ตอนที่ 224 มุ่งสู่ดาวเคราะห์หทัยกล้วยไม้ 2
โอคาซีจ้องมองเธออย่างทำอะไรไม่ถูก…
ชายหนุ่มแอบรู้สึกหดหู่ในใจ และนั่นทำให้เขาเริ่มดูหมิ่นตัวเอง เขากำลังคิดอะไรอยู่! เธอยังเรียนอยู่ แล้วจะทำ…
สวี่หลิงอวิ๋นปิดปากของเธอขณะอมยิ้มอย่างมีความสุข ดวงตาของเธอฉายแววแกมหยอกล้อ ทำไมแฟนหนุ่มของเธอถึงได้น่ารักขนาดนี้?!
“ฉันหมายถึงฉันอยากจะสัมผัสกล้ามหน้าท้องของท่านน่ะค่ะ!” สวี่หลิงอวิ๋นกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
ก่อนจะขบเม้มติ่งหูของเขาเบา ๆ
เธอรู้สึกได้ชัดเจนว่าชายผู้นี้กำลังสั่นเทา ก่อนจะจับมือเธอแน่น กัดฟันและกล่าวว่า “ท่านรู้ไหมว่าท่านกำลังทำอะไรอยู่?!”
ท่านกำลังเล่นกับไฟ!
สวี่หลิงอวิ๋นแลบลิ้นเลียโดยไม่หยุดหยอกล้อเขา!
ทั้งสองจับมือกันและเดินไปที่ฐานทัพ!
ทหารที่รออยู่ในยานอวกาศถอนหายใจอย่างโล่งอกหลังจากรออยู่ด้านในเป็นเวลานาน ผู้สูงส่งทั้งสองคนกำลังจูบตอบกันอยู่ด้านข้างพวกเขา จนทั้งหมดไม่รู้ว่าควรจะมองไปทางไหน เพราะเกรงว่าจะไปเห็นในสิ่งที่ไม่ควรเห็นเข้า
ท่านพลเอกโอคาซีที่แสนเย็นชาของพวกเขาช่างมีความรุ่มร้อนที่ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ
เมื่อเห็นมือที่กำเอวขององค์หญิงสามไว้แน่น ดวงตาที่ดูไม่แยแสก็มลายหายไป!
แต่ยังคงหลงเหลือความเย็นชาอยู่เล็กน้อย!
มีคนกล่าวไว้ว่าผู้ชายที่ดูเย็นชามักจะมีความรุ่มร้อนมากกว่าผู้ชายที่โรแมนติก!
เมื่อทั้งสองมาถึงฐานทัพ เจ้าหน้าที่ประจำฐานทัพก็รีบอธิบายเหตุการณ์ปัจจุบันให้พวกเขาคร่าว ๆ
“…พวกเราสังเกตเห็นว่าไร่อ้อยพวกนั้นผิดปกติ แต่ไม่รู้ว่ามันคือไร่อ้อยหรือเปล่าพ่ะย่ะค่ะ เอเลี่ยนเกอหลัวไม่ยอมให้พวกเราเข้าไปใกล้เลย”
ตอนนี้เจ้าถั่วชมพูอยู่ในระดับ 9 ดาว เอเลี่ยนเกอหลัวทั้งหลายจึงกล้าหาญอย่างสุดขีด และตอนนี้ยังเรียนรู้การสั่งอาหาร!
นอกจากนี้ถั่วชมพูยังเรียนรู้วิธีการใช้คอมพิวเตอร์ปัญญาประดิษฐ์ที่พวกเขานำติดตัวมาอีกด้วย ทุกวันนี้มันใช้เครื่องคอมพิวเตอร์โทรหาพวกเขาเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน เพื่อขออาหารหรือสั่งให้พวกเขาทำอาหาร
พ่อครัวถึงกับบ่นครั้งแล้วครั้งเล่า!
เจ้าถั่วชมพูกินอาหารเท่ากับนายทหารจำนวนยี่สิบคนในหนึ่งวัน เอเลี่ยนเกอหลัวตัวอื่นกินน้อยกว่านี้ แต่เอเลี่ยนเกอหลัวจำนวนห้าร้อยตัวสามารถกินส่วนของทหารจำนวนห้าพันคนในหนึ่งวันได้!
ด้วยจำนวนที่มากเช่นนี้ พวกมันจึงเรียกร้องอาหารจากพวกเขาทุกวัน และทำให้ผู้คนที่อยู่บนดาวเคราะห์สงสัยว่าพวกมันไม่ได้ลักขโมยอาหารใช่หรือไม่!
ฐานทัพไหนบ้างที่มีทหารประจำอยู่หนึ่งร้อยนาย แต่ขออาหารเป็นจำนวนเกือบหกพันนายทุกวัน?! นี่ไม่ใช่การขโมยอาหารหรือไง?
