สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际 – ตอนที่ 254 เป็ดย่างในการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่ 1

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际

ตอนที่ 254 เป็ดย่างในการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่ 1

ตอนที่ 254 เป็ดย่างในการแข่งขันหัวหน้าครั้งใหญ่ 1

“วินเซอร์ เป็นอะไรไหม?” ไคกียังคงเป็นกังวลกับน้องสาวของเขา

เสด็จพ่อเลี้ยงลูกทั้งหมดมาสามคน และนอกเหนือจากพวกเขาทั้งสองแล้ว ยังมีเด็กบ้าอยู่อีกคนหนึ่ง…

วินเซอร์เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว และเป็นเหมือนสมบัติล้ำค่าของราชวงศ์ จึงไม่เคยปล่อยให้เธอได้สัมผัสพายุฝนที่ร่วงโรยแม้แต่นิดเดียว

“ไม่เป็นไรเพคะ เสด็จพี่” วินเซอร์เงียบไปครู่หนึ่ง และทันใดนั้นก็เอ่ยถามว่า “เสด็จพี่ น้องแย่มากเลยเหรอ?”

“ทำไมถึงคิดแบบนั้น?” ไคกีขมวดคิ้ว “ลูกพี่ลูกน้องพูดอะไรกับน้องหรือเปล่า?”

ลูกพี่ลูกน้องเป็นคนปากคอเราะราย และเป็นไปได้อย่างมากว่าน้องสาวของเขาจะต้องทนทุกข์ทรมาน

“ไม่เพคะ ไม่เกี่ยวกับเธอเลย” วินเซอร์ถอนหายใจ “เสด็จพี่ น้องโง่เขลาใช่ไหม น้องไม่เข้าใจสิ่งที่พี่พูดเลย ไม่รู้เรื่องเลยด้วยซ้ำ คนอย่างน้องคงไม่เหมาะสมกับองค์ชายรัชทายาทแลนเซล็อตสินะเพคะ?”

“ทำไมน้องถึงคิดแบบนั้น? น้องลืมไปแล้วเหรอว่าจักรวรรดิเอเดนก็เคยจะขอเข้าเฝ้าเหมือนกัน เพียงแต่ตอนนี้องค์ชายรัชทายาทแลนเซล็อตต้องออกไปสนามรบ”

ไคกีนั่งลงข้างวินเซอร์และลูบศีรษะของเธอ “อย่าคิดมากเลย น้องเก่งมากแล้ว มีองค์ชายอีกเยอะแยะที่อยากจะแต่งงานกับน้อง แล้วแบบนี้น้องจะไม่เก่งได้ยังไง?”

ใช่แล้ว มีคนมากมายต้องการเข้ามาสู่ขอเธอ แต่ทั้งหมดล้วนเป็นองค์ชายธรรมดาทั่วไป

ทว่าเธอกลับชอบวีรบุรุษผู้โดดเด่นที่ไม่แม้แต่จะมองมาที่เธอ

วินเซอร์กลับมาที่วังด้วยอารมณ์บูดบึ้ง หลังจากพบกับท่านป้าแล้ว เธอก็ตรงไปหาเตียงเพื่อชดเชยอาการนอนไม่หลับก่อนหน้านี้ การนอนหลับระหว่างวันโดยที่ไม่ใช่การงีบหลับมันเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่สำหรับวินเซอร์

หลังจากพิธีเปิดงานเสร็จสิ้นลง ความแข็งแกร่งโดยรวมได้ฝังลึกอยู่ในจิตใจของผู้คน

ความแข็งแกร่งภาพรวมของจักรวรรดิชิงเหย้าและจักรวรรดิเอเดนค่อนข้างใกล้เคียงกัน ในแง่ของความสามารถส่วนบุคคล จะแบ่งออกเป็นสามสุดยอดอัจฉริยะ ได้แก่ สวี่หลิงอวิ๋น โอเวนจากจักรวรรดิเอเดน และลูคัสจากจักรวรรดิอีโน่

จักรวรรดิชิงเหย้าแสดงศักยภาพออกมาได้ดี เจ้าหน้าที่ รวมถึงคณะอาจารย์และคณบดีประจำสถาบันต่างรู้สึกปลื้มปีติเป็นอย่างมากจนไม่สามารถเก็บท่าทีความภาคภูมิใจของพวกเขาเอาไว้ได้

ไม่รู้ว่าอีกสิบกว่าวันใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะจากการแข่งขันหัวหน้า?

แน่นอนว่าพวกเขาย่อมเชื่อว่าชัยชนะจะต้องตกมาเป็นของพวกเขา ฮิฮิ จะเป็นใครไปได้นอกจากสุดยอดอัจฉริยะองค์หญิงสามแห่งชิงเหย้า!

ทว่าคนบางส่วนกลับรู้สึกไม่มั่นใจ “ถึงองค์หญิงสามจะมีพลังจิตที่ยอดเยี่ยม แต่เธออยู่ในระดับ 7 ดาวเท่านั้น อย่าลืมว่าสุดยอดอัจฉริยะทั้งหลายในการแข่งขันครั้งนี้อยู่ในระดับ 8 ดาวกัน!”

ช่างเถอะ! 8 ดาวแล้วยังไง? หากพวกเขามั่นใจว่าองค์หญิงสามอยู่ในระดับ 7 ดาว?!

ว่ากันตามตรง คณะอาจารย์ทั้งหลายเริ่มรู้สึกสงสัยในความแข็งแกร่งที่แท้จริงของสวี่หลิงอวิ๋น! หลายคนที่บอกว่าสวี่หลิงอวิ๋นอยู่ในระดับ 7 ดาว แท้จริงแล้วพวกเขาแค่ตัดสินจากดาบเลเซอร์ของเธอเท่านั้น

ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถหาความแข็งแกร่งที่แท้จริงได้!

แลนเซล็อตจ้องมองสวี่หลิงอวิ๋นบนหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ และหันไปถามผู้ช่วยคาร์ลที่เพิ่งมาถึงว่า “นายบอกอีกสองวันราชวงศ์ชิงเหย้าจะจัดงานเลี้ยงเต้นรำเหรอ?”

“ใช่ครับ!” ผู้ช่วยคาร์ลส่งการ์ดเชิญให้กับแลนเซล็อต “ฝ่าบาทบอกให้ผมจับตาดูท่านให้เข้างานเลี้ยงเต้นรำครั้งนี้ด้วยครับ”

“ว่ากันว่าครั้งนี้องค์หญิงทั้งหลายจะเข้าร่วมงานเลี้ยง ท่าน… แค่ก” ไม่จำเป็นต้องพูดต่อ องค์ชายรัชทายาทก็รู้ดีว่าพ่อผู้แก่ชราจะพูดถึงอะไร

แลนเซล็อตมองดูการ์ดเชิญในมือแล้วไม่พูดอะไร

จักรวรรดิชิงเหย้าจัดการสิ่งต่าง ๆ ได้ยอดเยี่ยมมาก!

“นอกจากนี้ท่านจักรพรรดิยังบอกอีกว่า งานเลี้ยงเต้นรำในครั้งนี้จะเชิญสุดยอดอัจฉริยะทั้งหลายมาเข้าร่วมงานด้วย โปรดใช้พรสวรรค์ทางการทูตของท่านนำพาผู้มีความสามารถมาสู่จักรวรรดิเอเดนด้วยเถอะครับ”

แลนเซล็อตพยักหน้า “เอาล่ะ ฉันรู้แล้ว”

เขากุมขมับและรู้สึกว่าตนเองไม่สามารถหลีกเลี่ยงจากนัดดูตัวได้เลย

ทุกปีในช่วงฤดูกาลนี้ จักรวรรดิทั้งหลายจะริเริ่มจัดงานเลี้ยงเต้นรำ เพื่อให้ผู้คนได้เคลื่อนไหวอย่างพอเป็นพิธี และเพื่อให้หนุ่มสาวได้รู้จักกันมากขึ้น

อันที่จริงมันเป็นเพียงงานเลี้ยงนัดดูตัว

เขาเคยเข้าร่วมครั้งหนึ่งเมื่ออายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์ และองค์หญิงทั้งหลายจ้องมองมาที่เขาด้วยท่าทีเขินอายราวกับว่าเขาเป็นอาหารกระป๋องอันโอชะที่รอให้ผู้คนมาเปิดเพื่อลิ้มลอง

สำหรับแลนเซล็อตนั้น เขาถูกรังสีอำมหิตจากองค์ชายทั้งหลายและชนชั้นสูงที่ต้องการแต่งงานกับหญิงสาวแสนสวยโจมตีแทบตาย

ตั้งแต่นั้นมา องค์ชายหนุ่มก็ไม่กล้าที่ก้าวเท้าเข้าไปในงานเลี้ยงเต้นรำอีกเลย

ทว่าไม่คาดคิดว่าจักรวรรดิชิงเหย้าจะกลายเป็นคนหน้าเลือดโดยการริเริ่มจัดงานเลี้ยงเต้นรำในช่วงเวลาที่สำคัญ เยี่ยมไปเลย และเขาไม่อาจหลีกเลี่ยงตามต้องการได้

จักรพรรดินีแห่งจักรวรรดิชิงเหย้าเป็นองค์หญิงผู้มีใจเด็ดเดี่ยวยิ่งนัก!

จักรพรรดินีแห่งจักรวรรดิชิงเหย้ากำลังนั่งจิบชา ขณะที่มีวินเซอร์นั่งอยู่ข้าง ๆ

“คืนมะรืนนี้หลานแต่งตัวมาให้ดี ๆ ล่ะ” จักรพรรดินีตบไหล่ของวินเซอร์เบา ๆ “ช่วงนี้อารมณ์ไม่ดีหรือไง??”

“อืม” วินเซอร์จ้องมองท่านป้าที่ดูเหมือนวางกลยุทธ์อยู่ตลอดเวลาด้วยสายตาผิดหวัง และกล่าวออกไปด้วยความอิจฉาริษยา “ท่านป้า ถ้าหนูทำได้ดีเหมือนท่านป้า…”

ที่ทั้งกล้าหาญและเด็ดเดี่ยว

“เหมือนป้าน่ะเหรอ?” จักรพรรดินียิ้ม สัมผัสใบหน้าของวินเซอร์และพูดด้วยอารมณ์ว่า “ทุกคนล้วนมีบุคลิกและอารมณ์เป็นของตัวเอง อีกทั้งยังมีชีวิตเป็นของตัวเองเหมือนกัน”

“วินเซอร์ หลานก็มีข้อได้เปรียบเหมือนกัน ทำไมถึงไม่ใช้ข้อได้เปรียบของตัวเองล่ะ?”

“แต่ท่านป้าเพคะ ดูเหมือนว่าองค์ชายรัชทายาทแลนเซล็อตจะไม่ชอบผู้หญิงแบบหนู เขาชอบผู้หญิงที่มีความสามารถเหมือนกับน้อง ผู้หญิงที่สามารถช่วยสนับสนุนจักรวรรดิของเขาได้”

วินเซอร์โพล่งออกไปอย่างไม่พอใจนัก

“เป็นเด็กที่โง่เขลาเสียจริง” จักรพรรดินีกล่าวออกมาด้วยความสงสาร “ในเมื่อหลานรู้ว่าเขาต้องการผู้หญิงแบบไหน ทำไมหลานถึงไม่พยายามเป็นผู้หญิงแบบที่เขาต้องการดูล่ะ?”

“วินเซอร์ ไม่ใช่ทุกอย่างจะมาหาหลานโดยอัตโนมัติหรอกนะ หลานต้องเรียนรู้ที่จะต่อสู้เพื่อมันบ้าง”

วินเซอร์กัดริมฝีปาก “หนูกลัวว่าจะทำไม่ได้ หนูไม่มีความสามารถด้านการต่อสู้เลยเพคะ”

“…และหนูก็ไม่ค่อยรู้เรื่องการเมืองด้วย”

“ถ้าไม่รู้ก็ต้องหัดเรียนรู้!” ความอ่อนโยนของจักรพรรดินีจางหายไป เหลือไว้เพียงคำพูดที่เย็นชา “ถ้าจะสวมมงกุฎก็ต้องรู้จักแบกรับน้ำหนัก! ถ้าหลานเอาแต่โทษตัวเองอยู่อย่างนี้ก็รอคอยไปแต่งงานกับองค์ชายองค์อื่นเถอะ!”

