ตอนที่ 277 มหาสงคราม 9
ตอนที่ 277 มหาสงคราม 9
“พวกคุณเพิ่งเลื่อนขั้นไประดับ 7 ดาวไม่ใช่หรือไงกัน? ทำไมถึงได้กลายเป็น 8 ดาวเร็วนัก?!”
คณบดีพูลแมนจ้องมองเด็กนักเรียนเหล่านี้ เขาเชื่อว่านักเรียนพวกนี้ไม่ได้ล้อเล่นเกี่ยวกับพลังดวงดาว แต่กลับยังรู้สึกราวกับว่าฝันไป
การที่องค์หญิงสามได้รับการเลื่อนขั้นไปถึงระดับ 9 ดาวเป็นเรื่องที่น่าทึ่งและเหลือเชื่อยิ่งนัก แต่นักเรียนพวกนี้กลับเลื่อนขั้นไปถึงระดับ 8 ดาวโดยไม่กล่าวอะไรสักคำเนี่ยนะ?!
องค์หญิงสามมีวิธีการเลื่อนขั้นอย่างรวดเร็วจริง ๆ เหรอ?!
คณบดีพูลแมนจ้องมองไปที่สวี่หลิงอวิ๋นด้วยความสงสัย
นักเรียนชั้นปีอื่นครุ่นคิดเกี่ยวกับมันเช่นกัน และจ้องมองไปที่สวี่หลิงอวิ๋นด้วยสายตาอันร้อนแรง
สวี่หลิงอวิ๋นพยักหน้า “ไม่เลว การฝึกฝนของพวกนายก้าวหน้ากันเร็วมาก แต่ว่ายังขาดทักษะและประสบการณ์การต่อสู้อยู่นิดนึง…”
“ท่านหัวหน้า!” เมื่อรุยเห็นว่าหัวหน้าผู้ยิ่งใหญ่กำลังจะปฏิเสธพวกเขาอีกครั้ง เขาก็รีบโพล่งขึ้นว่า “ถ้าพูดถึงประสบการณ์การต่อสู้ จะต้องสะสมประสบการณ์การต่อสู้แบบไหนถึงพร้อมลงสนามรบ? นอกจากนี้ พวกเรายังตั้งใจฝึกฝนอย่างหนัก เชื่อเถอะครับ ว่าพวกเราทำได้แน่นอน! ถ้าไปถึงที่นั่นแล้วท่านคิดว่าพวกเราทำไม่ได้ ท่านก็ไล่เรากลับมาได้เลย!”
ทันทีที่รุยกล่าวเช่นนั้น นักเรียนคนอื่นที่มองเห็นโอกาสก็รีบเข้าร่วมด้วย
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ต้องพาพวกเขาออกไปด้วย
สวี่หลิงอวิ๋นกุมขมับ “ถ้าอย่างงั้น ใครที่อยู่ในระดับ 8 ดาวขึ้นไปตามฉันมา!”
รุย เบนเน็ตและอีกสองคนรู้สึกมีความสุข! และเดินเข้าไปอยู่เคียงข้างสวี่หลิงอวิ๋น
เยลลุกขึ้นยืนเพื่อไม่ให้เป็นการน้อยหน้า “องค์หญิงสาม ผมก็อยู่ 8 ดาวแล้วเหมือนกัน จะเข้าร่วมกับท่านได้ไหมครับ?!”
สวี่หลิงอวิ๋นจ้องมองเยลด้วยสายตาเด็ดเดี่ยว หัวหน้าประจำชั้นปีที่สองกับเธอเคยมีช่วงเวลาที่เลวร้ายต่อกันมาก่อน!
เมื่อจ้องมองสายตาที่ดูกำลังพิจารณาของสวี่หลิงอวิ๋น เยลก็รู้สึกได้ว่าเธอกำลังยังคงตระหนึกถึงกับเรื่องก่อนหน้านี้
“องค์หญิงสาม ตอนนั้นผมยังไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร และถูกคนชั่วร้ายยุงยงให้ทำเรื่องแบบนั้น” เยลกล่าวด้วยรอยยิ้มเหยเก “ตอนนี้ผมถูกไล่ออกจากบ้านและอยู่เพียงลำพัง และหวังว่าองค์หญิงสามจะให้โอกาสผมได้กลับเนื้อกลับตัวใหม่”
กลับเนื้อกลับตัวใหม่แล้วได้อะไร?! นายก็แค่อยากออกไปทำสงคราม! กล่าวออกมาได้ประณีตเหลือเกิน!
นักเรียนชั้นปีที่หนึ่งพ่นลมหายใจออกมาอย่างพร้อมเพรียง!
ขณะที่สวี่หลิงอวิ๋นกำลังจ้องมองไปที่เยล นักเรียนชั้นปีที่สามและนักเรียนชั้นปีที่สี่ก็แทบจะทนรอไม่ไหวที่จะกระโดดออกไป
“องค์หญิงสาม ท่านไม่ควรเลือกที่รักมักที่ชัง! ใช่ ถึงความแข็งแกร่งของพวกเราจะต่ำต้อย แต่ทักษะการต่อสู้ของพวกเราจะต้องดีกว่าพวกเขาอยู่ใช่ไหม? ทำไมไม่พาพวกเราไปด้วยล่ะครับ?” หลี่ซิวรีบก้าวออกมา
ในขณะเดียวกัน เรื่องนี้เป็นอะไรที่น่าอึดอัดหัวใจเป็นอย่างมาก นักเรียนชั้นปีที่หนึ่งพวกนี้มีโชคบ้าอะไรถึงได้องค์หญิงสามเป็นหัวหน้าของพวกเขากัน?
เห็นได้ชัดว่าองค์หญิงสามมีความสามารถในการเปลี่ยนโลกให้หมุนกลับตาลปัตร ผู้คนถึงกลับกลับเนื้อกลับตัวใหม่!
ดูเบนเน็ตนั่นสิ เขาเคยเป็นคนไร้ประโยชน์มาก่อน ว่ากันว่าเขามีหลุมดำอยู่ในร่างกายใช่ไหม?! แต่องค์หญิงสามกลับรักษาให้เขาได้ทั้งที่ไม่มีใครรู้วิธีมาก่อน
นี่คือปาฏิหาริย์ทางการแพทย์!
ส่วนตอนนี้น่ะ! ดูเจ้าเด็กพวกนั้นสิ พวกเขาก้าวข้ามสิ่งที่เรียกว่าพรสวรรค์และกลายเป็นเหล่าคนมีฝีมือที่มีระดับ 8 ดาว! เพียงแค่นี้ก็สามารถทำให้พวกเขารู้สึกไม่พอใจเจ้าพวกลูกเทวดาพวกนี้แล้ว!
ถึงจะไม่ใช่คนที่ใช่แล้วยังไง?! พวกเขาก็อยากตามไปด้วยเหมือนกัน! ฮือ ๆๆ!
นักเรียนชั้นปีที่สามและนักเรียนชั้นปีที่สี่ต่างกระวนกระวายใจ
คณบดีพูลแมนใช้โอกาสนี้ยุยงสวี่หลิงอวิ๋น “ในเมื่อเด็กพวกนี้อยากจะตามท่านไปด้วย ท่านก็ควรพาเด็กที่อยู่ในระดับ 7 ดาวหรือมากกว่านั้นไปด้วยนะพ่ะย่ะค่ะ!”
สวี่หลิงอวิ๋นยังไม่ทันได้กล่าวอะไร ทว่านักเรียนที่อยู่ในระดับ 7 ดาวต่างเดินออกไปอยู่เคียงข้างเธออย่างมีความสุข
หลังจากนับจำนวนแล้ว เยี่ยมไปเลย มีนักเรียนที่อยู่ในระดับ 7 ดาวถึงหนึ่งร้อยคน!
เดิมทีคนที่อยู่ในระดับ 6 ดาวได้เลื่อนขั้นไปอยู่ในระดับ 7 ดาวในเวลาเพียงแค่หนึ่งเดือน! มันช่างน่ากลัวมาก!
ส่วนระดับชั้นปีอื่น…นอกจากหัวหน้าประจำชั้นปีที่สามและหัวหน้าประจำชั้นปีที่สี่แล้ว พวกเขาทั้งหมดล้วนอยู่ในระดับ 7 ดาว มีเพียงโรเบิร์ตในชั้นปีที่สี่เท่านั้นที่ยังไม่ใกล้เคียงกับระดับ 7 ดาว
ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ไม่ได้รับคัดเลือก
องค์หญิงสามจะต้องมีวิธีการฝึกฝนอย่างแน่นอน! ทุกคนต่างเคยคาดเดาเช่นนี้ และตอนนี้มันก็แน่นอนแล้ว!
สวี่หลิงอวิ๋นปล่อยวาง ถึงจะมีจำนวนร้อยคนก็ไม่เป็นอะไร!
ไม่ต้องออกไปแนวหน้า แค่เรียนรู้อยู่ด้านหลังคงไม่เป็นอันตรายอะไรนัก
หากนักเรียนเหล่านี้ถูกสังหาร เธอก็คงจะต้องตายไปด้วย
สวี่หลิงอวิ๋นและคณบดีทำเรื่องพักเรียนเสร็จสิ้น นักเรียนที่ได้รับการเลือกก็ติดตามไปอย่างว่องไว ขณะที่กลุ่มคนที่เหลือถูกทิ้งเอาไว้มองตามด้วยความอิจฉา
นักเรียนทหารที่เข้าเกณฑ์ได้ถูกคัดเลือกเป็นที่เรียบร้อย
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สวี่หลิงอวิ๋นต้องออกไปสู้รบร่วมกับพวกเขา ทว่าครั้งนี้มันกลับแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง!
