ตอนที่ 404 เด็กทารกต่างดาวกินอะไร?
ตอนที่ 404 เด็กทารกต่างดาวกินอะไร?
สวี่หลิงอวิ๋นเหยียบย่ำชิงเย่อย่างชั่วร้าย ทำแบบนี้หมายความว่ายังไง? กล้าแซวแฟนเธองั้นเหรอ?!
ชิงเย่ยิ้มเหยเก
อ๊ะ ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นสักหน่อย! พวกเอลฟ์ชื่นชอบสิ่งสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นชายรูปงามหรือหญิงสาวแสนสวย ล้วนเป็นความสุนทรีย์สำหรับพวกเขาอยู่แล้ว
กล่าวอีกนัยหนึ่ง เอลฟ์ให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์มาก!
“ไม่เป็นอะไรแฮะ” โอคาซีกังวลว่าจะมีอะไรผิดปกติกับหน้ากาก เขาจึงแย่งมันมาใส่ก่อน
“ก็ต้องไม่เป็นอะไรสิ! ผมซื้อหน้ากากนี้มาจากตลาดมืดในราคาเกือบสองเหรียญอินทนิลเชียวนะ!” ชิงเย่พูด “พอพวกท่านใส่มันแล้ว จะไม่มีมีใครสังเกตเห็นมันนอกจากพวกท่านเอง!”
“พวกท่านเอามันติดตัวไปอย่างมั่นใจได้”
สวี่หลิงอวิ๋นลองสวมหน้ากาก และแล้วเอลฟ์ผมสีดำก็ปรากฏกายขึ้นต่อหน้าทุกคน
“โอ้! ไม่คิดเลยว่าท่านที่ดูธรรมด๊าธรรมดา พอใส่หน้ากากแล้วจะดูดีขนาดนี้?!” ชิงเย่ตกตะลึง!
หน้ากากนี้จะปรับเปลี่ยนบางอย่างตามรูปลักษณ์ที่แท้จริงของผู้สวมใส่ แต่ไม่คิดว่าหลังจากสวี่หลิงอวิ๋นใส่หน้ากากแล้ว ผู้หญิงคนนี้จะดูสวยขึ้นมาก!
สวี่หลิงอวิ๋นบ่นพึมพำ “ฉันก็แค่ไม่ชอบแต่งตัว ไม่ได้หมายความว่าฉันจะไม่สวยสักหน่อยย่ะ!”
รูปร่างของสวี่หลิงอวิ๋นดูสูงเพรียว หุ่นมีส่วนเว้าโค้ง เมื่อผสมผสานกับเครื่องแต่งกายที่ชิงเย่จัดหาให้ ส่งผลให้ตอนนี้รูปโฉมของเธอมีความสมบูรณ์แบบ
เธอกลายเป็นเอลฟ์สาวแสนสวย!
โอคาซีอดไม่ได้ที่จะจับมือของสวี่หลิงอวิ๋นเอาไว้
ชิงเย่อิจฉาตาร้อน! จ้องมองคู่รักตรงหน้าราวกับเห็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารำคาญที่สุด!
สวี่หลิงอวิ๋นมองดูตัวเองในกระจกอย่างมีความสุข เธอเองก็เป็นสาวสวย! ก็ดูซะก่อนว่าแม่ของเธอเป็นใคร!
เคยเป็นถึงสุดยอดองค์หญิงเชียวนะ!
หลังจากคำนวณเวลาแล้ว พวกเขาจะต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อยหนึ่งเดือนจนกว่าจะถึงจักรวรรดิเคทเลอร์
โอคาซีจึงเริ่มค้นคว้าความรู้พื้นฐานเกี่ยวการกับเขียน ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และอื่น ๆ จากชิงเย่
สวี่หลิงอวิ๋นพยายามที่จะเรียนรู้ด้วย แต่ว่าน่าเสียดายที่ชาติที่แล้วเธอเป็นถึงนักเรียนทุน แต่เธอกลับกลายเป็นเพียงคนไม่เอาไหนในชาตินี้!
หลังจากที่เธอพยายามจะเรียนรู้และท่องจำคำศัพท์นับร้อยกว่าคำ หัวของเธอก็แทบจะระเบิดออกมา!
คำศัพท์พวกนี้คืออะไรเนี่ย! โค้งไปมา จดจำยากกว่าลูกอ๊อดอีก! จะทำเป็นแนวตั้งหรือแนวนอนเหมือนตัวอักษรจีนไม่ได้เลยหรือไง?!
ตอนนี้สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกว่าโอคาซีเป็นผู้บังคับบัญชาการในดวงใจที่เก่งกาจที่สุดในห้วงดวงดาว!
ดูระดับการเรียนรู้นั่นสิ! ดูทัศนคติที่มีต่อการเรียนรู้! และดูความทรงจำที่ยอดเยี่ยมนั่นอีก!
ดูสิ!
ขณะที่สวี่หลิงอวิ๋นยังคงคืบคลานอยู่บนเส้นทางแห่งการจดจำคำศัพท์ โอคาซีก็ได้เริ่มอ่านประโยคแล้ว!
และในที่สุดสวี่หลิงอวิ๋นก็จดจำคำศัพท์ทั้งห้าร้อยคำได้เสียที แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังอ่านไม่ออกอยู่ดี ขณะที่โอคาซีเริ่มเรียนรู้ประวัติศาสตร์!
ในขณะที่สวี่หลิงอวิ๋นสามารถจดจำฉากคร่าว ๆ และบอกเล่าเรื่องราวบางส่วนในหนังสือได้ โอคาซีก็เริ่มเขียนเรื่องราวอย่างคล่องแคล่ว!
นอกจากนี้ เขายังเรียนรู้เกี่ยวกับภูมิศาสตร์อาณาเขตของมนุษย์ต่างดาวด้วย!
ส่วนสวี่หลิงอวิ๋นนั้นถูกกองหนังสือฆ่าตายจนหมดสติไปแล้ว!
แม้แต่ชิงเย่ยังชื่นชมโอคาซี! เขาต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการเรียนรู้เรื่องพวกนี้? เกือบหลายปีมากเลยใช่ไหม? ถึงอย่างนั้นสวี่หลิงอวิ๋นก็ควรได้รับคำชื่นชมเช่นกัน!
และระหว่างกระบวนการการเรียนรู้ที่เข้มข้นนี้ ชิงเย่ก็ได้รับพร!
สวี่หลิงอวิ๋นเป็นนักเรียนดีเด่นที่เคารพอาจารย์ของเธอมาก ถึงนักเรียนคนนี้จะเรียนไม่เก่งนัก แต่เธอก็ยังรักษาหลักการเคารพอาจารย์อย่างสุดหัวใจ!
ทุกวันนี้เธอปรับเปลี่ยนอาหารเพื่อเสริมสร้างโภชนาการให้กับโอคาซี ส่วนชิงเย่ก็ได้กินอิ่มท้องไปด้วย
อาหารมีไม่พออย่างนั้นเหรอ? ไม่ต้องห่วง! ชิงเย่คุ้นเคยกับที่นี่เป็นอย่างดี! ดังนั้นเขาจึงพาไปไล่จับอสุรกายบนดาวเคราะห์ใกล้เคียง และกินมัน!
สวี่หลิงอวิ๋นยังกักตุนอาหารไว้มากมาย!
ในอดีตชิงเย่ไม่เคยเห็นอสุรกายป่าพวกนี้อยู่ในสายตา โดยเฉพาะอสุรกายที่มีใบหน้าน่าเกลียด เขาคิดว่าเนื้อที่น่าเกลียดของพวกมันจะต้องไม่อร่อยแน่ แต่หลังจากได้ติดตามสวี่หลิงอวิ๋นมาสักพัก เขาก็ค้นพบประโยคที่ว่า “ไม่ควรตัดสินอะไรที่รูปลักษณ์ภายนอก!”
บางตัวดูน่าเกลียด แต่เนื้อของมันกลับหอมอร่อยกว่าตัวที่ดูดีเสียอีก!
ชิงเย่รู้สึกว่าเขาสามารถบรรยายชีวิตของตัวเองในตอนนี้ได้ด้วยประโยคเดียว นั่นคือมีความสุขเหมือนได้ขึ้นสวรรค์!
เขาภาวนาอ้อนวอนต่อพระแม่พฤกษาทุกวัน หวังว่ามนุษย์สองคนนี้จะไม่ทอดทิ้งเขา!
เขาเต็มใจจะเป็นทาสของพวกเธอไปตลอดชีวิต!
หนึ่งเดือนต่อมา สวี่หลิงอวิ๋นมองเห็นยานอวกาศลำเล็กและลำใหญ่ปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเธอ
ชิงเย่พูดขึ้นว่า “เราใกล้จะถึงกันแล้ว! นี่คือจุดเทียบท่ายานอวกาศด้านนอกของเมืองหลวงเคทเลอร์”
นี่มัน…!
สวี่หลิงอวิ๋นถึงกับพูดไม่ออก! ยานอวกาศแต่ละลำมีขนาดใหญ่กว่ายานรบของพวกเธอเสียอีก!
