ตอนที่ 41 เริ่มเลย มาถ่ายทอดสดกินปลาหมึกกันเถอะ (41)
จักรพรรดิทรงเป็นกังวลยิ่งนัก!
เมื่อเห็นลูกสาวได้รับบาดเจ็บ หัวใจของเขาก็แทบหยุดเต้น!
แม้ว่าองค์ชายใหญ่สวี่เจี้ยนอวิ๋นจะนำกองทัพออกไปสู้รบด้านนอก ทว่าเขามักจะเป็นกังวลเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ในราชวงศ์เสมอ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิดีโอถ่ายทอดสดของน้องสามที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามอย่างมาก ปกติเขามักจะเปิดดูมันในยามว่าง
“น้องสามกลายเป็นคนที่มีอำนาจมหาศาล และฉัน พี่ชายคนนี้ไม่เคยรู้มาก่อนเลย!” สวี่เจี้ยนอวิ๋นส่ายหัวพลางขมวดคิ้ว และมองดูผู้ช่วยที่อยู่ด้านข้างเขา “บอกฉันที เกิดอะไรขึ้นกับฉันที่เป็นพี่ใหญ่คนนี้?!”
“ท่านทำดีแล้วครับ โปรดนำของขวัญไปให้องค์หญิงสามในช่วงเทศกาลปีใหม่ด้วยครับ” ถงอู๋ ผู้ช่วยที่อยู่ด้านข้างตอบกลับอย่างรวดเร็ว
“ถ้าฉันทำดีแล้ว ทำไมน้องสามถึงต้องปกปิดเรื่องนี้ไว้ด้วย?!” สวี่เจี้ยนอวิ๋นเย้ยหยันตนเอง “ฉันเคยคิดว่านอกเหนือจากน้องชายรองแล้ว น้องสามเป็นคนที่บริสุทธิ์ที่สุด แต่ดูตอนนี้ ฮึ น้องสามกลับกลายเป็นคนที่เจ้าเล่ห์ที่สุดในครอบครัวของฉัน!”
“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหัวขโมยจะอยู่ในบ้านของฉัน! เธอทำให้ความเชื่อใจของฉันสูญเปล่า!”
องค์ชายใหญ่หัวเราะออกมาด้วยความโกรธจัด และทุบโต๊ะกาแฟด้วยค้อนเพียงอันเดียว!
ผู้ช่วยถงอู๋ยืนอย่างสงบนิ่ง “ท่านต้องการให้ผมทำอะไรสักอย่างไหมครับ?”
“ช่างมัน! พวกเราไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น น้องชายรองจะเป็นคนจัดการเอง”
สวี่เจี้ยนอวิ๋นอดทนต่อความโกรธ ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา องค์ชายรองก็ดูวิดีโอถ่ายทอดสดของสวี่หลิงอวิ๋นด้วย “ตอนนี้พี่ชายใหญ่ของฉันคงจะหงุดหงิดใจน่าดู เมื่อรู้ว่าน้องสาวคนเล็กหลอกเขา”
“ฉันบอกแล้วไงว่าเขาเป็นพวกหัวรั้น ทำไมเขาไม่คิดบ้างว่าคนในคำทำนายของนักพยากรณ์จะเป็นคนธรรมดาได้ยังไง?! ฮะ! เขาต้องโกรธแน่ ๆ!”
“ถ้าอย่างนั้น องค์ชายรอง พวกเราต้องลงมือทำอะไรไหมครับ?” ผู้ช่วยที่ยืนอยู่ด้านข้างถามเขาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“ลงมือ? ลงมือทำอะไร?!” องค์ชายรองเยาะเย้ย “มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอที่จะให้ฉันลงมือน่ะพี่ใหญ่? เขาคงกำลังรอให้ฉันเคลื่อนไหวอยู่ โอ้ ฉันจะไม่ทำอะไรทั้งนั้น แต่จะทำให้เขาโมโหแทน!”
จักรพรรดิทรงทราบด้านมืดขององค์ชายทั้งสองคน และนั่นทำให้เขาโกรธจัดอีกครั้ง!
“เจ้าคนเลวสองคนนี้! น้องสาวของพวกเขากำลังมีชีวิตอยู่ในความเป็นความตาย ยังมีหน้ามาปากหวานก้นเปรี้ยวอีกเรอะ?! ฮึ! ควรไล่ออกจากราชวงศ์ไปซะ!”
จักรพรรดินีที่นั่งอยู่ด้านข้างกล่าวด้วยวาจาเย้ยหยัน “นั่นสินะ ต่อให้มีความสามารถมากแค่ไหน ฉันก็จะถูกไล่ออกจากราชวงศ์อยู่ดี!”
“ชายาข้า พี่ไม่ได้หมายถึงเจ้า! พี่หมายถึงลูกชายทั้งสองคนของเรา ทำไมถึงไม่สนใจไยดีน้องสาวบ้าง!” ทันทีที่จักรพรรดิเห็นจักรพรรดินีอารมณ์เสีย เขาจึงรีบกล่าวขอโทษออกมาและหัวเราะ
“ไม่สนใจไยดีลูกสาวของเราจริงหรือ? เด็กสองคนนั้นทำเกินไปจริง ๆ แต่ไม่ว่ายังไง พวกเขาก็ไม่เคยฉวยโอกาสก่อความวุ่นวายไม่ใช่เหรอคะ?”
“ราชวงศ์ใดที่ไม่มีศึกสายเลือดแย่งชิงบัลลังก์เช่นนี้กัน?” จักรพรรดินีกล่าวปลอบประโลมจักรพรรดิ “เสด็จพี่อย่าโกรธเคืองไปเลย ยังไงลูกหลานก็มีทางรอดของเขาเอง เสด็จพี่เองก็ชอบต่อสู้เพื่อเป็นที่หนึ่ง แต่สุดท้ายแล้วผู้ชนะก็จะถูกลิขิตเอง”
“พี่กลัวว่าพวกเขาจะฆ่ากันจริง ๆ หลังจากที่เราตายไปแล้ว!” จักรพรรดิกล่าวออกมาด้วยความวิตกกังวล
“ดูท่านพูดเข้า ลูกชายของเราไม่เป็นแบบนั้นหรอก อย่ากังวลไปเลย!” จักรพรรดินีปลอบโยนเขา ก่อนจะกล่าวต่อว่า “ถ้าเสด็จพี่กังวลมาก ทำไมไม่ไปจัดห้องและทำอาหารจานโปรดรอลูกล่ะคะ ถ้าลูกตื่นขึ้นมาคงจะหิวน่าดู!”
“อืม! ฮึ! โชคดีที่ลูกสาวของเรารู้เหตุรู้ผลและมีน้ำใจ แถมเธอยังมีพละกำลังระดับ 7 ดาว! น้องคิดว่าลูกสาวของเราจะได้เลื่อนขั้นไปถึง 9 ดาวได้ไหม?” ทันทีที่จักรพรรดิทราบข่าวของลูกสาว เขาก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก และเริ่มจินตนาการเรื่องในอนาคตกับจักรพรรดินี
จักรพรรดินียกยิ้มอย่างมั่นใจ “แน่นอนว่าต้องได้อยู่แล้วค่ะ!”
ร่างของสวี่หลิงอวิ๋นชุ่มโชกไปด้วยเลือด ชาวเน็ตทั้งหลายต่างรับรู้ถึงสถานการณ์ตรงหน้าเป็นอย่างดี แต่จากนั้นไม่นาน ทหารก็ตัดจบการถ่ายทอดสด และทุกคนก็เริ่มคาดเดาเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บขององค์หญิง
“เธอต้องไม่เป็นอะไร! นักพยากรณ์ทำนายไว้ว่าองค์หญิงสามของเราจะเป็นผู้คลี่คลายปัญหาจากเหล่าปลาหมึกยักษ์เอเลี่ยนในอนาคตไม่ใช่เหรอ? แล้วเรื่องแบบนั้นจะเกิดขึ้นได้ยังไง!”
“ใช่! ขอพระเจ้าอวยพรแก่องค์หญิงของเราด้วยเถิด!”
“องค์หญิงสาม อาการของท่านจะต้องดีขึ้น พวกเราทุกคนอยากลองชิมเครื่องปรุงราคาแพงของท่าน!”
……….
ขณะที่โลกภายนอกต่างคาดเดาและวิตกกังวล สวี่หลิงอวิ๋นตื่นขึ้นมาในพื้นที่ของเธอเอง
ทันใดนั้นผู้หญิงคนหนึ่งก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเธอ
“สวัสดีค่ะ” หญิงสาวจ้องมองเธอด้วยสายตาอ่อนโยน “มนุษย์รุ่นก่อน ยินดีที่ได้พบคุณ”
สวี่หลิงอวิ๋นมองดูหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาหวาดระแวง เธอเป็นหญิงสาวที่มีใบหน้างดงาม ทว่ากลับอยู่ในชุดรูปร่างแปลกประหลาด
“มนุษย์รุ่นก่อน? คุณเป็นใคร?” สวี่หลิงอวิ๋นมองดูหญิงสาวตรงหน้าเธอ สิ่งที่น่าแปลกคือหญิงสามคนนี้เป็นภาพโฮโลแกรมใช่ไหม?
