“เท่าไหร่ล่ะคะ?” หญิงสาวทั้งหลายกำลังรอฟังคำตอบ “ราคาสูงสุดน่าจะอยู่ที่ห้าพันเหรียญหรือเปล่า?!”
“ห้าพัน?! คุณพูดตลกอะไรคะ” หญิงสาวรู้สึกราวกับว่ากำลังได้ยินเรื่องตลกฉากใหญ่ “หมื่นเหรียญต่างหากค่ะ!”
“หมื่นเหรียญ!” หญิงสาวทั้งหลายอ้าปากค้าง!
เค้กแบบไหนกันที่มีราคาถึงหมื่นเหรียญ? สวี่หลิงอวิ๋นคนนี้กล้าดีอย่างไรถึงได้เรียกเงินมากมายขนาดนั้น?!
“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ! ฉันเองก็ตกใจเหมือนกันที่ได้ยินในตอนนั้น ถึงกับนั่งคิดว่าทำไมเค้กถึงได้มีราคาแพงขนาดนี้?” หญิงสาวถอนหายใจ “แต่ปรากฏว่าลูกชายของฉันมาบอกว่าคนที่ซื้อเค้กไปเป็นพวกชนชั้นสูง พวกเขากวาดซื้อเค้กที่มีราคาเริ่มต้นจากห้าพันเหรียญ เค้กที่สวี่หลิงอวิ๋นทำขึ้นมาเป็นที่โปรดปรานของคนทั้งหลาย และฉันคิดว่าในอนาคตชนชั้นสูงอีกหลายคนคงจะเข้ามาซื้อเค้กของเธอแน่นอน!”
“เพราะฉะนั้นอย่าบอกว่าผู้คนกำลังเสียเงินเปล่าเลยค่ะ เพราะพวกเขามีเงิน!” หญิงสาวกล่าวอย่างเอาจริงเอาจัง “น่าเสียดาย ถ้าฉันมีลูกชายอีกสักคน ฉันคงให้เขาแต่งงานกับเธอ”
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ปล่อยให้ลูกชายของคุณแต่งงานกับเธอซะเลยสิ!” หญิงสาวคนอื่นกล่าวอย่างติดตลก
หญิงสาวที่สวมใส่เพชรคนนี้มีลูกชายที่ค่อนข้างเป็นที่โปรดปรานและโดนตามใจ เธอทุ่มเทเลี้ยงดูเขามาเป็นอย่างดี และตั้งใจจะปั้นลูกชายคนนี้ให้กลายไปเป็นชนชั้นสูงเพื่อหลีกหนีออกมาจากเมืองชนชั้นต่ำเช่นนี้
ลูกชายของเธอนั้นดูแตกต่างกันออกไปมาก เขาทั้งหล่อเหลาและมีผลการเรียนที่ดีจนได้จัดไปอยู่ในสถาบันที่ดีที่สุดท่ามกลางกลุ่มคนชนชั้นสูง นับว่านี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดา เพราะสถาบันทั้งหลายได้ติดต่อไปหาเขาโดยตรง
หากเขาได้แต่งงานกับสวี่หลิงอวิ๋น นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องกลับมาสู่ความต่ำต้อยอีกครั้งหรือ?
หญิงสาวมีความตั้งอกตั้งใจจะย้ายออกจากเมืองต่ำต้อยแห่งนี้ และมีความปรารถนาอยากจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตนเองคงไม่สามารถยอมรับเรื่องแบบนี้ได้ แม้ว่าสวี่หลิงอวิ๋นจะทำเงินได้มากมายก็ตาม
“นี่ ทุกคนก็ล้วนมีเป้าหมายกันทั้งนั้นแหละ นอกจากนี้เธอยังมีหนุ่มน้อยดำทะมึนนั่นด้วย”
หญิงสาวทั้งหลายกล่าวติดตลก ถึงแม้ว่าพวกเธอจะอิจฉาริษยาสวี่หลิงอวิ๋น ทว่าพวกเขากลับนึกได้ว่าต่อให้สวี่หลิงอวิ๋นจะมีความสามารถมากแค่ไหน แต่เธอก็ไม่สามารถสลัดสถานะชนชั้นล่างออกไปได้
หนุ่มน้อยดำทะมึนคนนั้นมีดีอย่างไร? หน้าตาก็ไม่ได้หล่อเหลาเลยสักนิด หรือว่าพวกเธอควรจะแนะนำหลานชายให้กับเธอดีนะ?
แต่ถ้าเป็นเช่นนั้น เธอคงจะไม่เอาเงินของสามีไปครึ่งนึ่งหรอกใช่ไหม?
