สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际 – ตอนที่ 201 ศึกใหญ่ในสถาบัน 9

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际

ตอนที่ 201 ศึกใหญ่ในสถาบัน 9

ชาวเน็ตทั้งหลายต่างรู้สึกแบบเดียวกัน และไม่สามารถทนดูต่อไปได้ จึงเริ่มเปิดโพสต์และพูดคุยกันและกัน

[พวกคุณคิดว่าองค์หญิงสามจะพานักเรียนปีหนึ่งออกไปด้วยไหม?]

ทันทีที่โพสต์นั้นออกมา ชาวเน็ตจำนวนนับไม่ถ้วนที่ยังไม่หลับใหลก็เริ่มแสดงความคิดเห็นของพวกเขา

[ฉันคิดว่างั้นนะ! องค์หญิงสามเป็นถึงเชื้อสายราชวงศ์ และเป็นถึงลูกสาวคนโปรดของจักรพรรดิ ถ้าเธอบอกว่าจะสร้างสถาบันใหม่ สถาบันใหม่คงจะถูกสร้างในไม่ช้า]

[ผมเชื่อว่าถ้าองค์หญิงสามอยากจะลาออกจริง ๆ มันคงไม่เลวร้ายขนาดนั้น ตอนนี้เธอเป็นถึงหญิงสาวผู้ร่ำรวยที่มีชื่อเสียง และยังสามารถสร้างสถาบันการศึกษาทางการทหารได้อีกถึงสิบแห่ง อย่าลืมสิว่าแฟนของเธอคือพลเอกโอคาซี]

[หมายความว่าไง? ให้พลเอกโอคาซีจะพานักเรียนปีหนึ่งออกไปเหรอ? แล้วเธอจะสอนความรู้ให้นักเรียนพวกนั้นยังไง?]

[คอมเมนต์บนโง่หรือเปล่า? ตราบใดที่องค์หญิงสามมีเงินเหลือล้น อาจารย์หน้าไหนจะไม่เสนอตัวไปสอนบ้าง? ฮ่า ๆ!]

ไม่ว่าชาวเน็ตทั้งหลายจะคาดเดาอย่างไร นักเรียนจำนวนสามสิบกว่าคนก็ถูกทุบตีจนกระดูกหักอยู่ดี ถึงแม้จะไม่ได้ล้างชำระ แต่บาปทุกอย่างล้วนได้รับการทนทุกข์ทรมานแล้ว

“เอาล่ะ ท่านคณบดีพูลแมน ท่านพาคนของท่านออกไปได้แล้วค่ะ” สวี่หลิงอวิ๋นปรบมือ ราวกับเธอไม่ได้ทำอะไรผิด “ถึงตอนนี้ท่านช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหมคะว่าท่านจะไล่ฉันออกหรือเปล่า? ถ้าอย่างนั้น ก็ช่วยบอกออกมาเลยเถอะค่ะ!”

สวี่หลิงอวิ๋นกล่าวออกมาอย่างไม่แยแส

“เฮ้ ท่านนี่เด็กน้อยเหลือเกิน จะใจร้อนไปไหนพ่ะย่ะค่ะ?!” คณบดีพูลแมนถอนหายใจและกล่าวออกมา “เอาล่ะ กระหม่อมจะนึกหาวิธีลงโทษท่าน”

“ไม่ได้จะไล่ฉันออกเหรอคะ?” สวี่หลิงอวิ๋นเม้มริมฝีปาก “ท่านใจดีกับฉันเกินไปหรือเปล่าคะ?”

“ช่างเถอะพ่ะย่ะค่ะ!” คณบดีพูลแมนกล่าวออกมาอย่างขุ่นเคือง “พวกเขาทำผิดพลาดเอง เพื่อเห็นแก่ผู้ติดตามของท่าน มันคงจะดีกว่าถ้าท่านคว้าโอกาสนี้เอาไว้นะพ่ะย่ะค่ะ”

“อืม!” สวี่หลิงอวิ๋นยกนิ้วให้เขา “ท่านเป็นคนดีจังเลยนะคะ!”

