ตอนที่ 207 โบยบินกันเลย เจ้าหนู! 1
รุยครุ่นคิดเกี่ยวกับการแอบโจมตีเฮอร์ ทว่าชายคนนี้กลับเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก ขณะเดียวกันวิดีโอถ่ายทอดสดกำลังซ่อนอยู่รอบพวกเขา หากพวกเขาบุ่มบ่ามทำอะไรออกไป กล้องถ่ายทอดก็จับการกระทำนั้นทันที
และจะถูกไล่ออกในไม่ช้า…
นักเรียนชั้นปีที่หนึ่งทำอะไรไม่ถูก ขณะเดียวกันพวกเขาก็รู้สึกโหยหาหัวหน้าผู้ยิ่งใหญ่ของเขาเหลือเกิน! หากหัวหน้าผู้ยิ่งใหญ่ของพวกเขาอยู่ที่นี่ เฮอร์จะกล้าหยิ่งยโสแบบนี้เชียวหรือ?!
ผู้ติดตามที่เป็นที่รักต่างคิดว่าสวี่หลิงอวิ๋นคงจะขี้เกียจกลับมาที่นี่!
“โอ้ นักเรียนทั้งหลาย ขยันกันจังเลยนะ!” สวี่หลิงอวิ๋นเห็นว่านักเรียนทั้งหลายกำลังอยู่ระหว่างฝึกฝนในคาบเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคาบเรียนวิชาสมรรถภาพทางกาย และเห็นว่าระดับความเหนื่อยล้าของเหล่านักเรียนกำลังจะระเบิดออกมา
“แวะไปดูหน่อยแล้วกัน”
พอไม่ได้เห็นกลุ่มเด็กพวกนี้นาน ๆ แล้วรู้สึกไม่ชินสักทีสินะ!
สวี่หลิงอวิ๋นแอบย่องเข้าไปในชั้นเรียนสมรรถภาพ โดยไม่ต้องป้อนคำสั่งใด เพราะเหรียญตราประจำตัวหัวหน้าสามารถพาเธอไปได้ทุกที่ที่เธอต้องการ
หากไม่ได้มาเห็นก็คงไม่เครียดเช่นนี้ แต่เธอกลับแทบจะระเบิดอารมณ์ออกมาเหมือนเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า
นักเรียนของเธอกำลังถูกลงโทษและไล่ออกจากชั้นเรียน!
เฮอร์ใช้แส้ฟาดนักเรียนทั้งหลายเป็นครั้งคราว! แม่มเอ๊ย! จะอดทนก็ทนไม่ไหว! ไอ้สารเลว! ถ้าเกิดฉันลงมือขึ้นมา นายก็เตรียมน้ำตารดหัวเข่าได้เลย ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่สมควรได้เป็นหัวหน้าหรอก!
หยาดเหงื่อไหลรินลงมาจากศีรษะของนักเรียนแล้วหยดลงบนพื้น ใบหน้าของพวกเขาแดงก่ำ นักเรียนหลายคนเริ่มเวียนศีรษะและเกือบจะล้มลงกับพื้น
สวี่หลิงอวิ๋นต้องทนทุกข์ทรมานแทบตาย เธอพยายามอดทนกลั้นใจขณะแอบบันทึกทุกอย่างเอาไว้อย่างเงียบ ๆ จากนั้นเธอจึงแปรสภาพพลังดวงดาวเป็นเส้นด้ายขนาดบางเฉียบให้มาขว้างกันข้างด้านเฮอร์ และเฮอร์เกือบจะสะดุดล้มลงกับพื้นเมื่อเขาเดินผ่าน โชคดีที่เขาพยุงเครื่องจักรกลเอาไว้ทัน
สวี่หลิงอวิ๋นแปรสภาพพลังดวงดาวเป็นเข็มทิ่มแทงเข้าไปในฝ่ามือของเขาอีกครั้ง!
“อ๊ะ!” เฮอร์กระโดดโลดเต้นด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะสะดุดเข้ากับลู่วิ่งด้านข้างโดยไม่ได้ตั้งใจ จนเกิดอาการวิงเวียนศีรษะ สวี่หลิงอวิ๋นตัดสินใจแทรกซึมพลังจิตเข้าไปในหัวสมองของเฮอร์โดยด่วน และทำให้เขามึนงง
“เฮ้? เกิดอะไรขึ้นกับอาจารย์เฮอร์?” เขาโพล่งออกมาทันทีที่เห็นว่าเฮอร์สะดุดล้มลู่วิ่งโดยบังเอิญ เลือดไหลออกมาจากฝ่ามือ อีกทั้งศีรษะยังกระแทกกับลู่วิ่งจนหมดสติลงไป หึหึ!
โชคร้ายอะไรเช่นนี้!
“แล้วจะทำยังไงกันดี? พาเขาไปห้องพยาบาลดีไหม?” นักเรียนรู้สึกว่าขาของพวกเขาอ่อนแรงทันทีที่เท้าของพวกเขาสัมผัสเข้ากับพื้น จนไม่สามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นคง
และวิงเวียนศีรษะเล็กน้อย
“พาไปทำไม? ปล่อยเขานอนอยู่นั่นแหละ!” รุยรู้สึกโกรธจัดเมื่อจ้องมองเฮอร์ ไม่รู้ว่าวิดีโอถ่ายทอดสดยังวนเวียนอยู่แถวนี้หรือไม่ หากไม่มีวิดีโอถ่ายทอดสด เขาอยากจะเตะเฮอร์แรง ๆ สักที!
สายตาของทุกคนหันไปหาฉินหยวนอีกครั้ง ทว่าฉินหยวนกลับส่ายหัว
“นั่งลงและรอจนกว่าคาบเรียนจะจบเถอะ พออาจารย์เฮอร์ฟื้นแล้วเขาจะได้ไม่พูดว่าพวกเราโดดเรียน”
ใช่! หลังจากที่ต้องยืนขาเดียวเป็นเวลานาน พวกเขารู้สึกเหนื่อยล้าเหลือเกิน มานั่งพักกันสักหน่อยแล้วกัน!
สวี่หลิงอวิ๋นเอนตัวนอนมองลอดผ่านกระจกและพบว่าเด็กพวกนี้ต้องทนทุกข์ทรมานมากมายจริง ๆ!
“เฮอร์ไม่ใช่คนดีจริงด้วยสินะ เขาควรจะถูกทุบตีตั้งแต่แรก!” สวี่หลิงอวิ๋นอยากจะโยนชายชราที่ไร้ประโยชน์คนนี้ออกจากสถาบันไป แต่เมื่อคิดดูแล้ว เอาผู้ชายคนมาคอยรับใช้อย่างไม่เต็มใจน่าจะง่ายกว่า!
“ช่างเถอะ ฉันจะทำให้นายมีชีวิตเหมือนหมาจนตรอก รอให้พี่สาวคนนี้ปล่อยให้ทุกคนหายใจโล่งก่อน แล้วฉันจะขับไล่นายออกไป!”
สวี่หลิงอวิ๋นไม่ได้ปรากฏตัวที่ชั้นเรียนวิชาสมรรถภาพทางกาย แต่กลับไปปรากฏตัวที่แผนกเกษตรกรรมแทน
นักเรียนจากแผนกเกษตรกรรมปล่อยโฮเมื่อเห็นว่าเธอกลับมาแล้ว!
และเริ่มบ่นกับสวี่หลิงอวิ๋น
“องค์หญิงสาม ท่านกลับมาแล้วเหรอครับ? ฮือ ๆๆ! พวกเราถูกกลั่นแกล้ง!”
“อาจารย์เฮอร์สั่งให้นักเรียนแผนกเกษตรกรรมยืนด้วยมือข้างเดียวและเอาเท้าชี้ฟ้า! ถ้าพวกเราล้ม ก็จะถูกแส้ฟาดทันที! เขากำลังแก้แค้นแน่ ๆ!”
“เขายังบอกอีกว่าต่อให้ท่านเข้าคาบเรียน เขาก็กล้าจะทำแบบนี้!”
“เสี่ยวเถาที่อยู่ในคาบเรียนกับพวกเรา ร่างกายของเธอไม่ค่อยแข็งแรง ความแข็งแกร่งของเธอก็ย่ำแย่ จนถูกส่งตัวไปห้องพยาบาล ส่วนเขาเอาแต่สูบบุหรี่และปริปากพูดว่าเสี่ยวเถาไร้ประโยชน์ ไม่น่าเข้ามาเรียนเลย น่าจะร้องขอชีวิตไปอยู่ในสลัมซะ!”
…นักเรียนจากแผนกเกษตรกรรมกล่าวถึงทุกการกระทำอันเลวร้ายที่เฮอร์ได้ทำลงไปในวันนี้
“องค์หญิงสาม ท่านต้องขับไล่คนคนนี้ออกไปนะคะ! ไม่อย่างนั้นพวกเราคงหวาดกลัวเวลาเข้าเรียนวิชาสมรรถภาพทางกายแน่ ๆ!”
“พวกนายโง่กันหรือไง?” สวี่หลิงอวิ๋นส่ายหัวเล็กน้อย “โง่หรือเปล่า? อย่าทำตัวเป็นคนที่ถูกแก้แค้นแล้วไม่ตอบโต้สิ พวกนายไม่อยากให้เฮอร์ลิ้มรสความเจ็บปวดจากการแก้แค้นหรือไง?”
“ต้องการ!” แก้แค้นเหรอ? พวกเขาอยากทำอย่างนั้นมากเลยล่ะ!
