ตอนที่ 319 ถั่วชมพูถูกหลอก
ตอนที่ 319 ถั่วชมพูถูกหลอก
สวี่หลิงอวิ๋นมองดูเหล่าทหารขึ้นไปจัดการเชลยที่อยู่บนยานอวกาศ และพูดว่า “มีผู้บัญชาการระดับสูงอยู่ด้วย ท่านต้องจับตาดูให้ดี อย่าปล่อยให้เขาหนีไปได้”
มอร์ริสพยักหน้า สายตาของเขาจับจ้องไปที่เชลย
“เอ๋ ใช่จอมพลคอนนีย์จากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์หรือเปล่าพ่ะย่ะค่ะ?” มอร์ริสพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ “จอมพลคอนนีย์ถูกฝ่าบาทจับตัวมาได้ยังไงพ่ะย่ะค่ะ?”
“ท่านก็รู้จักจอมพลคอนนีย์เหรอ?” สวี่หลิงอวิ๋นมองดูมอร์ริสด้วยความประหลาดใจ ไม่คาดคิดว่ามอร์ริสจะรู้จักคนมากมาย
“ตอนที่กระหม่อมยังเรียนอยู่ กระหม่อมเคยไปเข้าร่วมการแข่งขันหัวหน้าที่จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์มาพ่ะย่ะค่ะ และได้เจอกับจอมพลคอนนีย์ในตอนนั้น” มอร์ริสพูด “ตอนนั้นจอมพลคอนนีย์ได้รับเชิญให้มาเป็นแขกพ่ะย่ะค่ะ”
“เป็นแบบนี้นี่เอง คิดไม่ถึงจริง ๆ” สวี่หลิงอวิ๋นยักไหล่ ตบไหล่ของมอร์ริส ก่อนจะยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว ในเมื่อเขามอบรางวัลให้ท่าน ท่านก็อยู่ดูแลเขาซะ”
“ฮึ่ม!” มอร์ริสตอบรับด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย
ปีที่แล้วจักรวรรดิของพวกเขายังสงบสุขกันดีอยู่ไม่ใช่เหรอ? ทั้งสองจักรวรรดิยังเป็นพันธมิตรกันอยู่ด้วยซ้ำ? แต่ปีนี้กลับหันมาเล่นงานกัน
หลังจากที่ทั้งสองพูดคุยกันอยู่สักพักหนึ่ง สวี่หลิงอวิ๋นก็พาผู้คนกลับไปพักผ่อนที่ฐานทัพ
ฉินหยวนมองดูใบหน้าที่เหนื่อยล้าของสวี่หลิงอวิ๋น และอดจะถามออกไปไม่ได้ว่า “ฝ่าบาท ทำไมท่านไม่ไปพักผ่อนที่ดาวเคราะห์เอบีสามล่ะครับ? ห่างออกไปอีกหน่อยแต่จะได้อยู่ไกลจากพวกเชลยบ้าง”
มือของสวี่หลิงอวิ๋นชะงัก เธอรู้สึกอายมากที่จะพูดออกไปว่าเธอหลอกลวงถั่วชมพู ถ้าเธอไปที่ดาวเคราะห์นั้น เธอจะไม่ถูกถั่วชมพูทุบตายเอาเหรอ?
“อ๋อ ไม่ดีกว่า เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าไม่ได้เจอพวกนายตั้งนาน ฉันก็เลยแวะมาหาพวกนายที่นี่ไง” น้ำเสียงของสวี่หลิงอวิ๋นสูงปรี๊ด แต่กลับทำให้ฉินหยวนประทับใจ
“หัวหน้าต้องให้ความสำคัญกับร่างกายให้มากกว่านี้นะครับ ครั้งต่อไปอย่าทำแบบนี้อีก ยังไงพวกเราก็เข้าใจหัวหน้าอยู่แล้ว”
สวี่หลิงอวิ๋นพยักหน้าด้วยความรู้สึกผิดเล็กน้อย และพูดว่า “ไม่ต้องห่วง ก็แค่เล็กน้อย ไม่ได้เหนื่อยนักหรอก”
ถั่วชมพูกำลังนั่งกินทอฟฟี่ของมันอย่างมีความสุข ทอฟฟี่มีอยู่เยอะมาก มันต้องกินเข้าไปเท่าไหร่ถึงจะหมด?
เจ้าถั่วชมพูมีความสุขจะตายแล้ว! แต่ยิ่งกินเข้าไปเท่าไหร่ เฮ้ย! อะไรกันนี่?
