ตอนที่ 329 ซื้อขาย
ตอนที่ 329 ซื้อขาย
สเปนเซอร์ยิ้มอย่างขมขื่น ทำไมประชากรบริสุทธิ์ ลูกสาว และภรรยาของเขาจะต้องมาชดใช้ตราบาปของเขาด้วย?
ถ้าอยากจะฆ่าเขาก็ฆ่าเขาคนเดียวสิ!
น่าเสียดายที่พระเจ้าไม่มอบโอกาสนั้นให้เขา
“ฝ่าบาท จะส่งข้อความถึงฝ่าบาทสวี่เทียนอวี๋เหรอพ่ะย่ะค่ะ?” ช่างเทคนิคถาม
“ไม่ ส่งมันหาสวี่หลิงอวิ๋นโดยตรง” ชายชราจะต้องไม่ยอมรับข้อความของเขาแน่ ตาเฒ่านั้นรักลูกสาวมากกว่าอะไรและคงจะไม่เห็นด้วย
แต่ถ้าส่งข้อความถึงสวี่หลิงอวิ๋นมันจะแตกต่างกันออกไป เขาศึกษาเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้มาแล้ว และพบว่าเธอค่อนข้างใจกว้าง ฉลาดหลักแหลม กล้าหาญ และมีไหวพริบ
ถ้าต่อรองกับเธอด้วยผลประโยชน์ที่สมเหตุสมผล เธอจะต้องมาช่วยจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์แน่นอน!
หากถามว่าทำไมจะต้องเป็นสวี่หลิงอวิ๋น? อันที่จริงมันง่ายมาก เพราะเขาเชื่อว่าสถานการณ์ที่เลวร้ายแบบนี้เป็นเพราะพระเจ้ากำลังลงโทษเขา และการต่อต้านกับวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ อาจมีเพียงเธอที่อยู่ในคำทำนายเท่านั้นที่จะสามารถคลี่คลายมันได้
และมันอาจจะเป็นเรื่องดี หากสวี่หลิงอวิ๋นไม่สามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้และเสียชีวิตลงในสงครามครั้งนี้ เพราะอย่างน้อย สิ่งสุดท้ายที่เขาสามารถทำเพื่อจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ได้ นั่นก็คือกำจัดศัตรูที่ทรงพลังที่สุดออกไป
ช่างเทคนิคถอนรหัสคลื่นสัญญาณของสวี่หลิงอวิ๋นอย่างรวดเร็วและเชื่อมต่อไปหาเธอ
“โย่ ใครน่ะ? คนแปลกหน้าที่ไหนโทรวิดีโอมาหาฉัน?” สวี่หลิงอวิ๋นสงสัย เธอเห็นเพียงคลื่นสัญญาณด้านบนที่ส่งตรงมาจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ เธอจำไม่ได้ว่าตัวเองมีญาติอยู่ที่จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ด้วย
เธอมีศัตรูค่อนข้างน้อย และไม่รู้ว่าเป็นศัตรูคนไหน
สวี่หลิงอวิ๋นตอบรับและมองดู “ดูเหมือนว่าจะเป็นคนคุ้นเคย”
ใบหน้าของสเปนเซอร์ปรากฏขึ้นต่อหน้าสวี่หลิงอวิ๋น ขณะที่เธอยกมือขึ้นเพื่อทักทาย “โย่ สวัสดีฝ่าบาทสเปนเซอร์ ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเจอท่าน!”
สวี่หลิงอวิ๋นพูดออกมาด้วยน้ำเสียงร่าเริง “ทำไม ท่านกำลังมองหาอะไรอยู่เหรอ?”
สเปนเซอร์จ้องมองเธอด้วยท่าทีสงบนิ่ง “เรามีเรื่องที่อยากจะขอให้องค์หญิงสามช่วย ไม่ทราบว่าท่านจะยินดีช่วยเหลือเราไหม? ถ้าท่านเต็มใจจะช่วยเหลือเรา ท่านจะขออะไรจากเราก็ย่อมได้”
“ขออะไรก็ได้งั้นเหรอ?” สวี่หลิงอวิ๋นแทบจะหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น และพูดว่า “ฉันจะกล้าขออะไรจากพวกท่านซะที่ไหนกันล่ะ? ถ้าเกิดตอนนี้ฉันขออะไรไป แล้วพวกท่านไม่เห็นด้วย ทีนี้ฉันจะทำยังไงกับพวกท่านได้บ้างล่ะ!”
สวี่หลิงอวิ๋นยักไหล่และพูดต่อ “ฉันไม่สามารถทำตามคำขอของท่านได้หรอก ท่านไปหาคนที่มีความสามารถมากกว่านี้เถอะ!”
