ตอนที่ 280 มหาสงคราม 12
ตอนที่ 280 มหาสงคราม 12
สงครามจะเริ่มต้นขึ้นวันไหน และจบลงเมื่อไหร่กัน?!
ชาวเน็ตทั้งหลายจ้องมองคู่รักแสดงความรักกันจนอิ่มเอม ความตึงเครียดตลอดสองสามวันที่ผ่านมาเริ่มผ่อนคลายลง
ทว่าเวลาแห่งการผ่อนคลายมีอยู่เพียงน้อยนิด จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ก็เริ่มเปิดฉากโจมตีอย่างรุนแรง!
สวี่หลิงอวิ๋นตื่นขึ้นท่ามกลางเสียงกระสุนปืน
ค่ำคืนอันมืดมิด แต่ข้างนอกกลับสว่างไสวด้วยเปลวเพลิงที่สูงเสียดฟ้า
โชคดีที่มีเกราะป้องกันพลังงานอยู่บนดาวเคราะห์ดวงนี้ ไม่เช่นนั้นคงเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น
ถึงแม้ว่านักเรียนจำนวนหนึ่งร้อยคนจะมีพละกำลังแข็งแกร่ง แต่พวกเขาก็ยังเป็นแค่เด็กนักเรียน การเผชิญหน้ากับสงครามเช่นนี้ ทุกคนจึงไม่สามารถตอบโต้ได้ทันเวลาและไม่รู้ว่าควรต้องทำอย่างไร?
สวี่หลิงอวิ๋นออกคำสั่งให้พวกเขาคอยซ่อนตัวอยู่เป็นผู้ช่วย สำหรับตัวเธอรีบตรงดิ่งไปที่ห้องบัญชาการเมื่อตรวจสอบสถานการณ์ล่าสุด
“เกราะพลังงานจะคลุมอยู่ได้นานแค่ไหน?” สวี่หลิงอวิ๋นขมวดคิ้ว ขณะจ้องมองสัญญาแจ้งเตือนว่ามีพลังงานไม่เพียงพอ ก่อนจะเอ่ยถามทหารฝ่ายเทคนิคที่อยู่ด้านข้าง
“อยู่ได้อีกยี่สิบนาทีพ่ะย่ะค่ะ!” ทหารฝ่ายเทคนิคส่ายหัวอย่างทำอะไรไม่ถูก “คนพวกนั้นโจมตีส่วนที่พลังงานเหลือน้อย เพราะงั้นมันเลยจะทนรับไม่ได้นานครับ”
สวี่หลิงอวิ๋นพยักหน้า เธอก็ทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน
เกราะป้องกันพลังงานไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย ๆ ดังนั้นการรั่วไหลของระบบป้องกันผังเมืองจึงเป็นการสูญเสียสองเท่าตัว!
“จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้ ต้องหาวิธีสู้กลับยานอวกาศพลังเพลิงของอีกฝ่าย ไม่อย่างงั้นพวกเราแพ้แน่!” สวี่หลิงอวิ๋นขมวดคิ้วขณะจ้องมองแผนที่สามมิติที่ปรากฏอยู่ด้านหน้า
“เราเปิดการโจมตีภาคพื้นดินแล้วพ่ะย่ะค่ะ ถึงว่าจะสามารถสร้างความเสียหายให้กับยานอวกาศพลังเพลิงของอีกฝ่ายได้ แต่ก็ต้องใช้เวลา!”
เวลาเท่านั้น เวลาคืออาวุธที่สำคัญ!
“ต้องใช้เวลานานแค่ไหน?” สวี่หลิงอวิ๋นถาม
“สามสิบนาทีพ่ะย่ะค่ะ”
ห่างกันเกือบสิบนาที! และสิบนาทีนี้จะต้องคุ้มค่าพอที่จะต่อสู้
ตลอดช่วงวันที่ผ่านมาสวี่หลิงอวิ๋นไม่ได้ยุ่งมากนัก และใช้เวลาตลอดทั้งวันในการเรียนรู้วิธีการขับยานอวกาศ พลังจิตของเธอจึงแข็งแกร่งขึ้นมาก กล่าวได้ว่าเธอสามารถควบคุมยานอวกาศได้ในคราวเดียว
“โอเค เข้าใจแล้ว” สวี่หลิงอวิ๋นจ้องมองผู้คนบริเวณโดยรอบตัวเธอ ขณะเดียวกันไกอาก็ก้าวออกมา
“ท่านผู้บังคับบัญชา ท่านต้องการผู้ติดตามไปทำลายล้างยานอวกาศของอีกฝ่ายหรือไม่ครับ?” ไกอาเป็นทหารฝ่ายเทคนิคที่รอบคอบมาก และถูกจัดอยู่ในระดับอัจฉริยะ นอกจากนี้พ่อของเขายังเป็นถึงนักวิจัย ดังนั้นเขาจึงคุ้นเคยกับยานอวกาศรบเป็นอย่างดี
“ถ้าอย่างงั้น ผมจะไปกับท่านด้วยครับ!”
คำพูดของไกอาทำให้สวี่หลิงอวิ๋นขมวดคิ้ว ถูกต้อง เธอกำลังจะออกไประเบิดยานอวกาศรบ ทว่าไกอา… เขายังเด็กอยู่!
“นาย…”
“ท่านผู้บังคับบัญชา งานนี้ผมจัดการได้ครับ!” ไกอากล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ผมคุ้นเคยกับยานอวกาศรบดี และทหารช่างเทคนิคพวกนั้นไม่ควรออกไปจากที่นี่”
สวี่หลิงอวิ๋นจ้องมองเขา “แต่นายควรจะรู้เอาไว้ว่ามันอันตราย”
“ครับ” ไกอายิ้ม “แต่ท่านผู้บังคับบัญชากำลังจะออกไปลงมือทำด้วยตัวเอง ในเมื่อท่านไม่กลัว แล้วผมจะกลัวทำไมครับ?!”
สวี่หลิงอวิ๋นตบไหล่ของเขา “โอเค!”
“ฉันสัญญาว่าจะพานายกลับมาอย่างปลอดภัย!”
สวี่หลิงอวิ๋นกำลังจะพาไกอาขึ้นไปยังเครื่องบินรบ ทว่าเธอกลับถูกชาลีขวางเอาไว้ องครักษ์ส่วนตัวของสวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกวิตกกังวลจนเหงื่อไหลลงมาขณะจ้องมององค์หญิงสามที่กำลังออกไปสนามรบ
ทุกคนรู้ดีว่าองค์หญิงสามเป็นว่าที่จักรพรรดินีแห่งจักรวรรดิชิงเหย้า และตอนนี้ว่าที่จักรพรรดินีกำลังจะไปฆ่าเหล่าศัตรูที่สนามรบ ไปยังพื้นที่ที่อันตรายที่สุด นี่มันไม่บ้าเกินไปหน่อยหรือไง?!
“องค์หญิงสาม ท่านออกไปไม่ได้นะพ่ะน่ะค่ะ มันอันตรายเกินไป! อีกไม่ช้ากำลังเสริมของท่านจักรพรรดิจะมาถึงแล้ว ท่านรออีกหน่อยนะพ่ะย่ะค่ะ!”
สวี่หลิงอวิ๋นจ้องมองและชี้นิ้วไปด้านนอก “เอ๊ะ อะไรอยู่ข้างนอกนั่น? กองกำลังของเสด็จพ่อเหรอ?”
ทันทีที่ชาลีหันศีรษะกลับไป สวี่หลิงอวิ๋นก็ตลบหลังเขาและหนีหายไป
“ก็ได้ น่ารำคาญชะมัด ผ่านไปทั้งกี่วันแล้ว ยังพูดถึงความอันตรายอยู่ได้?” สวี่หลิงอวิ๋นไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากพาไกอาขึ้นไปบนเครื่องบินรบและแล่นออกไป!
ช่างเทคนิคทั้งหลายจ้องมองไกอาที่นอนอยู่บนพื้น ขณะสัมผัสลำคอของเขาเงียบ ๆ
ดูเหมือนว่าองค์หญิงสามจะเป็นคนที่ชอบทำอะไรโดยพลการ พวกเขาหวาดกลัวว่าองค์หญิงสามจะสร้างปัญหาอะไร ดังนั้นพวกเขาจึงต่อสายหาชาลีและเป็นผลให้…
ตอนนี้วิดีโอได้ปรากฏขึ้น!
ทั่วทั้งฐานทัพกำลังยุ่งเหยิง นับตั้งแต่เกราะป้องกันพลังงานถูกเปิดใช้งานจนถึงกระทั่งเหล่าทหารทั้งหมดนำเครื่องบินรบออกไปต่อสู้กับเครื่องบินรบของจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ที่อยู่ด้านนอก เกราะป้องกันพลังงานก็เหลือเวลาไม่ถึงสิบนาที
สวี่หลิงอวิ๋นและไกอาไม่ได้ดูโดดเด่นมากนักในกลุ่มเครื่องบินรบ ทว่าทิศทางของพวกเขากลับแตกต่างออกไป
พวกเขาบินถลาออกมาจากเขตเกราะป้องกันพลังงาน ขณะที่เครื่องบินรบของพวกเขาถูกเคลือบด้วยวัสดุที่ป้องกันระบบสัญญาณตรวจจับที่ทำมาจากหินสีดำ
ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถหลบหนีจากระยะการโจมตีของเครื่องบินรบลำอื่นได้ และพุ่งทะยานขึ้นมาที่ช่องระบายอากาศของยานอวกาศพลังเพลิง
“มันเป็นที่เดียวที่เราจะเข้าไปได้ครับ” ไกอากล่าว และชี้นิ้วไปที่ช่องระบายอากาศ “หรือว่าเราจะคิดหาวิธีแอบเข้าไปในช่องทางของเครื่องบินรบของศัตรูเพื่อต่อสู้กับพวกฝ่ายคนขับก่อนดีครับ”
“แต่ผมว่าแอบเข้าไปจะดีกว่า เพราะช่องระบายอากาศจะมีระบบป้องกัน ถ้ามันหยุดหมุนหรือมีวัตถุแปลกปลอมเข้าไป ระบบแจ้งเตือนจะส่งสัญญาณทันที” ไกอากล่าว
สวี่หลิงอวิ๋นจ้องมองไปที่ช่องระบายอากาศและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะขว้างระเบิดลูกใหญ่เข้าไปในช่องระบายอากาศ และหลีกหนีไปพร้อมกับไกอา
“ปล่อยให้พวกมันตกใจจนทำอะไรไม่ถูกกันไปสักพักก่อน!” สวี่หลิงอวิ๋นกล่าว “ในเมื่อเข้าไปไม่ได้ ก็ขังพวกมันไว้ในนั้นแหละ!”
ไกอาพยักหน้า ท่านพูดถูก!
อย่างที่ไกอากล่าวไว้ การค้นหาวิธีเข้าไปเป็นวิธีการที่ง่ายที่สุด
ทว่าเวลามีอยู่อย่างจำกัดและไม่ปล่อยให้พวกเขาได้คิดมาก ในที่สุดสิ่งที่ทำให้พวกเขาได้เห็นจุดเปลี่ยนแปลงก็คือเครื่องบินรบที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักแล่นกลับมาที่ยานอวกาศ และยานอวกาศก็เริ่มตอบสนอง
สวี่หลิงอวิ๋นกระซิบ “ไกอา พร้อมหรือยัง?”
ไกอาพยักหน้าเล็กน้อย ขณะที่ทั้งสองคนเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้กับเครื่องบินรบ และประตูทางเข้าเงียบ ๆ
เมื่อเครื่องบินรบของจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์เข้าออกจากทางฉุกเฉิน เครื่องบินรบของสวี่หลิงอวิ๋นกับไกอาก็แอบพุ่งเข้าอย่างสำเร็จ
โชคดีที่เครื่องบินรบในปัจจุบันใช้ระบบสแกนแทนการสแกนภาพถ่ายสองมิติ ข้อดีก็คือเครื่องบินรบของพวกเขาไม่ต้องเข้ารับการสแกน
นอกจากนี้ เหล่าทหารยังไม่สามารถมองเห็นห้องโดยสารเครื่องบินรบของพวกเขาได้ด้วยตาเปล่า ทั้งหมดล้วนเป็นการสแกนโดยตรง หากศัตรูปรากฏกายขึ้น จุดสีแดงจะเด่นชัดขึ้น
ต้องบอกว่าหินสีดำมันพลังมหาศาลเสียจริง ตอนนี้เครื่องสแกนของทั่วทั้งห้วงดวงดาวไม่สามารถตรวจจับตัวป้องกันสัญญาณที่ทำมาจากหินสีดำได้
ยานอวกาศลำนี้มีขนาดมหึมา หากกล่าวถึงขนาดของมัน มันมีขนาดใหญ่แทบจะเท่ากับขนาดเมืองของเธอในชาติที่แล้ว!
ทำไมมันถึงมีขนาดใหญ่น่ะเหรอ? นั่นเป็นเพราะว่าต้องใช้พื้นที่สำหรับใช้งานจำนวนมาก
เครื่องบินรบทั้งหลายจอดพักอยู่ในสถานที่ที่มีขนาดใหญ่เกือบหนึ่งในสาม! นอกจากนี้ยังมีสถานที่ให้เหล่าทหารได้พักผ่อนและรับการรักษาพยาบาล ตลอดจนถึงห้องบัญชาการ โรงอาหาร และห้องสันทนาการ
รวมถึงคลังเก็บกระสุนที่สำคัญที่สุด
อุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดจะถูกวางไว้อยู่บนพื้น ถึงแม้จะกินพื้นที่เต็มห้องก็ตาม!