“แต่รอก่อน ก่อนอื่นบ่ายนี้พวกเรามากินข้าวกันที่แผนกเกษตรกรรมเถอะ เรียกนักเรียนปีหนึ่งมาที่นี่ให้หมด แล้วมารอดูว่าเจ๊จะช่วยพวกเธอได้ยังไงบ้าง”
“ได้ครับ!” ความคิดขององค์หญิงสามน่าทึ่งชะมัด! พวกเขารู้สึกโล่งใจและเริ่มนึกถึงว่าเย็นนี้ “จะกินอะไรกันดี?”
“ก็ต้องเป็นบาร์บีคิวอยู่แล้ว! ทำไม้เสียบซะ! แล้วก็ซดเหล้าขาว!”
สวี่หลิงอวิ๋นต้มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นจำนวนมากสำหรับการทำเหล้าขาวชนิดนี้ อีกทั้งเธอยังค้นหาวิธีการจากหนังสือในจักรวาลจนสามารถกลั่นออกมาได้สำเร็จ!
วิธีการฝึกฝนพลังจิตวิญญาณส่วนใหญ่จะต้องทำจิตใจให้ปลอดโปร่งเสียก่อน เธอจึงค่อย ๆ หว่านเมล็ดพันธุ์ให้กับพวกเขาทีละนิด เพื่อที่เมล็ดพันธุ์พวกนี้จะสามารถเติบโตขึ้นมาทีละขั้นด้วยพลังจิตของพวกเขา นอกจากพวกเขาจะได้ฝึกฝนทักษะแล้ว ยังไม่ต้องกลับใช้การกระตุ้นเหมือนเมื่อก่อนอีกด้วย
ถึงเธอจะทำอะไรไม่ได้มาก แต่อย่างน้อยเธอก็สามารถช่วยให้พวกเขามีความแข็งแกร่งพอที่จะป้องกันตนเอง
รุยและนักเรียนจากกองบัญชาการกำลังพละกำลังนั่งอยู่ในห้องเรียน จ้องมองเฮอร์ที่ยังนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น โดยไม่พูดอะไรออกมา
“เขาเดินชนเองเหรอ? แค่เดินไปชนลู่วิ่งใช่ไหม? ทำไมตกอยู่ในอาการโคม่านานขนาดนี้?” รุยกล่าวออกมาอย่างขุ่นเคือง
“บางทีเขาอาจจะเหนื่อยล้าก็ได้!” ฉินหยวนจ้องมองเวลา “เอาล่ะ ใกล้เวลาแล้ว”
ถูกต้อง ใกล้จะเลิกเรียนแล้ว
สำหรับเฮอร์ที่อยู่บนพื้นน่ะเหรอ? นั่นคือใคร! เขาคืออาจารย์ แต่พวกเขาคือเด็กนักเรียนและไม่ใช่พนักงานในห้องพยาบาล พวกเขาจึงไม่รู้วิธีการช่วยเหลือ
อาจารย์ ท่านโปรดดูแลตัวและโชคดีนะครับ!
พวกเขาถอนหายใจและมองดูท้องฟ้าด้านนอกทันทีที่ก้าวออกมาจากห้องเรียนวิชาสมรรถภาพทางกาย ท้องฟ้าด้านนอกยังคงเป็นสีฟ้า ไร้ร่องรอยการบดบังของเมฆ ราวกับคนที่ไม่มีเรื่องทุกข์ใจ
พวกเขาเริ่มปวดหัวอีกครั้งเมื่อนึกถึงคาบวิชาสมรรถภาพทางกายในวันพรุ่งนี้
เมื่อไหร่หัวหน้าจะกลับมา! กลับมาเร็ว ๆ สักที!
ถ้าเกิดเธอไม่กลับมา เปลวไฟแห่งการต่อสู้ของพวกเขาคงจะมอดไหม้แม้ว่าพวกเขาเป็นนักเรียนจากกองบัญชาการกำลังพลก็ตาม!
“เร็วเข้า! เจ้าพวกซื่อบื้อ องค์หญิงสามบอกว่าเย็นนี้ให้มากินบาร์บีคิวกับซดเหล้าขาวที่แผนกเกษตรกรรม!” พวกเขากำลังยืนเหม่อลอยอยู่ด้านนอกห้องวิชาสมรรถภาพทางกาย ก่อนจะถูกนักเรียนจากหน่วยรบพิเศษดึงสติออกมา และวิ่งจากไป
ร้องตะโกนบอกข่าวดีขณะวิ่งไปมา
“อะไรนะ? หัวหน้ากลับมาแล้วเหรอ?” นักเรียนจากกองบัญชาการกำลังพลรู้สึกตื่นเต้น! ก่อนที่จะเร่งฝีเท้าให้รวดเร็วกว่าหน่วยรบพิเศษด้วยการกระโดดไปข้างด้วยสองถึงสามก้าวเท่านั้น
ฉินหยวนและลุคได้พบกันอีกครั้ง
“นายก็รู้สึกโชคดีใช่ไหม?” ฉินหยวนถามเขาด้วยรอยยิ้ม