ทั้งสองยืนพูดคุยกันขณะสวมใส่หน้ากากพลังงาน ดังนั้นจึงไม่มีใครได้ยินว่าพวกเขากำลังคุยอะไรกัน แต่บรรยากาศรอบตัวของทั้งสองคนนั้นดูจะจริงจังเป็นพิเศษ
“นี่คงเป็นการเผชิญหน้ากันของศัตรูหัวใจ หึงหวงกันล่ะสิ!” กัปตันเป็นผู้ชำนาญด้านความรัก แม้แต่เขาเองก็เคยรู้สึกวิตกกังวลกับภรรยาผู้เป็นที่รัก แต่ใครกันที่ไม่เคยรู้สึกหึงหวงเมื่อครั้งยังเป็นวัยรุ่น?
“คิดกลับไปตอนนั้นผมก็ป่าวประกาศสาบานความรักต่อใครก็ตามที่เป็นศัตรูหัวใจและตามจีบภรรยาของผม และผลลัพธ์…”
“ผลลัพธ์เป็นยังไงคะ? พวกคุณซาบซึ้งต่อคำประกาศก้องต่อความรักของกันและกัน และได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขใช่ไหม?”
“ไม่ ผมถูกไอ้ผู้ชายพวกนั้นดึงเข้าไปที่ซอกตึกและทุบตีอย่างโหดร้าย” กัปตันลูบคางของเขาด้วยความอับอาย “แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ภรรยาของผมได้เห็นความตั้งอกตั้งใจของผม”
“ตั้งอกตั้งใจยังไงคะ?” พยาบาลสาวในทีมแพทย์ที่อยู่ด้านข้างเอ่ยถาม
“คือว่า ผมไม่ใช่คนที่มีอนาคตสดใส แต่ถ้าอยู่กับผม ผมจะไม่ออกไปสู้ที่สนามรบหรือปล่อยให้เธอเป็นหม้าย” กัปตันถอนหายใจและหยิบรูปภาพของภรรยาขึ้นมา ก่อนจะสัมผัสใบหน้าของเธอ “น่าเศร้าใจที่ผมต้องแก่ลงทุกวัน แถมยังต้องมาติดอยู่ในสถานที่แปลกประหลาดแบบนี้อีก ไม่รู้ว่ายายแก่คนนั้นจะคิดถึงผมบ้างไหม?”
คิดถึงเขาไหม?
หลังจากที่หญิงชราผู้มีใบหน้าอ่อนโยนได้รับข่าวว่ายานอวกาศของชายชราถูกดูดเข้าไปในทางเชื่อมมิติธรรมชาติ เธอที่กำลังเพิ่มระดับพลังดวงดาวของตนเองให้ไต่ขึ้นไประดับเก้าดาวก็วิ่งตรงไปยังจักรวรรดิขณะถือดาบเลเซอร์จากพลังดวงดาวไว้ในมือ ตะโกนก้องเพื่อทูลขอจักรพรรดิให้นำตัวสามีของเธอกลับมา
“เราถามหน่อยต้าเหมย เจ้าจะสร้างปัญหาอะไรอีก?” จักรพรรดิมองดูอดีตนายพลหญิงคนแรกด้วยอาการปวดหัวที่ย่ำแย่!
“หม่อมฉันก็อยากจะทูลขอเพคะ ท่านจักรพรรดิ ท่านเองก็รู้ว่าตาเฒ่าของหม่อมฉันไร้ความสามารถและไม่มีทักษะ เขาถึงต้องใช้ความสามารถทั้งหมดในการขับเคลื่อนยานอวกาศที่ผุพังแบบนั้น ในตอนนั้นฉันไม่ได้เลือกใครเลย แต่กลับเลือกเขาที่เตรียมพร้อมจะใช้ชีวิตด้วยกันอย่างมั่นคง แล้วทำไมทุกอย่างถึงกลายเป็นแบบนี้?”
“หม่อมฉันไม่คิดเลย…ท่านจะต้องเอาตาเฒ่าของหม่อมฉันกลับคืนมา!” ต้าเหมยไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป เธอนั่งลงด้านข้างด้วยความโกรธเกรี้ยว
“เจ้าคิดว่าเราไม่ต้องการหรือ? เรายังปวดหัวอยู่เนี่ย!” จักรพรรดิถอนหายใจ “เราจะบอกความจริงให้เจ้าฟัง ลูกสาวของเรา ว่าที่ลูกเขย รวมถึงองค์ชายรัชทายาทของจักรวรรดิเอเดนก็ติดอยู่ในยานอวกาศลำนั้นด้วย”
“ท่านหมายความว่าลูกสาวของท่านและคนอื่น ๆ ก็หายตัวไปพร้อมกับสามีของหม่อมฉันหรือเพคะ?” ต้าเหมยตกตะลึง
ราชวงศ์ปิดข่าวนี้อย่างแน่นหนา จนเธอไม่ได้รับรู้ข่าวอะไรเลย
ถูกต้องแล้ว การหายตัวไปขององค์หญิงสามหรือการหายตัวไปของโอคาซีที่เป็นผู้คนจากจักรวรรดิชิงเหย้านั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่สำหรับจักรวรรดิเอเดนนั้นแตกต่างออกไป!
การหายตัวไปขององค์ชายรัชทายาทแลนเซล็อตภายใต้การดูแลของจักรวรรดิชิงเหย้าจะต้องกลายเป็นข้อพิพากใหญ่ระหว่างสองจักรวรรดิ
“แผนการสำหรับตอนนี้คือการคำนวณปลายเปิดอีกด้านของทางเชื่อมมิติให้ได้เร็วที่สุด จากนั้นถึงจะหาวิธีสร้างทางเชื่อมมิติขึ้นมาใหม่ได้”
ศีรษะของจักรพรรดิถึงกับลดต่ำลง ไม่รู้ว่าลูกสาวของเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง และไม่รู้ว่าจะเก็บซ่อนข่าวนี้ไว้ได้นานแค่ไหน หวังว่าจักรวรรดิเอเดนจะไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วเกินไป!
“ตระกูลฟิลต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เป็นแน่! ไม่อย่างนั้น ทำไมเอริก้าถึงไม่ยอมขึ้นยานอวกาศลำนั้นมาด้วยล่ะ?” จักรพรรดิถึงกับอยากจะเขวี้ยงแก้วน้ำ!
“โชคดีที่สวี่หลิงอวิ๋นฝากสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์อีกส่วนไว้กับพี่ใหญ่ไม่อย่างนั้น ตอนที่เอกอัครราชทูตจากที่ต่าง ๆ เดินทางมาถึง ทางเราจะเอาอะไรให้พวกเขาดู?” จักรพรรดิถอนหายใจ “ก็แค่ไม่รู้ว่าตอนนี้หลิงอวิ๋นเป็นยังไงบ้าง”
“องค์หญิงเป็นคนดีฟ้าจะต้องคุ้มครอง เธอจะไม่เป็นอะไรค่ะ” หัวใจของต้าเหมยรู้สึกผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย
องค์หญิงกับโอคาซีทั้งคู่หายตัวไปพร้อมกับตาเฒ่าผู้ไม่เอาถ่านของเธอ ดังนั้นจักรพรรดิจะต้องใช้กำลังของทั้งจักรวรรดิเพื่อตามหาองค์หญิงสามอย่างแน่นอน หากเป็นเช่นนั้น ตาเฒ่าของเธอก็จะได้กลับมาด้วย
“ใช่! หวังว่าหลิงอวิ๋นจะสบายดี อย่าสร้างความวุ่นวายให้เราอีก ใจเย็นเข้าไว้ เราก็กลัวว่าเราจะไปถึงไม่ทันเวลา หากมีอะไรเกิดขึ้นกับลูกและเราไม่ได้อยู่ตรงนั้น จะมีใครดูแลเธอได้บ้าง!”
คำพูดเรื่อยเปื่อยของพ่อผู้แก่ชราผุดขึ้นท่ามกลางบทสนทนา ทว่าที่แห่งนั้นยังมีคนยินดีที่จะรับฟัง เพราะฉะนั้นระบายออกมาได้เลย!
คำพูดเรื่อยเปื่อยวนเวียนอยู่ในรูหูของต้าเหมยอยู่เต็มไปหมด!
“คือว่า…”
“โอ้ หลิงอวิ๋น ลูกสาวอยู่เคียงข้างเรามาตลอดตั้งแต่เธอยังเด็ก ไม่เคยจากไปไหนไกลเลย เจ้าบอก…”
“ฝ่าบาท! หม่อมฉันมีเรื่องที่ต้องทำ…”
“หลิงอวิ๋นไม่ใช่คนรอบคอบนัก เจ้าบอกทีสิว่าถ้าเธอถูกหลอก เธอจะทำยังไง? ถ้าเกิดโอคาซีไปตกหลุมรักคนอื่นเข้าแล้วล่ะ? เขาจะไม่ขายลูกสาวของเราทิ้งใช่ไหม?…”
ต้าเหมยรู้สึกตัวเธอไม่สามารถทนฟังอะไรแบบนี้ได้อีกต่อไป!
หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป จักรพรรดิคงได้ทำลายเส้นประสาทของเธอ!