สีหน้าของวินเซอร์เปลี่ยนไปเมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว

ครั้งนี้เธอมาขอความช่วยเหลือทางจิตใจจากท่านป้าไม่ใช่เหรอ? หากท่านป้าพูดแบบนี้ นั่นหมายความว่าเธอมีสิทธิ์ที่จะเลือกคู่ครอง

วินเซอร์มองดูใบหน้าที่เคร่งขรึมของผู้เป็นป้า และสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่

“เข้าใจแล้วเพคะท่านป้า”

ใบหน้าของจักรพรรดิดูอ่อนโยนลงเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้า

“ป้าเตรียมหนังสือบางส่วนให้หลานแล้ว ในเมื่อหลานโตแล้วก็ควรจะตั้งใจอ่านมันซะ”

ใครว่าผู้หญิงไม่เข้าใจการเมือง? จักรพรรดินียื่นหนังสือให้วินเซอร์ “เอากลับไปอ่านแล้วเขียนบทสรุปที่เข้าใจมาส่งป้าด้วย”

วินเซอร์จ้องมองไปที่กองหนังสือหนาทึบ เธอกัดฟันและจ้องตาไม่กะพริบ หนังสือทั้งหมดล้วนเกี่ยวกับการเมืองและการทหาร

อีกทั้งยังมีหนังสือทางเศรษฐกิจอยู่มากมาย

“ตั้งใจเรียนรู้ ถ้าไม่เข้าใจก็มาถามป้าได้ตลอด”

วินเซอร์กำลังยุ่งมาก การเล่าเรียนที่ยุ่งวุ่นวายทำให้เธอลืมปัญหาไปชั่วขณะ และสภาพจิตใจของเธอก็ดีขึ้นมาก

“องค์หญิงสามล่ะ?” เมื่อจักรพรรดิเห็นว่าหลานสาวจากไปแล้ว เธอก็ถอนหายใจและเอ่ยถามสาวใช้ที่อยู่ด้านข้าง

“เพคะจักรพรรดินี ตอนนี้ฝ่าบาทอยู่ในห้องครัวเพคะ!”

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ [她靠吃播征服星际

Status: Ongoing
เมื่อมาเกิดใหม่ในที่ที่เต็มไปด้วยของอร่อย เรื่องอะไรจะต้องอยู่เฉยกันล่ะ อย่างนี้มันต้องจับหั่น ยัดลงหม้อไฟร้อนๆ แล้วก็ถ่ายทอดสดออกอากาศสิถึงจะถูก!สวี่หลิงอวิ๋น หญิงสาวที่อยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้มาหลายปีแล้ว แถมยังมีนิสัยชอบกินอีกตังหากก็ต้องมีชีวิตที่ถึงคราวจากไปก่อนวัยอันควร เพราะดันไปกินเนื้อแกะที่ติดเชื้อซอมบี้เข้าให้!จากนั้นเธอก็พบว่าตัวเองได้ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งในร่างของเจ้าหญิงองค์ที่สาม แห่งจักรวรรดิชิงเหย้า ในโลกยุคอวกาศ ซึ่งดูท่าทางไม่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนสักเท่าไหร่ แต่ใครสนกันล่ะ! ตอนนี้เธอสนแต่เรื่อง กิน กิน และกินเท่านั้น แถมเอเลี่ยนดาวดวงนี้ยังมีแต่ของอร่อยเต็มไปหมด! เธอจะอยู่เฉยได้อย่างไร ต้องจับพวกมันมาหั่น มาต้ม มาย่าง แล้วก็อะไรอีกดีนะ? อ้อ…สตีมเมอร์ออกอากาศด้วยเลย!ทั้งหมดนี้จะถือเป็นสงครามอวกาศที่จะชวนให้คุณน้ำลายสอไปด้วยอาหารแบบต่าง ๆ ที่สวี่หลิงหยุนไปพิชิตและสรรค์สร้างมาได้ สวี่หลิงอวิ๋นหรือองค์หญิงสามนี้จะสามารถล่าเอเลี่ยนและคิดเมนูอะไรออกสตรีมเมอร์บ้าง ไปตามลุ้นเอาใจช่วยกันได้ที่ สตีมเมอร์สาวกินพิชิตอวกาศ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท