ตอนที่ 54 เริ่มเลย มาถ่ายทอดสดกินปลาหมึกกันเถอะ (54)
จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ทั้งสองตัว ตัวหนึ่งตัวโตตัวหนึ่งตัวเล็ก ทั้งสองต่างมีการคำนวณเป็นของตนเอง ลงนามและตราประทับ และหลังจากรับรองเอกสารที่สำนักงานรับรองเอกสาร รัฐมนตรีนิโคลก็เริ่มซื้อและขายปลาหมึกยักษ์
ในปัจจุบัน ดาวเคราะห์รกร้างถูกปกคลุมไปด้วยพืชพรรณจำนวนมาก!
นอกจากธัญพืชของสวี่หลิงอวิ๋นแล้ว นักชีววิทยายังเริ่มทำการฟื้นฟูระบบนิเวศทางธรรมชาติของดาวเคราะห์ดวงนี้ด้วยเช่นกัน
เดิมทีต้าไป๋อยากจะจากที่นี่ไปพร้อมกับสวี่หลิงอวิ๋น แต่การจากที่นี่ไปก็เหมือนกับการจากปลาหมึกยักษ์ที่แสนอร่อยไป ดังนั้นมันจึงไม่ต้องการออกไปจากที่นี่ ก็เลยต้องปล่อยให้มันอยู่ต่อ
อย่างไรเสีย ที่นี่ก็มีอาหารกระป๋องจำนวนมากที่จะเติมเต็มท้องของพวกมัน ซึ่งนั่นถือเป็นเรื่องดีอย่างยิ่ง
ต้าไป๋มีความสุขในชีวิตของมันมากขึ้น ทว่าความสุขของผู้คนกลับลดลง
เพราะว่าปลาหมึกยักษ์ที่ไม่เคยมีใครซื้อมาก่อน กลับกำลังเป็นที่นิยมบนอินเทอร์เน็ต!
ราคายี่สิบเงินดวงดาวต่อครึ่งกิโลนั้นทำให้ผู้คนเข้าถึงมันได้ง่าย แถมด้านหน้ายังมีวิดีโอขององค์หญิงสามติดอยู่ ทำให้ผู้คนกระตือรือร้นที่จะซื้อ แม้ว่ามันจะไม่อร่อยเท่าขององค์หญิงสาม แต่อย่างน้อยมันก็ช่วยบรรเทาความอยากลงได้ชั่วคราว
ท้ายที่สุดแล้ว อาหารกระป๋องนั้นก็หาซื้อยากเสียจริง
ตามคำบอกกล่าวขององค์หญิงสามว่าเครื่องปรุงรสของเธอยังไม่ได้เปิดให้ใช้สอย และยังต้องการพื้นที่ปลูกขนาดกว้างเพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งาน
ความรักของสาธารณชนที่มีต่อปลาหมึกยักษ์เอเลี่ยนนั้นเหลือล้นจนเกินความคาดหมายของจักรวรรดิ ถึงแม้ว่าจะต่อสู้กับเอเลี่ยนมาหลายปี ทว่ากลับไม่เคยมีคำกล่าวไว้ว่าการต่อสู้กับเอเลี่ยนจะสามารถทำเงินได้!
มวลชนยังคงเร่งเร้า เพราะจำนวนความต้องการนั้นมีปริมาณสูงมาก! ครั้งนี้รัฐมนตรีการคลังนิโคล ไม่ได้ขี้เหนียวอีกต่อไป แต่กลับใจกว้างอย่างเหลือเชื่อ ตราบใดที่งบประมาณของกองทัพทหารบนดาวเคราะห์รกร้างได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่
สิ่งนี้ทำให้องค์ชายทั้งสองอิจฉาริษยา
สวี่เจี้ยนอวิ๋นติดต่อระยะทางไกลกับจักรพรรดิและเรียกร้องให้ขยายงบประมาณให้กับกองทัพของเขา ทำไมถึงเพิ่มงบประมาณให้กับกองทัพของตระกูลแอนดรูว์ แต่ไม่เพิ่มงบประมาณให้เขา?
เมื่อฝ่าบาทได้ยินเช่นนั้น เขาถึงกับย่นจมูก “เสียสติหรือยังไง? ฮะ? ถ้ามีความสามารถก็ไปทำให้เอเลี่ยนได้รับความนิยมดูบ้างสิ!”
เข้าใจแล้ว! เนื้อของเอเลี่ยนตัวอื่นนั้นน่ากิน และเอเลี่ยนที่ต่อสู้กับพวกเขามีเกราะป้องกันขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนไม่น่าอร่อยสักเท่าไหร่ ไม่เหมือนกับปลาหมึกเอเลี่ยนที่มีเนื้อห้อมล้อมทั้งตัว ซึ่งสามารถกินมันเข้าไปได้อย่างง่ายดาย!
