ตอนที่ 266 งานเลี้ยงนัดดูตัว 7
ตอนที่ 266 งานเลี้ยงนัดดูตัว 7
“คุณเป็นอะไรไหม?” สวี่รุ่ยอวิ๋นมองดูหญิงสาวที่กำลังยุ่งอยู่ตรงหน้าเขา เมื่อมองดูรูปร่างของเธอ โอ้…สวยมาก ดูดีมีเสน่ห์!
เขารู้สึกปากแห้งเล็กน้อย ราวกับว่ามีไฟที่ไหนไม่รู้กำลังลุกไหม้อย่างโชกโชน
ลูตี้ก้มศีรษะลง “ฉันไม่เป็นไรค่ะ” เธอต้องการจะจากไปหลังจากพูดจบ
ทว่าสวี่รุ่ยอวิ๋นกลับคว้าข้อมือของเธอเอาไว้ “คุณคงจะเจ็บน่าดูใช่ไหม? มาสิ มาให้ผมดูหน่อยได้ไหม?!”
“ไม่! ฉันไม่เป็นอะไร!” ลูตี้อยากจะสะบัดมือออก ทว่าน่าเสียดาย เพราะเธอคงไม่อาจจะต่อสู้พละกำลังของชายหนุ่มที่อยู่ในสนามรบตลอดทั้งปีได้หรอกใช่ไหม?
สาวใช้ที่ไปเอาอุปกรณ์การแพทย์เดินกลับมาและเหลือบเห็นหนุ่มสาวคู่หนึ่งกำลังกระชากกันไปมา เมื่อมองดูให้ดี นั่นองค์ชายรองไม่ใช่เหรอ?
ส่วนหญิงสาวคนนั้น…คือดาราดังลูตี้!
ทั้งสองคนนั้นกำลังทำอะไรกันอยู่? ดูเหมือนว่าองค์ชายรองกำลังใช้กำลังหรือเปล่า?! อุ๊บ เรื่องมันยังไงกันแน่?!
ลูตี้จ้องมองชายหนุ่มที่อยู่ตรงข้าม นี่คือ คือองค์ชายรองอย่างนั้นเหรอ?!
แรงต่อต้านของเธอลดลงอย่างกะทันหัน
หากเธอสามารถปีนขึ้นไปหาองค์ชายรองได้ บางทีเธออาจจะมีสถานะที่สูงส่งก็เป็นได้? ถึงแม้ว่าเธอจะรู้ดีว่าเธอไม่สามารถแต่งงานเข้าสู่ราชวงศ์ได้ แต่อย่างน้อยเธอก็สามารถใช้ประโยชน์จากองค์ชายรอง…
ขณะที่เธอกำลังครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่ ทันใดนั้นอีกฝ่ายก็ดึงเธอเข้ามาในห้อง
และปิดประตูลง
สาวใช้ที่กำลังตกใจถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ในเมื่อลูตี้ไม่ได้ร้องตะโกนโวยวายออกมาในตอนจบ นั่นหมายความว่าอีกฝ่ายก็สมัครใจหรือเปล่า?!
เนื่องจากมันเป็นความสมัครใจ เธอจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้!
ไปดูแลเด็กนักเรียนคนนั้นก่อนดีกว่า!
ไอแซคกำลังนอนอยู่บนเตียง ขณะที่ลูคัสนั่งอยู่บริเวณขอบเตียงและมองดูเขา
หลังจากที่สาวใช้อุปกรณ์ทางแพทย์มาตรวจสอบไอแซค เธอก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“โชคดีที่เขาแค่เหนื่อยล้าเท่านั้น คงต้องพักสักหน่อยนะคะ”
โอคาซียังคงนั่งอยู่ที่มุมห้อง ขณะที่หญิงสาวและองค์หญิงทั้งหลายเหลือมองพลเอกหนุ่มรูปงามเป็นครั้งคราว
“ท่านพลเอก เต้นรำกับฉันสักเพลงได้ไหมคะ?”
หญิงสาวสองสามคนต่างจ้องมองกันและกัน ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะรวบรวมความกล้าและก้าวขาออกไปเชิญชวนเขา
ทว่าโอคาซีกลับส่ายหัว “ขอโทษด้วยครับ”
น้ำเสียงที่ไม่แยแสทำให้ดวงตาหญิงสาวผู้กล้าหาญเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ เธอร้องไห้และรีบวิ่งออกไป
หญิงสาวคนอื่นถอนหายใจด้วยความโล่งอก รู้สึกโชคดีที่พวกเธอไม่ได้ก้าวขาออกไป ไม่เช่นนั้นพวกเธอคงต้องรู้สึกอับอาย
และรู้สึกเสียดายในขณะเดียวกัน
หากตอบรับที่จะเต้นรำกับหญิงสาว นั่นหมายความว่าพวกเธอก็จะมีโอกาสเช่นกันไม่ใช่เหรอ?
ท่านพลเอกโอคาซีคนนี้ช่างโหดร้ายเหลือเกิน เขาปฏิเสธคำเชิญชวนเต้นรำของหญิงสาวอย่างง่ายดาย
ทำไมชายหนุ่มรูปงามที่สุดในจักรวาลทั้งสองคนถึงได้เดาใจยากเช่นนี้?! องค์ชายรัชทายาทแลนเซล็อตเพียงเต้นรำกับองค์หญิงวินเซอร์เท่านั้น และหญิงสาวคนอื่นก็ไม่ได้โชคดีจนถึงขั้นได้รับคำเชิญชวนด้วยซ้ำ
โอคาซียังคงนั่งอยู่ที่เดิมรอคอยการกลับมาของแฟนสาว
หญิงสาวผู้สง่างามคนหนึ่งเดินเข้าไปด้านข้างของโอคาซี
“สวัสดีโอคาซี ไม่เจอกันนานเลยนะ ยังหล่อเหมือนเดิมเลย อย่างกับหยุดเวลาไว้อย่างงั้นแหนะ”
โอคาหันกลับไปมอง “สวัสดีครับ คุณหญิงซีซาร์”
คุณหญิงซีซาร์ยิ้มเล็กน้อย หญิงสาวคนนี้อายุเท่ากับโอคาซี รูปร่างของเธอเผยให้เห็นเสน่ห์ของผู้ใหญ่ตามแบบฉบับหญิงสาวผู้แต่งงานแล้ว
“ฉันชอบให้คุณเรียกว่าจูลี่มากกว่านะคะ” คุณหญิงซีซาร์จ้องมองโอคาซีผู้เย็นชาตรงหน้า “อันที่จริง ฉันมีเรื่องอยากจะถามคุณน่ะค่ะ หวังว่าคุณจะตอบคำถามฉันตามความจริงนะคะ”
โอคาซีพยักหน้า “ว่ายังไงครับ”
สวี่หลิงอวิ๋นและจักรพรรดิถือแก้วไวน์เดินวนจนเสร็จสิ้น และเดินกลับมาหาแฟนหนุ่มของเธอ
แลนเซล็อตเห็นสวี่หลิงอวิ๋น และตอบรับเธอด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดีครับ องค์หญิงสาม” แลนเซล็อตกล่าวทักทายเธอ “กำลังมองหาแฟนอยู่เหรอครับ?”
“ใช่!” สวี่หลิงอวิ๋นจ้องมองเขาด้วยสายตาร่าเริง “ไม่ชวนสาวสวยมาเต้นรำบ้างเหรอคะ?”
“ก็ผมรอท่านอยู่” แลนเซล็อตยิ้มและโค้งคำนับ “คงไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?”
สวี่หลิงอวิ๋นยักไหล่ และตบไหล่ของเขาเบา ๆ “ไม่เอาน่า คู่หู ยังไงพวกเราก็เป็นเพื่อนกัน!”
แลนเซล็อตคล้อยตาม และพยักหน้า “ท่านพูดถูก”
“องค์หญิงสาม ผมมีคำถามจะถาม ช่วยตอบผมหน่อยได้ไหมครับ?”
“ท่านถามมาเลยค่ะ!” สวี่หลิงอวิ๋นหันหลังกลับ “แล้วก็เรียกแค่ชื่อของฉันก็พอ! เราเป็นคนกันเองทั้งนั้น”
“ถ้าอย่างงั้นผมขอถามแบบหยาบคาย” แลนเซล็อตแสดงท่าทีสงสัย “ทำไมท่านถึงเอาแต่จ้องมองเจ้าเด็กนั้นแทนที่จะมองผมให้มากกว่านี้ล่ะ?”
นี่คือสิ่งที่เขารู้สึกสงสัยที่สุด รูปลักษณ์ของเขาไม่สอดคล้องกับความชื่นชอบขององค์หญิงอย่างนั้นเหรอ?