ชิงเย่พูดขึ้นด้วยความอิจฉา “ฮึ่ม! รอให้ผมมีเงินก่อนเถอะ ผมจะซื้อยานอวกาศลำใหญ่แบบนี้เหมือนกัน!”
สวี่หลิงอวิ๋นเหลือบมองเขา ไม่ใช่ว่าเธอพูดไม่ออก แต่ทุกวันนี้เธอได้เรียนรู้ความฟุ่มเฟือยของเอลฟ์แล้ว
โดยปกติแล้ว นอกจากชิงเย่จะสอนให้พวกเธอเรียนรู้ เขายังเปิดเว็บแหล่งซื้อขายขนาดใหญ่ให้ดูอีกด้วย เขาซื้อไม้ปรุพังทุกชนิด ซื้อถ้วยใบเก่า ซื้อโต๊ะและเก้าอี้เน่า ๆ ในราคาสูง
ถึงจะบอกว่าของพวกนั้นดูสมบูรณ์แบบอย่างไร้ที่ติ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของพวกเอลฟ์!
แต่เมื่อสวี่หลิงอวิ๋นมองดูแล้ว ก็ใช่ มันถูกแกะสลักออกมาอย่างประณีต แต่ว่าไอ้หมอนี้จะหาเงินมาใช้พอเหรอ?!
ด้วยระดับทักษะการหาเงินของชิงเย่ หากเขาสามารถห้ามตัวเองไม่ให้ใช้จ่ายตามอำเภอใจได้ ก็อาจจะสามารถซื้อบ้านในจักรวรรดิเอลฟ์ได้ภายในหนึ่งหรือสองปี!
แต่! ชายผู้นี้ เมื่อไหร่ก็ตามที่เขามีเงิน เขาจะใช้จ่ายมันอย่างฟุ่มเฟือย และด้วยนิสัยที่ฟุ่มเฟือยนี้ทำให้สวี่หลิงอวิ๋นเป็นทุกข์มาก!
“นายอย่ามาขี้โม้นักเลย! นายเอาแต่ใช้เงินฟุ่มเฟือยตลอดทั้งวันทั้งคืน ไม่รู้ว่าต่อไปถ้านายมีลูก จะมีเงินพอให้ซื้อนมผงหรือเปล่า?”
“เงินซื้อนมผง? มันคือเงินอะไร?” เอลฟ์ที่ถือกำเนิดขึ้นมาด้วยการดื่มน้ำผลไม้ตั้งแต่แรกเกิด ดังนั้นเขาจึงไม่เข้าใจที่สวี่หลิงอวิ๋นพูดเกี่ยวกับเงินซื้อนมผง
“ก็ของที่เด็กทารกเพิ่งเกิดต้องกินไงเล่า!” สวี่หลิงอวิ๋นมองดูเขา “พวกนายไม่กินนมผงกันเหรอ?”
“ไม่นะ พวกเรากินน้ำผลไม้”
เชี่ย! นี่มันเอลฟ์นี่น่า!
สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที “แล้วสิ่งมีชีวิตประเภทอื่นล่ะ? พวกเขาให้เด็กทารกกินอะไร?”
“ผมจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ!” ชิงเย่สนใจแต่งานศิลปะเท่านั้น เขาจะไปรู้ว่าสิ่งมีชีวิตชาญฉลาดเลี้ยงลูกด้วยอะไรได้ยังไง? โทษทีนะ แต่เขาไม่สนใจหรอก!
สวี่หลิงอวิ๋นยักไหล่ ช่างเถอะ!
โอคาซีพูดขึ้นบ้าง “จักรวรรดิเคทเลอร์มีสิ่งมีชีวิตที่ชาญฉลาดอยู่สามเผ่าพันธุ์”
“เผ่าพันธุ์แรกคือเผ่าพันธุ์บิลลี่ พวกมันมีลักษณะหัวโตและแคระแกร็น พึ่งพาสติปัญญาในการเอาชนะ ทารกและเด็กเล็กจะดื่มนมชนิดหนึ่งจากอสุรกายฮาย อสุรกายพันธุ์นี้หายากมาก พวกเขาต้องจัดสถาบันพิเศษในการเพาะเลี้ยงอสุรกายพันธุ์นี้เพื่อเอานมไปขายให้พวกบิลลี่”
“เผ่าพันธุ์ที่สองคือตานหยาง พวกมันมีรูปร่างสูงใหญ่ เป็นเผ่าพันธุ์ที่ชอบการต่อสู้ เด็กทารกจากเผ่าพันธุ์นี้จะดื่มเลือดจากอสุรกายนูปี่แทนนม เลือดของนูปี่มีสสารพิเศษที่จะช่วยทำให้เด็กทารกมีร่างกายที่แข็งแกร่งขึ้น”