คราวที่แล้วต้องคอยปกป้ององค์หญิงสามในฐานะองครักษ์ส่วนตัว แต่ตอนนี้ต้องต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์รัชทายาท
การที่สวี่หลิงอวิ๋นจะกลายเป็นจักรพรรดินีคนถัดไปภายในชั่วข้ามคืนไม่ใช่ความลับอีกต่อไป กล่าวอีกนัยหนึ่งคือสถานการณ์ดังกล่าวได้ถูกกำหนดไว้แล้ว
สวี่เจี้ยนอวิ๋นรู้สึกสูญเสียเล็กน้อย ทว่ากลับรู้สึกสงบลง
ความจริงเขารู้มานานแล้วว่าตนเองไม่ใช่บุคคลที่เหมาะสม แต่ถ้าสวี่รุ่ยอวิ๋นได้รับตำแหน่งระดับสูง เขาก็จะต่อสู้เพื่อตำแหน่งนั้นเช่นกัน และเมื่อกล่าวถึงการสืบทอดบัลลังก์ เขาก็จะมาก่อนเสมอ
ทว่าตอนนี้น้องสาวตัวน้อยได้รับความไว้วางใจจากทุกคน และอย่างน้อยเขาก็รู้สึกโล่งใจกับอุปนิสัยของน้องสาว
ตอนนี้เขาสามารถออกไปยังสนามรบ และประลองฝีมือกับเหล่าศัตรูได้ทุกเมื่อ
สวี่หลิงอวิ๋นพาผู้คนจำนวนร้อยกว่าคนไปที่ฐานฝึกซ้อมแห่งแรกของทางพระราชวัง
โดยปกติแล้ว ฐานฝึกซ้อมแห่งนี้จะมีไว้สำหรับการฝึกซ้อมขององครักษ์
ทันทีที่สวี่หลิงอวิ๋นมาถึง องครักษ์จำนวนหลายหมื่นนายที่รอคอยอย่างเงียบ ๆ ก็จ้องมองไปที่เธอด้วยสายตากระตือรือร้น!
องครักษ์นับหมื่นนายกล่าวว่าพวกเขามารอให้สวี่หลิงอวิ๋นคัดเลือก แต่เดิมทีพวกเขาล้วนเป็นคนของเธอ หากสวี่หลิงอวิ๋นเต็มใจ พวกเขาทั้งหมดก็จะติดตามเธอไปด้วยเช่นกัน
จักรพรรดิรู้สึกถึงอารมณ์ที่หลากหลายขณะเฝ้าดูสวี่หลิงอวิ๋นเดินก้าวเข้ามาพร้อมกับผู้คนจำนวนนับร้อยกว่าคน
ลูกสาวเติบโตขึ้นจากเมื่อก่อนแล้วสินะ!
ข่าวเกี่ยวกับสวี่หลิงอวิ๋นขึ้นแท่นเป็นผู้สืบทอดบัลลังก์คนต่อไปแพร่กระจายไปทั่วทั้งห้วงดวงดาว
ณ จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ เมื่อสเปนเซอร์เห็นข่าวดังกล่าว เขาถึงกับรู้สึกประหลาดใจและตระหนักถึงเหตุผลทั่วไป
“ตาเฒ่านี้เคลื่อนไหวเร็วนักนะ!” สเปนเซอร์ลูบหน้าผาก ความจริงแล้วครั้งนี้พวกเขาไม่ได้มีเหตุผลอะไรมากนัก และสาเหตุที่ทั้งห้าจักรวรรดิเต็มใจจะร่วมมือกับจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ นั่นเป็นเพราะว่าเทคโนโลยีที่ทันสมัยและสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์
คุณค่าของสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ทรงอิทธิพลเกินไป และไม่มีใครต้องการให้สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ที่มีคุณภาพมหาศาลตกอยู่ในมือของจักรวรรดิชิงเหย้าแต่เพียงผู้เดียว
กล่าวถึงเหล่าพันธมิตร จักรวรรดิเหล่านี้ได้มีหน้าที่คอยโห่ร้องสนับสนุนเพื่อรอดูว่าจักรวรรดิชิงเหย้าจะเต็มใจที่จะยอมแพ้และยอมมอบสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ให้แก่พวกเขาหรือไม่
ทว่าน่าเสียดาย แม้ว่าสวี่เทียนอวี๋มักจะดูยิ้มแย้มแจ่มใส แต่กลับเป็นคนที่รับมือยากในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้!