สวี่หลิงอวิ๋นกระโดดลงมาจากชั้นสูง และกล่าวกับนักเรียนว่า “เอาล่ะ กลับไปได้! และเตรียมตั้งรับการก่อกบฏของสถาบัน!”

รุย เบนเน็ต ฉินหยวน และลุคจัดแจงนักเรียนทั้งหลายให้เดินทางกลับ

รอยยิ้มแห่งความตื่นเต้นปรากฏขึ้นบนใบหน้าของทุกคน! พวกเขาแก้แค้นให้สหายทั้งหลายได้แล้ว! องค์หญิงสามสุดยอดไปเลย! ขับไล่หัวหน้าประจำชั้นปีที่สองได้ด้วย!

ฮ่า ๆๆ! ตอนนี้นักเรียนชั้นปีอื่นจะยังกล้าหยิ่งยโสโอหังต่อหน้าพวกเขาอีกไหม?!

ใบหน้าของเยล ออสมอนด์ อดีตหัวหน้าประจำชั้นปีที่สองซีดเผือด เพื่อนร่วมชั้นที่อยู่บริเวณโดยรอบไม่ได้รู้สึกเคารพเขาอีกต่อไป ทุกคนล้วนมีความสุขบนความทุกข์ของเขา อีกทั้งยังเริ่มเยาะเย้ยเขาราวกับคนชั่วที่ตกอับ

“สวี่หลิงอวิ๋น! เธอทำลายฉัน!” เขาควรจะได้รับการอัปเกรดพลังดวงดาวแท้ ๆ แต่ทันใดนั้นความแข็งแกร่งภายในร่างกายกลับจางหายไปราวกับเป็นบุคคลธรรมดา เขาพยายามจะเอื้อมมือออกไปสัมผัสเพื่อนร่วมชั้น แต่กลับถูกเตะจนล้มไปกองกับพื้นและไม่สามารถลุกขึ้นได้เป็นเวลานาน

โทนี่ ฮีทเธอร์ที่เคยให้ความเคารพแก่เขาก่อนหน้านี้กำลังรวบรวมผู้ติดตามจำนวนมหาศาลที่อยู่ด้านหลังเขา ราวกับว่าได้กลายเป็นหัวหน้าคนต่อไปเสียแล้ว ทั้งน่าเกรงขามและน่าภาคภูมิใจยิ่งนัก

โทนี่โน้มตัวไปทางสวี่หลิงอวิ๋น “ท่านไม่ต้องห่วงครับ พวกผมจะจัดการคนที่กล้ารังแกนักเรียนปีหนึ่งเอง!”

สวี่หลิงอวิ๋นหันกลับมาเหลือบมองเขา ก่อนจะถอนหายใจ นกสองหัวชัด ๆ เธอยังจำที่เขาประจบประแจงเยลเมื่อยังเป็นผู้ติดตามได้ดี และทันทีที่เยลเสียอำนาจไป เขาก็รีบปลีกตัวออกมาในชั่วพริบตา หึหึ!

ไม่รู้ว่าเยลจะรู้สึกโกรธเคืองกับเรื่องนี้หรือไม่?

สวี่หลิงอวิ๋นลูบคาง เพื่อทำให้ละครเรื่องนี้ดูดีขึ้น เพราะฉะนั้นก็ต้องทำให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น

ตัวอย่างเช่น เพิ่มการจำกัดเวลาในกรงขังของเยลให้มากขึ้น? อืม สักเดือนหนึ่งดีไหม? ไม่รู้ว่าพวกชั้นปีที่สองจะต้องวุ่นวายกันขนาดไหนเลย?! ฮ่า ๆ! พอลองคิดดูแล้วก็สนุกชะมัด!

