ตอนที่ 317 เอเลี่ยนรุมล้อมจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ 4
ตอนที่ 317 เอเลี่ยนรุมล้อมจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ 4
เธอรู้ดีว่าพืชพลังงานคือของนอกกาย การมีชีวิตรอดคือสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้!
“พ่ะย่ะค่ะ! ฝ่าบาท!”
ขณะเดียวกัน สเปนเซอร์ค่อย ๆ ฟื้นขึ้นมา
“ฉันอยู่ที่ไหน?” สเปนเซอร์รู้สึกเจ็บที่หลังคอเล็กน้อย และหลังจากสัมผัสเข้าที่หลังคอ เขาก็จดจำได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้
“ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นข้างนอกนั่น? เราอยู่ที่ไหนกัน? อยู่ในห้องใต้ดินเหรอ?” แม้สเปนเซอร์จะลุกขึ้นนั่ง ทว่าสถานการณ์ภายนอกกลับไม่ได้เปลี่ยนไป
ทำได้เพียงมองดูจอมพลทั้งหลายที่นำกองทัพกลับมา
“ส่งข้อความถึงจอมพลคนอื่นให้รีบกลับมาซะ” สเปนเซอร์ถอนหายใจ ทั้งหมดเป็นเพราะเขา หากเขาไม่ดื้อรั้นตั้งแต่แรก จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์จะต้องเผชิญหน้ากับความสิ้นหวังเช่นนี้เหรอ?
เขายังฉลาดพอที่สั่งให้กองทัพบางส่วนกลับมา แต่ตอนนี้เมื่อคิดดูแล้วเขาเองที่อยากจะทำร้ายผู้อื่น แต่ตอนนี้กลับเป็นฝ่ายถูกทำร้ายเสียเอง
“องค์หญิงเหมยหมี่ออกคำสั่งไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ผู้บัญชาการระดับสูงประคองเขาอย่างอ่อนโยนและพูดต่อว่า “ฝ่าบาทยังมีรับสั่งให้ส่งสัญญาณไปขอความเชื่อเหลือจากจักรวรรดิอื่นอีกด้วยพ่ะย่ะค่ะ หากใครก็ตามที่คลี่คลายวิกฤตการณ์ของจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ได้สำเร็จ เราก็เต็มใจจะมอบพืชพลังงานเป็นค่าตอบแทนให้พวกเขาพ่ะย่ะค่ะ”
พืชพลังงานมีราคาที่ค่อนข้างสูง แต่สเปนเซอร์กลับไม่คิดว่าลูกสาวของเขาทำอะไรผิดพลาด…
หลี่ผิงผิงมองดูสามีที่ฟื้นขึ้นมาราวกับได้เห็นบุคคลสำคัญในชีวิต ก่อนที่จะพุ่งเข้าไปในอ้อมกอดของสามี
“ฮือ ๆๆ น้องคิดว่ามันจะจบแล้วซะอีก น้องคิดว่าเราจะตาย” หลี่ผิงผิงพูดจาสะเปะสะปะ และไม่รู้ว่าพูดอะไรออกมา
เธอที่เป็นกุลสตรีอย่างแท้จริงไม่เคยคิดว่าจะต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน พวกสงครามและเอเลี่ยนล้วนห่างไกลจากตัวเธอ สิ่งที่เธอต้องการจะทำก่อนหน้านี้คือการสวมชุดราตรีแสนสวย ดื่มน้ำชายามบ่ายกับจักรพรรดินีกับองค์หญิงต่าง ๆ จากจักรวรรดิทั้งหลาย หรือดูแลธุรกิจแบรนด์เสื้อผ้าของเธอ
เธอแค่ต้องการให้ลูกชาย ลูกสาว และสามีมอบความรักให้เธอ ยืนหยัดอยู่ในตำแหน่งจักรพรรดินีอย่างมั่นคง มีชีวิตราบรื่น ไร้ซึ่งปัญหา แต่ทว่าวันนี้เธอกลับต้องสูญเสียทุกอย่าง
“เอาล่ะไม่ต้องกลัวไป เราจะไม่เป็นอะไร ไม่ต้องห่วง น้องไม่ต้องกังวลไป” สเปนเซอร์ลูบหลังภรรยาและพูดออกมาด้วยความลำบากใจ
ภรรยาของเขาเป็นเหมือนกับเด็กหญิงตัวน้อย เธอจะเคยเผชิญหน้ากับการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่แบบนี้ได้อย่างไรกัน?
โชคดีที่เหมยหมี่เป็นคนสุขุมรอบคอบ เพราะถ้ามัวแต่สับสนวุ่นวายเหมือนกับเขาก่อนหน้า บางทีภรรยาอาจจะต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ยากลำบากยิ่งกว่านี้จนทำอะไรไม่ถูก
“เสด็จพี่ แล้วตอนนี้เราจะทำยังไงกันดีเพคะ?” หลี่ผิงผิงโอบกอดสามี ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“จะต้องไปทีละขั้นตอน ก่อนอื่นเราจะต้องกวาดล้างเอเลี่ยนพวกนี้ก่อน”
“เสด็จพี่ น้องได้ยินมาว่าองค์หญิงสามจากจักรวรรดิชิงเหย้าถูกทวยเทพส่งลงมาให้คลี่คลายพวกเอเลี่ยนและกอบกู้จักรวาลแห่งนี้ พวกเรากำลังถูกเอเลี่ยนปิดล้อม เราขอให้องค์หญิงสามมาช่วยเราได้ไหมเพคะ?”
หลี่ผิงผิงถามออกมาอย่างไร้เดียงสา
สเปนเซอร์ลูบศีรษะภรรยาตัวน้อย และรู้สึกอายเกินกว่าจะพูดอะไรออกมา
การที่องค์หญิงไม่ขนเอเลี่ยนมาเพิ่มอีก นั่นนับว่าเป็นการแสดงความเมตตาแก่จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ของพวกเขาแล้ว แล้วทีนี้พวกเขาจะกล้าแบกหน้าไปขอให้ผู้คนมาช่วยคลี่คลายการปิดล้อมได้อย่างไร?
ยิ่งไปกว่านั้นทั้งสองจักรวรรดิยังอยู่ในสภาวะสงคราม การที่พวกเขาถูกปิดล้อม อีกฝ่ายมีแต่จะส่งเสียงร้องยินดีเท่านั้น
เหมยหมี่หันศีรษะกลับไปเงียบ ๆ สำหรับแม่ผู้ไร้เดียงสาของเธอแล้ว ไม่มีความคิดที่จะช่วยอะไรได้นักหรอก
สเปนเซอร์พูดถูก ตอนนี้จักรวรรดิชิงเหย้ากำลังเฉลิมฉลองกันทั่วหล้า
เดิมทีสนามรบกำลังรุ่มร้อน แต่หลังเอเลี่ยนปิดล้อมเมืองหลวงของจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ กองทัพก็เริ่มล่าถอย และความตึงเครียดในสนามรบก็จางหายไปในทันที
[กรรมตามสนองอย่างง่ายดายเลยสินะ เจ้าพวกจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์สารเลว นี่คือการลงโทษของทวยเทพ!]
ชาวเน็ตจากจักรวรรดิชิงเหย้าเริ่มแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ที่ถูกเอเลี่ยนปิดล้อมบนพื้นที่ออนไลน์ของพันธมิตรห้วงดวงดาว
[ทำได้ดีมาก! เจ้าเอเลี่ยนพวกนั้นตาถึงจริง ๆ! เริ่มเลย ไปโจมตีจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ซะ คนจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ชอบต่อสู้กับพวกแก เพราะพวกเขาไม่อยากปล่อยความแข็งแกร่งให้สูญเปล่า]
[ฉันเตรียมปลาหมึกกระป๋อง เนื้ออบแห้งและของอื่น ๆ ไว้พร้อมสำหรับหนังสุดสนุกเรื่องนี้แล้ว!]
[เหมือนคอมเมนต์บน!]
[เหมือนคอมเมนต์บน! +1 ]
[เหมือนคอมเมนต์บน! +2]
…
ผู้คนจากจักรวรรดิอื่นเฝ้าดูความคิดเห็นจากจักรวรรดิชิงเหย้าบนโลกอินเทอร์เน็ตเงียบ ๆ และไม่มีใครกล้าออกมาหักล้างพวกเขา
[ทำได้ดีมาก จักรวรรดิเหมยรุ่ยกับจักรวรรดิชิงเหย้าจะรักกันกลมเกลียวตลอดไป]
[จักรวรรดิไอเดนจะไม่ถูกทอดทิ้งให้อยู่ข้างหลังใช่ไหม? คงจะดีกว่านี้ถ้าพวกคุณแบ่งเค้กมาให้พวกเราสักสองก้อน]
[ใช่ ๆๆ! พี่น้องทั้งสอง! เอาไว้ว่างแล้วหาเวลามาชิงเหย้าบ่อย ๆ น้า…!]
…
ในที่สวี่เทียนอวี๋ก็รู้สึกผ่อนคลายลง และเริ่มมีเวลาเล่นตลกกับรัฐมนตรีทั้งหลาย
“เราบอกแล้วไงว่าชิงเหย้าของเราไม่เป็นอะไรหรอก ดูซะด้วยว่าลูกสาวเราคือใคร” สวี่เทียนอวี๋พูดออกมาอย่างมีความสุข “ดูสิว่าแค่เธอคนเดียวจัดการยานรบอวกาศไปแล้วตั้งกี่ลำ ต้องยกความดีความชอบให้เลยนะ”
รัฐมนตรีทั้งหลายพยักหน้า ถูกต้อง องค์หญิงสามได้รับความดีความชอบในการต่อสู้มานับครั้งไม่ถ้วนจริง ๆ
“ชายใหญ่เป็นอะไรไหม? ดูซิว่าบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?” หลังจากชื่นชมลูกสาวมาเป็นเวลานาน เขาก็นึกขึ้นได้ว่าลูกชายคนโตต้องอดทนกับความยากลำบากและเสียงวิพากษ์วิจารณ์เช่นกัน
สวี่เจี้ยนอวิ๋นซับเหงื่อออกจากใบหน้า
คนจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ถอยออกไปก่อน หากพวกนั้นไม่ยอมถอยออกไป เขาก็จะแสดงให้คนจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์รู้อยู่ดีว่าการนองเลือดเป็นอย่างไร!
เขาเองยังมีลูกกระสุนอยู่จำนวนมาก
นักเรียนชั้นปีที่หนึ่งที่อยู่บนดาวเคราะห์เอ็กซ์เอบีกำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับหัวหน้าของพวกเขา
“ไม่รู้ว่าหัวหน้าพากองกำลังไปที่ไหนบ้าง แต่ได้ยินมาว่าฝ่าบาทได้รับความดีความชอบเยอะเลย”
“ไกอาได้รับคุ้มเลยแฮะ ถ้าพวกเราอยู่ที่นั่น เราก็คงจะได้รับความดีความชอบเหมือนกันนั่นแหละ” รุยผู้อิจฉาพูดขึ้น
เหตุไฉนเขาถึงไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าชายผู้ยิ้มแย้มแจ่มใสจะมากแผนการเช่นนี้
โธ่เอ๊ย มันเป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ ถ้าเกิดรู้ก่อนหน้านี้ว่าจะได้เรียนรู้ทักษะต่าง ๆ เขาคงจะแบกหน้าตามองค์หญิงสามออกไปด้วย
“เฮ้ย! อย่าเพิ่งถอนหายใจไป เนี่ยหานจงใจจะสร้างปัญหาอะไรอีก” ทหารผู้มีหน้าที่เฝ้าดูเนี่ยหานขมวดคิ้ว “ไม่กินอาหารเข้าไปซะล่ะ จะอดอาหารหรือไง?”
“มันไม่กินก็ช่าง ยังไงก็ไม่อดตายหรอกน่า”
ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่ ทันใดนั้นคนหนึ่งก็พูดขึ้นว่า “มันไม่ได้อยากจะไปเข้าห้องน้ำหรอกใช่ไหม?”
“ถ้านายไม่พูดมันก็ยังพอเป็นไปได้ แต่ว่ามันไม่ได้ไปเข้าห้องน้ำตั้งแต่ถูกจับตัวมา”
ทั้งสองมองหน้ากัน และหันหน้าหนีในทันที
“นายไป”
“นายไป”
ทั้งสองพูดเป็นเสียงเดียวกัน
“ฉันแก่กว่านาย และเป็นรุ่นพี่ของนาย นายจะต้องเชื่อฟังฉัน” ทหารพูดขึ้น
“นายแข็งแกร่งหรือไง อยู่แค่ระดับ 6 ดาวไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้ฉันอยู่ระดับ 8 ดาวแล้ว ถ้าพูดถึงความแข็งแกร่ง คนที่แข็งแกร่งน้อยก็ควรจะเชื่อฟังคนที่แข็งแกร่งกว่าสิ! เพราะงั้นนายไป!”
ทั้งสองผลักไปกันมา ไม่มีใครต้องพาเผชิญหน้ากับปัสสาวะและอุจจาระของเนี่ยหาน
ทหารที่อยู่ด้านข้างถึงกับพูดไม่ออก ทำได้เพียงกุมขมับ
“ถ้าพวกนายสองคนไม่อยากไปนัก ทำไมไม่ให้แขนกลไปแทนล่ะ?”