งแกร่งไร้ใดเปรียบ วิชาที่ราชวงศ์ฝึกนั้นดุดันอย่างยิ่งยวด
ยอดฝีมือในเผ่าต่างบุกโจมตี ตะขอเงินหนามเหล็กงอกเงยออกจากแผ่นหลัง ดวงตาสองข้างนั้นคมกริบดั่งปลายดาบ ทะลุทะลวงไปข้างหน้า ราวกับต้องการทลายสวรรค์ให้ราบคาบ ความเป็นโลหะที่แฝงอยู่นั้นรุนแรงจนน่าหวาดหวั่น!
นี่คือเผ่าเงินจันทร์ สำเร็จวิถีด้วยวัสดุเงินจันทร์ สรรพสิ่งในโลกนี้ล้วนก่อเกิดจากความโกลาหล ไม่ว่าสิ่งใดล้วนก้าวสู่เส้นทางฝึกตนได้ทั้งสิ้น ขึ้นอยู่กับว่าได้พานพบวาสนาของตนหรือไม่!
อสูรร้ายตนหนึ่งคำราม คล้ายว่าเดินออกมาจากประวัติศาสตร์โบราณ มันคือถาวอู้ เป็นสิ่งมีชีวิตเก่าแก่ในตำนานอย่างแท้จริง ปากกว้างเขี้ยวคม ขนยาวสีเขียวประดุจประกายวาววับที่พลิ้วไหวตามลม!
มีอสูรร้ายตนอื่นบุกสังหารออกมา คล้ายว่าเดินออกมาจากประวัติศาสตร์โบราณเช่นเดียวกัน มันคือเทาเที่ย ระหว่างที่มันบุกเข้ามา ห้วงอากาศสั่นสะท้าน อักขระอันน่ากลัวรวมตัวกันชุกชุมดั่งมหาสมุทร ซัดสาดเป็นเกลียวคลื่นอยู่ใต้เท้าของมัน!
ต้นไม้สีดำต้นหนึ่งสูงตระหง่านทะลุฟ้า ยอดต้นไม้บดบังสุริยัน ลำต้นหนาใหญ่ประดุจเสาค้ำสวรรค์ มันคือต้นเทียนทะมึน น่าพรั่นพรึงมากเช่นกัน เผ่าของมันอยู่ในทำเนียบกองกำลังกล้าแกร่ง ไม่อาจสบประมาทได้เลย!
พวกมันลงมือกันพร้อมเพรียง สำแดงทุกวิชาที่มี พวกลั่วสุ่ยถือเป็นกลุ่มคนแปลกปลอม พวกมันต้องการกำจัดกลุ่มคนแปลกปลอมอย่างพวกลั่วสุ่ยให้สิ้นซาก!
ลั่วสุ่ยหาได้เกรงกลัวไม่ นางกระโจนตัวขึ้นประหนึ่งนางเซียน งดงามจนเหมือนมิใช่ความจริง เสมือนความฝัน!
นางมหัศจรรย์เกินไป ประกายแสงรายล้อม ยามเผชิญหน้ากับการรุมโจมตีจากยอดฝีมือต่าง ๆ มันอยู่ในท่าทีสงบราบเรียบ กางแขนออกช้า ๆ ร่ายรำมวยไทเก๊ก!
มวยไทเก๊กนี้ คุณชายสอนนางกับมือ ซ้ำคุณชายยังอธิบายจุดสำคัญต่าง ๆ และปรมัตถ์ของมวยไทเก๊กให้นางฟังอย่างละเอียดอีกด้วย
นอกจากนี้ คุณชายยังตื่นเช้ามาต่อยมวยไทเก๊กกับนางหนึ่งรอบทุกวัน
เอ่ยอย่างไม่เกินจริง ลำพังความสำเร็จในมวยไทเก๊ก นางเป็นรองเพียงคุณชายเท่านั้น ไม่มีผู้ใดสามารถเทียบชั้นนางได้อีก
ต่อมา คุณชายได้ถ่ายทอดวิชามวยไทเก๊กให้พวกหลิงอินเช่นกัน แต่เมื่อเทียบกับนาง ยังห่างชั้นกันไกล มิได้อยู่ในระดับเดียวกัน
นางบุกเข้าไปด้วยตัวตนเดียว ไม่ว่าการโจมตีจากบรรดายอดฝีมือจะสยดสยองน่ากลัวปานใด นางก็ยังมีท่าทีราบเรียบ สงบร่มรื่นดั่งสายลมเบาบางที่โชยผ่านใบหน้า
พรวด! พรวด! พรวด!
เลือดเนื้อกระเด็นกระดอน ลั่วสุ่ยดูร่างบอบบางนุ่มนวล ทว่าอานุภาพมวยไทเก๊กที่นางสำแดงออกมานั้นกลับน่าหวาดหวั่นเป็นที่สุด!
พอกระบี่สวรรค์ที่ยอดฝีมือจากพรรคกระบี่เซียนหลอมขึ้นปะทะกับหมัดอันนุ่มนวลของนาง ก็ร้าวรานย่อยยับไปทั้งตัวกระบี่!
คลื่นอัคคีดุดันที่เกิดจากยอดฝีมือตระกูลเซียวดับสูญด้วยคลื่นลมจากหมัดของนาง ไม่เหลือแม้แต่สะเก็ดไฟ
เหล็กท่อนทองเหลืองของยอดฝีมือตระกูลเฟ่ยยิ่งอนาถเข้าไปใหญ่ ทันทีที่ลั่วสุ่ยเข้าใกล้ ก็หมดสิ้นทุกความวาววาม อานุภาพหายเกลี้ยง!
ตราประทับหลวงของยอดฝีมือราชวงศ์เฉียนหยวนเกรียงไกรไร้เทียมทาน กำราบได้แม้แต่จักรวาล ลบล้างสิ่งมีชีวิตนับร้อยล้านในปฐพีนี้ แต่เมื่อปะทะกับสองหมัดที่ดูเหมือนอ่อนโยนไร้เรี่ยวแรงของลั่วสุ่ยก็มิอาจเกรียงไกรได้ไหว ถูกระเบิดในทันที อันตรธานไปอย่างสิ้นเชิง!
ยอดฝีมือเผ่าเงินจันทร์สำเร็จวิถีด้วยโลหะ กายเนื้อแข็งแกร่งเป็นที่สุด ทว่าเมื่อบุกประชิดตัวลั่วสุ่ย ก็ถูกหมัดของนางต่อยจนร่างยุบ รอยร้าวคืบคลานไปตามตัว ของเหลวสีเงินไหลออกมาไม่หยุด
เถาอู้และเทาเที่ยสองตัวซึ่งเป็นอสูรร้ายจากหน้าประวัติศาสตร์โบราณต้องอึ้งไปหลังบุกเข้ามา พวกมันสองตัวเปรียบเสมือนลูกเจี๊ยบตัวน้อย ๆ พลังทั้งหมดที่ปล่อยออกไปคล้ายว่าจมดิ่มลงไปในก้นมหาสมุทร ไม่แม้แต่จะซัดคลื่นขึ้นมาสักหยด
ทว่าเมื่อหมัดของลั่วสุ่ยแตะโดนตัวพวกมัน กลับดุจดั่งอสนีบาต ร่างของพวกมันแหลกลาญในบัดดล เลือดเนื้อเละรวมกันจนแยกไม่ออก น่าสังเวชจนทนมองมิได้
ต้นเทียนทะมึนบุกเข้ามาแล้วต้องกลับไปด้วยสภาพยับเยินในเสี้ยวพริบตา มันถูกโจมตีใส่จนต้นโล้น ใบไม้ร่วงโรยหมดสิ้น ซ้ำร้ายลำต้นยังมีรอยร้าวมากมาย วิ่งออกไปได้ไม่ไกลเท่าไรก็ระเบิดออก กลายเป็นเศษไม้กองหนึ่ง
“อะ…ไรกัน!”
“เรื่องแบบนี้จะเป็นไปได้อย่างไร!?”
ยอดฝีมือตกตะลึงกันทั้งหมด อกสั่นขวัญแขวน ไอเย็นนับคณาพุ่งพรวดจากฝ่าเท้าขึ้นไปถึงหัว กล้ามเนื้อเกร็งตึง วิตกหวาดหวั่นจนแทบหายใจไม่ออก!
น่ากลัวเกินไปแล้ว เหตุใดถึงมีตัวตนสะท้านโลกอย่างลั่วสุ่ยอยู่ด้วย
ราชันแห่งเซียนเชียวนะ แต่กลับเล่นงานยอดเซียนสูงสุดอย่างพวกเขาจนโงหัวไม่ขึ้น อเนจอนาถจนถึงขีดสุด เล่าไปผู้ใดจะเชื่อ แล้วผู้ใดจะกล้าเชื่อ?
นอกจากนี้ มวยที่ลั่วสุ่ยใช้เป็นมวยเช่นไรกัน
พวกเขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ากระบวนท่ามวยของลั่วสุ่ยไม่ได้มีแค่เท่านี้ และยังไม่ถือเป็นการใช้กระบวนท่าอย่างแท้จริงด้วยซ้ำ ราวกับแค่อุ่นเครื่องเท่านั้น!
สวรรค์! ถ้าลั่วสุ่ยต่อยมวยชุดนี้จนจบ ลั่วสุ่ยมิบดขยี้กำลังรบระดับเซียนจวินที่อยู่เหนือขั้นยอดเซียนขึ้นไปอีกหรือ
ใช่ว่าจะเป็นไปมิได้!
นอกจากนี้ พวกเขาก็เริ่มสังหรณ์ใจขึ้นมาราง ๆ ว่าหากลั่วสุ่ยต่อยมวยชุดนี้จนจบ ไม่แน่ว่าอาจมีฝีมือพอจะสู้กับว่าที่จักรพรรดิเซียนเลยก็ได้!
ชั่วพริบตานั้น สีหน้าพวกเขาพิลึกพิลั่นกันหมด ราชันแห่งเซียนตนหนึ่ง แต่กลับต่อสู้กับว่าที่จักรพรรดิเซียนโดยข้ามขั้นยอดเซียน เซียนจวินไป นี่พวกเขาฝันอยู่หรือไร
แต่ต่อให้เป็นฝันของพวกเขา พวกเขาก็มิกล้าฝันถึงเรื่องเยี่ยงนี้!
ยามลั่วสุ่ยบรรลุเซียน มีสสารอัศจรรย์แทรกซึมเข้าไปในกาย นั่นคือสสารที่เหนือชั้นกว่าความนิรันดร์ หรืออาจเหนือชั้นกว่าความโกลาหลด้วยซ้ำ เป็นความต่างชั้นถึงแก่น มิอาจนำมาเปรียบเทียบกันได้
ต่อให้ลั่วสุ่ยไม่ใช้มวยไทเก๊ก ลำพังอภินิหารธรรมดา นางก็สามารถต่อสู้ข้ามขั้น บดขยี้ยอดเซียนและเซียนจวินด้วยขั้นราชันแห่งเซียนได้!
และหลังจากที่นางใช้มวยไทเก๊ก ก็ยิ่งน่าครั่นคร้ามขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย!
เหล่ายอดฝีมือในที่นี้ต่างคิดว่าหากลั่วสุ่ยต่อยมวยไทเก๊กจนจบ อาจมีสิทธิ์ต่อสู้กับว่าที่จักรพรรดิเซียน
พวกเขาคิดผิด ซ้ำยังผิดมหันต์!
เมื่อมีสสารอัศจรรย์เข้าร่าง แล้วยังมีวิชามวยสูงส่งอย่างมวยไทเก๊ก ว่าที่จักรพรรดิเซียนอันใดกัน ต่อให้ว่าที่จักรพรรดิเซียนมาเป็นฝูงก็ไม่คณามือ ลั่วสุ่ยท้าสู้จักรพรรดิเซียนได้สบาย ๆ!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
เวลานั้นเอง ห้วงมิติสั่นไหวรุนแรง ก่อนจะระเบิดแตกตัว ร่างมากมายปรี่มาทางนี้จากสารทิศ กำลังรบที่ลั่วสุ่ยแสดงออกมาแตกตื่นไปถึงพวกเขา!