ค่ำคืนนี้ถูกกำหนดไม่ให้สงบสุขอีกต่อไป

นักเรียนจำนวนสามสิบกว่าคนถูกส่งตัวไปยังห้องพยาบาล แน่นอนว่าผู้ปกครองของนักเรียนเหล่านี้ย่อมเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างผ่านรายการถ่ายทอดสด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ปกครองของนักเรียนจำนวนสามสิบกว่าคนได้ส่งคำร้องถึงสถาบันการศึกษาทางการทหารของจักรวรรดิทันทีที่ดูการถ่ายทอดสดดังกล่าวภายในค่ำคืนนั้น และหวังว่าจะดำเนินเรื่องกับองค์หญิงสามที่ลงโทษนักเรียนโดยพลการ

[เธอไม่ได้เป็นอาจารย์สักหน่อย เป็นแค่หัวหน้าของพวกเด็ก ๆ เธอมีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้กับลูกของฉัน?! ส่งตัวองค์หญิงสามมาเดี๋ยวนี้! ไม่งั้นพวกเราจะประท้วง! ประท้วง!]

[องค์หญิงสามลงประชาทัณฑ์คนอื่นด้วยการใช้สถานภาพของตัวเอง! คณบดีพูลแมนจงใจช่วยกันปิดบัง และเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด!]

[อาจารย์เฮอร์ก็แค่พูดถึงความชอบธรรม แต่กลับถูกนักเรียนปีหนึ่งพวกนั้นจัดการและลากไปขังในห้องเรียนวิชาสมรรถภาพทางกาย ตอนนี้ทั่วทั้งสถาบันการศึกษาอยู่ในกำมือองค์หญิงสามแล้วใช่ไหม?!]

[ปลดองค์หญิงสามออกซะ! ไม่อย่างงั้นพวกเราไม่ยอม!]

ผู้ปกครองทั้งหลายเดินทางมาล้อมรอบสถาบัน ติดป้ายประกาศ และนั่งประท้วง

ขณะเดียวกันพวกเขายังไม่ลืมโพสต์และเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกพื้นที่ให้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เจ้าหญิงสาม

ผู้ปกครองของนักเรียนจำนวนสามสิบกว่าคนกล่าววิจารณ์องค์หญิงสาม ขณะที่ผู้ปกครองจำนวนสิบกว่าคนหรือนักเรียนชั้นปีที่หนึ่งก็เข้ามาร่วมการประท้วงด้วยเช่นกัน

พวกเขาลอกเลียนแบบคนเหล่านั้น และวิ่งไปที่ประตูทางเข้าของสถาบัน ก่อนจะตะโกนว่า “เจ้าพวกพ่อแม่ของเด็กฆาตกร องค์หญิงสามก็แค่แสวงหาความยุติธรรมให้ลูกของเรา แล้วจะผิดตรงไหน? มีแต่พวกคุณนั่นแหละ ไม่แปลกใจเลยที่เลี้ยงลูกได้โตมาโอหังขนาดนี้!”

“พวกคุณพูดเรื่องอะไร?! ลูกของพวกเราผิดตรงไหน? ลูกของเราเป็นรุ่นพี่ ถ้าไม่ใช่เพราะเด็กปีหนึ่งพวกนั้นนอกคอกและแหกธรรมเนียมปฏิบัติ เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นงั้นเหรอ?!”

ผู้ปกครองของนักเรียนชั้นปีที่สอง ปีที่สาม และปีที่สี่โต้เถียงกลับเพื่อไม่ให้น้อยหน้า

“อะไรนะ? มันเป็นความผิดของลูกฉันหรือไง?! ลูกฉันผิดตรงไหนยะ!? พวกคุณก็เหมือนลูกของคุณนั่นแหละ ไม่รู้จักเคารพสิทธิของคนอื่นบ้าง!” ผู้ปกครองของนักเรียนชั้นปีที่หนึ่งโกรธจัด

ฆาตกรจะมีเหตุผลอะไรอีก?!

นักข่าวที่กำลังรายงานข่าวรู้สึกตื่นเต้นมาเป็นเวลานาน พวกเขาจัดแจงกล้องถ่ายรูปไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และถ่ายทอดสดไปยังประชากรจำนวนมหาศาลของจักรวรรดิ

“ตามที่นักข่าวของเราส่งข่าวมาจากแนวหน้า เนื่องจากเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ที่องค์หญิงสามทุบตีนักเรียนจำนวนสามสิบสี่คนจนกระดูกหัก ขณะนี้ผู้ปกครองของนักเรียนเหล่านั้นจึงมารวมตัวกันอยู่ที่ประตูทางเข้าของสถาบันเพื่อร้องขอความเห็นใจให้กับลูก ๆ ของพวกเขา”

นักข่าวชี้นิ้วไปที่ป้ายประกาศที่แขวนอยู่บริเวณรอบ ๆ “พวกเราจะเห็นได้ว่าป้ายประกาศเหล่านี้เต็มไปด้วยประโยคมากมาย พวกเขาทั้งหมดเห็นพ้องตรงกันว่าคณบดีพูลแมนยอมจำนนต่อกองกำลังของราชวงศ์ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงใจดีกับองค์หญิงสามนัก ทั้งที่ฝ่าบาทสร้างความเสียหายอันใหญ่หลวง”

“พวกเขาหวังว่าทางสถาบันจะทำตามกฎข้อบังคับและขับไล่องค์หญิงสามออกไป”

นักข่าวผู้มีน้ำเสียงไพเราะ ชี้ปลายนิ้วไปที่คนอีกกลุ่มหนึ่ง “ตอนนี้ฝูงชนที่ทุกท่านกำลังเห็นอยู่คือผู้ปกครองของนักเรียนชั้นปีที่หนึ่ง พวกเขาทั้งหมดล้วนคิดว่าสิ่งที่องค์หญิงสามทำลงไปเป็นสิ่งที่ถูกต้อง”

“ดังนั้น ทุกท่านคิดว่าอย่างไรครับ?!”

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际

Status: Ongoing
เมื่อมาเกิดใหม่ในที่ที่เต็มไปด้วยของอร่อย เรื่องอะไรจะต้องอยู่เฉยกันล่ะ อย่างนี้มันต้องจับหั่น ยัดลงหม้อไฟร้อนๆ แล้วก็ถ่ายทอดสดออกอากาศสิถึงจะถูก!สวี่หลิงอวิ๋น หญิงสาวที่อยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้มาหลายปีแล้ว แถมยังมีนิสัยชอบกินอีกตังหากก็ต้องมีชีวิตที่ถึงคราวจากไปก่อนวัยอันควร เพราะดันไปกินเนื้อแกะที่ติดเชื้อซอมบี้เข้าให้!จากนั้นเธอก็พบว่าตัวเองได้ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งในร่างของเจ้าหญิงองค์ที่สาม แห่งจักรวรรดิชิงเหย้า ในโลกยุคอวกาศ ซึ่งดูท่าทางไม่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนสักเท่าไหร่ แต่ใครสนกันล่ะ! ตอนนี้เธอสนแต่เรื่อง กิน กิน และกินเท่านั้น แถมเอเลี่ยนดาวดวงนี้ยังมีแต่ของอร่อยเต็มไปหมด! เธอจะอยู่เฉยได้อย่างไร ต้องจับพวกมันมาหั่น มาต้ม มาย่าง แล้วก็อะไรอีกดีนะ? อ้อ…สตีมเมอร์ออกอากาศด้วยเลย!ทั้งหมดนี้จะถือเป็นสงครามอวกาศที่จะชวนให้คุณน้ำลายสอไปด้วยอาหารแบบต่าง ๆ ที่สวี่หลิงหยุนไปพิชิตและสรรค์สร้างมาได้ สวี่หลิงอวิ๋นหรือองค์หญิงสามนี้จะสามารถล่าเอเลี่ยนและคิดเมนูอะไรออกสตรีมเมอร์บ้าง ไปตามลุ้นเอาใจช่วยกันได้ที่ สตีมเมอร์สาวกินพิชิตอวกาศ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท