ตอนที่ 418 ขายการ์ดครับ จะซื้อไม่ซื้อ?
ตอนที่ 418 ขายการ์ดครับ จะซื้อไม่ซื้อ?
หมั่วโถวหนึ่งลูกต่อหนึ่งเหรียญทองอินทนิล!
ชนชั้นสูงพวกนี้ไม่ได้คิดว่ามีราคาแพงนัก แต่กลับรู้สึกว่าคุ้มกับเงินที่จ่ายออกไป
สิ่งเดียวที่รู้สึกไม่คุ้มคงจะเป็นจำนวนขายที่มีน้อยเกินไป! พวกเขาต้องการจะใช้จ่ายเพื่อซื้อมันอีกครั้ง ทว่าเจ้าของร้านกลับไม่ยอมขายมัน!
“รีบไปกันสิ! มัวรอทำอะไรกันอยู่ล่ะ?” เอเดนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา ขณะมองดูฝูงชนที่ไม่ยอมออกไป
“เอ่อ ท่านจอมพล!” เผ่าพันธุ์ตานหยางคนหนึ่งลุกขึ้นยืน และพูดด้วยความเคารพ “คือว่า พอจะขายน้ำซุปให้พวกเราได้ไหมครับ?”
น้ำซุป?
จอมพลหันไปมองน้ำซุปที่กำลังเดือดปุด ๆ อยู่ในหม้อ กลิ่นหอมของมันคงลอยตลบอบอวลและไม่มีท่าทีว่าจะหยุดลง
น้ำซุปนี้สามารถขายได้หรือไม่? แน่นอนว่าไม่ได้! ถ้าเกิดพวกคุณซื้อมันกลับไป คุณยังจะกลับมาที่ร้านอาหารอีกเหรอ?!
ฮึ่ม!
“ฝันไปเถอะ! ผมจะเอามันกลับไปด้วย! ถ้าเกิดผมขายให้พวกคุณ ร้านอาหารจะขายของต่อไปได้ยังไง!? พอพวกคุณเอากลับไปลองชิมแล้ว จะไม่คัดลอกสูตรใช่ไหม? คิดว่าผมไม่รู้เหรอว่าพวกคุณกำลังคิดอะไรอยู่?!” จอมพลเอเดนโบกมือไล่ “เพราะงั้นกลับไปเถอะครับ กลับไป!”
สวี่หลิงอวิ๋นที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังคอยเฝ้าดูอิทธิพลอันทรงพลังของจอมพลเอเดน และแอบยกนิ้วโป้งให้เขา
พื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยชนชั้นสูงจำนวนมาก หากไม่มีเอเดน มีเพียงแต่ความแข็งแกร่งอันย่ำแย่ของพวกเธอ เธอคงไม่กล้าเข้าไปรุกรานผู้คนได้ตามที่ต้องการ! และเกรงว่าจะโชคร้ายจนมีคนมาทุบโต๊ะเข้าจริง ๆ
ชิงเย่ซ่อนตัวอยู่ด้านนอกโรงแรมไห่เว่ย
เขายิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นแขกเดินออกมาจากโรงแรมด้วยใบหน้าที่ผิดหวัง
เขาก้าวไปด้านหน้า กระแอมเล็กน้อยและพูดว่า “สวัสดีครับ ท่านสุภาพบุรุษสุภาพสตรีทั้งหลาย”
ชนชั้นสูงทั้งหลายมองดูเอลฟ์ที่อ้วนท้วมและหยุดเดิน โดยสงสัยว่าเขาจะเข้ามาทำอะไร
“มีอะไรงั้นเหรอ?”
“ผมเป็นพนักงานที่ร้านอาหาร ‘แสนอร่อย’ ครับ พวกท่านคิดว่าอาหารของทางร้านเราอร่อยไหมครับ?” ชิงเย่เอ่ยถามอย่างภาคภูมิใจ
ร้านอาหารแสนอร่อย? แน่นอนว่าอร่อยมาก! และตอนนี้พวกเขายังกินหมั่วโถวสอดไส้เนื้อไม่หนำใจด้วยซ้ำ
พวกเขารู้สึกทั้งโหยหาทั้งเกลียดชังเมื่อนึกถึงหมั่วโถวอันแสนอร่อย
อยากกินมาก เพราะว่าหมั่นโถวนั่นอร่อยเหลือเกิน แต่เกลียดที่เจ้าของร้านไม่ยอมทำให้เยอะกว่านี้! นี่มันจงใจทำให้พวกเขาอับอายใช่ไหม?!
หรือคิดว่าพวกเขายากจนกันแน่?!