“ฮ่า ๆ! ท่านตลกเหมือนกันนะเนี่ย!” สวี่หลิงอวิ๋นยิ้มและกล่าวว่า “ถ้าท่านไม่ได้สนใจฉันหรือมีแผนการจะไล่ตามจีบฉัน บางทีฉันจะจ้องมองท่านมากขึ้นก็ได้นะ”
“แต่ว่าฉันมีแฟนแล้วน่ะสิ และท่านก็กำลังตามจีบฉันอยู่ ถ้าฉันจ้องมองท่านมากกว่านี้ มันจะทำให้ทุกอย่างผิดหลักการไปได้ เพราะงั้นฉันถึงได้มองดูผู้ชายคนอื่นเพราะแค่คิดว่าพวกเขาหล่อดีน่ะค่ะ”
การมองดูชายหนุ่มคนอื่นไม่จำเป็นต้องแสดงความรับผิดชอบอะไรมากนัก
ทันใดนั้นแลนเซล็อตก็นึกบางอย่างออก
“ไม่คิดว่าองค์หญิงสามจะเป็นคนมีหลักการขนาดนี้ ขอชื่นชมเลยครับ!”
ทั้งสองเดินเข้าไป หัวเราะและพูดคุยกัน
สวี่หลิงอวิ๋นหยุดเดินกะทันหันเมื่อเห็นโอคาซีที่นั่งหันหลังอยู่ในมุมมืดกำลังพูดคุยกับหญิงสาวรูปงามทรงเสน่ห์
เธอดึงแลนเซล็อต และส่งสัญญาณบอกเขาไม่ให้พูด ก่อนจะเดินย่องเข้าไป
พยายามแอบฟังสิ่งที่อีกฝ่ายพูด
คุณหญิงซีซาร์อมยิ้มเล็กน้อย ใช้พัดปิดบังใบหน้าของตนเอง และนึกถึงวิธีการไล่ตามจีบท่านพลเอกเมื่อครั้งที่เธอยังเป็นเด็ก
ย้อนกลับไปตอนนั้น เธอเป็นขุนนางที่มีชื่อเสียงของจักรวรรดิชิงเหย้า ชายหนุ่มผู้มีความสามารถจำนวนนับไม่ถ้วนไล่ตามจีบเธอ ทว่าน่าเสียดายที่เธอหัวใจเต้นแรงกับพลเอกผู้แสนเย็นชาคนนี้
ท่านพลเอกมีสีหน้าเย็นชาตั้งแต่ต้นจนจบ และมีเพียงคำสองสามคำที่แสดงออกถึงความตื่นเต้นของเธอ “ขอโทษนะคะ”
“ฉันแค่สงสัยว่าทำไมคุณถึงเลือกองค์หญิงสามเหรอคะ? ถ้าฉันจำไม่ผิด ตอนที่องค์หญิงสามไล่ตามคุณก่อนหน้านี้ คุณเฉยเมยกับเธอเหมือนที่ทำกับฉันไม่ใช่เหรอคะ”
คุณหญิงซีซาร์เห็นว่าสวี่หลิงอวิ๋นแอบเดินย่องเข้ามา ความอิจฉาริษยาและความคิดชั่วร้ายก็บังเกิดขึ้นในใจของเธอทันใด
โอคาซีเหลือบมองเธอ และไม่พูดอะไร
“ฉันรู้ว่าคุณรู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าคำทำนายขององค์หญิงสามกำลังเกิดขึ้นจริง ถูกต้องไหมคะ?” คุณหญิงซีซาร์เคลื่อนพัดออกไปเล็กน้อย “เพราะงั้นก่อนหน้าคุณก็เลยไม่เคยเสแสร้งใส่เธอเลย แต่หลังจากค้นพบพลังของเธอ คุณจึงตัดสินใจตกหลุมรักเธอใช่ไหมคะ?”
โอคาซีมองดูเธอ “ไม่ใช่เรื่องของคุณ”
“ฮ่า ๆๆ! ไม่ใช่เรื่องของฉันเหรอคะ?” คุณหญิงซีซาร์หัวเราะ “ทำไมจะไม่ใช่เรื่องของฉันล่ะ? ฉันก็แค่อยากรู้ว่าฉันแพ้ตรงไหน แล้วมันจะไม่ใช่เรื่องของฉันได้ยังไงคะ”
“ทุกวันนี้มีคนมากมายกำลังไล่ตามองค์หญิงสาม ฉันก็แค่อยากรู้ว่าคนพวกนี้จะจริงใจได้สักกี่คนเชียว? คนพวกนั้นก็เหมือนกับคุณหรือเปล่า ที่อยากจะขยายอิทธิพลจักรวรรดิหรือตระกูลของตนเองน่ะ?”