ทำไมรสชาติน้ำตาลน้อยลงทุกที แต่รสชาติของเนื้ออบแห้งกลับเพิ่มมากขึ้น?
ถั่วชมพูค่อย ๆ เคี้ยว ดวงตาที่เป็นเส้นตรงเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง
“เมี้ยว!!!! ยัยคนโกหก เธอให้เนื้ออบแห้งมาแทนทอฟฟี่ของฉัน โมโหแล้วเมี้ยว!!!”
ถั่วชมพูร้องตะโกนด้วยความโกรธจัด
ถงจื่อเจินไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ ๆ มหาราชาเกอหลัวตัวนี้ถึงได้เริ่มไม่พอใจและโกรธเคืองอีกครั้ง ก่อนจะรีบเอ่ยถาม
“มหาราชาถั่วชมพู ท่านเป็นอะไรไปครับ? มีอะไรผิดปกติงั้นเหรอ?”
“เมี้ยว…!!!! ฮือ ๆๆๆๆๆ!!!!” ถั่วชมพูร้องไห้ออกมาจนขี้มูกหยดย้อย “ฉันถูกผู้หญิงคนนั้นหลอก ใช่แล้ว…คนสวยมักขี้โกหก!!! ฉันไม่ควรหลงเชื่อเธอเลย!!!”
“เธอให้เนื้ออบแห้งมาแทนที่ทอฟฟี่! ฮือ ๆๆ!” ถั่วชมพูโกรธมาก ทั้งเศร้าใจและทุกข์ทรมาน!
ถงจื่อเจินรู้สึกสงสารมันทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น!
“ฉันจะไปเอาคืนผู้หญิงคนนั้น” ถั่วชมพูพูดทั้งน้ำตา และทำท่าทีว่าจะออกไป
“เดี๋ยวก่อนมหาราชาถั่วชมพู ท่านรู้เหรอว่าฝ่าบาทอยู่ไหน? ท่านจะบุ่มบ่ามไปแล้ว จะไปหาองค์หญิงสามได้ที่ไหนกัน?” ถงจื่อเจินพูดออกมาอย่างขมขื่น “เราควรขอให้องค์หญิงสามออกมาชี้แจ้งก่อนไม่ใช่เหรอ? บางทีอาจจะเข้าใจผิดกันก็ได้นี่ครับ?”
“เมี้ยว! เข้าใจผิดอะไร? เธอหลอกลวงฉัน!” ใบหน้าขนปุยของถั่วชมพูเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ดูเหมือนว่ามันจะเศร้าใจเป็นอย่างมาก!
“งั้นเอาแบบนี้มหาราชาถั่วชมพู พวกเรามาติดต่อองค์หญิงสามกันดีไหมครับ?!” ถงจื่อเจินพยายามหลอกล่อมัน
ท้ายที่สุดถั่วชมพูก็เห็นด้วยและยินดีจะรับฟังคำอธิบายของสวี่หลิงอวิ๋น!
ถงจื่อเจินรีบต่อสายหาสวี่หลิงอวิ๋น และสวี่หลิงอวิ๋นก็รับสายสนทนาทางวิดีโอ
“ฮัลโหล” เมื่อใบหน้าของสวี่หลิงอวิ๋นปรากฏขึ้นบนหน้าจอวิดีโอ ใบหน้าอ้วนกลมของถั่วชมพูก็เข้ามายึดครองวิดีโอทันที ก่อนจะเริ่มต่อต้านและประณามสวี่หลิงอวิ๋น
“ทำไมเธอถึงได้มาหลอกลวงฉัน?! ทำไมถึงให้เนื้ออบแห้งแทนทอฟฟี่ เธอรู้ไหมว่าเธอกำลังหลอกหลวงเมี้ยว?!!” ถั่วชมพูยังคงจู้จี้จุกจิกด้วยความขุ่นเคือง และกล่าวโทษสวี่หลิงอวิ๋น
“ฉันทำแบบนี้ก็เพื่อแกไม่ใช่หรือไง? ฉันรู้ว่าแกจะกินทอฟฟี่จนหมดภายในหนึ่งชั่วโมง ถ้าฉันไม่เอาเนื้ออบแห้งมาแทนที่ แกก็จะกินทอฟฟี่จนเกินลิมิต แล้วแบบนี้ร่างกายแกจะรับไหวเหรอ?” สวี่หลิงอวิ๋นถอนหายใจและพูดต่อ “ดูร่างกายของแกในตอนนี้บ้างสิ ถ้าแกยังเป็นแบบนี้ต่อไป แกจะมีโอกาสได้เลื่อนขั้นไปสิบดาวเหรอ?”