องค์ชายใหญ่รู้สึกไม่มั่นใจ ถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะตั้งใจฆ่ามันโดยเฉพาะ และขอให้พ่อครัวค้นหาวิธีปรุงรสชาติของมัน จากนั้นจึงกินมันเข้าไป ทว่าเขากลับไม่คาดคิด…
แหวะ! เขาไม่ต้องการลิ้มรสรสชาตินี้ไปอีกตลอดชีวิต!
มันน่าขยะแขยง! ทั้งคาวทั้งเหม็น!
ลืมมันไปเสียเถอะ!
มองดูพี่สาวของตนเองเดินเข้าไปในเส้นทางของคนรวยด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก อีกทั้งยังล้างมลทินให้ชื่อเสียงได้ บางครั้งที่เขาแอบสาปแช่งพี่รองผู้เป็นคู่อริคนเดียวในใจ เพราะเขาชื่นชอบการมีความสัมพันธ์แบบลับในวันสุดสัปดาห์ไม่ใช่เหรอ? เห็นหรือยังว่าน้องสาวคนสุดท้องจดจำได้ขนาดไหน แต่กลับยังไม่เคยคิดจะสาดน้ำสกปรกใส่เลยสักนิด?!
ลูตี้เริ่มทนไม่ไหวมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่กลับยิ่งต้องสงบสติให้ได้มากที่สุดในเวลานี้
ในฐานะของบิดาผู้ให้กำเนิดของลูตี้ ฮาร์วี่ อิสซี่ยังตระหนักถึงความจริงจังของเรื่องนี้ทั้งหมดในตอนนี้
องค์หญิงสามมีความกล้าหาญมากยิ่งขึ้น และความอดทนของผู้คนที่มีต่อเธอนั้นสูงกว่าที่พวกเขาจินตนาการไว้มาก!
นายกเทศมนตรีไม่มีความต้องการเห็นเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น นอกจากนี้ เขายังตั้งใจส่งลูตี้เข้าไปในตระกูลแอนดรูว์เพื่อที่เธอจะได้กลายเป็นภรรยาของพลเอกในอนาคต!
หากลูตี้กลายเป็นภรรยาของพลเอกโอคาซีแห่งตระกูลแอนดรูว์ และเมื่อเธอให้กำเนิดบุตร ผู้ที่จะรับช่วงต่อจากตระกูลแอนดรูว์ก็จะกลายเป็นเด็กคนนี้ไปโดยปริยาย ลูตี้ไม่สามารถหลบหลีกการครอบงำได้ และเด็กคนนี้ก็จะกลายเป็นหุ่นเชิดขององค์ชายรอง
การควบคุมตระกูลแอนดรูว์ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับองค์ชายรองในการเอาชนะองค์ชายใหญ่ และขึ้นครองเป็นจักรพรรดิ
จะทำลายอิทธิพลอันดีงามขององค์หญิงสามที่มีต่อประชาชนได้อย่างไร? หากใช้แค่ยุคมืดก่อนหน้านั้นขององค์หญิงสามคงยังไม่เพียงพอ จะต้องจัดการขั้นเด็ดขาด!
ทันทีที่สวี่หลิงอวิ๋นกลับไปยังจักรวรรดิ เธอยังไม่มีแม้แต่เวลาได้หายใจ ข่าวลือก็แพร่กระจายบนอินเทอร์เน็ตเสียแล้ว
เด็กหญิงตัวน้อยเสียชีวิตหลังจากกินปลาหมึก!
ข่าวลือต่าง ๆ นานาแพร่กระจายออกมา พวกเขากล่าวว่าเนื้อปลาหมึกเอเลี่ยนนี้ไม่เหมาะสมกับการเป็นอาหารของผู้คน สิ่งนี้ไม่เคยถูกกินมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว แต่ทันใดนั้น องค์หญิงสามกลับกล่าวว่ามันสามารถกินได้ นี่ต้องเป็นแผนร้ายอย่างแน่นอน!
แผนร้ายอะไร? แน่นอนว่าองค์หญิงสามเพียงต้องการหาเงินเลี้ยงตนเองเท่านั้น!
ผู้คนที่มีมันสมองหลงเหลืออยู่บ้างยังรู้เลยว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะว่าผู้คนจำนวนมากต่างกินมันเช่นกัน และมีเพียงคนเดียวที่มีปัญหา ซึ่งมันยากที่จะบ่งชี้ว่าปัญหานั้นเกิดมาจากการกินของสิ่งนี้!
