ตอนที่ 286 การช่วยชีวิตจากมหาสงคราม!
ตอนที่ 286 การช่วยชีวิตจากมหาสงคราม!
องค์หญิงสามตบเข้าที่ต้นขา “โธ่เอ๊ย พลาดไปแล้ว! พลาดไป! ถ้ารู้ก่อนหน้านี้ ฉันคงจะใจเย็น ๆ ดูสิว่ายานอวกาศต้องมาพังทั้งลำเพราะฉันคนเดียว!”
ภายในยานที่เป็นระเบียบเรียบร้อยถูกดาบเลเซอร์ของเธอฟันจนย่อยยับแทบจะจำไม่ได้
เศร้าชะมัด! น้ำตาของสวี่หลิงอวิ๋นแทบจะไหลออกมา!
อยากรู้ว่าผนังที่ขาดยับเยินแบบนี้ต้องเสียค่าซ่อมเท่าไหร่กัน?!
สวี่หลิงอวิ๋นถอนหายใจ และลากเนี่ยหานเข้าไปในห้องบัญชาการ “เอาล่ะ ประกาศให้ทหารยอมแพ้ซะ!”
เนี่ยหานลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ขณะที่สวี่หลิงอวิ๋นคอยจ้องมอง “เฮ้ย… อยากเต้นเปลื้องผ้าอีกหรือไง?!”
เต้นเปลื้องผ้า?!
เนี่ยหานรู้สึกพ่ายแพ้สามคำนี้! เขาพยายามจะกัดลิ้นเพื่อฆ่าตัวตายหลายต่อหลายตลอดทางเดิน แต่สวี่หลิงอวิ๋นกลับสังเกตเห็น และหลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เนี่ยหานทำได้เพียงกล้ำกลืนน้ำตาแห่งความอัปยศอดสู และตะโกนใส่ไมโครไฟน “ทุกคนฟัง ศูนย์ปฏิบัติการของเราถูกจักรวรรดิชิงเหย้ายึดครองแล้ว”
ทหารจำนวนหนึ่งในสามที่อยู่บนเครื่องบินรบของจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์แทบจะไม่สามารถต่อสู้ต่อได้ ทว่ากลับยังดึงดัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะสามารถคาดเดาได้ว่ายานอวกาศพลังเพลิงถูกคนจากจักรวรรดิชิงเหย้ายึดครอง แต่กลับไม่คิดว่ามันจะเป็นความจริง
เสียงของเนี่ยหาน ผู้บัญชาการระดับสูงกล่าวต่อ
“…ผมขอประกาศในนามของจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ว่าปฏิบัติการบนดาวเคราะห์เอ็กซ์เอสองล้มเหลว!”
“เจ้าหน้าที่ทั้งหมดเข้ามอบตัวโดยด่วน!”
เสียงประกาศดังก้องไปถึงฐานทัพใหญ่ของจักรวรรดิชิงเหย้า
ชาลีรู้สึกโล่งใจเมื่อได้ยินเสียงประกาศยอมจำนนของจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ และประโยคขึ้นก็ปรากฏขึ้นในใจของเขาว่าพวกเราชนะแล้ว!
“ท่านรองผู้บังคับบัญชา! จักรพรรดิส่งคำสั่งมาใหม่ครับ!”
ทหารนายหนึ่งยื่นกระดาษให้ชาลี
“…ผู้บังคับบัญชาสวี่หลิงอวิ๋นรีบไปช่วยที่ดาวเคราะห์เอ็กซ์บีห้าโดยด่วน!”
ชาลีอีไลพยักหน้า “ตรวจสอบด้วยว่าคนทั้งหมดจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ยอมแพ้หรือยัง สั่งให้ทหารหนึ่งในสามออกไปรับนักโทษกับเครื่องบินรบพวกนั้นซะ และให้คนที่เหลือออกเดินทางไปผู้บังคับบัญชาทันที!”
