ตอนที่ 331 แล้วก็เจรจาข้อตกลง
ตอนที่ 331 แล้วก็เจรจาข้อตกลง
สวี่หลิงอวิ๋นยังคงลอยตัวอยู่เหนือน่านฟ้าเพื่อรอคอยคำตอบของสเปนเซอร์!
ในขณะที่สวี่เทียนอวี๋โกรธจัดเมื่อเห็นวิดีโอดังกล่าว!
“เจ้าเด็กโง่! เราก็บอกอยู่ตลอดว่าชายใหญ่ซื่อบื้อ แล้วทำไมยัยลูกสาวเราถึงได้พลอยซื่อบื้อไปด้วย? โอคาซีกินอะไรเข้าไป? ทำไมถึงไม่ยอมห้ามกัน?!”
เมื่อวานนี้เขาได้รับข้อความว่าโอคาซีไปหาองค์หญิงสาม เขายังโกรธจัดจนแทบจะกระชากเคราตัวเอง และตอนนี้เขาอยากจะทุบไอ้สารเลวนี้ให้ตายไปซะ!
ลูกสาวของเขายังเด็ก แต่พ่อหนุ่มนั่นยังเด็กอยู่เหรอ? ไม่รู้หรือไงว่าจิตใจคนพวกนี้ชั่วร้ายแค่ไหน?!
เขารีบต่อสายสนทนาทางวิดีโอไปหาลูกสาวทันที
“มีอะไร?” สวี่หลิงอวิ๋นจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองถูกจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ต้มจนเปื่อย? นอกจากนี้เธอยังตั้งใจจะหลอกพ่อเฒ่าของตัวเองอีกด้วย!
“พ่อมีอะไรงั้นเหรอ? พ่อก็อยากจะถามว่าลูกกำลังทำอะไรอยู่!” พ่อผู้แก่เฒ่าโกรธเคืองมาก! จนแทบจะชี้นิ้วสาปแช่ง!
“พ่อถามหน่อยว่าลูกจะไปที่สกปรกแบบนั้นทำไม? พ่อขอสั่งให้ลูกกลับมาเดี๋ยวนี้! มันไม่ง่ายเลย มีอสูรกายยักษ์ระดับ 10 ดาวอยู่ที่นั่นด้วย!” สวี่เทียนอวี๋พูด “พ่อขอสั่งไม่ให้ลูกลงไป ฟังพ่ออยู่ไหม!”
สวี่หลิงอวิ๋นเปิดปากพูด พยายามจะปกปิดคำโกหกเอาไว้ และเอ่ยถามด้วยความสงสัย “ใครบอกท่าน?!”
ก่อนจะหันไปมองผู้คนที่อยู่ด้านหลัง เธอสงสัยว่าใครคือสายลับของพ่อ
“มองอะไร?!” สวี่เทียนอวี๋ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อจ้องมองลูกสาวผู้โง่เขลา
“ก็คนจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ที่ออกมาขอบคุณลูกต่อหน้าผู้คนทั้งห้วงดวงดาวไงล่ะ ทั้งที่รู้ว่ามีอสูรกายยักษ์ระดับ 10 ดาวอยู่ที่นั่น แต่ก็ยังลดอคติทั้งหมดไปช่วยเหลือจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ และบอกว่าลูกคือผู้หญิงในคำทำนายที่สามารถคลี่คลายการปิดล้อมของเอเลี่ยนได้!”
“เฮอะ ๆ! เยินยอกันซะเหลือเกิน! ถ้าลูกแก้ไขไม่ได้ ก็แสดงว่าคำทำนายไม่ถูกต้องยังไงล่ะ ชื่อเสียงในอนาคตของลูกจะต้องป่นปี้แน่นอน และมันจะเป็นรอยด่างไปตลอดชีวิต!”
ทันทีที่สวี่เทียนอวี๋นึกถึงเรื่องนี้ ฟันของเขาก็ขบเคี้ยวด้วยความโกรธ เขาอยากจะทุบตีตาเฒ่านั้นให้ตายและจับขังเอาไว้ในคุกใต้ดินตลอดชีวิต!
สวี่หลิงอวิ๋นไม่ได้สนใจประโยคที่เหลือมากนัก “อะไรนะ? อสูรกายยักษ์ระดับ 10 ดาว?!”
อสูรกายยักษ์ระดับ 10 ดาวคืออะไรกัน? ไม่ใช่เอเลี่ยนใช่ไหม?!
