ตอนที่ 85 ศึกชิงตำแหน่งหัวหน้าของแผนกเกษตรกรรมเริ่มดำเนินการ 12
ในไม่ช้าความคิดในหัวของพวกเขาก็พังทลายลง
กลุ่มฝูงชนทะมึนตามหลังพวกเขามา แน่นอนว่ารุยรับรู้ได้ในทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากแผนกอื่น มีทั้งนักเรียนหัวกะทิและคนธรรมดา
“ไม่ดีเลย คนพวกนี้จะต้องมาเป็นผู้ติดตามขององค์หญิงสามแน่ ๆ!”
นักเรียนจากกองบัญชาการรบรู้สึกไม่พอใจ คนพวกนี้มันนกสองหัว เมื่อเห็นว่าพวกเขาย้ายมา พวกนั้นก็ย้ายมาด้วย
เกลียดชะมัด!
“พวกนายมาทำอะไรที่นี่?!” รุยกระโดดออกไปถามพวกเขาด้วยความระแวง “จะมายั่วยุองค์หญิงสามของพวกเราหรือไง?!”
“พวกเรามาที่นี่เพื่อมาพบองค์หญิงสาม” ผู้นำคือชายหนุ่มที่ดูผอมเพรียวและหล่อเหลา เขาดันแว่นขึ้น ชายหนุ่มผู้นี้ถือว่าเป็นหนึ่งในสามของผู้ที่มีพรสวรรค์สุดยอดด้านเทคโนโลยีในภาควิชาเทคโนโลยี และเขาก็ยังเป็นตัวเต็งของผู้สมัครแย่งชิงตำแหน่งหัวหน้า
ทว่าความแตกต่างของที่นี่คือผู้คนจำนวนมากในภาควิชาเทคโนโลยีจะเป็นที่รู้จักด้านความฉลาดทางสติปัญญาและทักษะที่ชำนาญ พวกเขาไม่มีข้อได้เปรียบในการเป็นผู้สมัครแย่งชิงตำแหน่งหัวหน้า ดังนั้นต่อให้แผนกเทคโนโลยีจะมีผู้สมัครแย่งชิงตำแหน่งหัวหน้า พวกเขาก็ไม่ได้สนใจบุคลิกภาพของผู้สมัครมากนัก
แม้ว่าในตอนสุดท้ายจะมีใครบางคนขึ้นมาเป็นหัวหน้า พวกเขาทั้งหมดก็จะกลายเป็นผู้ติดตามอยู่ดี
“มาพบองค์หญิงสาม?” รุยกัดฟันกรอดด้วยความเกลียดชังในใจ คนพวกนี้มาเพื่อตักตวงผลงานสินะ!
“ฉันจะบอกอะไรให้นะรุย อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่านายคิดอะไรอยู่!” ไกอากล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ “นายคิดดูสิ พวกเราอยากจะทำให้องค์หญิงสามประสบความสำเร็จในการเป็นหัวหน้า แต่นั่นไม่ใช่แค่หน่วยรบพิเศษของนาย กับผู้คนจากแผนกเกษตรกรรมที่จะส่งองค์หญิงสามไปคว้าตำแหน่งหัวหน้าได้สำเร็จ มันขึ้นกับความพยายามของทุกแผนกต่างหาก”
“พวกเราคือคนทรยศในแผนก ถ้าพวกเราล้มเหลว นายคิดว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไง?”
ผลลัพธ์? แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่ตามนั้นชัดเจน ถูกปฏิเสธการเข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด และการแข่งขันแต่ละแผนกจะแตกต่างออกไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง!
“ตกลง! นายประสบความสำเร็จในการพูดโน้มน้าวฉัน!” รุยเกาศีรษะ “งั้นก็ขอให้พวกนายโชคดีแล้วกัน”
ผู้คนจำนวนมากจากแผนกเทคโนโลยีเข้ามา หนึ่งในสามของผู้คนเข้ามาในคราเดียว และพวกเขาล้วนเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์
ผู้คนจำนวนมากจากกองบัญชาการกับแผนกซ่อมบำรุงเครื่องจักรกลก็มาที่นี่เช่นกัน เช่นเดียวกับสาขาสนับสนุนการขนส่งและอื่น ๆ ทั้งด้านหน้าทั้งด้านหลัง ทำให้สวี่หลิงอวิ๋นได้รับผู้ติดตามเพิ่มขึ้นมากกว่าพันคนภายในหนึ่งวัน!
“ตอนนี้มีปากมากขึ้นแล้ว!” สวี่หลิงอวิ๋นถอนหายใจ ปวดกะโหลกเล็กน้อยเมื่อคำนวณของเก็บออมในมือของตนเอง
“มีอะไรเหรอครับ?” โอคาซีถามขึ้น
“ไม่มีอะไรค่ะ แค่รู้สึกว่ามันยากเกินไปที่จะเลี้ยงดูคนทั้งหมด โดยเฉพาะตอนนี้มีจำนวนคนเยอะมาก!” สวี่หลิงอวิ๋นต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ในเมื่อคนพวกนี้เลือกที่จะพึ่งพาเธอ แน่นอนว่าเธอก็ต้องวางแผนในอนาคตเพื่อคนเหล่านี้
“เงินไม่พอเหรอครับ? ถ้าเกิดว่าเงินไม่พอ ผมยังจะพอมีเงินอยู่บ้าง” โอคาซีกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“ฉันไม่ต้องการมันหรอกค่ะ ฉันไม่ต้องการใช้เงิน นั่นไม่ได้หมายความว่าฉันไม่มีเงิน!” สวี่หลิงอวิ๋นมองดูกลุ่มฝูงชนทะมึน แล้วก็รู้สึกปวดหัวเป็นอย่างมาก “นี่ แค่นี้ก็ดีมากแล้วค่ะ ฉันแค่ต้องสำรองอาหาร”
นั่นสินะ! มีปากอยู่มากกว่าพันปาก และกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งหมดก็ตัวโตทั้งนั้น
ตามคำกล่าวไว้ว่า เด็กโตกินมากกว่าผู้เป็นพ่อถึงครึ่งหนึ่ง
เหล่านักเรียนจากแผนกเกษตรกรรมมองดูกลุ่มผู้มีพรสวรรค์ทั้งหลายด้วยความเวทนา เมื่อพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับองค์หญิงสามด้วยท่าทีเจียมเนื้อเจียมตัว แต่เมื่อประจันหน้ากับพวกเขากลับทำท่าทีหยิ่งผยอง ไม่อยากจะบอกว่าน่าสะอิดสะเอียนขนาดไหน…
เฮ้! อีกไม่กี่วันก็จะมีความสุขแล้วแท้ ๆ!
นักเรียนจากแผนกเกษตรกรรมรู้สึกท้อแท้ ราวกับอนาคตได้มืดหม่นลง และมองไม่เห็นอนาคตอีกต่อไป ท่านหัวหน้าองค์หญิงที่รักมีผู้ติดตามที่ยอดเยี่ยมมากมาย เธอคงไม่ชอบพวกเขาอีกต่อไปอย่างแน่นอน!
ขณะที่พวกเขากำลังเวทนาตัวเอง ทันใดนั้นสวี่หลิงอวิ๋นก็ตะโกนก้องมาจากระยะไกล “แผนกเกษตรกรรมไปไหนกันแล้ว?”
“นี่ ๆๆ! อยู่นี่แล้ว!”
ความรู้สึกที่ไม่มีความสุขเมื่อสักครู่นี้ได้จางหายไปทันที เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของสวี่หลิงอวิ๋น และวิ่งเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว “องค์หญิงสาม ท่านเรียกพวกเราเหรอครับ?”
“ใช่ ตอนนี้คนพวกนี้กลายมาเป็นครอบครัวของพวกเราแล้ว ในฐานะที่พวกเธอเป็นเจ้าของแผนกเกษตรกรรม ควรจะทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่เป็นมิตร”
“ได้ครับ! องค์หญิงสาม ท่านไม่ต้องเป็นห่วง! พวกเราจะไม่ทำให้ท่านขายหน้า!” แผนกเกษตรกรรมรู้สึกมีความสุขเมื่อได้ยินคำว่า ‘เจ้าบ้าน’
ทำท่าตบหน้าอกครั้งแล้วครั้งเล่า และจะดูแลผู้ติดตามจากแผนกอื่นขององค์หญิงสามให้ดีที่สุด
ผู้คนจากแผนกอื่นเหล่มองพวกไร้ประโยชน์เหล่านี้ ฮึ่ม! ก็ได้! เห็นแก่คนพวกนั้นที่เป็นผู้ติดตามโดยตรงขององค์หญิงสามหรอกนะ เพราะฉะนั้นจะไม่ทำให้พวกนายขายหน้าแล้วกัน!
คณบดีแกลลาเกอร์กำลังกินและกิน เมื่อมองดูกลุ่มคนที่มีพรสวรรค์มาเข้าร่วมกับสวี่หลิงอวิ๋น ทันใดนั้นคำถามสำคัญก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขา การแข่งภาคสนามจะเริ่มต้นขึ้นภายในไม่กี่วัน คนพวกนี้จะเข้าร่วมหรือไม่?
คนพวกนี้จะถูกนับอยู่ในหน่วยรบพิเศษหรืออยู่ในกลุ่มของสวี่หลิงอวิ๋น?
ข่าวสารเกี่ยวกับนักเรียนจำนวนมากจากแผนกอื่นบากหน้าไปขอสวี่หลิงอวิ๋นอยู่ด้วย แพร่กระจายไปถึงหูของอาจารย์และคณบดีของแผนกอื่น นี่ถือว่าเป็นประวัติการณ์ใหม่ในประวัติศาสตร์!
คณบดีทั้งหลายต่างขอเข้าพบคณบดีพูลแมน เพื่อขอให้คณบดีตัดสินความยุติธรรมนี้ นี่คืออะไรกัน?! วุ่นวายจริง ๆ!
หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในแผนกก็อาจพังทลาย และมันจะไม่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาแผนกในระยะยาว!
“การพัฒนาคืออะไร?” คณบดีพูลแมนไม่ได้ตื่นตระหนกแม้แต่น้อย แต่กลับพึงพอใจ “พวกคุณลองคิดดูว่าระบบหัวหน้านี้มีไว้เพื่ออะไรกันแน่?”
“หัวหน้าคือผู้นำนักเรียนที่ได้รับความนิยมชมชอบ พวกคุณคิดสิ นักเรียนเหล่านี้ยอมเป็นคนทรยศต่อแผนกของตัวเองเพื่อไปหาองค์หญิงสาม นั่นหมายความว่าอะไร? มันทำให้เห็นว่าองค์หญิงสามได้รับความนิยม”
“ไม่ใช่สักหน่อยครับ! องค์หญิงสามทำให้นักเรียนพวกนี้สับสนด้วยอาหารอร่อย ๆ ของเธอต่างหาก!” อาจารย์คนหนึ่งกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ
“อาหารอร่อย ๆ” คณบดีพูลแมนหัวเราะเมื่อได้ยินดังนั้น “อร่อยจริงเหรอ?”
อาจารย์ทั้งหมดตกอยู่ในความเงียบสงบ
“พวกคุณเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าท่วงท่าอันสง่างามขององค์หญิงสามหาไม่ได้ในคณะไหนแล้ว ความเก่งกาจของเธอเปรียบได้กับโอคาซีในตอนนั้น”
“ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่งหรือความสามารถในการบัญชาการของเธอ รวมทั้งการเลื่อนขั้นพลังของเหล่านักเรียน แม้แต่โอกาสการพัฒนาในอนาคต นั่นก็เป็นเพราะเธออยู่เบื้องหลังไม่ใช่เหรอ?”
คำพูดของพูลแมนเต็มไปด้วยความหมายลึกซึ้ง “นักเรียนทั้งหลายมีทางเลือกของเขาเอง ดังนั้นกรุณาเคารพทางเลือกที่พวกเขาเลือก”
“ผมรู้ว่าพวกคุณมีความคิดเห็นมากมาย แต่นี่ดีสำหรับนักเรียน พวกเราไม่สามารถปิดตาเพิกเฉยต่อความสนใจของนักเรียนส่วนใหญ่โดยอ้างอิงจากความสนใจของตัวเองได้ ถูกต้องไหม?!”
อาจารย์ทั้งหลายรู้สึกอับอาย
“เอาล่ะ ไปกันเถอะ” พูลแมนจิบน้ำและโบกไม้โบกมือให้เหล่าอาจารย์ออกไป
“ท่านคณบดี แผนกเกษตรกรรมกับหน่วยรบพิเศษจะมีการฝึกภาคสนามในอีกไม่กี่วัน แต่ตอนนี้นักเรียนร้อยกว่าคนในกองบัญชาการเลือกที่จะไปเข้าร่วมกับแผนกเกษตรกรรม ถ้าอย่างนั้นเราควรให้เด็กพวกนี้ต่อสู้เพื่อใครครับ?”
ใช่…นี่เป็นปัญหา