“ฉันชื่อนาตาชา มาจากมหาแผ่นดินทะเลดวงดาว” หญิงสาวยกยิ้ม “จี้หยกมิติที่คุณกำลังสวมใส่อยู่เป็นสมบัติล้ำค่าของเรา ย้อนกลับไปตอนนั้นพวกเราต้องเผชิญหน้ากับไวรัสร้ายแรง คนในเผ่าบางส่วนหนีไปยังแผ่นดินอื่น และบางส่วนหนีขึ้นยานอวกาศมา”
“พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นผู้ครอบครองจี้หยกมิติ จี้หยกมิตินี้สามารถดูดซับพลังงานจากภายนอกเพื่อนำมาดูแลพืชพันธุ์ภายในได้ ซึ่งสามารถมั่นใจได้เลยว่าพืชพันธุ์จะเติบโตอย่างดี”
“แล้วยังไงต่อ?” สวี่หลิงอวิ๋นถาม
“หลังจากนั้น…ไวรัสก็รุนแรงขึ้น ผู้คนจำนวนมากล้มตายเพราะไวรัส มนุษย์เริ่มกัดมนุษย์กันเอง และกลืนกินกันในที่สุด โลกเปลี่ยนไปมาก จนกระทั่งต้นไม้แห่งชีวิตถูกค้นพบ และผู้ร้ายที่อยู่เบื้องหลังไวรัสนั้นคืออุกกาบาต”
“เมื่อสองสิ่งนี้รวมกัน ไวรัสจะถูกยับยั้ง นี่คือสิ่งสุดท้ายที่คนในเผ่าของเราสามารถทำเพื่อโลกได้”
คำพูดของนาตาชาสื่อถึงอารมณ์มากมาย “ต่อมาจี้หยกมิติที่ไว้ใช้สำหรับปลูกผักก็ถูกฝังไว้กับชนเผ่าของพวกเราด้วย หรือบางส่วนอาจถูกทำลายไป มีเพียงจี้หยกมิติเส้นนี้ที่หลงเหลืออยู่กับฉัน ฉันรู้ว่าตัวฉันเองอาจจะอยู่ต่อไม่ได้นาน ดังนั้นฉันจึงสร้างวิดีโอโฮโลแกรมอันนี้ขึ้นมา ฉันไม่มั่นใจว่าคุณจะได้ยินที่ฉันพูดไหม แต่ถ้าคุณได้ยิน ฉันยินดีจะมอบทักษะการปลูกผักและสอนวิทยายุทธการฝึกพลังจิตให้แก่คุณ และหวังว่าคุณจะเผยแพร่การฝึกพลังจิตของเราสืบต่อไป”
หลังจากคำพูดของนาตาชาสิ้นสุดลง สวี่หลิงอวิ๋นก็ต้องตกใจเมื่อเธอพบว่าพื้นที่โดยรอบเปลี่ยนไปมาก!
เมื่อก่อนพื้นที่มีขนาดเล็กมาก ปลูกผักกับผลไม้ได้เพียงน้อยนิด และยังมีที่จุของไม่ได้เยอะ ทว่าเมื่อได้รับอนุญาตจากผู้เป็นเจ้าของแล้ว พื้นที่ในจี้หยกมิติกลับมีขนาดกว้างขวางขึ้นจนสุดลูกหูลูกตา!
“พระเจ้า! พื้นที่ในนี้มีขนาดสองสามร้อยเอเคอร์ใช่ไหม?! ต้องปลูกธัญพืชเยอะขนาดไหนกัน!” ในขณะเดียวกัน สมองของเธอรับรู้ได้ถึงพลังจากผู้อื่น รู้ถึงวิธีการเพิ่มพื้นที่ วิธีการการปลูกธัญพืชให้ออกผลอย่างรวดเร็วและได้ประสิทธิภาพ วิธีปรับอุณหภูมิและความชื้น…
แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการฝึกพลังจิตวิญญาณ!
เผ่าของนาตาชาฝึกฝนพลังมาก่อนหน้านั้น จึงไม่น่าแปลกใจนักที่สวี่หลิงอวิ๋นสามารถเปิดพื้นที่ได้เพียงเล็กน้อยในตอนแรก เพราะพลังจิตวิญญาณของตัวเองมีเพียงน้อยนิด นั่นจึงทำให้เธอเปิดพื้นที่ได้เล็กน้อยนั่นเอง
ในตอนนี้สวี่หลิงอวิ๋นพยายามบีบเค้นพลังจิตทั้งหมดของตัวเองออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ และรวบรวมพลังจิตของผู้คนมากมายเข้าไว้ด้วยกัน จึงส่งผลให้พลังจิตของเธอขยายออกเป็นวงกว้างอย่างคาดไม่ถึง รวมทั้งกระตุ้นภาพโฮโลแกรมที่เป็นเจ้าของเดิมของพื้นที่นี้ด้วย เป็นการได้รับพื้นที่เพิ่มที่คุ้มค่าอย่างแท้จริง
** มาแล้วผู้อ่านจ๋าาา เปิดนิยายให้อ่านฟรี กว่า 700 ตอน **
คัดสรรนิยาย 4 เรื่อง 4 แนว สุดฮิตมาให้อ่านกันตลอดช่วงซัมเมอร์นี้ ต้องรีบไปอ่านแล้ววว
⏰ ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย – 18 เม.ย. นี้
ติดตามผลงานและข่าวสารจากเราได้ที่ เพจ EnjoyBook