โอคาซีจ้องมองหญิงสาวผู้มีอายุด้วยใบหน้าบูดบึ้งทันทีที่ได้ยินว่าเธอจะแนะนำสวี่หลิงอวิ๋นให้รู้จักกับหลานชายของเธอ ใบหน้าของเขาดูไม่สบอารมณ์ ราวกับว่าตัวเขาได้กลายเป็นผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกิน
“โอ้ ฉันขอพูดหน่อยเถอะหลิงอวิ๋นว่าฉันไม่ได้ล้อเล่นนะ หลานชายของฉันอายุยี่สิบแล้ว และอย่างที่เธอได้เห็นว่าทุกอย่างไม่มีอะไรแน่นอน มีผู้หญิงมากมายที่รอคอยให้เขาหันมามอง แต่เขาคิดว่าเธอเป็นคนขยันขันแข็งและอยากจะมาเจอเธอ!”
“เอายังไงดีล่ะ? ไม่ดีเหรอ? เธออยากจะลองคุยกับเขาดูก่อนไหม? หลานชายของฉันเป็นคนชอบดูแลเอาใจใส่ด้วยนะ!”
สวี่หลิงอวิ๋นได้ยินว่าใครบางคนกำลังแนะนำหลานชายให้กับเธอ ทั้งที่อยู่ต่อหน้าแฟนหนุ่มของเธอ!
มันช่างน่าตื่นเต้นเสียจริง!
ห้ามมองนะ โอคาซีในตอนนี้จะต้องน่ากลัวมากแน่ ๆ!
ชายคนดังกล่าวเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง กลอกตาสองสามครั้ง และมองสวี่หลิงอวิ๋นผู้ที่ไม่ได้ดูน่าดึงดูดตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า “อืม ถึงคุณจะขี้เหร่นิดหน่อย แต่เห็นแก่ที่คุณตั้งใจทำงานหนักและหาเงินได้เยอะ งั้นพวกเรามาพัฒนาความสัมพันธ์กันเถอะ”
“ก่อนอื่นผมจะชี้แจ้งให้กระจ่างก่อน ถ้าในอนาคตพวกเราได้แต่งงานกัน ทุกอย่างที่เกี่ยวกับสูตรเค้กในมือคุณจะต้องถูกส่งต่อให้กับครอบครัวของเรา คุณเป็นผู้หญิงควรอยู่แต่บ้านและอบรมเลี้ยงดูลูกซะ”
“แบบนั้นมันดียังไง? ฉันมีลูกคนเดียวงั้นเหรอ?” สวี่หลิงอวิ๋นหยอกล้อเขาด้วยประเด็นที่น่าสนใจ “ถ้าอย่างนั้นคุณช่วยทำงานบ้านได้ไหมล่ะคะ?”
“คุณล้อเล่นอะไรเนี่ย?!” ชายคนดังกล่าวระเบิดอารมณ์ออกมาท่ามกลางที่เกิดเหตุ ราวกับแมลงที่โดนเหยียบหาง “คุณยังเป็นผู้หญิงอยู่หรือเปล่า? คุณมาบอกให้ผมทำงานบ้านได้ยังไง?”
“หน้าที่ทั้งหมดของคุณคือซักผ้า ทำอาหาร เลี้ยงดูลูกและเอาใจใส่พ่อแม่!” ชายหนุ่มจ้องมองกัปตันผู้แก่ชราที่เดินออกมาอยู่ด้านหลังของเธอ “ตาแก่นั่นเป็นพ่อของคุณเหรอ?”
“ใช่ค่ะ” สวี่หลิงอวิ๋นช่วยกัปตันให้นั่งลง และรินน้ำใส่แก้วให้เขาขณะที่เขากำลังหอบจัด
“ผมแก่และเจ็บป่วยมานานแล้ว มันคงดีกว่านี้ถ้าผมถูกส่งไปที่บ้านพักคนชรา เพราะยังไงซะคนเราก็ต้องตายอยู่ดี!”
สวี่หลิงอวิ๋นหันกลับมา “แล้วพ่อแม่ของคุณล่ะคะ? คุณจะส่งพวกเขาไปอยู่กับพ่อของฉันด้วยไหม?”
“คุณพูดบ้าอะไรอีก? ผมก็ต้องกตัญญูต่อพ่อแม่ของผมอยู่แล้วสิ! ผมถามหน่อยสิครับคุณป้า คุณป้าแนะนำอะไรให้ผมครับเนี่ย?” ชายคนนั้นเอามือเท้าเอวและตำหนิติเตียนหญิงชรา “ถ้าคุณป้าจะแนะนำผู้หญิงที่ไม่เอาไหนหรือไม่รู้จักเชื่อฟังแบบนี้ให้ผมอีก ผมจะไปฟ้องแม่!”
“โอ้ หลานชายคนดี!” หญิงชรารีบเข้าไปดึงแขนเสื้อของเขา “เด็กดี ลองดูสวี่หลิงอวิ๋นสิ คนเราสามารถฝึกฝนกันได้หลังจากแต่งเข้าไปแล้ว หลานลองคิดดูว่าเธอทำเงินได้เยอะแค่ไหน!”
ในที่สุดชายคนนั้นก็ระงับความโกรธของเขาไว้ “ถ้าอย่างนั้น ผมจะให้โอกาสกับคุณอีกสักครั้งในทุก ๆ เรื่อง!”
สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกราวกับว่ามีพายุฟ้าคะนองลอยละล่องอยู่เหนือศีรษะของเธอ ไม่ได้คาดคิดเลยสักนิดว่าผู้ชายที่น่ารังเกียจที่เธอเคยพบเจอในชาติที่แล้วจะได้มาพบกันอีกครั้งที่นี่!
ช่างน่าขยะแขยง!
“ไสหัวไป!” สวี่หลิงอวิ๋นคิดในใจ ถ้าเธอรู้เรื่องนี้มาก่อน เธอคงขับไล่ผู้คนออกไปให้หมด เพราะความร้าวรานนั้นมันทำให้เธอรู้สึกขยะแขยง
“เฮ้ย! ถึงคุณจะเป็นผู้หญิง! ผู้ชายก็กล้าตีนะ!” ชายคนนั้นรู้สึกโกรธจัด เขาเอื้อมมือออกมาจะตีสวี่หลิงอวิ๋น แต่ก่อนที่สวี่หลิงอวิ๋นจะทำอะไร โอคาซีที่อยู่ด้านข้างกลับไม่สามารถควบคุมอารมณ์ฉุนเฉียวในใจของเขาเอาไว้ได้
เขาเตะคนคนนั้นออกไปด้วยขาเพียงข้างเดียว!
ชายคนนั้นจับหน้าอกของตนเอง ขณะที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น “ฆาตกร! ฆาตกร!”
หญิงชรามองดูเหตุการณ์ นี่มันคุ้มกันหรือเปล่า?! เธอทรุดตัวลงไปนั่งยอง ๆ อยู่ด้านหน้าร้านของสวี่หลิงอวิ๋น และร้องไห้ออกมาเสียงดังลั่น
“ให้ตายเถอะ! หลานชายของฉันออกจะเป็นคนดี เธอหาผู้ชายดี ๆ แบบนี้ในละแวกใกล้เคียงไม่ได้อีกแล้ว แต่เขากำลังถูกผู้ชายและผู้หญิงป่าเถื่อนฆ่าตาย! กฎแห่งสวรรค์และกฎหมายยังมีอยู่อีกไหม?!”
สวี่หลิงอวิ๋นกำหมัด นานแค่ไหนแล้วที่เธอไม่ได้เห็นไอ้คนสารเลวคนนี้? โอ้ นี่มันทำให้เธอได้ตาสว่างของจริง!
ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เธอหมดหนทางสู้กับคนสารเลว? ล้อเล่นหรอกน่า!
สวี่หลิงอวิ๋นแนบพลังจิตของเธอเข้ากับชายคนดังกล่าวด้วยท่าทีนิ่งสงบ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอใช้พลังจิตแทรกซึมเข้ากับร่างกายของมนุษย์ เธอนึกว่ามันจะซับซ้อน ทว่ามันกลับง่ายกว่าที่เธอคาดคิดเอาไว้!
นอกจากนี้ โลกของชนชั้นพื้นเมืองยังเป็นโลกที่ธรรมดามาก ที่นี่ไม่มีพลังวิเศษอะไร อีกทั้งยังไม่มีการฝึกฝนพละกำลัง เฉกเช่นเดียวกับวิธีการฝึกฝนพลังจิต พลังจิตของพวกเขาจึงเทียบเท่าได้กับทารกเกิดใหม่ของจักรวรรดิชิงเหย้า!
เพราะอ่อนแอขนาดนี้ ไม่แปลกใจที่สวี่หลิงอวิ๋นจะแทรกซึมเข้าไปได้!
ผู้คนทั้งหลายที่ผ่านไปมากำลังจ้องมองและพูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์ตรงหน้า
ทุกคนรู้จักหญิงชราคนนี้ เธอมีชื่อเสียงโด่งดังเกี่ยวกับความดื้อรั้นในละแวกนี้ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับหญิงสาวอีกคน วิธีการของเธอยังด้อยกว่าเยอะ!
ผู้ชายคนนี้มีหน้าตาที่หล่อเหลา และเป็นความจริงที่ผู้หญิงทั้งหลายตกหลุมรักผู้ชายคนนี้ตั้งแต่แรกเห็น ทว่าเพียงวันเดียวเท่านั้น เพราะผู้หญิงทั้งหลายก็ไม่สามารถอดทนต่อไปได้และเลือกที่จะกล่าวอำลาในที่สุด
เพราะมันแปลกประหลาดมาก!
ทุกอย่างล้วนเกี่ยวข้องกับแม่ แม่ฉันพูดบอกว่าเงินที่คุณได้รับมาจะต้องเอามาช่วยสนับสนุนครอบครัวของเขาทั้งหมด แล้วถ้าหญิงสาวต้องการเงินบ้างล่ะจะต้องทำอย่างไร…?
แต่งงานกับผู้ชาย แต่งงานกับผู้ชาย แต่งตัวให้ดีและกินให้อิ่ม! ถ้าเกิดผู้ชายขอให้ผู้หญิงคอยช่วยเหลือ แล้วพวกเธอจะแต่งงานไปทำไม? ไม่แต่งงานยังดีกว่าไหม?