ตอนที่ 309 ถั่วชมพูแสดงอิทธิฤทธิ์ในมหาสงคราม 4
ตอนที่ 309 ถั่วชมพูแสดงอิทธิฤทธิ์ในมหาสงคราม 4
“บัดซบ! ไม่อ่อนโยนเลยแฮะ!” สวี่หลิงอวิ๋นจ้องมองถั่วชมพูด้วยความประหลาดใจ “แกมีความสามารถพิเศษแบบนี้ด้วยเหรอ?”
“แน่นอนสิเมี๊ยว!” ถั่วชมพูโอ้อวดอย่างภาคภูมิใจ “ถ้าไม่มีความสามารถแบบนี้ แล้วเราจะข้ามไปท่องเที่ยวระหว่างห้วงดวงดาวได้ยังไง?”
เอเลี่ยนเผ่าพันธุ์อื่นมักจะมีราชาเอเลี่ยนระดับ 10 ดาวคอยเปิดทางเชื่อมมิติให้ ส่วนพวกมันต้องอาศัยลำแข้งของตัวเองเท่านั้น
แม้ว่าทางเชื่อมมิตินี้จะมีขนาดเล็กและเจาะยากไปหน่อย แต่ก็ยังใช้งานได้อยู่ดีไม่ใช่เหรอ?
“เมี๊ยว! รอก่อนนะเมี๊ยว! เดี๋ยวถั่วชมพูรีบกลับมา!”
“เดี๋ยวก่อน ฉันจะเอาอะไรดี ๆ ให้!” สวี่หลิงอวิ๋นหยิบยาที่ได้รับจากนักชีววิทยาขึ้นมา ยานี้มีกลิ่นหอมหวานคอยหลอกล่อเหล่าเอเลี่ยน แต่อันตรายถึงปางตาย
“ฉีดไปที่มุมไหนของจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ก็ได้!”
ถั่วชมพูจากไป เอเลี่ยนเกอหลัวตัวอื่นก็กระโดดเข้าทางเชื่อมมิติไปด้วยเช่นกัน
เหลือเพียงเอเลี่ยนเกอหลัวสามถึงสี่ร้อยตัวที่ยังไม่แข็งแกร่งมากนัก เฝ้าดูราชาของพวกมันนำกองทัพหัวกะทิออกไปโจมตีอย่างกระตือรือร้น
“เอาล่ะ เด็ก ๆ มานี่มา!” สวี่หลิงอวิ๋นมองดูเจ้าพวกขนปุยที่กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น “เดินทางกันทั้งวันเลยเหนื่อยไหม? ไปนอนกันก่อนไป!”
ทว่าเอเลี่ยนเกอหลัวทั้งหลายกลับส่ายหัว ไม่ไป!
ดวงตาอันกระจิริดของพวกมันจับจ้องไปที่หม้อไฟของเหล่าทหาร อา! พวกมันหิวอีกแล้วสินะ!
ถงจื่อเจินดูแลเอเลี่ยนเกอหลัวพวกนี้มาเป็นเวลานาน และรู้ดีว่าเจ้าเด็กขนปุยพวกนี้หิวอีกแล้ว ความสามารถในการย่อยอาหารของเอเลี่ยนเกอหลัวนั้นแข็งแกร่งมาก! ต่อให้กินเข้าไปแล้ว พวกมันก็ยังสามารถกินได้อีก!
“ยังมีส่วนผสมเหลือพอไหม?” สวี่หลิงอวิ๋นจ้องมองดวงตาละห้อยของเจ้าเด็กขนปุย ถึงแม้ว่ารูปร่างของพวกมันจะดูคล้ายกับถั่วชมพู แต่ก็ยังอยู่ต่ำกว่าหนึ่งระดับ
ขาสั้นป้อม ดวงตากลมโต ทั้งน่ารักและไม่แยแสต่อโลก แต่ก็ยังอันตรายอยู่ดี!
“น่าจะมีพอนะครับ!” ไกอาพูดขึ้นหลังจากคำนวณส่วนผสม
“แบ่งมาให้พวกมันหน่อยสิ!” สวี่หลิงอวิ๋นพูดขึ้น
“ฟังนะ หลังจากพวกแกกินเสร็จแล้ว พวกแกต้องทำตามที่ฉันสั่ง!”
เพราะสวี่หลิงอวิ๋นปล่อยให้ยอดฝีมือระดับ 9 ดาวออกไปก่อนหน้านี้ เธอจึงบอกเงื่อนไขกับเอเลี่ยนเกอหลัวที่เหลืออยู่ และพวกมันก็กลายเป็นคนซื่อสัตย์ในทันที
พวกมันจะต้องเชื่อฟังคำพูดของผู้หญิงเพื่อค้ำจุนร่างกายของพวกมันเอง
“อย่าซน! พอกินเสร็จก็นอนหลับไปซะ เข้าใจไหม?!” สวี่หลิงอวิ๋นสั่ง
เอเลี่ยนเกอหลัวที่เหลือพยักหน้า
กินเสร็จก็นอน? นี่ไม่ใช่สิ่งที่พวกมันทำเป็นประจำหรอกเหรอ?
ณ จักรวรรดิชิงเหย้าในเวลาเดียวกัน
สวี่เทียนอวี๋ที่กำลังนอนหลับสนิทได้ยินข่าวด่วนล่าสุดจากกองกำลังแนวหน้าว่าจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์กำลังเริ่มโจมตีชายแดน!
“เยี่ยมไปเลย! ในที่สุดก็หยุดไว้ไม่ทันแล้วสินะ?” สวี่เทียนอวี๋พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ดูเหมือนลูกชายที่โง่เขลาของเราจะส่งผังป้องกันเมืองให้ฝั่งนั้นแล้ว”
“ช่างโง่เขลาเหลือเกิน!” สวี่เทียนอวี๋ถอนหายใจ
หากเขาไม่ส่งมอบมันก็คงจะมีหนทางอยู่บ้าง แต่ตอนนี้เขาจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับประสงค์ของพระเจ้าแล้วกัน! และอย่าได้คิดเสนอหน้ากลับมาเหยียบจักรวรรดิชิงเหย้าอีก!
“ปล่อยเขาไปตามมีตามเกิดเถอะเพคะ!” จักรวรรดินีลุกขึ้นยืนและตบบ่าผู้เป็นสามี “ไปเถอะเพคะ”
สวี่เทียนอวี๋ลุกขึ้นยืนและจากไป
ดูเหมือนว่าทั่วทั้งจักรวรรดิชิงเหย้าจะทราบข่าวดังกล่าว แสงไฟจำนวนนับไม่ถ้วนจึงค่อย ๆ สว่างขึ้น
ร่างของสวี่เทียนอวี๋ปรากฏขึ้นต่อหน้าสาธารณชน
“เราต้องขอโทษทุกคนด้วยที่ปลุกขึ้นมากลางดึกดื่นแบบนี้” สวี่หลิงอวิ๋นพูดต่อหน้ากล้องถ่ายทอดสด “ตอนนี้จักรวรรดิชิงเหย้าของเรากำลังเผชิญหน้ากับสงครามที่ไม่เคยมีมาก่อน”
[อะไรนะ? เราไม่ได้ป้องกันไว้หรอกเหรอ?!]
[มันเป็นเพราะคนจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์จงใจหาเรื่องกันก่อนใช่ไหม?!]
[เกิดอะไรขึ้นกับคนจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์? ทำไมมาต้องโจมตีชิงเหย้าของเราด้วย? จักรวรรดิชิงเหย้าไปพาลใส่พวกเขาก่อนหรือไง?]
[คุณพูดผิดแล้ว พวกเขามาพาลใส่เราก่อนต่างหาก!]
[หยุดเถียงกันเถอะ ตอนนี้เราควรถามท่านจักรพรรดิว่าจะทำยังไงไม่ใช่เหรอ?]
ชาวเน็ตทั้งหลายเงียบลง และรอคอยให้จักรพรรดิพูดต่อ
“สถานการณ์ปัจจุบันน่าเป็นห่วงมาก” สวี่เทียนอวี๋พูดต่อ “จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ส่งกองกำลังมาเพิ่มเพื่อบุกประชิดพรมแดนของเรา จากนี้ไปเราจะต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์สองรูปแบบ”
“แบบแรกในกรณีนี้ที่พวกเราถูกบุกรุก” สวี่หลิงอวิ๋นพูดขึ้นหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง “เราขอให้ทุกคนซ่อนตัวอยู่ในห้องใต้ดินโดยด่วน”
ผู้คนในจักรวรรดิชิงเหย้าหรือแม้แต่ผู้คนจากจักรวรรดิทั้งห้วงดวงดาวจะจัดเตรียมห้องใต้ดินไว้ข้างใต้เพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีของเอเลี่ยน
แต่การโจมตีของเอเลี่ยนกลับไร้ประโยชน์ ดังนั้นจึงถูกใช้สำหรับการโจมตีของมนุษย์แทน
“แน่นอนว่ารูปแบบที่สองจะดีขึ้นเล็กน้อย” สวี่เทียนอวี๋พูดต่อ “แต่หากการโจมตีของพวกเขาล้มเหลว เราก็ยังต้องเผชิญหน้ากับภาวะข้าวยากหมากแพงอย่างหนัก!”