จักรพรรดิยังคุยพูดคุยกับสวี่หลิงอวิ๋นอยู่ ขณะที่ช่างเทคนิคกำลังเชื่อมต่อทางวิดีโอ หลังจากนั้นสวี่หลิงอวิ๋นก็เห็นใบหน้าของสเปนเซอร์
สวี่หลิงอวิ๋นระเบิดความโกรธออกมาเมื่อเห็นเขา! ตาเฒ่า!
“เชื่อมต่อให้ฉันเดี๋ยวนี้! ฉันจะคุยกับตาแก่นั่นเป็นการส่วนตัว!” สวี่หลิงอวิ๋นพูดขึ้น
ไอ้สารเลว! กล้าดียังไงมาหลอกกัน!
ทั้งที่รู้ว่ามีอสูรกายยักษ์ระดับ 10 ดาวอยู่แล้วยังเต็มใจจะช่วยเหลือนั่นหมายความว่าอย่างไร!?
ยอมแพ้! เขาเห็นเธอที่มีจิตวิญญาณสูงเป็นคนแบบนั้นหรือไง?!
สเปนเซอร์เพิ่งกล่าวขอบคุณเสร็จเมื่อสิบนาทีที่แล้ว และสวี่หลิงอวิ๋นก็แทบจะทนรอไม่ไหวที่จะเชื่อมต่อสานสนทนาทางวิดีโอไปหาเขา
ทั้งสองคนเผชิญหน้ากันอีกครั้ง
ผู้คนในห้วงดวงดาวต่างสงสัยในตัวขององค์หญิงสามในตำนานมากขึ้น สงสัยว่าเธอเป็นคนประเภทไหน แต่พวกเขารู้ดีว่าเธอคือยอดอัจฉริยะ!
เธอคือยอดฝีมือที่เลื่อนไปถึงระดับ 9 ดาวตั้งแต่อายุสิบแปดปี! ซึ่งยอดเยี่ยมกว่าโอคาซีและองค์ชายรัชทายาทแลนเซล็อต!
พวกเขามองดูสาวน้อยในวิดีโอ ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นนักเรียนแล้วก็ตาม แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่ดูเด็กและไร้เดียงสาของเธอ พวกเขาก็ถึงกับ ‘ตบ’ หน้าตัวเองเบา ๆ สองครั้ง
น่าเสียดายชะมัด!
ประชากรชิงเหย้าทั้งหลายเริ่มแสดงตัว พวกเขามีความสุขกันมาก!
ฮึ่ม! องค์หญิงของเรายอดเยี่ยมที่สุด! พวกคุณอย่าอิจฉานักเลย! แต่ถ้าอิจฉาล่ะก็ ไว้มาที่จักรวรรดิชิงเหย้าของเราสิ!
มีทั้งน้ำตาล เค้ก ขนม เนื้ออบแห้งทุกชนิด! รับประกันได้เลยว่าจะต้องถูกปาก!
นอกจากนี้ยังมีนักรบระดับ 9 ดาวมากมายที่ส่งใบสมัครเข้าร่วมจักรวรรดิชิงเหย้า หลังจากผ่านการตรวจสอบแล้ว พวกเขาจะได้รับสัญญาติชิงเหย้า!
และนี่คือจุดเริ่มต้นของการบุกเบิกยุคสมัย!
หลังจากสวี่หลิงอวิ๋นเชื่อมต่อทางวิดีโอได้สำเร็จ เธอก็เปิดฉากด่าไม่บันยะบันยัง!
“ฝ่าบาทสเปนเซอร์ ท่านไม่ทำเกินไปหน่อยเหรอ?!” สวี่หลิงอวิ๋นพูด “ค่าตอบแทนที่เราคุยกันก่อนหน้านี้คือเอเลี่ยนระดับ 9 ดาว ไม่ได้พูดถึงอสูรกายยักษ์ระดับ 10 ดาวด้วยซ้ำ!”
“ท่านคือคนหลอกลวงใช่ไหม?!”
สเปนเซอร์ถึงกับพูดไม่ออก ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงพูดเรื่องนี้ได้? เขาควรจะถูกก่นด่าว่าปิดบังเรื่องอสูรกายยักษ์ระดับ 10 ดาวไม่ใช่เหรอ? แต่ทำไมถึงโทรมาหารือเรื่องค่าตอบแทนเพิ่มล่ะ?!
นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่าเธอจะมาช่วยเหลือจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ด้วยจิตวิญาณอันแรงกล้า แต่เธอกลับตบหน้าและรีดค่าตอบแทนจากเขาเสียอย่างนั้น ไม่กลัวว่าชื่อเสียงของตัวเองจะดูแย่ลงบ้างหรือไง?!