ชิงเย่โบกมือ เขาหยิบการ์ดลึกลับสองใบออกมาจากกระเป๋า
“เคยเห็นการ์ดใบนี้กันไหมครับ? การ์ดใบนี้คือบัตรวีไอพีจากร้านอาหารแสนอร่อย” ชิงเย่พูด “การ์ดใบนี้จะช่วยให้พวกท่านได้ครอบครองโต๊ะจากร้านอาหารแสนอร่อย!”
“โต๊ะ?! พะโล้หนึ่งมื้องั้นเหรอ?! หมั่วโถวหนึ่งโต๊ะด้วยใช่ไหม?” แขกทั้งหลายรู้สึกตื่นเต้น หมั่วโถวสอดไส้เนื้ออร่อยมาก แค่เพียงลูกเดียวมันไม่พอให้กินด้วยซ้ำ ควรจะได้รับสามสิบถึงห้าสิบลูกสิถึงจะพอกิน
“ไม่ ๆๆ พวกท่านคิดง่ายกันเกินไปแล้ว แค่หมั่นโถวสอดไส้เนื้อจะอร่อยอะไรขนาดนั้น?!” ชิงเย่พูดขึ้นและสั่นหัวไปมา
“เถ้าแก่ของเราไม่ได้ทำแค่หมั่นโถวอย่างเดียว ยังมีหมูสามชั้นหมักซอสแดง เป็ดย่าง หม้อไฟ ข้าวต้มปลา เนื้อสัตว์ตุ๋น ปลาต้มน้ำ ปลาไนต้มผักดองเสฉวน ซี่โครงหมูเปรี้ยวหวาน มันเทศหวานสายไหม…”
ขนาดชิงเย่ยังต้องพยายามกลั้นน้ำลายขณะไล่รายชื่ออาหารแต่ละจาน นับประสาอะไรกับคนอื่น! พวกเขาจินตนาการถึงอาหารแต่จาน สงสัยว่ามันจะอร่อยขนาดไหน!
“อย่ามัวแต่พูดนักเลย! บอกมาว่าการ์ดนี้ราคาเท่าไหร่!” เผ่าพันธุ์ตานหยางทนรอไม่ไหว และเอ่ยถามขึ้น “เหรียญทองอินทนิลสิบเหรียญพอไหม?!”
สิบเหรียญ?!
ชิงเย่รู้สึกราวกับว่าลูกตาของเขาจะถลนออกมา!
มันมีจำนวนเยอะมาก! เขาถึงกับกลืนน้ำลาย นั่นมันเหรียญทองอินทนิลสิบเหรียญเชียวนะ!
แต่แล้วใครบางคนกลับร้องตะโกนออกมา!
“แค่เหรียญทองอินทนิลสิบเหรียญ น่าขายขี้หน้าชะมัด! ผมให้เลยยี่สิบเหรียญ!” เผ่าพันธุ์บิลลี่พูดขึ้น เขาหยิบกระเป๋าเงินใบเล็กอันแสนประณีตขึ้นมา เหลือบมองชาวตานหยางที่สูงใหญ่ด้วยสายตาดูถูก
“ยี่สิบเหรียญ? คิดว่าชาวตานหยางจะจ่ายไม่ไหวหรือไง?” ชาวตานหยางอีกคนพูดขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้ “เอาไปเลยห้าสิบเหรียญ!”
ห้าสิบเหรียญ! ชิงเย่รู้สึกว่าดวงตาของเขากำลังเปล่งประกาย! จ้องมองการ์ดทั้งสองใบในมือ และรู้สึกสับสนอยู่ในใจ
ทำไมการ์ดทั้งสองใบนี้ถึงได้มีค่านัก?! แต่ถ้าเป็นเขา บางทีเขาก็คงจะเก็บสะสมเงินจำนวนมากไปกินอาหารอันแสนอร่อยเหมือนกัน!
ชาวตานหยางเหล่านี้เพิ่งเคยได้ลิ้มลองรสชาติอาหารของสวี่หลิงอวิ๋น ในขณะที่เขาได้กินมานับไม่ถ้วนแล้ว! ถึงอย่างนั้นกลิ่นดังกล่าวก็ยังทำให้ทุกข์ทรมานอยู่ดี! กลิ่นที่ทำให้คุณไม่อาจต้านทานได้! ความปรารถนาที่เอ่อล้นออกมาจากใจ ความโหยหาที่ผุดออกมาจากกระดูก และเสียงร้องครวญครางที่ไหลเวียนออกมาจากพันธุกรรม!
ถูกต้อง! เพราะฉะนั้นมันจึงคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป!