สีหน้าพวกเขาเคร่งเครียด หลังมาถึงที่นี่ ต่างมิกล้าวู่วามอย่างไม่มีข้อยกเว้น ยำเกรงในตัวลั่วสุ่ยตั้งไม่รู้เท่าไหร่
“แก่นกำเนิดพลังในกายนางคืออันใด?!”
“พลังเช่นนี้…น่ากลัวยิ่งนัก คืออันใดกันแน่ เหนือกว่าความเป็นนิรันดร์ไปมาก!”
พวกเขาตาเป็นประกาย อยากได้พลังในตัวลั่วสุ่ยเป็นที่สุด
นี่คือพลังที่พวกเขาไม่รู้จัก และเป็นพลังที่พวกเขาอยากได้เป็นหนักหนา พวกเขาอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป และอยากมีชีวิตอยู่เป็นนิรันดร์
ทว่าถึงแม้สสารนิรันดร์ในที่แห่งนี้เข้มข้นพอ บริสุทธิ์พอ กระนั้นก็มิใช่สสารนิรันดร์ที่แท้จริง
นับแต่มีพลังพิศวงลางร้ายรั่วไหลออกจากแดนบรรพโกลาหล แดนบรรพโกลาหลก็เสมือนว่าตัดการเชื่อมต่อจากโลกภายนอก พวกเขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าสสารนิรันดร์ข้างนอกนั่นเปลี่ยนแปลงไป คล้ายว่า ‘แกนกลาง’ ของพลังถูกดึงออกไป ต่อให้ยังต้านทานการกัดกร่อนจากกาลเวลาได้อยู่ แต่ก็ไม่สามารถดำรงตนอย่างจีรังได้จริง ๆ
พลังที่ลั่วสุ่ยสำแดงออกมาเหนือกว่าความเป็นนิรันดร์ หากพวกเขาได้มันมา อย่าว่าแต่อยู่ยงคงกระพันเลย พวกเขาอาจใช้พลังนี้ก้าวสู่ขอบเขตพลังที่สูงกว่านี้ก็เป็นได้!
เรื่องนี้สำคัญกว่าการได้ครอบครองสิ่งที่อยู่ในสถานที่นี้เป็นหนักหนา!
“ไหนจะวิชามวยนั่นอีก มิใช่วิชามวยดาษดื่น เจตจำนงมวยที่แฝงไว้นั้นลึกล้ำเกินหยั่ง หากได้รู้แจ้งเมื่อใด ยังไม่ต้องเอ่ยว่าทั้งหมด ลำพังผิวเผินก็เป็นประโยชน์มหาศาลแล้ว ช่วยให้แตะถึงขอบเขตที่สูงกว่านี้ได้!”
“นี่มันวิชามวยระดับใดกัน?! วิชาโบราณประจำตระกูลของข้าที่สืบทอดกันมาช้านาน มีแหล่งกำเนิดจากพลังโกลาหลยังเทียบมิได้!”
พวกเขาคิดขึ้นในใจอีกครั้ง ยิ่งให้ความสำคัญกับพวกลั่วสุ่ยขึ้นไปอีกหลายระดับ
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
เสียงระเบิดในห้วงอากาศดังขึ้นเรื่อย ๆ หยุดมิได้เลย แสงสยดสยองมากมายพุ่งมาจากฟากฟ้า จุติลงในที่แห่งนี้
ดินแดนแกนกลางเปิดออก เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย ทั้งมหาตระกูล ลัทธิใหญ่ ๆ ต่างให้ความสำคัญกันอย่างมาก ไม่เพียงแต่ผู้นำของแต่ละตระกูลและลัทธิที่นำทัพยอดฝีมือทั้งหมดในกองกำลังของตนบุกเข้ามาเท่านั้น
กระทั่งบรรดาจักรพรรดิเซียนที่เพิ่งบรรลุ หรือแม้แต่จักรพรรดิเซียนอาวุโสที่มิได้เผยตัวออกมานานก็เข้ามาแย่งชิงในแดนแกนกลางนี้ด้วย
