ตอนที่ 87 ศึกชิงตำแหน่งหัวหน้าของแผนกเกษตรกรรมเริ่มดำเนินการ 14
ยี่สิบหกนี่แก่ขนาดนั้นเลยเหรอ? แลนเซล็อตรู้สึกเหมือนมีปัญหา
“ลูกเอ๋ย เจ้าอายุ 26 ปีแล้ว!” จักรพรรดิริคาร์โดตรัสอย่างจริงจัง “คนวัยเดียวกันกับเจ้าหลายคนมีลูกโตจนไปโรงเรียนประถมได้แล้ว”
“เสด็จพ่อ!” แลนเซล็อตส่ายหัว “ลูกคิดว่าลูกยังมีสิ่งสำคัญอีกมากมายที่ต้องทำ”
“อะไรคือสิ่งที่สำคัญ? ใช่ไปสนามรบหรือเปล่า? หรือว่าเป็นเรื่องที่จะไปรบ?” จักรพรรดิไม่พอใจมาก “ลูกที่ดีของพ่อ พ่อของเจ้าไม่อาจขัดขวางการตัดสินใจของเจ้าได้ แต่ก่อนอื่นเจ้าต้องให้หลานชายแก่พ่อก่อน!”
“หรือว่าเจ้ารังเกียจผู้หญิงในจักรวรรดิของเรา? ถ้าอย่างนั้นพ่อจะไปที่กาแล็กซีอื่นแทนเจ้า องค์หญิงสามแห่งจักรวรรดิชิงเหย้าอายุแค่ 18 ปีและเธอก็เหมาะสมกับเจ้ามาก เจ้าคิดว่ายังไง?”
“เสด็จพ่อ!” แลนเซล็อตถอนหายใจ “เรื่องแบบนี้เป็นการตัดสินใจขององค์หญิงด้วย จะเป็นการดีกว่าสำหรับท่านที่จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเกินไป ท่านคิดว่ายังไง?”
“ยุ่งเกี่ยวมากเกินไปงั้นเหรอ?!” จักรพรรดิเฒ่าโกรธเมื่อได้ยินดังนั้น!
“แบบนี้ยังเรียกว่าพ่อยุ่งเกี่ยวมากเกินไปอีกเหรอ? ถ้าเจ้าพาแฟนมาหาพ่อแล้วพ่อจะทำแบบนี้ไหม? แม้ว่าเจ้าจะหาแฟนเป็นสาวรับใช้หรือคนทำความสะอาดก็ตาม! เจ้าจะต้องพาเธอกลับมา!”
“หรือไม่ก็เป็นผู้หญิงที่สามารถมีลูกได้แค่นั้นก็พอ พ่อของเจ้าเป็นคนใจกว้างมาก จะให้พ่อทำยังไงอีก?!”
แลนเซล็อตมองดูผู้เป็นพ่อวัยชราเงียบ ๆ โดยไม่กล้าแสดงความคิดเห็น
“พ่อไม่สนว่าเจ้าจะคิดยังไง ตอนนี้จงไปที่จักรวรรดิชิงเหย้าเพื่อพ่อทันที! พ่อได้ติดต่อพ่อของลูกสะใภ้ในอนาคตของพ่อไว้แล้ว และในอีกไม่กี่วันองค์หญิงสามจะแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งหัวหน้า และเจ้าสามารถเข้าร่วมพิธีได้ในฐานะนักการทูต”
“เสด็จพ่อ ไม่มีการต่อสู้ชิงตำแหน่งหัวหน้าที่ไหนต้องการให้มีนักการทูตเข้าร่วมพิธีหรอก!” แลนเซล็อตพูดเบา ๆ
“พ่อคิดว่ามี!” ริคาร์โดเป่าเคราของเขาแล้วจ้องไปที่ลูกชายของเขา “พ่อสั่งให้คนเก็บของไว้แล้ว อย่าปล่อยให้เธอหลุดมือไป!”
พูดจบเขาก็สะบัดแขนเสื้อแล้วเดินจากไป
แลนเซล็อตทรุดตัวลงบนเก้าอี้ เมื่อผู้ช่วยที่ซ่อนตัวอยู่ข้างนอกเห็นจักรพรรดิจากไป เขาก็กล้าที่จะย่องเข้าไป “องค์ชาย ท่านเป็นอะไรหรือเปล่าครับ?”
“ไม่เป็นไร มันเป็นแค่การเร่งเร้าให้แต่งงานตามปกติ” แลนเซล็อตพูดด้วยรอยยิ้มบิดเบี้ยว “ท่านจะเป็นบ้าเพราะต้องการกอดหลานชายของท่านเอง”
“ท่านก็อายุมากแล้วจริง ๆ ไม่น่าแปลกใจที่จักรพรรดิจะทรงกังวล” ผู้ช่วยพยักหน้าด้วยความเห็นอกเห็นใจแล้วมองดูองค์ชายรูปงามของเขา “ท่านกำลังจะทำอะไรต่อไป?”
“ฉันจะทำยังไงได้? นอกจากทำตามใจชายชรา ไปเดินเล่นในจักรวรรดิชิงเหย้าและพบกับโอคาซีระหว่างทาง” ดวงตาของแลนเซล็อตฉายแววความปรารถนาที่จะต่อสู้
แลนเซล็อตและโอคาซีกลายเป็นสองดาวเด่นแห่งนานาจักรวรรดิดวงดาว
ทั้งสองคนอายุเท่ากันและเป็นผู้เชี่ยวชาญคนแรกที่ผ่านระดับ 8 ดาวได้ แลนเซล๊อตไม่นึกเลยว่าโอคาซีผ่านระดับ 9 ดาวไปได้สักพักแล้ว และมันเท่ากับว่าเขาก็ตามหลังอีกฝ่ายไปอีกหนึ่งก้าว
ทั้งสองรู้สึกชื่นชมกันและกัน แต่น่าเสียดายที่พวกเขาได้ยินแต่ชื่อของอีกฝ่ายและไม่เคยได้เจอกันเลย แลนเซล๊อตหวังว่าคราวนี้จะได้เจอเขาและเป็นคู่ปรับที่ดี…
ต่อให้ต้องพ่ายแพ้ก็แพ้อย่างเต็มใจ!
“แล้วองค์หญิงสามล่ะครับ?” ผู้ช่วยถามอย่างระมัดระวัง
“องค์หญิงสามเหรอ? องค์หญิงสามก็เป็นผลพลอยได้” ว่าแต่ผู้ช่วยรู้ได้ยังไง?
เมื่อเผชิญกับการเพ่งพินิจขององค์ชาย ผู้ช่วยก็กระแอมเบา ๆ “นั่นก็เพราะจักรพรรดิได้กระจายข่าวเกี่ยวกับเรื่องที่ท่านกำลังจะไปนัดบอดที่จักรวรรดิชิงเหย้า!”
“อะไรนะ!” องค์ชายแห่งจักรวรรดิเอเดนจ้องเขม็งไปยังผู้ช่วยที่อยู่ตรงหน้าเขา และผู้ช่วยก็มองเขากลับอย่างเห็นอกเห็นใจ
“สมกับที่พ่อของฉันหวังไว้!” แลนเซล็อตกัดฟันและพูดทีละคำ นี่เป็นเพียงการทำให้คะแนนนิยมของเขาสูงเท่านั้น!
“โอเค เก็บของซะ!” แลนเซล็อตสามารถทำอะไรได้บ้าง? เขาก็ทำได้แค่ตะโกนขึ้นไปบนท้องฟ้าและยอมรับชะตากรรมของตัวเอง!
สวี่หลิงอวิ๋นจะรู้ได้ยังไงว่าอีกไม่นานเธอกำลังจะมีนัดบอดกับองค์ชายรูปงามที่สามารถเทียบกับพลเอกโอคาซีได้?!
ถ้าเธอรู้ ในหัวใจของเธอจะมีความสุขขนาดไหน!
การฝึกภาคสนามกำลังจะเริ่มขึ้น
สวี่หลิงอวิ๋นเรียกผู้ติดตามทั้งหมดของเธอและพวกเขาทำงานร่วมกันทุกวัน ทุกคนเรียนรู้ที่จะร่วมมือกัน โดยผู้ที่อยู่ในกองบัญชาการรบและกองบัญชาการจะมีหน้าที่รับผิดชอบสำหรับความแข็งแกร่งของพวกเขา ส่วนพวกเขามีฐานะเป็นหน่วยสอดแนมและอยู่แนวหน้า
สำหรับแผนกซ่อมบำรุงเครื่องจักรกล แผนกสนับสนุนการขนส่ง แผนกเทคโนโลยีและอื่น ๆ พวกเขาจะประจำการอยู่เบื้องหลังและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ความคุ้มครองแก่นักรบเหล่านั้น
แล้วคนจากแผนกเกษตรกรรมล่ะ?
สวี่หลิงอวิ๋นเรียกคนจากแผนกเกษตรกรรมมาประชุมลับ และทุกคนต่างมีเมล็ดพืชที่แปลกประหลาดมากในมือของพวกเขา
“ทำไมเมล็ดพืชนี้ถึงดูเหมือนเถาวัลย์งูที่มีชื่อเสียงมากเลย?” เพื่อน ๆ ในแผนกเกษตรกรรมมองดูเมล็ดพืชในมือของพวกเขาและพูดอย่างไม่แน่ใจ
เถาวัลย์งูถือเป็นพืชรุกรานชนิดหนึ่งที่สามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างรวดเร็วเมื่อสัมผัสกับพื้นดิน จากนั้นพวกมันก็สามารถเติบโตได้สูงถึงสิบเมตรในเวลาเพียงหนึ่งนาที!
ยิ่งกว่านั้นคือพวกมันมีไหวพริบในการจู่โจมและสามารถมัดสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่สัมผัสกับมัน จากนั้นจึงหลั่งน้ำยางออกมาย่อยสลาย ซึ่งถือว่าเป็นพืชที่กินเนื้อเป็นอาหาร
ปกติแล้วพืชชนิดนี้จะไม่ได้รับอนุญาตให้ปลูกในจักรวรรดิ องค์หญิงสามไปได้มันมาได้ยังไง?
สวี่หลิงอวิ๋นปรบมือ “เธอเห็นสิ่งที่อยู่ในมือของเธอไหม?”
เพื่อนในแผนกเกษตรกรรมพยักหน้าและยกมือขึ้น “องค์หญิงสาม นี่คือเถาวัลย์งูใช่ไหม?”
“ใช่แล้ว! มีสายตาดีจริง ๆ สมแล้วที่เป็นชาวสวน!” สวี่หลิงอวิ๋นยกนิ้วให้ “สิ่งนี้เป็นของเด็ด ฉันลำบากมากกว่าจะได้สิ่งนี้มา!”
“เอ่อ องค์หญิงสาม ท่านต้องการสิ่งนี้เพื่ออะไร? สิ่งนี้ไม่ได้รับอนุญาตให้ปลูกบนดาวของเรา”
“ปลูกงั้นเหรอ? เธอล้อเล่นหรือเปล่า?” สวี่หลิงอวิ๋นมองดูพวกเขาด้วยความประหลาดใจ “เธอคิดว่าฉันอยากจะปลูกพืชที่ทรงพลังขนาดนี้เล่นงั้นเหรอ?”
“เอ๊ะ? ไม่ใช่งั้นเหรอ?” พวกนักเรียนเหงื่อออกที่หน้าผากและสงสัยว่าองค์หญิงสามกำลังจะทำอะไร
“เด็กโง่ แน่นอนว่าเจ้าสิ่งนี้มีไว้สำหรับการต่อสู้!” สวี่หลิงอวิ๋นหยิบเมล็ดพืชออกมาแล้วมองดูเพื่อนร่วมชั้น “เราจะเอาชนะคู่ต่อสู้ของเราได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับพวกเขา!”
“จำไว้ว่าพวกเธอต้องปกป้องเมล็ดพืชหนึ่งเม็ดต่อคน อย่าให้หายและอย่าให้เปื้อนดิน”
ทุกคนพยักหน้า พวกเขารู้ดีถึงพลังของสิ่งนี้ ดังนั้นพวกเขาจะไม่ทำผิดพลาด!
“ดีมาก ตอนนี้พวกเธอไปประชุมกลุ่มรวมได้แล้ว”
ผู้คนมากกว่าหนึ่งพันคนนั่งเรียงกันเป็นแถวอีกครั้ง แต่ละคนถือชามบะหมี่ ‘เสียงดังฉ่า’ อยู่ในมือพร้อมกิน
จากคำพูดขององค์หญิงสาม ความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนจำนวนมากจะสามารถพัฒนาให้ดีขึ้นอย่างรวดเร็วได้ยังไง? แน่นอนว่าต้องด้วยอาหารและไวน์!
ที่ด้านข้างน้ำยังคงเดือดอยู่และแขนกลที่อยู่ตรงนั้นยังคงรีดเส้นบะหมี่ จากนั้นจึงหั่นเป็นเส้น แล้วโยนลงไปในน้ำเดือด
ด้วยจำนวนผู้คนมากกว่าหนึ่งพันคน ความต้องการเส้นบะหมี่ชนิดนี้จึงมีจำนวนมหาศาลเป็นปกติ และมีเพียงแขนกลเท่านั้นที่สามารถทำให้หลายปากได้กินพร้อม ๆ กันได้
ช่วงนี้สวี่หลิงอวิ๋นงานยุ่งนิดหน่อย ไม่อย่างนั้นเธอจะตั้งใจเรียนทำไวน์!