เธอสามารถคาดเดาได้ในทันที ชายผู้นี้จะให้เธอไปต่อสู้กับเหล่าเอเลี่ยน
ใจร้ายเสียจริง! เฮอะ! ถ้าเธอตายขึ้นมา ผู้คนจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์จะไม่จุดประทัดฉลองกันสองเส้นเลยหรือไง? ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้พูดถึงประทัดก็ตามเถอะ
เธอจะไม่มีวันถูกหลอกเด็ดขาด!
โอคาซีฟังสิ่งที่สวี่หลิงอวิ๋นพูดเงียบ ๆ และพยักหน้า ต้องแบบนี้สิ!
สเปนเซอร์เงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ถ้าเป็นพืชพลังงานสิบต้นล่ะ ท่านจะช่วยพวกเราไหม?”
“สิบต้นก็ไม่เอา! ฉันต้องไปเสี่ยงตายเชียวนะ!” สวี่หลิงอวิ๋นปฏิเสธอย่างแน่วแน่! แม้ภายนอกจะเอ่ยวาจาปฏิเสธอย่างสัจธรรม แต่ภายในใจกลับเจ็บเจียนตาย
พระเจ้า!! นั่นพืชพลังงานเชียวนะ ไม่ใช่ของราคาถูกเลย!
ถ้าเธอมีพืชพลังงานสิบชนิดนี้ เธอจะได้รับผลประโยชน์อีกตั้งเท่าไร? ยาที่ผลิตมาจากพืชพลังงาน ล้วนเป็นสินค้าขายดีที่หมุนเวียนอยู่ในห้วงดวงดาวตลอดกาล!
สเปนเซอร์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงเป็นแบบนี้? ไม่เห็นเหมือนที่ข่าวลือว่าไว้สักนิด หรือว่าค่าตอบแทนจะน้อยเกินไป?
“ถ้าอย่างงั้นท่านต้องการอีกเท่าไหร่ถึงจะพอใจ?” สเปนเซอร์พูด “พืชพลังงานเป็นสิ่งล้ำค่าที่สุดที่เราจะมอบให้ท่านได้ แต่ถ้าท่านต้องการอย่างอื่นนอกเหนือจากนี้ ถ้าเรารับได้ก็มาคุยกันต่อ แต่ถ้าเรารับไม่ได้ก็ถือว่าเราไม่ได้พูดอะไรแล้วกัน”
สวี่หลิงอวิ๋นรับฟังข้อตกลงดังกล่าว หากการซื้อขายนี้จบลง เธอจะต้องตายลงอย่างน่าสมเพชหรือไม่?
“งั้นฉันจะพูดถึงสิ่งที่ฉันต้องการได้ไหม?” สวี่หลิงอวิ๋นพูด “ฉันจะไม่เกรงใจแล้วกัน ฉันต้องการให้พวกท่านมอบดาวเคราะห์จำนวนสามสิบเปอร์เซ็นต์ของจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ให้ฉัน ตกลงไหม?”
สีหน้าของสเปนเซอร์เปลี่ยนไปทันที ผู้หญิงคนนี้กำลังพูดเรื่องอะไรอยู่? ดาวเคราะห์จำนวนสามสิบเปอร์เซ็นต์ของจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์อย่างนั้นเหรอ? เธอกล้าดีอย่างไรถึงมาพูดแบบนี้?
“ความต้องการของท่านมันมากเกินไปหรือเปล่า?! สามสิบเปอร์เซ็นต์เชียวเหรอ?! เฮอะ! ถ้าอย่างงั้นเราปล่อยให้จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์พังพินาศลงไปซะยังจะดีกว่า!” สเปนเซอร์โพล่งออกมา “เรายินดีจะมอบสิบเปอร์เซ็นต์ให้ท่าน ถ้าท่านรับได้ก็มาคุยกันต่อ แต่ถ้าท่านรับไม่ได้ก็ลืมมันไปซะเถอะ!”