“เมี้ยว!!! หมายความว่ายังไง?” ถั่วชมพูไม่เชื่อ มันคิดว่าสวี่หลิงอวิ๋นเพียงหาข้อแก้ตัวเท่านั้น
“เธอกำลังโกหกอีกแล้วเมี้ยว! ฉันไม่เชื่อหรอก!!” ถั่วชมพูยังคงโกรธจัด ขณะเดินวนเวียนไปมาอยู่ข้างหน้ากล้องวิดีโอ
“ทำไมฉันจะต้องโกหกแกด้วยล่ะ?” สวี่หลิงอวิ๋นถึงกับพูดไม่ออกเมื่อจ้องมองมาที่มัน “นานแค่ไหนแล้วที่แกไม่ได้ใช้พลังจิตกับพลังดวงดาว? ดูแกสิ เอาแต่อ้วนเอา ๆ แล้วแบบนี้แกยังจะคิดที่จะเลื่อนระดับเป็นสิบดาวอยู่อีกเหรอ?”
“ไม่ต้องมากังวลแทนฉันหรอกเมี้ยว!!” ถั่วชมพูโกรธเคืองและพูดต่อว่า “ฮึ่ม! เธอจะโกหกฉันอีกแล้วสินะ!”
“ฉันจะโกหกแกไปทำไม?” สวี่หลิงอวิ๋นส่ายหัว “ดูนี่สิ!”
เธอหยิบปุ่มมิติกักเก็บที่เต็มไปด้วยทอฟฟี่ออกมาจากกระเป๋า!
“เดิมทีฉันเตรียมมันไว้ให้แกด้วยซ้ำ แต่ว่าวันนี้ฉันลองใช้พลังจิตเดินวนเวียนรอบร่างกายแก และเห็นว่าร่างกายของแกมีแต่ไขมันสะสมอยู่ ถ้าแกยังจะทำแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ พลังดวงดาวของแกจะสูญเปล่า และในชีวิตนี้แกจะไม่มีวันได้เลื่อนขั้นไปถึงสิบดาวแน่นอน”
“ถ้าแกอยากจะเลื่อนขั้นไปให้ถึงระดับสิบดาว ระหว่างนี้แกจะต้องดูดซับพลังงานในไขมันซะ จากนั้นควบคุมปริมาณอาหารและฝึกฝนให้ดี!”
“แล้วระดับสิบดาวที่แกหวังไว้จะกลายเป็นจริง!” สวี่หลิงอวิ๋นพูดต่อ “แกไม่อยากเป็นเอเลี่ยนเกอหลัวตัวแรกที่เลื่อนขั้นไปถึงระดับสิบดาวเหรอ?”
“ในอนาคตแกจะได้เป็นราชาแห่งเอเลี่ยนเกอหลัว แล้วถึงตอนนั้นจะมีเอเลี่ยนตัวไหนในจักรวาลบ้างที่ไม่ยอมก้มหัวคำนับแก? และต่อให้เจอของอร่อย แกก็สามารถคว้าเอามาไว้ในมือได้โดยไม่ต้องพูดอะไรสักคำใช่ไหมล่ะ?”
สวี่หลิงอวิ๋นกำลังหลอกล่อ
เจ้าถั่วชมพูรู้สึกตื่นเต้นทันทีที่ได้ยินเกี่ยวกับอนาคตที่รุ่งโรจน์ หางแมวปัดกวาดไปทั่วพื้น ขณะที่ดวงตาเป็นประกาย!
น้ำเสียงของสวี่หลิงอวิ๋นเป็นเหมือนกับเสียงกระซิบที่ดังมาจากขุมนรก สะกดมันให้หลงใหล!
ถูกแล้ว! เมี้ยว!
ถั่วชมพูลุกขึ้นยืน!
เพื่ออนาคตที่ดีกว่า จะต้องรู้จักอดทนกับความอัปยศอดสูและแบกรับความเกลียดชัง!
“เอาล่ะ! ยัยทาสตัวดี! ราชาคิดว่าคำพูดของเธอก็เข้าท่านะ!” ถั่วชมพูพูดออกมาอย่างจริงจัง “แต่ว่าเธอยังติดหนี้ทอฟฟี่กับฉันอยู่นะ!”
ถั่วชมพูแสดงตนว่ามันมีความรับผิดชอบอยู่มาก!
ในช่วงนี้จะต้องฝึกฝนให้ดี!