ตอนที่ 382 ภาวะวิกฤต 1
ตอนที่ 382 ภาวะวิกฤต 1
จักรพรรดิเงือกพูดว่า “ในเมื่อชิงเหย้าเป็นผู้ค้นพบมัน เราก็จะทำธุรกิจกับท่าน”
ไม่ว่าใครจะมาทำธุรกิจด้วย แต่การทำธุรกิจกับผู้หญิงคนนี้ย่อมดีกว่าแน่นอน!
นอกจากนี้ เงือกบนดาวสมุทรมักจะระมัดระวังตัวกับพวกมนุษย์อยู่เสมอ ถึงแม้สวี่หลิงอวิ๋นจะเป็นผู้หญิงที่ชั่วร้าย แต่คนที่ดูชั่วร้ายเช่นนี้กลับแสดงให้เห็นถึงด้านสว่างที่ดีกว่าจักรวรรดิอื่น
เมื่อมองดูมารยาทและความถ่อมตัวแล้วน่าจะขุดผลประโยชน์ได้มาก
การเจรจาดำเนินไปอย่างรวดเร็ว น้ำพริกไข่ปูโหลหนึ่งจะอยู่ในราคาสองหมื่นเหรียญ
ราคาถูกต้องแน่นอน!
น้ำพริกไข่ปูไม่เหมือนกับเอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์ที่สามารถจับปลาหมึกตัวหนึ่งมาทำเป็นอาหารกระป๋องได้หลายแสนกระป๋อง สำหรับน้ำพริกไข่ปู…อสุรกายเขี้ยวยักษ์หนึ่งตัวทำได้แค่สองโหลเท่านั้น
ราคาสองหมื่นเหรียญดวงดาวไม่ได้แพงเลยจริง ๆ!
สวี่หลิงอวิ๋นไม่ใช่คนที่รักเงินมากจนถึงขั้นขัดขวางวิวัฒนาการของเผ่าพันธุ์ เธอรักเงินก็จริง แต่เธอก็ดูตามความเหมาะสมด้วย
จักรพรรดิเงือกรู้สึกประหลาดใจเมื่อพิจารณาตามราคาที่ตกลงกันไว้ เขาเคลื่อนไหวเล็กน้อยและเซ็นสัญญาอย่างไม่ลังเล
รวมถึงตัดสินใจว่าภายภาคหน้าจะเซ็นสัญญากับจักรวรรดิชิงเหย้าแต่เพียงผู้เดียว
หลังจากเห็นการลงนามในสัญญา สวี่หลิงอวิ๋นก็รู้สึกว่าเธอกำลังดื่มด่ำกับเหล้าเหมาไถคุณภาพสูง
ธุรกิจนี้คุ้มค่ามาก!
แม้ว่าอสุรกายจะสามารถนำมาทำเป็นน้ำพริกไข่ปูได้แค่สองโหล แต่นี่ก็ถือว่าเป็นการขาย!
เดิมทีเธอจะขายเฉพาะเนื้อบริเวณส่วนต้นขาอันเหี่ยวย่นของอสุรกายเขี้ยวยักษ์เท่านั้น แต่จากนี้ไป หลายโกดังจะเต็มไปด้วยน้ำพริกไข่ปู ในที่สุดเธอก็ค้นพบแหล่งตลาดสักที!
แล้วจะไม่มีความสุขได้อย่างไร?! ในเมื่อทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเงิน!
สวี่หลิงอวิ๋นกำลังทำธุรกิจอยู่ในห้องโถง ขณะที่เสี่ยวอ้ายกับนากากำลังเฝ้าระวังกุ้งและเก็บรวบรวมกุ้งเข้าไปในปุ่มมิติกักเก็บ เตรียมพร้อมจะเอากลับไปให้องค์หญิงสามทำอาหาร แต่กลับกลายเป็นว่า…
แล้วนายท่านล่ะ?!
ไม่อยู่ที่ลานกว้าง มีแต่พวกองครักษ์ที่กำลังนับข้าวของ และลงทะเบียนสิ่งของ
เมื่อองครักษ์มนุษย์เห็นว่าเสี่ยวอ้ายกับนากากลับมา เขาก็ก้าวไปด้านข้างและพูดขึ้นว่า “ฝ่าบาทเสด็จไปหารือเรื่องธุรกิจกับจักรพรรดิเงือก เดี๋ยวก็กลับมา”
ดีเลย!
เสี่ยวอ้ายกับนาการู้สึกผิดหวังอย่างมาก พวกมันจ้องมองไปทางพระราชวัง โดยหวังว่านายท่านจะรีบกลับมา
แต่เดี๋ยวก่อน หูของเสี่ยวอ้ายสั่นไหว ขณะรู้สึกถึงความผันผวนแปลกประหลาดบางอย่างที่อยู่เหนือน่านน้ำของดาวสมุทรแห่งนี้?!
ในขณะเดียวกัน คาชาก็สามารถปรับตัวได้แล้ว!
เกล็ดของเขาไม่ใช่สีดำเทาอีกต่อไป แต่กลายเป็นสีดำสนิท อย่างไรก็ตาม สีนี้ยังคงไม่เป็นที่ปลาบปลื้มในสายตาของชาวเงือกนัก แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ใช่เด็กชายตัวน้อยที่ผอมบางและไร้พลังอีกต่อไป
เกล็ดของเขามีสีเข้มเป็นมันเงา เพียงตวัดนิ้วมือ ผนังก็พังทลายลงเป็นกองพะเนินราวกับเต้าหู้ที่ถูกมีดกรีด
คาชาตกตะลึง!
จ้องมองกรงเล็บด้วยสายตาว่างเปล่า เขามีพละกำลังมหาศาลแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?!
เงือกที่เป็นเพื่อนบ้านนอนพิงประตูมองดูเขาด้วยความตกใจ
เมื่อมองดูคาชาที่เคยมีตัวผอมบางและน่าเกลียด บัดนี้ได้วิวัฒนาการเป็นเงือกหนุ่มที่แข็งแกร่งและทรงพลัง พวกเขาถึงกับจินตนาการไม่ออกว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก!
แต่เมื่อมองดูกรงเล็บที่แหลมคมของเขานี่สิ มันช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน! อีกทั้งเกล็ดที่เงางามราวกับเหล็กกล้า ใครจะคิดว่าเกล็ดที่น่าเกลียดจะให้ความรู้สึกงดงามเช่นนี้!
เงือกสาวหลายตัวหน้าแดงก่ำ พวกเธอรู้สึกเขินเมื่อต้องเดินผ่านหน้าคาชา แม้ว่าสีเกล็ดของคาชาจะไม่ใช่สีที่พวกเธอชอบก็ตาม
เกล็ดบนใบหน้าของคาชาไม่ได้จางหายไป ฟันของเขาแหลมคม ทั่วทั้งร่ายกายเผยให้เห็นความกำยำและดุร้าย
ในสายตาของมนุษย์ รูปลักษณ์ของมันช่างดูน่าเกลียดนัก แต่ในสายตาของชาวเงือก มันกลับดูสวยงามอย่างเหลือเชื่อ
โอ้! ดูเขี้ยวของเขาสิ! อสุรกายแห่งท้องทะเลตัวไหนบ้างจะมีปากแบบนี้?! พอมองดูกรงเล็บที่แหลมคมของเขาอีกครั้ง ไม่ว่าฉลามเงินจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่เมื่อเจอกับกรงเล็บนี้มันจะต้องล้มลงอย่างแน่นอน!
นอกจากนี้ เมื่อมองดูกระดูกในร่างกายของเขา เพียงแค่ก้าวเดียวก็เคลื่อนที่ไปได้หลายเมตร!
ความรวดเร็วของเขาเทียบเท่ากับกระดูกที่เบาบาง ไม่ว่าอสุรกายแห่งท้องทะเลจะรวดเร็วสักแค่ไหน แต่จะไม่เร็วไปกว่าเขาแน่นอน!
ทั้งนี้ท้องของเขาก็จะไม่หิวไปอีกนาน!
นางเงือกทั้งหลายที่สวยที่สุดในท้องถนนรีบว่ายเข้ามา โดยหวังว่าจะให้คาชาได้เห็นความงามของพวกเธอ และมันคงจะดีกว่านี้หากได้เป็นแฟนสาวของเขา
ทว่าน่าเสียดายที่คาชาไม่ได้สนใจพวกเธอ
คาชานึกแค้นอยู่ในใจ เพราะก่อนหน้านี้ที่คาชารู้สึกหดหู่ เงือกสาวพวกนี้ไม่เคยสนใจไยดีเขา อีกทั้งยังพูดจาดูถูกเขาเสมอ
แต่เมื่อเขาวิวัฒนาการสำเร็จแล้ว เงือกสาวกลับพากันรีบแหวกว่ายเข้ามาแสดงความโปรดปรานทันที
เขานึกถึงมนุษย์ผู้หญิงคนนั้น ถึงเธอจะไม่มีหางปลา แต่เธอก็เป็นคนแรกที่ส่งยิ้มให้เขา นอกจากนี้สัตว์เลี้ยงของเธอยังมอบจี้กุหลาบให้เขาอีกด้วย
ทั้งใจดีและอ่อนโยน หากเป็นไปได้ เขาอยากจะติดตามผู้หญิงคนนั้นไปอยู่ในวงสังคมมนุษย์
ไม่รู้ว่าจักรพรรดิจะยอมปล่อยเขาไปหรือไม่?