สวี่หลิงอวิ๋นหัวเราะเยาะ ชื่อเสียงมันคุ้มค่าตรงไหน?!
ผู้ชมจากชิงเหย้าเริ่มเข้าใจเหตุการณ์! อีกทั้งยังส่งเสียงร้อง ‘โอ้’ ออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน!
[ฉันบอกแล้วว่าองค์หญิงสามจะใจดีขึ้นมาได้ยังไง จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ใช้เงินมาล่อจริงด้วย!]
[ใช่เลย! ตรงตามกับนิสัยขององค์หญิงสามเป๊ะ! ตอนที่สเปนเซอร์พูดก่อนหน้านี้ ฉันตกใจแทบบ้า องค์หญิงสามจะใจดีขนาดนั้นได้ยังไง หึหึ! ฝ่าบาทคิดเองเอาเองสินะ!]
[พวกชิงเหย้าเป็นคนแบบนี้กันเหรอ? คราวนี้องค์หญิงสามคงจะถูกกล่าวหาว่ารีดไถเงินเพื่อแลกกับการช่วยเหลือหรือเปล่า?]
[เฮ้ยอะไรน่ะ คอมเมนต์บนเป็นเด็กประถมปะ? พวกนายลืมไปแล้วหรือไงว่าพวกจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์มาบุกรุกจักรวรรดิชิงเหย้าของเราก่อน? การที่เราเต็มใจรับเงินมาเพื่อแลกกับการไปช่วยเหลือนั่นก็ไว้หน้าพวกเขาพอแล้วหรือเปล่า?]
[ใช่ ๆ! จักรวรรดิชิงเหย้าไม่ได้ทำการกุศลสักหน่อย นับประสาอะไรกับคนดี! องค์หญิงสามพูดถูกแล้ว!]
[สเปนเซอร์ตั้งใจหลอกองค์หญิงสามของเราตั้งแต่แรก! คงคิดว่าองค์หญิงสามยังเด็กและไม่มีประสบการณ์ ถึงได้ปกปิดเรื่องอสูรกายยักษ์ระดับ 10 ดาวเอาไว้ คิดจะให้องค์หญิงสามไปทำงานให้ฟรี ๆ น่ะสิ!]
[จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ของเราน่าสงสารจัง ทำไมจะต้องจมอยู่กับความเจ็บปวดด้วย?! ทำไมคนถึงไม่นึกถึงหลักมนุษยธรรมแล้วมาช่วยเหลือกันบ้าง?!]
นี่คือคอมเมนต์ของผู้ชมจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ แต่คอมเมนต์ดังกล่าวกลับถูกผู้คนจากจักรวรรดิชิงเหย้าเยาะเย้ยในไม่ช้า!
[หรือว่าจะเป็นคนโง่?!]
[ต้องเป็นคนโง่แน่ ๆ! แม่บอกไม่ให้คุยกับคนโง่ซะด้วยสิ!]
[คนจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์หน้าใหญ่ แต่ในสมองมีแต่ขี้เลื่อยสินะ! ]
…
“แล้วองค์หญิงสามต้องการค่าตอบแทนเพิ่มอีกเท่าไหร่ล่ะ?!” สเปนเซอร์หยุดพูด ขณะที่เหมยหมี่หันวิดีโอเข้ามาหาตัวเองและเอ่ยถามโดยตรง
ผู้ชมทั่วทั้งห้วงดวงดาวรู้สึกตื่นเต้น!
องค์หญิงทั้งสองกำลังสู้กัน ไม่รู้ว่าใครจะเก่งกว่ากัน!?
“ค่าตอบแทน?!” สวี่หลิงอวิ๋นหัวเราะ ‘ฮิฮิ’ “เพิ่มพืชพลังงานอีกยี่สิบชนิดร่วมเข้าไปกับสิบชนิดที่พูดถึงก่อนหน้าได้ไหม?!”
“สามสิบชนิดเหรอ?” เหมยหมี่เลิกคิ้วและพยักหน้า “ได้! แต่ว่าเรามีเงื่อนไข!”
“โอ้? ใจกว้างจัง?” สวี่หลิงอวิ๋นพยักหน้า และเอ่ยถามด้วยความสงสัย “เธอคือใคร? คำพูดเชื่อถือได้ไหม? ฉันไม่อยากคุยกันเธอนานนักหรอก ไม่ใช่ว่าเธอบอกฉันแล้วเธอไม่ทำตามสัญญานะ!”
“ฉันรักษาคำพูดอยู่แล้ว!” เหมยหมี่เกือบจะโกรธผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า!