“เดี๋ยวก่อนนะ จะเป็นยังไงถ้าฉันคั้นน้ำพวกนี้ลงไปในแม่น้ำ?” สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกสงสัย และอยากรู้ว่าเอเลี่ยนต๋าหลู่ทั้งหลายจะทนกับพืชพวกนี้ได้หรือไม่?
แค่ลงมือทำมันซะ!
สวี่หลิงอวิ๋นไม่รอช้าและลงมือคั้นน้ำจากพืช!
เมื่อทุกคนรับรู้ว่าจิตวิญญาณขององค์หญิงสามได้เข้ามาเป็นหนึ่งเดียวกับต๋าหลู่ตัวนี้ กล้องถ่ายทอดสดที่มองไม่เห็นก็ติดตามเธอไปด้วยเช่นกัน
น่าเสียดายที่สวี่หลิงอวิ๋นไม่รู้ว่าผู้คนทั่วทั้งจักรวรรดิกำลังจับตามองทุกย่างก้าวของเธออยู่ และคิดว่าที่แห่งนั้นมีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้น จึงปลดปล่อยความเป็นตัวเองออกมาโดยไม่สนใจใคร!
ทุกคนมองดูสวี่หลิงอวิ๋นที่หยิบพืชใต้น้ำขึ้นมากำมือหนึ่ง ก่อนจะแปรสภาพพลังดวงดาวให้กลายเป็นเครื่องปั้นน้ำผลไม้ เอาพืชใต้น้ำทั้งหมดลงไปปั่นในเครื่องปั่น จากนั้นเธอก็…
เธอก็เทน้ำปั่นที่ทำจากพืชชนิดนั้นลงไปในแม่น้ำ…
ชาวเน็ตทั้งหลายต่างสงสัยว่าทำไมองค์หญิงสามถึงเทน้ำปั่นทั้งหมดลงไปในใต้น้ำ? มีความหมายอะไรหรือเปล่า?
จากนั้นไม่นาน พวกเขาก็เข้าใจความหมายอย่างรวดเร็ว…
กลุ่มต๋าหลู่ในบริเวณนี้กำลังล่าปลาใต้น้ำอย่างป่าเถื่อน หลังจากที่สวี่หลิงอวิ๋นเทน้ำพืชปั่นของเธอลงไปในแม่น้ำ เดิมทีต๋าหลู่ทั้งหลายยังไม่รู้สึกอะไร แต่ในไม่ช้าพวกมันก็เริ่มรู้สึกบางอย่าง!
พวกมันแหวกว่ายออกจากบริเวณดังกล่าวอย่างบ้าคลั่ง ซ่อนลำตัวนุ่มนิ่มที่แดงเถือกของมันกลับเข้าไปในกระดองแกร่ง และในที่สุดพวกมันก็สลัดกระดองของมันทิ้ง…
ลำตัวนุ่มนิ่มของพวกมันกำลังลอยตัวอยู่ในน้ำ ก่อนจะสูดลมหายใจเฮือกสุดท้าย!
สวี่หลิงอวิ๋นปิดตาตนเองเอาไว้!
ทำไมมันถึงน่าเวทนาขนาดนี้?! ชาวเน็ตทั้งหลายต่างตกตะลึง!
ทำไมถึงน่าเวทนานัก?! พวกมันคือกลุ่มเอเลี่ยนต๋าหลู่ที่มีชื่อเสียงด้านต้านทานและการป้องกันการถูกโจมตี!
ทำไมพวกมันถึงสลัดกระดองทิ้งอย่างง่ายดาย? หรือเพราะด้านนอกมีสิ่งล่อตาล่อใจอะไรหรือเปล่า?
ว่ากันว่าฝุ่นสีแดงที่อยู่ด้านนอกนั้นค่อนข้างเป็นพิษ! เยี่ยมไปเลย! เสียค่าโง่ไปพร้อมกับชีวิต!
กระแสน้ำยังคงไหลเวียน และไม่ว่าน้ำพืชปั่นจะไหลไปทางไหน ต๋าหลู่ที่อยู่ในทิศทางนั้นย่อมถูกทำลาย!
สิ่งที่แปลกก็คือปลาที่อยู่ในน้ำยังคงสงบนิ่ง พวกมันเพียงว่ายหนีไปทางอื่นทันทีที่ได้กลิ่นเผ็ด
เมื่อเปรียบเทียบกับพวกต๋าหลู่แล้ว ฝูงปลาเหล่านี้ค่อนข้างเจ๋งและใจเย็นมากกว่า!
สวี่หลิงอวิ๋นถอนหายใจ ปลดปล่อยพลังจิตของเธอไปกระตุ้นต๋าหลู่ที่กำลังสูดดมกลิ่น “แกนี่มันช่างเหลือเกิน ไม่พอใจหรือไง? หัดเรียนรู้จากฝูงปลาพวกนั้นบ้างสิ! หึหึ! เอาแต่ต่อสู้ไปทุกที่ทั้งวันทั้งคืน เรียนรู้วิธีการไม่เสียใจซะบ้าง ดีแล้วล่ะ นี่คือบททดสอบที่แกต้องเผชิญหน้า แกจบเห่แน่!”