“ห้าสิบเหรียญ ในเมื่อชาวตานหยางเต็มใจ…” เขากำลังจะยื่นคำขาด แต่ทันใดนั้นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากมุมถนน
“เดี๋ยวก่อน! ผมให้ร้อยเหรียญทองอินทนิล!” ลูกพี่คนนี้คือใคร?!
ชิงเย่มองไปตามเสียงด้วยสายตานับถือ
ชายผู้นี้คือเผ่าพันธุ์เคอเวยที่มีผิวหนังหิวย่น เผ่าพันธุ์เคอเวยเป็นนักธุรกิจที่ถือว่าตนเองประสบความสำเร็จในหมู่ห้วงดวงดาวมาโดยตลอด
ทันที่ที่ชาวเคอเวยคนนี้ออกมา แม้แต่เผ่าพันธุ์ตานหยางกับบิลลี่ยังต้องหลีกเลี่ยงไปพักหนึ่ง!
ชายผู้นี้สวมใส่เครื่องประดับเงินและทองที่มีราคาแสนแพง มีแร่ล้ำค่าอยู่หลากหลายชนิด นอกจากนี้ยังมีขนนกจักรพรรดิที่หาได้ยากอยู่บนหมวก บ่งบอกว่าเขาร่ำรวยอย่างแท้จริง!
ชิงเย่มอบการ์ดใส่มือลูกพี่ด้วยความนับถือ หนุ่มใหญ่ผู้นี้คือแบบอย่างในการเรียนรู้สำหรับเขา!
ชาวเคอเวยหยิบการ์ดขึ้นมามองดู ยิ้มแย้มเล็กน้อยและหยิบการ์ดออกมาจากกระเป๋าของเขา “นี่นามบัตรผมครับ หวังว่าเจ้าของร้านอาหารจะทำการ์ดออกมาเพิ่มอีกสักใบ ผมยินดีที่จะจ่ายในราคาสูงกว่านี้!”
ชิงเย่พยักหน้าและโค้งคำนับ “แน่นอนครับ! ท่านไม่ต้องกังวล! เมื่อไหร่ที่มีมาเพิ่ม ผมสัญญาว่าจะแจ้งให้ท่านทราบโดยด่วนที่สุด!”
ชิงเย่มีความสุขเหลือล้นเมื่อสัมผัสการ์ดนามบัตรในมือ! โดยปกติแล้วมันยากมากที่จะได้เจอลูกพี่ใหญ่โตเช่นนี้ คาดไม่ถึงเลยว่าจะได้เจอเขาในวันนี้ แถมยังได้รับนามบัตรมาอีกด้วย!
อา! สุดยอดเลย!
ชิงเย่พูดยืนยันกับตัวเอง! การได้ติดตามผู้นำย่อมสำคัญเสมอ!
ชิงเย่มองดูชาวเคอเวยเดินจากไป ขณะที่การ์ดอีกใบยังอยู่ในมือของเขา!
ทว่าคนอื่นยังไม่ได้ไปไหน!
ตอนนี้ไม่มีชาวเคอเวยผู้ร่ำรวยแล้ว การ์ดใบดังกล่าวจึงตกไปเป็นของชาวตานหยางด้วยเงินจำนวนแปดสิบเหรียญทองอินทนิล
น้ำตาของชิงเย่แทบจะไหลออกมาเมื่อมองดูเหรียญทองอินทนิลหนึ่งร้อยแปดสิบเหรียญในมือ! เพียงแค่ระยะเวลาสั้น ๆ การ์ดทั้งสองใบก็ถูกเปลี่ยนเป็นเหรียญทองอินทนิลหนึ่งร้อยแปดสิบเหรียญ!
เขาจะต้องเกิดและตายอีกครั้ง จะต้องไล่จับลูกกาน่าอีกกี่ตัวถึงจะมีรายได้เท่านี้?!
ขณะนี้ร้านอาหารว่างเปล่าและไม่มีใครอยู่ที่นั่น ส่วนสวี่หลิงอวิ๋นน่ะเหรอ? ไม่! มีเพียงแขนกลที่ยุ่งวุ่นวายอยู่คนเดียว!
เนื้อชนิดต่าง ๆ ถูกคัดแยกออก กระดูกถูกพักเอาไว้ด้านข้าง และนำเนื้อมาพักไว้อีกครั้ง
น้ำซุปกระดูกขนาดใหญ่ถูกตุ๋นเอาไว้ นอกจากนี้ ยังมีสิ่งมีชีวิตที่คล้ายคลึงกับไก่ ซึ่งแท้จริงแล้วมันคือสัตว์ปีกประจำถิ่น
สวี่หลิงอวิ๋นแค่วางแผนจะนำมันมาทำไก่ย่าง