ตอนที่ 208 โบยบินกันเลย เจ้าหนู! 2
“แน่นอน”
หากพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับเรื่องนี้ พวกเขาจะสามารถจัดการองค์หญิงสามได้อย่างไร? ว่ากันตามตรง ตอนนี้สถานภาพของนักเรียนชั้นปีหนึ่งสูงส่งมาก นอกจากเฮอร์ผู้ไร้สมองที่ยังคงกล้าพูดแบบนี้กับนักเรียนชั้นปีที่หนึ่งแล้ว ยังจะมีใครหน้าไหนที่ไม่ทำดีกับพวกเขาอีก?
“พอมาคิดดูตอนนี้ พวกเรารู้สึกวางใจเหลือเกินที่มีหัวหน้าอย่างองค์หญิงสาม” ไม่มีหัวหน้าคนไหนที่สามารถมอบความรู้สึกเช่นนี้ให้กับพวกเขาได้
รู้สึกปลอดภัยเป็นอย่างมาก…
ราวกับว่าต่อให้ตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายที่มีดาบลอยอยู่เหนือศีรษะ แต่ทันทีที่คุณเห็นเธอ คุณจะรู้สึกหลุดพ้นจากปัญหาและประสบความสำเร็จ
เมื่อทั้งสองแผนกมาถึงแผนกเกษตรกรรม นักเรียนชั้นปีที่หนึ่งก็ได้รวมตัวกันอีกครั้ง!
ช่างดูมีชีวิตชีวาเหลือเกิน! นักเรียนแต่ละคนแบ่งหน้าที่กันชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการล้างเนื้อ หั่นเนื้อและปรุงรส พวกเขาก็ไม่ได้กล่าวอะไร ก่อนจะเดินตรงดิ่งไปที่อสุรกายหุ้มเกราะขนาดมหึมา
ทั้งหมดนี้เป็นงานของกองบัญชาการ กองกำลังพล และหน่วยรบพิเศษ จะไม่มีใครมาแย่งหน้าที่พวกเขา
ทันทีที่เนื้อถูกวางบนตะแกรง ทุกคนก็ได้กลิ่นหอมของเนื้อย่างยี่หร่าที่หอมอบอวลไปทั่วทั้งวิทยาเขต
แม้แต่นักเรียนชั้นอื่นก็ยังได้กลิ่นหอมนี้ ไม่ต้องกล่าวอะไร พวกเขาก็รู้ว่าตอนนี้องค์หญิงได้กลับมาแล้ว
ถ้าเป็นเมื่อก่อน พวกเขาคงจะรู้สึกเกรงใจและขายขี้หน้าหากต้องเดินไปเว้าวอนถึงหน้าประตู ทว่าตอนนี้… ตั้งแต่เกิดเรื่องกับนักเรียนชั้นปีสอง ถึงแม้ว่านักเรียนชั้นปีอื่นจะไม่ได้กล่าวซ้ำเติม แต่พวกเขาก็ไม่ได้กล่าวชื่นชมนักเรียนชั้นปีหนึ่งเช่นกัน เพียงรู้สึกตื่นตระหนกทุกครั้งที่เห็นนักเรียนชั้นปีหนึ่ง
ไม่ว่าจะเป็นทางอ้อม หรือทางตรงก็แล้วแต่
นักเรียนชั้นปีหนึ่งทั้งหลายไม่แม้แต่จะปรายตามองพวกเขา และไม่ได้สนใจพวกเขาเลยด้วยซ้ำ!
แต่พวกเขากลับไม่สามารถตำหนิคนเหล่านั้นได้ เพราะบางครั้งคณบดีก็แอบเรียกหัวหน้าทั้งหลายเข้าไปรวมตัวกัน เพื่อบอกพวกเขาให้คอยช่วยเหลือและอย่ารังแกนักเรียนชั้นปีหนึ่ง
พวกเขาต้องไม่กล่าวทักทาย และไม่ต่อสู้
หากพวกเขากลั่นแกล้งนักเรียนชั้นปีหนึ่งอีกครั้ง พวกเขาจะกลายเป็นนักโทษทันที เพราะทำให้องค์หญิงสามถูกไล่ออกจากสถาบันการศึกษาทางการทหารของจักรวรรดิ
ฮึ่ม! จะมีนักเรียนชั้นไหนที่ต้องทนทุกข์ทรมานเท่าพวกเขาอีก! บัดซบ!
นักเรียนชั้นปีสี่ที่เคยลิ้มลองฝีมือการทำอาหารขององค์หญิงสามเริ่มน้ำลายไหลออกมาจากปากทันทีที่ได้กลิ่นหอมอบอวล และเริ่มรู้สึกว่าทนอยู่ไม่ไหวแล้ว จะต้องรีบหนีไปจากที่นี่!
นักเรียนชั้นปีสี่วิ่งออกไปจากวิทยาเขต ตราบใดที่พวกเขาอยู่ห่างจากที่นี่ อย่างน้อยก็ยังไปหาซื้อเอเลี่ยนปลาหมึกกระป๋องได้! ปลาหมึกกระป๋องก็อร่อยเหมือนกัน! รวมทั้งหม้อไฟด้วย!
ความเพลิดเพลินที่สุดของบาร์บีคิวคือการย่างระหว่างกิน ทุกคนนั่งลงและเริ่มบทสนทนา นอกจากนี้องค์หญิงสามยังจัดเตรียมเครื่องดื่มเหล้าขาวสุดแสนร้อนแรงให้กับพวกเขาด้วย
“เหล้าคือแก่นแท้ของธัญพืช ยิ่งดื่มมากเท่าไหร่ก็ยิ่งอ่อนวัยมากเท่านั้น!” สวี่หลิงอวิ๋นยกแก้วเหล้าขาวขึ้นมากระดก ก่อนจะคว่ำแก้วต่อหน้าทุกคน “เป็นเด็กดีแล้วยกซดให้หมดแก้วซะ! จะต้องไม่มีใครเหลือทิ้ง!”
เมื่อนักเรียนชั้นปีหนึ่งนับกว่าหนึ่งหมื่นคนได้ยินคำพูดดังกล่าว พวกเขาก็ฮึกเหิมขึ้นและเลียนแบบการกระทำขององค์หญิงสามทันที ด้วยการดื่มเหล้าขาวภายในคราวเดียว
“ฉัน! ซี้ด! ร้อนแรงมาก!” นักเรียนทั้งหลายถูกกระตุ้นทันทีเมื่อลิ้มลองเหล้าขาวนี้เป็นครั้งแรก ของเหลวเยือกเย็นกำลังไหลเวียนในท้องของพวกเขา ทำให้ท้องของพวกเขา ‘โลดเต้นไปมา’ ราวกับกำลังถูกไฟไหม้ และเริ่มวิงเวียนศีรษะทันทีที่ขาดแอลกอฮอล์
“ของอันนี้คืออะไรครับ? ทรงพลังมาก!” ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกวิงเวียนศีรษะ แต่จิตใจของพวกเขากลับผ่อนคลายลง
เดิมทีใบหน้าของแต่ละคนดูเคร่งขรึมนัก ทว่าความกังวลบนใบหน้ากลับแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มกรุ่มกริ่ม เมื่อลองกินบาร์บีคิวสองไม้ อะไรกัน! ความร้อนแรงนั้นหายไปแล้ว! ฮือ ๆๆ! พอดื่มเหล้าขาวกับบาร์บีคิวแล้วอร่อยชะมัดยาดเลย!
สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่ที่นี่ไม่มีเบียร์ เบียร์กับบาร์บีคิวเป็นคู่แห่งความสมบูรณ์แบบที่สุด!
“ถ้าคิดว่าเป็นมิตรสหายก็ดื่มหมดแก้ว ถ้าไม่สนิทกันมากก็จิบนิดหน่อย ถ้ารู้สึกมากก็อย่าหยุดดื่ม ถ้ารู้สึกน้อยก็อย่าดื่มเลย แต่ถ้ารู้สึกแน่นแฟ้นก็ดื่มจนตายไปข้าง!” สวี่หลิงอวิ๋นยิ้มและหยิบแก้วที่สองขึ้นมา!
นี่คือแก้วกระดาษที่ใช้แล้วทิ้งเหมือนกับชาติที่แล้ว!
สวี่หลิงอวิ๋นยิ้มขณะจ้องมองผู้คนข้างล่างหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุข
พวกเขาที่กำลังกินบาร์บีคิวได้ยินคำพูดขององค์หญิงสาม อะไรนะ! ดื่มอีกแล้ว!
หากดื่มน้อยเกินไป นั่นก็หมายความว่าความสัมพันธ์ของพวกเขากับหัวหน้าไม่แน่นแฟ้นกันใช่ไหม?! เด็กน้อยผู้น่าสงสารจากห้วงดวงดาวจะไปเรียนรู้วัฒนธรรมการ ‘ดื่มแอลกอฮอล์’ แบบนี้มาจากที่ไหน? แต่ในเมื่อองค์หญิงสามบอกให้พวกเขาดื่ม พวกเขาก็จะดื่ม!
ไม่มีความหวั่นเกรง!