แต่ก่อนเอเลี่ยนเกอหลัวจะออกไปล่าด้วยตัวมันเอง ไล่ต้อนกลุ่มเอเลี่ยนเข้ามาฆ่า และให้พ่อครัวทำอาหารให้พวกมัน
แล้วตอนนี้ล่ะ?! แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับเอเลี่ยนเกอหลัวที่เอาแต่นอนทั้งวัน และการออกไปล่าเหยื่อด้วยตนเองก็เป็นไปไม่ได้เช่นกัน!
เอาแต่ขี้เกียจอยู่ในบ้าน! รู้เพียงแต่การนอนอาบแดดอยู่ในไร่อ้อย!
สวี่หลิงอวิ๋นลูบคาง ถั่วชมพูเลื่อนขั้นไปเป็น 9 ดาวได้อย่างไร?!
ผลผลิตของตั๊กแตนลดลงอย่างมาก อันเนื่องมาจากการอู้งานของเอเลี่ยนเกอหลัว!
เนื้อบริเวณท่อนขาของตั๊กแตนค่อนข้างละมุ่น เป็นที่นิยมมากในหมู่ประชากรของจักรวรรดิชิงเหย้า อาหารที่ทอดตามสูตรขององค์หญิงสามนั้นอร่อยมากและเป็นของที่นักกินไม่ควรพลาด!
จำนวนเอเลี่ยนตั๊กแตนบนดาวเคราะห์หทัยกล้วยไม้เหลือน้อยลงเป็นอย่างมาก รัฐมนตรีนิโคลถึงกับออกคำสั่งเป็นพิเศษว่าหากกองทัพทหารพบเข้ากับเอเลี่ยนตั๊กแตน จะต้องส่งตั๊กแตนกลับมาที่จักรวรรดิโดยด่วนที่สุด และตั๊กแตนหนึ่งตัวจะมีค่าธรรมเนียมเท่ากับหนึ่งร้อยเหรียญดวงดาว
ทำให้กองทัพทหารทั้งหลายรู้สึกตื่นเต้น
ตั๊กแตนไม่ใช่เอเลี่ยนระดับสูง และสามารถจับได้ง่าย! นอกจากนี้ต่อให้ได้รับเงินหรือไม่ก็ไม่สำคัญ เพราะอย่างน้อยก็ได้ฝึกความว่องไวของทหาร!
สำหรับเหล่าเอเลี่ยนปลาหมึก เอเลี่ยนต๋าหลู่ เอเลี่ยนลำไส้ อสุรกายเขี้ยวยักษ์และอื่น ๆ เป็นต้น เอเลี่ยนพวกนี้ล้วนเป็นตัวเลือกแรกของกองทัพ
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ชอบเอเลี่ยนลำไส้กับอสุรกายเขี้ยวยักษ์ แต่พวกเขากลับทนเห็นยอดเงินจากการเต็มใจจะซื้อขององค์หญิงสามไม่ไหว พวกเขาจึงต้องก้มศีรษะยอมรับความอัปยศอดสูเพื่อเงินจำนวนนั้น
โชคดีที่มีแขนกลคอยทำความสะอาด และพวกเขาไม่จำเป็นต้องกินมันเข้าไป…!
พวกเขาเคยคิดว่าองค์หญิงสามช่างเป็นคนที่แปลกประหลาดนัก ไม่มีใครต้องการกุนเชียงเหล่านี้ แต่ทำไมองค์หญิงสามถึงเอาแต่ทำมันอยู่เรื่อยไป พวกเขาไม่อาจรู้ได้ จนกระทั่งพบกับเอเลี่ยนเกอหลัว
หากพวกเขาสามารถแลกเปลี่ยนลำไส้พวกนี้กับความไว้วางใจของสิ่งมีชีวิตระดับ 8 ดาวได้ พวกเขาก็เต็มใจจะลงมือทำ!
“เอาล่ะ ฉันกับพลเอกโอคาซีจะไปดูที่ไร่อ้อยก่อน”
สวี่หลิงอวิ๋นมองดูข้อมูลเป็นเวลานาน นอกจากจะเข้าใจส่วนหนึ่งแล้ว คำนามบางคำค่อนข้างเข้าใจได้ง่าย ส่วนที่เหลือล้วนเหมือนกับหนังสือที่เข้าใจยาก ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาพวกนี้ เทคโนโลยี…พวกนี้คือบ้าอะไรกัน?!
ช่างมันเถอะ ไม่อ่านแล้ว! นี่คือการรังแกคนที่เรียนห่วยแตกชัด ๆ!