ช่างมันเถอะ ถ้าท่านเอาแต่พูดเรื่อยเปื่อยแบบนี้ หม่อมฉันจะไม่รับใช้ท่านแล้ว!
ต้าเหมยถกกระโปรงขึ้น ลุกขึ้นและเดินออกไป ขณะที่จักรพรรดิยังคงจมอยู่ในโลกจินตนาการของตนเอง โดยไม่รู้เลยว่าคนตรงหน้าได้จากไปแล้ว!
เมื่อเขาดึงสติของตนเองกลับมา ยังมีใครอยู่ในห้องนี้บ้าง?
“โธ่เอ๊ย!” พ่อผู้แก่ชราถอนหายใจออกมาอย่างโศกเศร้าขณะนั่งอยู่ในห้องโถงที่ว่างเปล่า
สวี่หลิงอวิ๋นที่เขากำลังคิดถึงอยู่นั้นได้ปลอมตัวไปเป็นผู้ช่วยพ่อครัวธรรมดาเสียแล้ว เธอเข้าไปในห้องครัวได้สำเร็จและกลายไปเป็นแม่ครัวสุดสวย
พ่อครัวเฒ่ากำลังทำของหวานอยู่ อันที่จริงสวี่หลิงอวิ๋นไม่ได้สนใจของหวานของที่พ่อครัวทำมากนัก เพราะของหวานของชายผู้นี้มีรสชาติหวานเกินไป จนทำให้สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกเลี่ยนมาก!
อย่างไรก็ตาม ความคิดของเธอไม่ได้ทำให้ตำแหน่งของชายผู้นี้สั่นคลอน เพราะเขาเป็นถึงพ่อครัวของหวานชั้นยอดเยี่ยมแห่งอารยธรรมพื้นเมืองแห่งนี้
สวี่หลิงอวิ๋นส่ายหัว ช่างมันเสียเถอะ ไว้รอคุณไม่อยู่แล้ว ฉันจะลองทำสักหนึ่งจานแล้วกัน
ฮี่ฮี่ แล้วให้โอคาซีได้ลิ้มลองรสชาติฝีมือของเธอ
ในที่สุดชายชราก็จากไป สวี่หลิงอวิ๋นจึงเริ่มตอกไข่ ฮัมเพลง แยกไข่แดงออกจากไข่ขาว และละลายผงเจลาตินลงไปในน้ำ
ทุบเศษขนมปังกรอบจนละเอียด บีบครีมลงไปเล็กน้อย…
ขณะที่เธอกำลังหมกมุ่นอยู่กับการทำเค้ก จนไม่ได้สังเกตว่ามีใครบางคนยืนอยู่ทางด้านหลัง ชายหนุ่มสูงโปร่งจ้องมองเธอมาเป็นเวลานาน
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเข้ามาในห้องครัวแห่งนี้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับแม่ครัวสาวสวย
วิกเตอร์ ดาราหนุ่มชื่อดังผู้หล่อเหลาและกวาดต้อนหญิงสาวมานับไม่ถ้วนทั่วพื้นภูมิภาคกาตาร์ ไม่เพียงแต่จะมีทักษะการแสดงที่ดีเยี่ยม ไม่ต้องกล่าวถึงภูมิหลังของครอบครัว เพราะพ่อของเขาเป็นถึงคณบดีของสถาบันการศึกษา
แต่นี่เป็นการพูดปากต่อปากเท่านั้น แต่ผู้คนในแวดวงย่อมรู้ดีว่าภูมิหลังของเขาทรงอิทธิพลขนาดไหน
วิกเตอร์ชื่นชอบอาหารเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะของหวาน และเขามีรสนิยมความชื่นชอบเฉพาะตัว
หลายปีที่ผ่านมา เขาได้ลิ้มลองรสชาติของหวานจากพ่อครัวมาทั่วทั้งพื้นทวีป เขาเคยคิดว่าของหวานจาก ‘ราชาเรือของหวาน’ จะทำให้ดวงตาของเขาเปล่งประกาย แต่ผลลัพธ์กลับทำให้เขารู้สึกผิดหวัง
มันเลี่ยนเกินไป! ของหวานไม่จำเป็นจะต้องมีรสชาติหวานเพียงอย่างเดียวเท่านั้น มันควรจะมีการแบ่งชั้นและมีรสชาติมากกว่านี้ แต่กลับไม่มีพ่อครัวคนไหนสามารถทำได้
เมื่อมองดูแม่ครัวที่ยืนอยู่ตรงหน้า เขาเพียงแต่คิดว่าแม่ครัวคนนี้เป็นแค่เด็กฝึกงานของราชาเรือขนมหวานเท่านั้น และไม่คิดว่าเธอจะสามารถทำอะไรอร่อย ๆ ได้