ขณะเดียวกัน สวี่หลิงอวิ๋นได้รับข้อมูลจากภาคพื้นดิน
“เอ็กซ์บีห้า? ดาวเคราะห์ที่พี่ใหญ่ซื่อบื้อประจำการอยู่น่ะเหรอ!” สวี่หลิงอวิ๋นจ้องมอง แล้วเธอจะไม่ไปช่วยพี่ชายได้อย่างไร? อย่างไรเสีย ดาวเคราะห์ทั้งสองดวงก็อยู่ไม่ไกลกันมาก และใช้เวลาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
สวี่หลิงอวิ๋นไม่รีรอ รีบพาไกอามุ่งหน้าไปที่เครื่องบินรบและออกเดินทางทันที แน่นอนว่าพวกเขาไม่ลืมที่จะพาเนี่ยหานออกเดินทางไปด้วย
สำหรับทหารเหล่านั้น พวกเขาทั้งหมดถูกสวี่หลิงอวิ๋นคุมขัง ไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึงพลังดวงดาว เพราะพวกเขาล้วนถูกจัดการให้สลบลงไป
กลุ่มทหารของจักรวรรดิชิงเหย้าที่มีหน้าที่มารับตัวพวกเขาได้มาถึงทางเข้าลิฟต์เรียบร้อย แต่เนื่องจากศูนย์ระบบควบคุมส่วนกลางของยานอวกาศถูกทำลายจนย่อยยับ ลิฟต์จึงกลายเป็นของไร้ประโยชน์
และก่อนหน้านี้สวี่หลิงอวิ๋นได้เฉือนลิฟต์ออกเป็นสองส่วน!
“เฮ้อ เสียดายเป็นบ้าเลย! เอาไว้เสร็จแล้วให้พี่ใหญ่มารายงานกับฉันด้วยล่ะ!” สวี่หลิงอวิ๋นพึมพำขณะเคลื่อนตัวออกไปอย่างว่องไว
เนี่ยหานติดตามไปโดยไม่พูดไม่จา
พูดไปก็ไร้ประโยชน์ ทั่วทั้งร่างกายของเขามีเพียงลูกตาเท่านั้นที่สามารถขยับได้ เขาไม่สามารถขยับร่างกายได้เลย! ราวกับกลายเป็นอัมพาตไปแล้ว!
ทหารจากจักรวรรดิชิงเหย้าเฝ้าดูเครื่องบินรบบินออกมาจากยานอวกาศของจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ และโค้งคำนับนักรบด้วยความสงบนิ่ง!
หากไม่ใช่เพราะองค์หญิงสาม พวกเขาจะต้องพ่ายแพ้ให้กับสงครามในครั้งนี้อย่างแน่นอน!
และบางทีอาจถึงกับจบชีวิตลง
ชาลีก้าวเข้าไปทักทาย “องค์หญิงสาม…”
“ไม่ต้องพูดไร้สาระ ไปเตรียมยานรบอวกาศมาซะ จะได้ออกเดินทางสักที!”
ชาลีทำได้เพียงกลืนคำชมเชยของเขาลงไปในท้องเงียบ ๆ เมื่อโบกมือขึ้น ยานอวกาศขนาดใหญ่ก็ลงมาจอดเทียบท่า ขณะที่สวี่หลิงอวิ๋นพาไกอาเดินไปขึ้นลิฟต์
ชาลีจ้องมองไกอาด้วยความอิจฉา อยากไปกับองค์หญิงสามด้วยจัง! ดูเด็กนั่นสิ เขาใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงในการประสบความสำเร็จในสนามรบ!
นักเรียนชั้นปีที่หนึ่งคนอื่น และนักเรียนชั้นปีที่สอง ปีที่สาม และปีที่สี่จ้องมองงานในมือของตนเอง
พวกเขามีหน้าที่แจกจ่ายกระสุน และจัดเรียงกระสุน
และตอนนี้มีหน้าที่เพิ่มอีกหนึ่งรายการ นั่นคือการนำตัวเชลยเข้ามาในห้อง
สำหรับเนี่ยหาน ผู้บัญชาการระดับสูงที่ขยับร่างกายไม่ได้ราวกับเป็นอัมพาตก็ถูกพาเข้ามาในห้องเช่นกัน
พวกเขามีหน้าที่ในการลงทะเบียน
นอกจากนี้ยังมีเสบียงอาหารที่องค์หญิงสามมอบมาให้ รวมถึงลูกกระสุนและกุญแจมิติกักเก็บ
“เยอะจัง!” นักเรียนที่มีหน้าที่รับลงทะเบียนหลังจากกลับไปมองทันทีที่ได้ยินเสียงไซเรนจากยานอวกาศ
ทำไมหัวหน้าถึงไม่พาพวกเราไปด้วย!
นักเรียนทั้งหลายครุ่นคิดอย่างโศกเศร้า พวกเขาลงทะเบียนที่นี่เสร็จแล้ว ยังต้องไปดูแลเชลยอีก!
ชาลีกล่าวว่า “ระดับพลังดวงดาวของพวกคุณสูงสุดแล้ว ถ้าพวกคุณไม่ดูแล แล้วใครจะทำ?”