และในเวลานั้น สิ่งมีชีวิตยอดฝีมือทั้งหมดในแกนกลางมาอยู่ที่นี่กันถ้วนหน้า
ขอบเขตพลังของพวกเขาสูงส่งกันทั้งสิ้น หลังจากลั่วสุ่ยเปิดฉากต่อสู้ ก็เผยให้เห็นถึงพลังระดับนั้นแล้ว พวกเขาต่างสัมผัสได้ในทันที
พลังเช่นนี้สร้างความสะท้านให้พวกเขาเหลือแสน พวกเขาไม่มีแก่จิตแก่ใจสนเรื่องอื่นอีก ต่างสละสิ่งที่แย่งชิงอยู่ก่อนหน้า แล้วพากันมาที่นี่
จักรพรรดิเซียนอาวุโสทั้งหลายมาอยู่ที่นี่ ผู้นำของตระกูลและลัทธิต่าง ๆ ไม่มีสิทธิ์ได้เอ่ยวาจา จักรพรรดิเซียนอาวุโสตระกูลเซียวผู้หนึ่งก้าวออกมา
“สวัสดีแม่นาง พวกท่านต้องการศพมังกรนี้หรือ”
เขามีมารยาทมาก มิกล้ายโสโอหังแม้แต่น้อยขณะเอ่ยถามลั่วสุ่ย
หากไม่มีอันใดผิดพลาด ผู้ที่อยู่เบื้องหลังพวกลั่วสุ่ยย่อมต้องไม่ธรรมดาเป็นแน่ มิฉะนั้น ไฉนเลยถึงควบคุมพลังมหัศจรรย์เช่นนี้ได้
ไม่ต้องคิดด้วยซ้ำก็รู้ว่าพวกลั่วสุ่ยมาจากข้างนอก มิใช่สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในภพเซียน
สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในภพเซียนมิอาจควบคุมพลังระดับนี้ได้
ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาไฉนเลยจะกล้าโอหัง ไม่กล้าเลยสักนิด!
หากมิใช่เช่นนั้น เขามีหรือจะเกรงอกเกรงใจราชันแห่งเซียนอย่างลั่วสุ่ยปานนี้ คงฆ่าในฝ่ามือเดียวไปนานแล้ว!
ราชันแห่งเซียนเมื่ออยู่ต่อหน้าเขาเล็กน้อยดุจเถ้าธุลี ไม่ควรค่าแก่การพูดถึง
“เราต้องการศพมังกรนี้จริง ๆ” ลั่วสุ่ยตอบเสียงเรียบ
“ไม่ทราบว่าแม่นางต้องการศพมังกรนี้ไปทำอันใดหรือ”
จักรพรรดิเซียนอาวุโสแห่งตระกูลเซียวถามขึ้นอีกครั้ง
ด้วยพลังที่ลั่วสุ่ยมี ศพมังกรนี้หาได้สลักสำคัญไม่ ถึงอย่างไร พลังของลั่วสุ่ยก็เหนือชั้นกว่าสสารนิรันดร์ที่แฝงอยู่ในศพมังกรนี้ไปมาก
“มิได้ต้องการศพมังกร แต่ต้องการเอ็นมังกรในศพมังกรตัวนี้”
ลั่วสุ่ยกล่าว “จะทำไม้ตกปลาแต่ขาดเอ็น พวกเราจึงมาที่นี่เพื่อนำเอ็นมังกรไปใช้เป็นเอ็นตกปลา”
“…”
จักรพรรดิเซียนอาวุโสแห่งตระกูลเซียวสะอึกไปทันที
ใช้เอ็นมังกรเป็นเอ็นตกปลา นำไปร้อยกับไม้ตกปลาอย่างนั้นรึ เรื่องบ้าอันใดกัน สิ้นเปลืองปานนี้ได้หรือ?
กระนั้นเขายังเอ่ยออกไปอย่างรวดเร็ว “หากแม่นางต้องการศพมังกรนี้ ย่อมได้ พวกเรายกศพมังกรนี้ให้แม่นางได้…เพียงแต่ พวกเราหวังว่าแม่นางจะตกลงยอมรับเงื่อนไขจำนวนหนึ่งของเรา”
ยกให้หรือ?
จะใช้คำว่า ‘ยกให้’ ได้อย่างไร
ศพมังกรตัวนี้เป็นของพวกเขาหรือไร?
คิ้วลั่วสุ่ยกระตุกเล็กน้อย