แอลกอฮอล์แก้วที่สองก็ตามมาในทันที
นักดื่มตัวน้อยล้มลงกับพื้น หัวเราะคิกคักและผล็อยหลับไป
บางคนเริ่มพูดเรื่องไร้สาระ และบันทึกวิดีโอส่งเสียง ‘ฮิฮิ’ ด้วยอาการมึนเมาเล็กน้อย อย่างไรก็ตามอาการนี้กลับไม่ได้เล็กน้อยอีกต่อไป เมื่อถูกองค์หญิงสามเชื้อเชิญให้ดื่มแอลกอฮอล์แก้วที่สาม
“แก้วหนึ่งแก้วสองก็แค่ล้างปาก แก้วสามแก้วสี่ไม่เรียกว่าดื่ม แก้วห้าแก้วหกเดินชนกำแพง แก้วเจ็ดแก้วแปดส่งเสียงคำราม! มาล่ะ! มาดื่มแก้วนี้กันเถอะ! แด่มิตรภาพที่ดีของเรา!”
อีกครั้งที่สวี่หลิงอวิ๋นเป็นผู้ริเริ่มดื่มแอลกอฮอล์อีกแก้ว
ผู้คนจำนวนครึ่งหนึ่งที่ยืนอยู่มีสีหน้าแดงก่ำ หัวเราะเสียงดัง ‘ฮิฮิ’ และดื่มแอลกอฮอล์อีกแก้ว
ไม่เลว! สวี่หลิงอวิ๋นจ้องมองนักเรียนจำนวนกว่าครึ่งหนึ่งล้มลงไปกองกับพื้นด้วยระยะเวลาน้อยกว่าสิบนาที
ส่วนอีกครึ่งหนึ่งดูเหมือนอยู่ยืน แต่พวกเขากลับหัวสั่นเทาด้วยการหัวเราะเท่านั้น
“เอาล่ะ! มาเริ่มกันเลย!” สวี่หลิงอวิ๋นโยนแก้วเหล้าในมือของเธอทิ้ง และใช้พลังจิตบุกรุกเข้าไปยังหัวสมองคนนับร้อยคนที่ยืนอยู่ด้านข้างเธอ
มันสมองของมนุษย์เป็นแหล่งกำเนิดพลังจิต และมันค่อนข้างยากที่สวี่หลิงอวิ๋นต้องควบคุมพลังจิตนับร้อยด้วยตนเอง
สิ่งที่ยอดเยี่ยมคือเมล็ดพันธุ์ควบคุมพลังจิตนี้ค่อนข้างดี เพียงแต่ต้องทิ้งรอยประทับเอาไว้ในคลื่นพลังจิตของพวกเขา
รอยประทับพลังจิตเหล่านี้เปรียบดั่งเมล็ดพันธุ์ นักเรียนทั้งหลายสามารถพึ่งพารอยประทับอันนี้เพื่อพัฒนาพลังจิตของพวกเขา ขยายแผ่เป็นวงกว้างและเติบโตขึ้นได้ด้วยตัวของพวกเขาเอง
“ดีที่มันไม่ยากเท่าไหร่” สวี่หลิงอวิ๋นดึงพลังจิตของเธอกลับมาจากมันสมองของนักเรียนจำนวนนับร้อยกว่าคน ก่อนจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“หวังว่าคืนนี้ฉันจะแก้ไขเมล็ดพันธุ์ของนักเรียนทั้งหมดจนเสร็จสิ้นนะ”
ทว่ามันกลับไม่ง่ายเช่นนั้น!
หลังจากจัดการนักเรียนนับพันกว่าคน เธอก็นั่งลงเพื่อพักผ่อนเอาแรง ทันใดนั้นเอง เธอก็พบว่าพลังจิตของเธอกำลังเติบโตขึ้นอย่างบ้าคลั่ง หลังจากฝั่งเมล็ดพันธุ์ให้กับนักเรียนเหล่านี้?
เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะคิดอะไรบางอย่างออก
มันคงเป็นเช่นเดียวกับรูปแบบการดำเนินธุรกิจขนาดเล็กในชาติก่อน ตัวแทนหลักลำดับหนึ่งจะอยู่สูงสุด หลังจากนั้นตัวแทนหลักจะมองหาตัวแทนย่อย ซึ่งเรียกกันว่าตัวแทนลำดับสอง ทุกครั้งที่ตัวแทนย่อยสามารถขายสินค้าได้ ตัวแทนย่อยจะได้รับตอบแทนจากการขายสามสิบเปอร์เซ็นต์ ส่วนตัวแทนหลักจะได้กำไรจากการขายของตัวแทนย่อยสิบเปอร์เซ็นต์
รวมถึงอื่น ๆ
สวี่หลิงอวิ๋นเป็นตัวแทนหลัก หลังจากเธอสร้างรอยประทับให้กับนักเรียนทั้งหลายแล้ว ทุกครั้งที่พลังจิตของนักเรียนเหล่านี้พัฒนาเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ พลังจิตของเธอก็จะเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับด้วยเช่นกัน