ทหารที่ฐานทัพล้วนอยู่ในระดับ 6 ดาว ใครจะไปเหลือเชื่อได้เท่าพวกเด็กปีหนึ่งจากสถาบันการศึกษาทางการทหารของจักรวรรดิชิงเหย้าในปีนี้กันเล่า!
มีระดับ 8 ดาวอยู่จำนวนสี่คน! รวมเยลแล้วก็เป็นห้าคน!
และระดับ 7 ดาวมีจำนวนมากกว่าหนึ่งร้อยคน!
ไม่ว่าจะดึงคนไหนออกมาก็สามารถเป็นผู้นำตัวน้อยในกองทัพได้!
ดังนั้นปล่อยให้พวกเขาดูแลเชลยไปคงเป็นการดีที่สุด!
เชลยที่มีพลังดวงดาวสูงสุดอยู่ในระดับ 7 ดาวเท่านั้น ต่อหน้าระดับ 8 ดาวพวกนี้…พวกเขาทำได้เพียงลดความหยิ่งยโสโอหังลงอย่างเชื่อฟัง หมอบลงและเอามือไขว้ศีรษะอย่างเงียบ ๆ ตราบใดที่ยังไม่ได้ไปตีใครจะพูดอะไรออกมาก็ได้
ทว่าใครทำให้พวกเขากลายเป็นผู้บุกรุก?!
ขณะเดียวกัน สวี่เจี้ยนอวิ๋นกำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์เดียวกันกับสวี่หลิงอวิ๋น เนื่องจากการรั่วไหลของระบบป้องกันผังเมือง ศัตรูจึงเลือกโจมตีในจุดที่มีเกราะป้องกันพลังงานอ่อนแรงเท่านั้น หลังจากรับมือได้เพียงยี่สิบนาที เกราะป้องกันก็สลายหายไปหลังจากผ่านพ้นมาแค่สามสิบนาที!
เครื่องบินรบของศัตรูโหมกระหน่ำโจมตีภาคพื้นดินอย่างไร้ความปรานี!
ยานรบอวกาศที่เต็มไปด้วยพลังเพลิงกระแทกเครื่องบินรบของทหารชิงเหย้าร่วงหล่นมาทีละลำ!
และไม่สามารถใช้กำลังจากภาคพื้นดินได้!
สวี่เจี้ยนอวิ๋นกำลังเผชิญหน้ากับการสู้รบที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของเขา!
“องค์ชาย รีบหนีไปเถอะพ่ะย่ะค่ะ!” ผู้ช่วยถงอู๋หันไปพูดกับสวี่เจี้ยนอวิ๋น “ทางเราได้รับคำสั่งจากท่านจักรพรรดิแล้วพ่ะย่ะค่ะ มีคำสั่งว่าถ้าสู้ไม่ไหวให้ถอยทัพหรือยอมแพ้พ่ะย่ะค่ะ”
“ถอยทัพ? ยอมแพ้?!” สวี่เจี้ยนอวิ๋นสะบัดมือของถงอู๋ออก “เราเป็นองค์ชายใหญ่แห่งจักรวรรดิชิงเหย้า ถ้ายอมแพ้หรือถอยทัพตั้งแต่เริ่มสงคราม แล้วเมื่อไหร่จักรวรรดิชิงเหย้าจะได้รับความรุ่งโรจน์สักที?!”
“แล้วชาวบ้านทั่วไปจะไปอยู่ที่ไหน?!”
“ในเมื่อต้องต่อสู้ เราก็จะขอยอมตายอยู่ที่นี่!”
ถงอู๋จ้องมององค์ชายที่ดื้อรั้นอย่างกับวัว ทั้งรู้สึกชื่นชมและหมดหวังในเวลาเดียวกัน
ในเมื่อมาถึงจุดนี้แล้วทำไมถึงยังดื้อดึงอยู่อีก? หากสูญเสียดินแดนก็ยังต่อสู้ได้อีกครั้ง แต่หากสูญเสียกำลังคน พวกเขาจะไม่มีวันฟื้นกลับมาอีก!
“ถงอู๋ พาพวกทหารออกไปทีละคน!” สวี่เจี้ยนอวิ๋นจ้องมองถงอู๋ด้วยท่าทีเคร่งขรึม เขารู้เรื่องนี้อยู่แก่ใจ
ถ้าจำเป็นจะต้องตายก็จะตาย ยังมีทหารอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้แต่งงาน อีกทั้งครอบครัวของพวกเขายังรอการกลับไป แล้วสวี่เจี้ยนอวิ๋นจะเต็มใจปล่อยให้พวกทหารออกไปตายได้อย่างไร?