“ช่างมันเถอะ ฉันคิดว่ายังไงแกก็ยังไม่มีทางรอดแล้ว! จะพาแกออกไปด้วยแล้วกัน!”
สวี่หลิงอวิ๋นคิดจะเอาพวกมันใส่เข้าไปในปุ่มกักเก็บมิติของเธอ ไม่สิ! ถ้าเอาเจ้านี่ลงไปในมิติกักเก็บ เธอก็จะไม่สามารถกินมันได้!
สิ่งสำคัญที่สุดคือมิติกักเก็บอยู่กับร่างกายของเธอ และเธอไม่สามารถส่งสิ่งของพวกนี้ข้ามไปยังดาวเคราะห์ดวงอื่นได้
ไม่…เธอจะต้องไปเอาปุ่มมิติกักเก็บของตนเองกลับมา
บ้าไปแล้ว ดาวเคราะห์ดวงนี้มีต๋าหลู่อยู่เต็มไปหมด ยังจะกลัวไม่ได้กินอีกเหรอ?
ของพวกนี้จะต้องถูกขายจนหมดเกลี้ยงแน่! และกระดองก็เหมาะสมกับการแกะสลัก เป็นวัตถุชั้นเยี่ยมในการสร้างผลงานศิลปะ
สวี่หลิงอวิ๋นคิดคำนวณรายรับอย่างดี แม้แต่น้ำลายในปากยังหยดย้อยลงมาขณะคิดถึงเรื่องนี้
“มาลองดูอีกดีกว่าว่ามีพืชใต้น้ำอะไรอีกบ้าง” สวี่หลิงอวิ๋นผนึกร่างกับต๋าหลู่ตัวนี้ ก่อนจะแหวกว่ายเพื่อหลีกเลี่ยงน้ำพืชปั่นและตามหาพืชใต้น้ำอีกครั้ง
“ไปเลย! พืชชนิดนี้มีพิษหรือเปล่า?!”
สวี่หลงอวิ๋นลองกินพืชใต้น้ำอีกชนิดหนึ่ง เธอรู้สึกได้ว่าร่างกายของต๋าหลู่ตัวที่เธอกำลังควบคุมอยู่เริ่มกระตุ้นอย่างแรง จนทำให้เธอตกใจ!
“ไม่ ฉันต้องรีบกลับไปที่ร่างตัวเอง” เมื่อเอ่ยดังนั้น เธอจึงหลับตาลง รวบรวมพละกำลังเพื่อกระตุ้นพลังจิตและกลับไปยังร่างเดิมของเธอ
เธอจากไปอย่างรวดเร็ว ทว่าผู้ชมกลับไม่รู้ว่าเธอจากไปแล้ว!
พวกเขาเห็นเพียงแต่ต๋าหลู่ตัวที่ถูกองค์หญิงสามครอบงำ มันกำลังแกว่งไปมาราวกับกำลังชักกระตุก ไม่นานนักจึงกลับมาเป็นปกติ และแล้วมันก็แหวกว่ายไปบริเวณที่น้ำพืชปั่นลอยอยู่ ก่อนที่โฟมจะฟูมฟอดเต็มปาก!
หลังจากนั้น…ต๋าหลู่ตัวนี้ก็กระตุกและสลัดกระดองออกเหมือนกับพี่น้องของมันแล้ว ก็ขึ้นไปพบพระเจ้าในที่สุด
ไม่ต้องอธิบายอะไรทั้งนั้น เพราะทุกคนต่างรู้กันดีว่าองค์หญิงสามได้ออกจากร่างไปแล้ว!
‘ในที่สุดฉันก็รู้สักทีว่าทำไมดาวเคราะห์ดวงนี้ถึงอยู่รอดมาได้ ถึงต๋าหลู่พวกนี้จะเอาชีวิตรอดใต้น้ำได้ แต่อัตราการอยู่รอดใต้น้ำค่อนข้างต่ำ’
‘ในที่สุดความสงสัยของพวกเขาก็คลี่คลายสักที’
ชาวเน็ตทั้งหลายมองดูโลกใต้น้ำที่ชุลมุนวุ่นวายและรู้สึกเห็นอกเห็นใจต๋าหลู่เหล่านี้ โธ่เอ๊ย! ไม่คิดว่าเอเลี่ยนที่แข็งแกร่งอย่างพวกมันจะรับมือกับองค์หญิงสามไม่ไหว คงเป็นเรื่องยากสำหรับพวกมันสินะ!
เวลานี้สวี่หลิงอวิ๋นคงจะกลับมาที่ร่างของเธอแล้วใช่ไหม? ไอ้บ้าเอ๊ย ใครมัดเธอไว้เนี่ย?!
