ตอนที่ 443 บ้านเมืองลุกเป็นไฟ
ตอนที่ 443 บ้านเมืองลุกเป็นไฟ
สำหรับมนุษย์ต่างดาวเหรอ? พวกเขายังไม่เคยเห็นมันหรอก!
พวกเขายังคงโหยหาโลกภายนอกอย่างเต็มเปี่ยม อยากรู้ว่าเผ่ามนุษย์ด้านนอกนั่นจะเป็นมิตรหรือไม่? พวกเขาจะสามารถสร้างพันธมิตรต่อกันได้ไหม?
ไม่รู้ว่าเขตดาวต่างแดนจะมีหลากหลายเผ่าพันธุ์หรือไม่?
ทุกคนต่างจินตนาการถึงความปรารถนาดี และอยากเรียนรู้เกี่ยวกับโลกภายนอกเพิ่มขึ้นทุกวัน
ดังนั้นมนุษย์จำนวนนับไม่ถ้วนจึงรู้สึกตกตะลึงเมื่อเห็นเรือรบลำใหญ่แล่นเข้ามาใกล้กล้องถ่ายทอดสด!
[ฉันไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม! มันคือมนุษย์ต่างดาวจริง ๆ!]
กลุ่มนักเรียนรู้สึกตื่นเต้นมาก มือสั่นเทาบรรจงเขียนคอมเมนต์ลงบนแพลตฟอร์ม!
[ฉันก็เห็น!]
[ฉัน! ฉันก็เห็นเหมือนกัน! พระเจ้า! นี่เป็นครั้งแรกที่เราเห็นมนุษย์ในเขตดาวต่างแดนใช่ปะ?!]
[คุณแน่ใจนะว่านี่คือมนุษย์? ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตชาญฉลาดประเภทอื่นเหรอ?]
[เผ่าพันธุ์ชาญฉลาดข้างนอกนั่นหน้าตาเป็นยังไงกันแน่? มันจะเป็นมิตรไหม หรือว่าเกรี้ยวกราด?]
[อ๊ะ จู่ ๆ ฉันก็รู้สึกว่าสิ่งที่เข้ามาใกล้พวกเราเหมือนกับสิ่งมีชีวิตเขตละติจูดต่ำใช่ปะ? สิ่งมีชีวิตเขตละติจูดต่ำจะคิดเหมือนกันบ้างไหมนะ!]
ชาวเน็ตรู้สึกตื่นเต้นมาก ถึงกับจินตนาการที่จะสร้างสัมพันธไมตรีกับสิ่งมีชีวิตต่างดาว
[ไม่รู้ว่าองค์หญิงสามจะอยู่บนนั้นหรือเปล่า ถ้าเกิดอยู่บนนั้น ผมก็อยากจะตะโกนว่า องค์หญิงสาม ผมเป็นเก้าดาวแล้วนะ!]
[อ๊ะ คอมเมนต์บนเลื่อนขั้นเร็วมาก! แต่ว่าความสามารถยังน้อย ต้องสิบดาวก่อนนะ! ถึงจะรู้สึกถึงการกดขี่ของบาเรีย!]
[ว้าว! พวกคุณยอดเยี่ยมมาก! ผมแค่แปดดาวเอง!]
[อย่าอวดเบ่งไปหน่อยเลย!]
…
ชาวเน็ตทั้งหลายตื่นเต้นมากจนมีอารมณ์พูดหยอกล้อกัน ในขณะที่จักรพรรดิทั้งหลายขมวดคิ้ว จ้องมองไปที่สัญลักษณ์บนเรือรบ มันเป็นรูปโครงกระดูก!
มันไม่ใช่สัญลักษณ์ปกติที่ประเทศชาติจะนำมาวาด!
นอกจากนี้ยังดูเป็นการรุกรานมากกว่า!
หากพวกนั้นบุกรุกเข้ามาจริง ๆ พวกเขาจะสามารถตอบโต้กับเรือรบภายนอกได้หรือไม่?!
“รีบสั่งให้ประชาชนเข้าไปซ่อนตัวในชั้นใต้ดินเดี๋ยวนี้!”
ทุกคนต่างซ่อนตัวอยู่ในชั้นใต้ดินตามคำสั่งของราชวงศ์ทั้งหลาย ผู้คนเหล่านี้ยังคงมึนงงอยู่ว่าทำไปเพื่ออะไร?
พวกที่อยู่ด้านนอกนั่นเป็นผู้บุกรุกหรือไม่?!
แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับภัยอันตราย อีกทั้งองค์หญิงสามยังบอกว่าข้างนอกนั่นมีสิ่งเลวร้ายมากมาย พวกเขาจะชะล่าใจไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าดื้อรั้น และหลบซ่อนตัวอยู่ในชั้นใต้ดินอย่างเชื่อฟัง
ในไม่ช้า ผู้คนทั้งหลายก็ไม่กล้าวางใจอีกต่อไป
เพราะเรือรบด้านนอกเริ่มบุกโจมตีบาเรีย!
เถาวัลย์งูเป็นรายแรกที่แบกรับความยากลำบาก! พวกมันเหยียดกิ่งก้านเถาวัลย์ออกไปคว้าเรือรบด้วยความขุ่นเคือง พยายามจะสร้างความเสียหายให้กับเรือรบ
และในไม่ช้า เสียงสัญญาณเตือนภัยจากเรือรบก็ดังขึ้น
‘มีการโจมตีจากภายนอก เกราะป้องกันพลังงานลดเหลือเก้าสิบเปอร์เซ็นต์!’
‘มีการโจมตีจากภายนอก เกราะป้องกันพลังงานลดเหลือแปดสิบเปอร์เซ็นต์!’
‘มีการโจมตีจากภายนอก เกราะป้องกันพลังงานลดเหลือเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์!’
…
“บัดซบ! นี่มันบ้าอะไรวะ?!” พวกโจรสลัดเริ่มก่นด่าอย่างรุนแรงเมื่อเห็นว่าเรือรบถูกเถาวัลย์งูที่แข็งแกร่งรัดแน่น จนไม่สามารถเปิดเกราะป้องกันพลังงานให้ห่อหุ้มรอบได้
“รีบติดต่อสำนักงานใหญ่ ให้พวกเขาส่งยานรบมาที่นี่!”
เหยียนเฟย ผู้บัญชาการเผ่าพันธุ์บิลลี่พูดขึ้น และรีบสั่งการต่ออีกว่า “ยิงปืนใหญ่ มัวรออะไรกันอยู่?!”
ปืนใหญ่! ใช่แล้ว! ปืนใหญ่!
คำพูดดังกล่าวปลุกคนช่างฝันให้ตื่นขึ้นมา!
โจรสลัดทั้งหลายเริ่มยิงปืนใหญ่ใส่เถาวัลย์งูอีกครั้ง!
เถาวัลย์งูถูกความโหดเหี้ยมกระตุ้นขึ้นมา!
พวกมันรีบขยายกิ่งก้านออกไปรวบรัดเรือรบอวกาศของโจรสลัดโดยไม่รีรอ เถาวัลย์งูต้นอื่นรีบเข้ามาร่วมสนับสนุนทันทีที่พวกมันเห็นว่าเป็นการบุกรุกจากมนุษย์ต่างดาว!
ผู้คนที่อยู่เบื้องล่างมองดูสงครามของเถาวัลย์งู ขณะที่เถาวัลย์งูต้นอื่นรีบเคลื่อนย้ายออกมาจากรอยร้าวของบาเรีย และเข้าร่วมการต่อสู้!
เมื่อผู้บัญชาการโจรสลัดเห็นสิ่งนี้ เหยียนเฟยก็รับรู้ได้ถึงความผิดปติ และรีบร้องตะโกนว่า “รีบเปิดทางเชื่อมมิติ และออกไปจากที่นี่ซะ!”
ยิ่งอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่ เถาวัลย์แปลกประหลาดวพวกนี้ก็ยิ่งรวมตัวกันมากขึ้น!
พวกโจรสลัดรีบเปิดทางเชื่อมมิติทันทีที่ได้ยินคำสั่งการ เรือรบรีบพุ่งทะยานเข้าไปในทางเชื่อมมิติ และหายไปพร้อมกับเถาวัลย์งู
มนุษย์ที่อยู่เบื้องล่างยังคงสั่นสะท้าน!
คนพวกนั้นเป็นผู้บุกรุกจริงด้วย! สีหน้าของจักรพรรดิทั้งหลายเริ่มขรึมมากขึ้น!
“ติดต่อหาองค์หญิงสามได้ไหม?! เกิดอะไรขึ้นข้างนอกนั่น ช่วยส่งข่าวให้พวกเราสักนิดได้ไหม? ตอนนี้ไม่รู้ข่าวคราวอะไร เราไม่สบายใจเลย!”
จักรพรรดิทั้งหลายบอกสวี่เทียนอวี๋
ขณะที่สวี่เทียนอวี๋เริ่มทุกข์ระทม! ตลอดวันที่ผ่านมา เขาคอยส่งข้อความไปหาเธอ แต่สวี่หลิงอวิ๋นไม่เคยตอบกลับเลย!
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พ่อผู้แก่ชรารู้สึกกังวลมาก! ไม่รู้ว่าลูกสาวจะเป็นอย่างไรบ้าง มีอันตรายหรือมีอะไรเกิดขึ้นบ้างหรือไม่?
ไม่รู้ว่าโอคาซีจะดูแลลูกสาวของเขาได้ดีสักแค่ไหน?!
แต่เมื่อคิดว่าเสี่ยวอ้ายยังอยู่กับเธอ เธอก็คงจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม? เขาพูดปลอบใจตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถนอนหลับลงได้
ชายชราพวกนั้นขอให้เขาตามลูกสาวกลับมา
ถ้าหาเจอ เขาจะเป็นกังวลอยู่แบบนี้เหรอ?!
นอกจากถั่วชมพูจะได้รับการฝึกซ้อมแล้ว มันยังได้รับการเลี้ยงดูตลอดทั้งวัน!
หลังจากที่นากาต่อสู้เคียงข้างกับมันมา ความสัมพันธ์ของพวกมันก็ดีขึ้น เอเลี่ยนทั้งสองตัวออกไปเดินเล่นเตร็ดเตร่ด้วยกันทุกวัน และได้รับอาหารมากมายจากเหล่ามนุษย์ หลังจากเดินโยกเยกกลับมาที่พระราชวัง องครักษ์ก็จะพาพวกมันไปชำระล้าง และให้หญิงสาวในวังคอยมานวดให้พวกมัน ตอนนี้ทั้งสองต่างรู้สึกสะดวกสบายเป็นอย่างมาก!
พวกมันคิดจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตลอดไป แต่กลับคาดไม่ถึงว่าจะมีวิกฤตเลวร้ายเกิดขึ้นข้างนอกนั่น! นี่หมายความอย่างไรกันแน่?!
ถั่วชมพูถูกจักรพรรดิเรียกพบในทันที
มันกะพริบตากลมโตและเอ่ยถามด้วยความสงสัย “ลูกพี่ เรียกฉันมามีอะไรงั้นเหรอ?!”
สวี่เทียนอวี๋มองดูถั่วชมพูที่ดูเหมือนพวกนักเลงเข้าไปทุกวัน คำเรียกที่คุกคามของมันทำให้เขาแทบจะสำลัก เรียกกันว่า ‘ลูกพี่’ หมายความว่ายังไง?!
“เอ่อ แกพอจะติดต่อกับลูกสาวฉันได้ไหม?” สวี่เทียนอวี๋ฝากความหวังไว้ที่ถั่วชมพู
ถั่วชมพูเกาหัว “ไม่มีทางหรอก!”
มันเป็นแค่เจ้าตัวน้อยน่ารัก จะมาทำเรื่องจริงจังแบบนั้นได้ยังไง?! เมี้ยว!
ไม่มีทาง…
สวี่เทียนอวี๋ถอนหายใจพลางโบกมือ เขาคิดว่าสมองของตัวเองคงมีปัญหา ถึงได้มาถามคำถามนี้กับถั่วชมพู!
สู้ถามนากาไม่ดีกว่าเหรอ?!
ถั่วชมพูอ้าปากหาว เกาก้นและเดินออกไป
สวี่เทียนอวี๋รู้ดีว่าสิ่งต่าง ๆ ไม่ง่ายนัก ยานอวกาศที่ดูเหมือนกับเรือรบของโจรสลัดจะต้องกลับมาอีกแน่นอน!
สวี่หลิงอวิ๋นไม่รู้ว่าบ้านเมืองของเธอกำลังลุกเป็นไฟ หลังจากรอคอยมาหนึ่งเดือน ห่าวหลานก็พาต้นไม้แห่งชีวิตทั้งสองต้นออกมาส่ง
“ขอบคุณที่ให้พวกเราได้พูดคุยกัน!”
ดูเหมือนว่าห่าวหลานจะอารมณ์ดีขึ้น เธอยิ้มแย้มและพูดว่า “ท่านรู้ไหม? เราไม่ได้เจอคนจากเชื้อชาติเดียวกันมานานมากแล้ว พอเห็นก็อดไม่ได้ที่จะเข้าใกล้”
สวี่หลิงอวิ๋นรับต้นไม้แห่งชีวิตทั้งสองต้นมา รับรู้ได้ถึงอารมณ์ที่ปลอดโปร่งของมัน