ถึงแม้ว่าหลายจักรวรรดิจะมีดาวเคราะห์มากมาย แต่ดาวเคราะห์ทั้งหลายไม่เอื้ออำนวยและไม่มีทรัพยากรหลงเหลืออยู่ มันดูดีแต่กลับนำมาใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้
หากสวี่หลิงอวิ๋นยืนยันที่จะให้เขาแบ่งดาวเคราะห์ให้ เขาก็ยินดีที่จะแบ่งดาวเคราะห์ที่ไร้ประโยชน์พวกนี้ให้แก่สวี่หลิงอวิ๋น
เพราะเกรงว่าเขาจะต้องใช้พลังงานบางส่วนเพื่อดูแลดาวเคราะห์ที่ไร้ประโยชน์เหล่านี้
“โอเค ถ้าอย่างงั้นก็เรียบร้อย” สวี่หลิงอวิ๋นไม่สนใจว่าดาวเคราะห์เหล่านี้จะอาศัยอยู่ได้หรือไม่ เธอรู้สึกว่าการมีดาวเคราะห์เหล่านี้อยู่ในการครอบครองจะทำให้เธอรู้สึกถึงสิทธิประโยชน์บางอย่าง
นอกจากนี้ ต่อให้ดาวเคราะห์เหล่านี้จะไร้ประโยชน์จริง ๆ เธอก็มีหนทางที่จะทำให้จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์มอบสิ่งที่ดีกว่าให้เธอ
ถ้าเธอพาเอเลี่ยนไปบุกรุกได้ มันก็จะมีครั้งที่สองและครั้งที่สามตามมา!
โอคาซีขมวดคิ้ว ทำไมสวี่หลิงอวิ๋นถึงไม่เชื่อฟังคำแนะนำของเขา?
“โอ้ อย่าขมวดคิ้วสิ อย่าขมวดคิ้ว! มันอาจจะดีก็ได้นะคะ ท่านต้องคิดถึงดาวเคราะห์สิบเปอร์เซ็นต์กับพืชพลังงานสิบชนิดไว้สิคะ!” สวี่หลิงอวิ๋นจับมือโอคาซี และพูดด้วยน้ำเสียงไพเราะ “ถ้าชิงเหย้ามีพืชพลังงานเพิ่มอีกสิบชนิด ท่านคิดดูสิคะว่ามันจะมีผลประโยชน์ต่อจักรวรรดิเรามากแค่ไหน?”
“ฉันรู้ว่าเอเลี่ยนทั้งหมดเป็นระดับ 9 ดาว! แต่ไม่เป็นไรหรอก พวกเรามีถั่วชมพูอยู่ไม่ใช่เหรอคะ?”
สวี่หลิงอวิ๋นพูดด้วยรอยยิ้ม “ฉันจะออกไปก่อนและใช้กำลังของตัวเอง จากนั้นก็ให้ถั่วชมพูที่ซ่อนตัวอยู่บนดาวเคราะห์การเกษตรของจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์เข้ามาหลอกล่อพวกมัน!”
“แล้วถ้ามันหลอกล่อไม่ได้ล่ะครับ?!” โอคาซีถามเธอ
“ถ้ามันหลอกไม่ได้ฉันก็จะหนีไปเองค่ะ ทำไมล่ะ? ฉันไม่ใช่คนชอบเอาหน้าสักหน่อย!” สวี่หลิงอวิ๋นถึงกับสาบานเพื่อรับประกัน “ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ! ฉันไม่ใช่เด็กขวบสองขวบสักหน่อย ฉันย่อมรู้ว่าอะไรควรทำและไม่ควรทำนะ”
โอคาซีจ้องมองเธอเป็นเวลานาน “ก็ได้ งั้นผมจะไปกับท่านด้วย!”
“เอ๊ะ? ไปด้วยกันเหรอคะ?” หากสวี่หลิงอวิ๋นไปคนเดียวคงไม่เป็นอะไร ทว่าเธอกลับเป็นกังวลเมื่อรู้ว่าแฟนหนุ่มจะตามไปด้วย
“ท่านจะไปได้เหรอ?
“ตอนแรกท่านพูดว่าไปได้หรือไม่ได้นะ?” โอคาซีมองดูเธอ ผู้หญิงคนนี้กำลังพูดไร้สาระอะไรอยู่?
แล้วแฟนหนุ่มจะพูดอะไรได้?!
สวี่หลิงอวิ๋นแลบลิ้น “โอเค ๆ ฉันผิดเองค่ะที่พูดแบบนั้น! ที่รัก อย่างอนสิคะ!”
ก่อนจะครุ่นคิดในใจ นี่คือศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายสินะ!
“ช่างเถอะค่ะ เราอย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลย! มาพูดถึงเรื่องนี้กันเถอะว่าบางทีเสด็จพ่อและพวกทหารอาจจะห้ามไม่ให้เราไป!” สวี่หลิงอวิ๋นลูบคาง เธอคงจะต้องแอบย่องออกไปเงียบ ๆ!
โอคาซีมองดูเธอ “สัญญากับผมก่อนว่าจะอยู่ในสายตาผมตลอด!”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ! คุณพ่อบ้าน!” สวี่หลิงอวิ๋นยกนิ้วก้อยขึ้นมาให้คำมั่นสัญญา “ฉันจะไปโทรหาถั่วชมพูก่อน!”