ทันทีที่เธอลืมตาขึ้น เธอก็พบเข้ากับแผ่นหลังของโอคาซีที่กำลังจดจ่ออยู่กับการสั่งการเครื่องจักรกลให้ต่อสู้กับเหล่าต๋าหลู่ทั้งหลายที่ปรากฏกายอยู่ตรงหน้า
เมื่อมองดูตนเองอีกครั้ง บางทีเขาอาจจะกลัวว่าเธอไม่สามารถทรงตัวได้และหลุดออกไปจากที่นั่งในเครื่องจักรกล ถึงได้มัดเธอด้วยเข็มขัดนิรภัยแบบนี้?!
“ตื่นแล้วเหรอครับ?” โอคาซีเอ่ยถาม ทว่าไม่ได้หันกลับมามองด้านหลัง เพียงแต่ได้ยินเสียงเธอขยับร่างกาย
“อืม ปล่อยฉันไปสักทีสิคะ” สวี่หลิงอวิ๋นมองดูโอคาซีอย่างเหลืออด “ถ้าคุณไม่ปล่อยฉันสักที ฉันจะตัดมันทิ้งแล้วนะคะ”
หลังจากที่โอคาซีกดปุ่ม ตำแหน่งที่สวี่หลิงอวิ๋นนั่งอยู่ก็ถูกยกขึ้น จากนั้นเข็มขัดนิรภัยบนร่างกายของเธอก็ถูกปลดออก
“พวกท่านมาถึงเร็วจังเลยค่ะ” สวี่หลิงอวิ๋นมองดูสถานการณ์ภายนอก ต๋าหลู่หลายตัวกำลังถูกเครื่องจักรกลของโอคาซีโจมตีอย่างดุเดือด ดูเหมือนว่าโอคาซีจะแข็งแกร่งเกินไป ต๋าหลู่ที่กำลังกลืนกินพื้นดินอยู่ก็รู้สึกได้ถึงภัยคุกคาม ก่อนจะโดนโจมตีอย่างหนัก
“ปล่อยฉันออกไป ฉันจะลงสนามด้วย!” สวี่หลิงอวิ๋นมองดูโอคาซีที่เปลี่ยนแขนกลให้กลายเป็นค้อนยักษ์ขนาดมหึมา ก่อนจะบดขยี้ต๋าหลู่พวกนั้นอย่างจัง ไม่ต้องเอ่ยเลยว่าเขาดูเท่ขนาดไหน!
แต่เธอกลับทุกข์ใจเมื่อมองดูกระดองเหล่านั้นที่สามารถนำมาใช้เป็นงานฝีมือได้ ทำไมพวกมันถึงโดนทุบจนแตกสลายแบบนั้น?!
“รอเดี๋ยวครับ” โอคาซีขับเคลื่อนเครื่องจักรกลบินโฉบขึ้นไปบนอากาศ “ออกไปได้”
สวี่หลิงอวิ๋นออกจากห้องควบคุม เปิดเครื่องจักรกล และกระโดดออกไปกลางอากาศ ก่อนจะเข้าไปในเครื่องจักรกลของเธอเอง
โอคาซีติดตามเธอมาหลังจากนั้น เพื่อคอยปกป้องเธอ
สวี่หลิงอวิ๋นควบคุมเครื่องจักรกลขณะหัวเราะออกมาเสียงดัง จ้องมองต๋าหลู่ที่ยืนอยู่ทั่วพื้นดิน “เริ่มเลย! เข้ามา! ฉันจะแสดงความโหดร้ายให้ดู!”
ชาวเน็ตต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าองค์หญิงสามบ้าไปแล้วเหรอ?!
ไม่! เธอไม่ได้บ้าธรรมดา! แต่เธอเสียสติไปแล้ว!
สวี่หลิงอวิ๋นแปรสภาพพลังจิตของเธอให้กลายเป็นไม้จิ้มฟันจำนวนนับไม่ถ้วน จากนั้นจึงใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มเข้าไปหาต๋าหลู่ที่ยืนอยู่บนพื้นดินโดยตรง!
‘บัดซบ! วิธีการขององค์หญิงสาม…มีคำคำเดียวที่สามารถบรรยายความรู้สึกของฉันในตอนนี้ได้ นั่นคือเจ๋งเป็นบ้าเลย!’
‘องค์หญิงสามมีพลังจิตที่แข็งแกร่งมาก! เธอทำหลายอย่างพร้อมกันและควบคุมพลังดวงดาวไปด้วยได้ยังไง?!’
‘ต๋าหลู่ผู้น่าสงสาร! ตอนแรกมันบ้ามากที่ฉันต้องนั่งดูพลเอกโอคาซีบดขยี้ต๋าหลู่พวกนั้น ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมานั่งดูองค์หญิงสามด้วย ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคนหมายความว่ายังไง!’