“ภาวะข้าวยากหมากแพงย่อมตามมาพร้อมกับสงคราม ทุกคนโปรดจงตระหนักไว้ให้ดี เราขอให้ทุกคนประหยัดเท่าที่จะทำได้” สวี่เทียนอวี๋เตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่เลวร้ายที่สุด “บางทีพวกเราอาจจะต้องพบเจอเวลาที่ยากลำบากกันสักพักนึง”
ผู้คนที่อาศัยอยู่ในจักรวรรดิชิงเหย้าต่างนิ่งเงียบ
[เรายังมีองค์หญิงสามอยู่ พวกเราไม่แพ้หรอก!]
ชาวเน็ตพิมพ์ประโยคดังกล่าวลงบนหน้าจอเงียบ ๆ
[ใช่ เรายังมีองค์หญิงสามทั้งคน!]
ถึงแม้ว่าทุกคนจะไม่ใช่คนจินตนาการเก่ง แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าองค์หญิงสามยังอยู่ที่แนวหน้า อย่างไรเสีย เธอจะต้องหาทางออกได้อย่างแน่นอนใช่ไหม?
[องค์หญิงสามเป็นถึงดาววีนัสที่จะมาทำให้ชิงเหย้าของพวกเรายิ่งใหญ่ เราจะต้องไม่เป็นอะไรแน่!]
ทุกคนกำลังปลอบใจตัวเอง
[จะกลัวอะไรกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก? ใช่ว่าเราไม่เคยเผชิญหน้ากับวันแย่ ๆ สักหน่อย!]
ชาวเน็ตต่างให้กำลังใจกันและกัน
ทันทีที่จักรพรรดิตัดจบบทสนทนาทางวิดีโอ ทุกคนก็เดินลงไปที่ชั้นใต้ดินอย่างเป็นระเบียบ
ขณะเดียวกัน สวี่หลิงอวิ๋นก็ได้รับคำสั่งให้เธอปกป้องดาวเคราะห์เอบีสามสุดชีวิต
ส่วนจักรวรรดิเอเดนและจักรวรรดิเหมยรุ่ยได้ส่งกองกำลังไปสกัดกั้นจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์แล้ว
“เยี่ยมไปเลย!” สวี่หลิงอวิ๋นยิ้มเยาะ “คนจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์มั่นใจว่าจะเอาชนะชิงเหย้าของเราได้ใช่ไหม?”
“ไกอาคอยระวังสัญญาณที่อยู่ใกล้ ๆ เอาไว้” สวี่หลิงอวิ๋นสั่ง “ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นมาบอกฉันทันที”
ไกอาพยักหน้าอย่างจริงจัง เขารู้ดีว่าสถานการณ์ปัจจุบันตึงเครียดมากแค่ไหน และไม่ควรละเลยเด็ดขาด
ในเวลาเดียวกัน เหล่าทหารเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้
“ตรวจสอบว่าลูกกระสุนมีพอไหม” สวี่หลิงอวิ๋นถาม “ถามแลนเซล็อตกับพี่ไคกีอีกครั้งว่าพวกเขายังเหลือลูกกระสุนพอหรือเปล่า”
สวี่หลิงอวิ๋นคิดว่าตอนนี้จักรวรรดิของเธอน่าจะกำลังขาดแคลนลูกกระสุน
“ท่านหัวหน้า อย่างที่ท่านคาดการณ์เอาไว้ ลูกกระสุนของเราเหลือไม่เยอะแล้วครับ” ไกอาพูด
“เอาลูกกระสุนที่เรารวบรวมมาให้พวกเขาไป” สวี่หลิงอวิ๋นพูด
“แต่ถ้าอย่างนั้นเราจะไม่มีลูกกระสุนพอนะครับ จะทำยังไงกันดี?”
“ไม่ต้องกลัวไป ทำไมถึงพูดอย่างงั้น?” สวี่หลิงอวิ๋ยิ้ม “ต่อให้ไม่มีปืนหรือปืนใหญ่ ศัตรูก็จะทำมันให้เราอยู่ดี!”
ไกอาถึงกับพูดไม่ออก หรือว่าองค์หญิงสามจะสมองกลับไปแล้ว?
ศัตรูที่ไหนจะโง่เขลาถึงขนาดมอบกองกำลังปืนใหญ่และระเบิดให้พวกเขา
“นายลืมอาวุธและลูกกระสุนที่เรายึดได้จากเนี่ยหานกับเฮ้าส์เดลไปแล้วเหรอ?”
สวี่หลิงอวิ๋นยิ้ม
ไกอาพยักหน้าด้วยความสับสน
ขณะนี้ถั่วชมพูนำกองกำลังของมันทะยานขึ้นไปบนฟากฟ้าเหนือจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์