ทว่าในไม่ช้าก็มีใครบางคนเปิดเผยเรื่องการเสียชีวิตของเด็กหญิงตัวน้อยบนอินเทอร์เน็ต ว่าเรื่องราวนี้เกิดขึ้นในครอบครัวที่มีฐานะยากจน พวกเขาซื้อปลาหมึกมาเพื่อเป็นอาหารยังชีพ แต่ว่าแม่ของเด็กน้อยรู้สึกสงสารลูก ดังนั้นเธอจึงให้เด็กหญิงได้ลิ้มลองมันก่อน ส่งผลให้เด็กหญิงตัวน้อยเสียชีวิตในที่สุด
ภาพถ่ายและการวินิจฉัยพิสูจน์ว่าทุกอย่างนั้นดูเหมือนจริง และแล้วปลาหมึกเอเลี่ยนก็ถูกผู้คนละเลยไปชั่วขณะ
แม้ว่าชาวเน็ตจะมีหลักฐานว่าพวกเขาเองก็กินปลาหมึกเอเลี่ยนนี้เหมือนกัน และไม่ได้พบเจอปัญหาอะไร แต่ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นคู่หนึ่งอยู่เบื้องหลังคอยสุมไฟอยู่ โดยพยายามออกกลอุบายล้มล้าง และไม่ยอมพูดอะไรออกมา
จักรพรรดิรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก! ไม่ต้องกล่าวถึงฝ่าบาท แม้แต่รัฐมนตรีการคลังนิโคลก็กำลังโกรธจัดเช่นกัน!
งบประมาณเพิ่งผ่านพ้นเกินดุลก็กลับมาตกต่ำอีกครั้ง แล้วใครจะทนไหว!
“ตรวจสอบ! ฉันอยากจะรู้ว่าไอ้สารเลวหน้าไหนมันอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้!”
ก่อนที่องค์หญิงสามจะโมโห รัฐมนตรีนิโคลเองยอมรับเรื่องนี้ไม่ได้ตั้งแต่แรก!
หลังจากที่สวี่หลิงอวิ๋นดูภาพและใบรับรองการวินิจฉัยโดยละเอียดแล้ว เธอกลับยกยิ้มเมื่อเห็นที่อยู่
และตรงไปเปิดรายการถ่ายทอดสด
ชาวเน็ตต่างกำลังรอคอยช่วงเวลานี้ เพื่อรอดูว่าองค์หญิงสามจะออกมาพูดอะไร
“สวัสดีทุกคน! นังผู้หญิงสารเลวในใจของทุกคน องค์หญิงสามผู้รักแต่เงินตราและไม่สนใจไยดีชีวิตของตนเองกลับมาแล้วค่า!”
สวี่หลิงอวิ๋นถืออาหารกระป๋องไว้ในมือของตัวเอง และเคาะมันด้วยเรียวนิ้วของเธอเบา ๆ ทันใดนั้นกระป๋องก็ถูกเปิดออกและกลิ่นของมันก็ลอยออกมา “ฮืม! หอมมาก!”
ชาวเน็ตทั้งหลายมองดูการกระทำขององค์หญิงสาม ทันใดนั้นความคิดเห็นทั้งหลายก็ถล่มทลายอีกครั้ง
“น่าขยะแขยง! องค์หญิงสาม ทำไมท่านยังมีอารมณ์มากินมันอีก? กล้ากินมันได้ยังไง? ท่านไม่คิดจะขอโทษต่อการเสียชีวิตของเด็กสาวตัวน้อยคนนั้นบ้างเหรอ? ท่านไม่รู้สึกผิดเลยหรือไง?!”
“ฉันเสียใจจริง ๆ ทำไมฉันถึงคิดว่าองค์หญิงสามจะแตกต่างไปจากเดิมนะ?”
“แย่ที่สุด! ฉันจะเลิกเป็นติ่งท่าน!”
“ยังมีอารมณ์มากินอีกเหรอ? ยังเสแสร้งอยู่ได้!”
……….
คำด่าทอพรั่งพรูออกมามากมาย ทว่าสวี่หลิงอวิ๋นยังคงสงบนิ่ง นั่งและก้มหน้าก้มตากินต่อ จวนเมื่อเธอกำลังจะกินเสร็จ เธอจึงเช็ดปากและมองไปที่หน้าจอ “เอาล่ะ เจ้าพวกโง่ทั้งหลาย จับตาดูให้ดีล่ะ!”
เธอถือโปรตอนคอมพิวเตอร์อัจฉริยะไว้ในมือ และเปิดรูปภาพขึ้นมา
“พวกคุณกำลังพูดถึงเด็กหญิงตัวน้อยคนนี้ใช่ไหม? นี่คือการวินิจฉัยของเธอเหรอ?” สวี่หลิงอวิ๋นคลิกรูปภาพ และขยายรูป ก่อนจะพูดจาเยาะเย้ย “ฉันล่ะอยากจะถามเหลือเกินว่าพวกคุณไม่มีสมองกันหรือไง?”