อันที่จริงชาติที่แล้ว เธอเป็นถึงเด็กนักเรียนทุนผู้เก่งกาจ แต่…เจ้าของร่างนี้กลับไม่ชอบเรียนรู้เอาเสียเลย ระดับการศึกษาของเธอจึงเทียบเท่าได้กับนักเรียนชั้นมัธยมต้นของที่นี่!
เพราะฉะนั้น…เธอจะเข้าใจข้อมูลพวกนี้ได้อย่างไร?!
โอคาซีลูบศีรษะของเธอ “ถ้าไม่เข้าใจก็ไม่ต้องอ่านหรอกครับ พวกเราไป…” ดูไร่อ้อยกันไม่ดีกว่าเหรอ?
แต่ก่อนที่เขาจะได้กล่าวคำเหล่านั้นออกไป สวี่หลิงอวิ๋นที่อับอายจนรู้สึกขุ่นเคืองก็รีบเดินกระทืบเท้าจากไป
“เฮอะ! ใครไม่เข้าใจกันแน่?? ฮึ่ม!” ต่อให้ฉันเป็นหญิงแกร่งแต่ก็ควรไว้หน้ากันบ้างไม่ใช่หรือไง?!
ท่านมันซื่อบื้อเสียจริง!
โอคาซีตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะรู้สึกตัว และรีบเดินตามแฟนสาวของเขาออกไปทันที
และได้แต่ร้องขอความเมตตาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“ผมไม่ได้บอกว่าท่านไม่เข้าใจ…” โอคาซีไม่เคยตามง้อผู้หญิงมาก่อนเลยในชีวิต และวิธีการง้อของเขาค่อนข้างตรงไปตรงมา
“แล้วท่านหมายความว่ายังไงคะ?!” ความจริงแล้ว สวี่หลิงอวิ๋นไม่ได้โกรธเคืองขนาดนั้น เพียงแต่จงใจแสร้งทำและอยากรู้ว่าแฟนหนุ่มจะมีปฏิกิริยาอย่างไร
คิ้วของโอคาซีขมวดเข้าหากันจนเกิดเป็นปม ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวลว่า ‘ฉันจะง้อแฟนยังไงดี’
เขาขยี้ผมยาวสลวยของเธอ “ขอโทษ ผมแค่ไม่ชอบเห็นท่านขมวดคิ้ว”
บัดซบ! ไอ้หมอนี่บอกรักออกมาตามใจชอบเฉย!
สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกราวกับว่าเธอถูกลูกศรแห่งความรักของกามเทพยิงใส่ ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงทันทีที่ถูกคำว่ารักของชายผู้นี้ตะเบ็งใส่หน้า!
ผู้ชายที่ดูแข็งกร้าวก็ปากหวานเป็นเหมือนกัน!
สวี่หลิงอวิ๋นก้มศีรษะลง กระแอมเบา ๆ และกล่าวว่า “ช่างเถอะค่ะ ฉันให้อภัยท่านแล้ว!”
โอเคซีถอนหายใจอย่างโล่งอก
ทั้งสองคนจับมือกันขึ้นไปบนยานอวกาศและมุ่งหน้าไปทางไร่อ้อย
ตั้งแต่ถั่วชมพูเลื่อนขั้นเป็นระดับ 9 ดาว มันก็กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่เกียจคร้านในทันที ทุกวันมันจะนอนแผ่อยู่ในไร่อ้อยและลิ้มลองรสชาติของอ้อยเป็นระยะ ๆ หรือนอนดูละครโทรทัศน์และภาพยนตร์ในคอมพิวเตอร์ปัญญาประดิษฐ์ ช่างมีความสุขอะไรเช่นนี้…
แต่เมื่อไม่นานมานี้ ถั่วชมพูค้นพบว่าระดับพลังงานในต้นอ้อยมีจำนวนลดลง! มันเป็นไปได้อย่างไร?
ถึงมันจะเป็นเอเลี่ยนที่มีสติปัญญาขั้นสูง แต่เรื่องนี้ก็ยังคงเป็นเรื่องยากสำหรับมัน
ดังนั้นมันจึงต้องเรียนรู้อย่างหนัก เพื่อที่มันจะได้ไม่โดนหลอกหรือไม่รู้ข้อมูล
เมื่อสวี่หลิงอวิ๋นมาถึง ถั่วชมพูได้กลิ่นลอยเข้ามาในจมูกของมัน!
ความก้าวหน้าครั้งยิ่งใหญ่ทางพลังจิตเกิดขึ้นจากการสนับสนุนของสวี่หลิงอวิ๋น เมื่อในเห็นว่าสวี่หลิงอวิ๋นมาถึง มันจึงออกไปทักทายด้วยตัวมันเอง