จักรพรรดิเงือกจะยอมปล่อยเขาไปหรือไม่? แน่นอนว่าคำตอบคือไม่!
เพราะในที่สุดเงือกนักรบก็วิวัฒนาการได้สำเร็จ จักรพรรดิเงือกจะยอมให้เขาติดตามผู้หญิงเจ้าเล่ห์คนนั้นกลับไปที่เมืองมนุษย์ได้อย่างไร?
สวี่หลิงอวิ๋นเจรจากับจักรพรรดิเงือกสำเร็จ ในขณะที่ราชาเอเลี่ยนหุ้มเปลือกกำลังคุกเข่าลงด้วยสภาพสั่นเทา!
ด้านหลังของมันมีกรงเล็บคู่หนึ่งยื่นออกมาจากหลุมดำขนาดใหญ่ ตามมาด้วยดวงตาคู่หนึ่งที่ปรากฏขึ้น!
มันร้องคำราม และพยายามทะลุผ่านเข้าไปในหลุมดำ ทว่าหลุมดำกลับเล็กเกินไป และจางหายไปในที่สุด
ราชาเอเลี่ยนหุ้มเปลือกมองดูดาวเคราะห์ที่เงียบสงัด และมองดูหลุมดำด้านหลังที่จางหายไป ความหวาดกลัวจากภายในเริ่มเข้าครอบงำ ขณะมองดูทั่วทั้งดวงดาวที่เต็มไปด้วยลูกสมุนของมัน มันแผดเสียงร้อง ให้เอเลี่ยนหุ้มเปลือกลุกขึ้นยืนและเดินทางเข้าไปในทางเชื่อมมิติ
แต่เมื่อเอเลี่ยนหุ้มเปลือกจากไป หลุมดำก็ปั่นป่วนอีกครั้ง ก่อนจะกลับสู่สภาวะเดิม
แต่ดูเหมือนว่าหลุมดำจะปรากฏตัวได้ไม่นาน
ในที่สุด โอคาซีก็เลื่อนขั้นมาจนถึงระดับ 10 ดาวอย่างเสถียรภาพ หลังจากที่เขาทิ้งรอยประทับให้กับทหารทุกคนตามที่สวี่หลิงอวิ๋นบอกแล้ว พลังจิตที่ไม่มีที่สิ้นสุดก็ไหลเวียนเข้าสู่ต้นกล้าจิ๋วในหัวของเขา
ต้นกล้าขนาดเล็กเริ่มเติบโตอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง และหยุดการเจริญเติบโตเมื่อมันกลายเป็นต้นไม้จิ๋ว
ใบของมันเปรียบเสมือนหยก ในขณะที่กิ่งก้านของมันละเอียดอ่อนราวกับคริสตัล
ต้นไม้นี้มีลักษณะนิสัยเหมือนกับมนุษย์ เพราะมันเป็นต้นไม้แห่งชีวิตที่อ้างว้างและสูงส่ง แม้แต่ต้นกล้าขนาดเล็กที่เขาทิ้งรอยประทับเอาไว้ ก็ยังเติบใหญ่ขึ้นมาเป็นต้นไม้จิ๋วที่อวดดีและหยิ่งผยอง
พวกทหารไม่ยอมฝึกฝนอย่างนั้นหรือ? ได้! ถ้าอย่างนั้นมันก็จะขี้เกียจเช่นกัน! หากครั้งต่อไปพวกเขาต้องฝึกฝนอีก มันจะไม่ยอมให้พวกเขาระดมพลังจิตออกมาได้เด็ดขาด
ดีมาก!
เหล่าทหารเข้ารับการฝึกฝนอย่างมีวินัย ขณะที่ต้นไม้จิ๋วนั้นมั่นคงดั่งบุปผา
ถั่วชมพูรู้สึกพอใจเมื่อเห็นเอเลี่ยนหุ้มเปลือกทั้งหลายบนดาวเคราะห์หงหยางอยู่ในระเบียบ!
ดีมาก! เยี่ยมไปเลย! ดื่มด่ำกับความกล้าหาญของราชาองค์นี้เสียให้พอ!
ในขณะเดียวกัน ราชาเอเลี่ยนหุ้มเปลือกนำลูกสมุนของมันไปยังดาวเคราะห์เกษตรกรรมของจักรวรรดิไอเดน!
ประชากรของจักรวรรดิไอเดนไม่ได้ใจกล้าเหมือนกับประชากรชิงเหย้า พวกเขาอยู่ภายใต้คำแนะนำของกองทัพท้องถิ่นและเอาแต่ร้องไห้ รอคอยการช่วยเหลือและอธิบายมาตรการรับมือภัยพิบัติอย่างเงียบ ๆ