ตอนที่ 240 ลูกพี่ลูกน้องลงชื่อเข้าร่วมการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่ 11
ตอนที่ 240 ลูกพี่ลูกน้องลงชื่อเข้าร่วมการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่ 11
ไม่จำเป็นต้องส่งเสียงบอก ทุกคนก็พร้อมใจกันยกแก้วน้ำขึ้นมาอย่างตื่นเต้น ปลื้มปริ่มจนน้ำตาแทบไหล!
ความหวานแบบนี้!
รสชาติแบบนี้!
มันสุดยอดไปเลย…!
ต่อมรับรสชาติของทุกคนได้รับการกระตุ้นจากน้ำหวานในแก้ว ราวกับพวกเขากำลังฝันไป ถูแก้วน้ำหวานในมือด้วยดวงตาที่เป็นประกาย
“หอมหวานเหลือเกิน!” พวกเขาหมกมุ่นอยู่กับการจิบน้ำหวาน และรู้สึกว่าตนเองสามารถจบชีวิตลงได้ในทันที
“แด่ท่านคณบดีพูลแมน!”
คณบดีจากจักรวรรดิเอเดนเป็นคนแรกที่ลุกขึ้นยืนและร้องตะโกน
คนที่เหลือตื่นขึ้นมาจากภวังค์ ลุกขึ้นยืนทีละคน ยกแก้วน้ำส่งเสียงให้คณบดีเช่นกัน
“แด่ท่านคณบดีพูลแมน”
เป็นพวกเขาเองที่ใจแคบ! ทั้งที่คณบดีใจกว้างขนาดนี้ แต่พวกเขาก็ยังไม่พอใจที่คณบดีพูลแมนไม่พาพวกเขาไปที่โรงแรมสุดหรู มันช่างน่าละอายเหลือเกิน!
แต่น้ำหวานแก้วนี้สามารถทำให้โรงแรมสุดหรูอับอายได้!
พวกเขาดื่มน้ำหวานที่ไม่อาจประเมินค่าได้ และมองดูเค้กที่อยู่ตรงกลางโต๊ะ ก่อนจะครุ่นคิดในใจ สถาบันการศึกษาทางการทหารของจักรวรรดิชิงเหย้าจะต้องได้รับเงินทุนสนับสนุนอย่างล้นหลามใช่ไหม? หรือว่าจักรวรรดิชิงเหย้าจะทรงอิทธิพลจริง ๆ?
หากย้ายมาที่สถาบันแห่งนี้ ไม่รู้ว่าจักรวรรดิชิงเหย้าจะยอมรับเขาไหม?
ไม่ต้องเป็นถึงคณบดี แต่เป็นเพียงอาจารย์ธรรมดาก็ได้!
ไม่ใช่เพื่ออะไรอื่น แต่เพื่อน้ำหวานและเค้กก้อนนี้!
สายตาของทุกคนเปลี่ยนไป ขณะที่คณบดีพูลแมนยกยิ้มอย่างพึงพอใจ
“ไม่ต้องขอบคุณผมหรอกครับ ถ้าพวกคุณอยากจะขอบคุณใครสักคน ก็ขอบคุณฝ่าบาทเถอะครับ!” คณบดีพูลแมนกล่าวออกมาอย่างเฉยเมย แต่อันที่จริงเขารู้สึกภาคภูมิใจมาก
การมีน้ำตาลไว้ครอบครองก็เปรียบเสมือนกับจักรวรรดิมีสิ่งของล้ำค่า จักรพรรดิและองค์หญิงสามเป็นคนซื้อน้ำหวานและเค้กเหล่านี้เอาไว้ และทั้งหมดเป็นงบประมาณจากการคลัง
รัฐมนตรีนิโคลใจกว้างและเห็นดีงามกับค่าใช้จ่ายการสนับสนุนดังกล่าว
การอวดความมั่งคั่งของจักรวรรดิเป็นที่ชื่นชอบของรัฐมนตรีการคลังทุกคน
“ทุกท่าน เริ่มทานกันเถอะครับ!”
ไม่มีสำนวนใดจะสมบูรณ์แบบไปกว่ารสชาติของอาหาร ไม่มีคำสรรเสริญใดจะจริงใจไปกว่าการได้รับการยอมรับจากผู้อื่น
คณบดีพูลแมนคิดว่าทุกคนจะเริ่มรับประทานเค้กเป็นอย่างแรก แต่เขากลับรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นว่าทุกคนเมินเค้กที่อยู่ด้านหน้า และเริ่มกินหมูสามชั้นผัดซอสแดงเป็นอย่างแรก
“อืม! หอมละมุนอร่อยมาก! มันไม่มีความมันเลย แถมรสชาตินุ่มละมุนแปลก ๆ!” เจ้าหน้าที่ทั้งหลายจะไปเคยลิ้มลองรสชาติอาหารแบบนี้ได้ที่ไหนกัน? แต่พวกเขากลับต้องรู้สึกทึ่งเมื่อได้ลิ้มลองรสชาติของหมูสามชั้นผัดซอสแดง
“เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม!”
“ผมว่าเนื้อสันในต้มก็อร่อยดีเหมือนกัน! ทั้งเผ็ดทั้งหอม! แสบร้อนจนรู้สึกสดชื่น!” ความเผ็ดนี้แสบร้อนลงไปในคอ แสบร้อนจนไปถึงท้อง แสบร้อยจนถึงหน้าผาก!
สุขกายสบายใจเหลือเกิน!
ถึงหยาดเหงื่อจะท่วมตัวแต่ก็ยังไม่ยอมแพ้! แม้ปากจะแสบร้อนจนชา แต่พวกเขากลับไม่ยอมวางตะเกียบลง!
“ปลาผัดซอสแดงก็อร่อยเหมือนกันนะ!”
“ส่วนซี่โครงหมูเปรี้ยวหวาน! ก็ทั้งหวานทั้งเปรี้ยว! เนื้อสัตว์ก็มาเอามาปรุงรสแบบนี้ได้เหมือนกันแฮะ!” เมื่อประชากรผู้เสพติดของหวานจากห้วงดวงดาวได้ลิ้มลองรสชาติของซี่โครงหมูเปรี้ยวหวาน ดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้างขึ้น และใช้ตะเกียบคีบอาหารมาใส่ถ้วยของพวกเขา
“อร่อยมาก!”
“ผัดมะเขือจานนี้ก็อร่อยนะ! ไม่คิดเลยว่ามะเขือม่วงจะเอามาทำได้ขนาดนี้?”
“ว้าว ว้าว ว้าว! ผมชอบบาร์บีคิวอันนี้! แต่รสชาติแปลก ๆ นี้คืออะไร?!” นอกจากซี่โครงหมูเปรี้ยวหวานแล้ว หัวหน้าหนุ่มชอบบาร์บีคิวอันนี้ที่สุด
กลิ่นของยี่หร่าทำให้พวกเขาอดใจไม่ไหว มันช่างมีกลิ่นหอมนัก!
แต่กลับไม่มีใครกินปลาหมึกที่วางอยู่บนโต๊ะ
ยกเว้นนักเรียนในจักรวรรดิชิงเหย้า
นักเรียนเหล่านั้นริเริ่มเอื้อมมือออกไปคว้ามัน! ขณะจ้องมองผู้คนรอบข้างอย่างระวังตัว และเริ่มนับจำนวน เพราะเกรงกลัวว่าคนอื่นจะกินเพิ่มอีกสองชิ้นแล้วตนเองจะได้กินน้อยลง
ทั้งที่พวกเขาดื่มด่ำกับรสชาติปลาหมึกเสร็จแล้ว แต่หัวหน้าจากโต๊ะอื่น ๆ ที่มาจากกาแล็กซีอื่นยังไม่แม้แต่จะเอื้อมมือออกไปแตะปลาหมึก
“อยากจะไปเอาปลาหมึกจากโต๊ะด้านข้างมาจัง!” ถึงแม้ว่าท้องของเขาจะป่องเต็มที่แล้ว แต่เขาก็ยังอยากจะกินต่อ
นักเรียนจากสถาบันการศึกษาทางการทหารของดาวเคราะห์ซาร่าที่อยู่ภายใต้การปกครองจักรวรรดิชิงเหย้าพูดคุยและตัดสินใจลงมือทำ
เขาเดินไปที่โต๊ะอาหารของหัวหน้าจากจักรวรรดิเอเดนและกระแอมเบา ๆ
หัวหน้าจำนวนสิบคนจากจักรวรรดิเอเดนหันกลับมามองและพบกับนักเรียนจากจักรวรรดิชิงเหย้า!
“หวัดดี พวกเราเป็นนักเรียนจากสถาบันการทหารซาร่าของจักรวรรดิชิงเหย้า” หลังจากที่นักเรียนสองสามคนแนะนำตัวเอง และเห็นว่านักเรียนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามพยักหน้าเล็กน้อย เขาก็เริ่มกล่าวออกไปอย่างเขินอาย
“เอ่อ คือเราเห็นว่าบนโต๊ะพวกนายไม่มีใครกินปลาหมึกเลย ไม่รู้ว่าพวกนายจะยกให้เราได้ไหม?”
นักเรียนทั้งหลายจากจักรวรรดิเอเดนต่างจ้องมองกันและกัน ก่อนที่นักเรียนชั้นปีที่สี่จะกล่าวขึ้น
“ได้สิ”
พวกเขาไม่ต้องการกินอาหารของคนต่ำต้อยหรอก!
นักเรียนจากสถาบันการศึกษาทางการทหารซาร่าได้จานปลาหมึกมาตามที่พวกเขาปรารถนา พวกเขาหยิบปลาหมึกขึ้นมาลิ้มลองด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย
“ว้าว! พวกนักเรียนจากจักรวรรดิเอเดนใจดีจัง! เขาเต็มใจยกปลาหมึกให้เรามาฟรี ๆ ด้วย!” นักเรียนจากสถาบันการศึกษาทางการทหารซาร่ากล่าวคำชมเชยให้กับนักเรียนจากจักรวรรดิเอเดนอย่างเมามัน
เมื่อนักเรียนคนอื่นจากจักรวรรดิชิงเหย้ามองดู เฮ้ ทำแบบนั้นได้ยังไง? มา มา มา รวมกลุ่มกันไปขออาหารเพิ่ม!
จักรวรรดิเหมยรุ่ยกับจักรวรรดิเอเดนจะเป็นตัวเลือกแรกของพวกเขา หนึ่งในสองจักรวรรดินี้เป็นราชวงศ์ของจักรพรรดินีของพวกเขา ซึ่งแต่งงานเข้ามาเป็นหนึ่งเดียวกันกับพวกเขา
สำหรับจักรวรรดิเอเดนน่ะเหรอ? องค์ชายรัชทายาทแห่งจักรวรรดิเอเดนได้ผ่านการผจญภัยกับองค์หญิงสามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะพูดคุยด้วย
หลังจากนักเรียนจากจักรวรรดิเหมยรุ่ยและจักรวรรดิเอเดนส่งมอบปลาหมึกยักษ์ให้กับนักเรียนจากจักรวรรดิชิงเหย้าแล้ว นักเรียนจากจักรวรรดิอื่นก็จ้องมองนักเรียนจากจักรวรรดิชิงเหย้าด้วยความขบขัน
ปรากฏว่าคณบดีพูลแมนพูดถูก ผู้คนจากจักรวรรดิชิงเหย้าชื่นชอบเอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์นี้มาก! ดูสิ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะกินอาหารในจานของพวกเขาหมดเท่านั้น แต่รวมถึงจานอาหารของคนอื่นด้วย!
หนึ่งในนั้นคือนักเรียนจากจักรวรรดิเบเกอร์จ้องมองและรู้สึกสงสัยเมื่อเห็นว่านักเรียนจากจักรวรรดิชิงเหย้าดูเหมือนจะชื่นชอบเอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์นี้มาก
ตอนที่ป้าของตัวเองแต่งงานเข้าสู่จักรวรรดิชิงเหย้า เขายังจดจำได้ดีว่าคนจากจักรวรรดิชิงเหย้าไม่กินเอเลี่ยนพรรค์นี้ แต่พวกเขากลับชอบกินมันในเวลาเพียงไม่กี่ปีได้อย่างไร?
เป็นได้ไหมว่าจะมีบางอย่างที่ลึกลับเกี่ยวกับเอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์นี้?
ไม่อย่างจะเชื่อว่าเขาจะเอื้อมตะเกียบออกไป คีบเนื้อปลาหมึกยักษ์และเอาใส่เข้าไปในปาก…
“อู้หู้! อร่อยมาก!!” รสชาตินี้แตกต่างจากหมูสามชั้นและปลาผัดซอสแดงอย่างสิ้นเชิง!
เป็นรสชาติที่อร่อยมาก! อร่อยเหลือเกิน!
เขารีบยกจานขึ้นมากินอย่างดุเดือด!
นักเรียนคนอื่นจากจักรวรรดิเบเกอร์กำลังหัวเราะเยาะนักเรียนจากจักรวรรดิชิงเหย้า แต่ทันทีที่พวกเขาหันกลับมา ก็พบว่าเพื่อนร่วมชั้นหยิบจานอาหารของพวกเขาไปกินอย่างเมามัน!
“เฮ้ อารุ่ย นายบ้าไปแล้วเหรอ? นี่เอเลี่ยนปลาหมึกนะ!” หัวหน้าประจำชั้นปีที่สี่เห็นว่าหัวหน้าประจำชั้นปีที่หนึ่งจากโรงเรียนของเขาหยิบจานปลาหมึกยักษ์ขึ้นมากิน และจากนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไป